ตอนที่ 112 การต่อสู้จบลง
"หึ รับมือ"
เซียวหมางคำรามและย่อตัวลง หินที่อยู่ใต้เท้าของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆในทันที เขาพุ่งผ่านก้อนหินด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าและปรากฏตัวต่อหน้าเจียงวู่เฉิงในพริบตา
จากนั้นเขาก็ดึงดาบออกมาอย่างรวดเร็ว
แก่นแท้แห่งกระบี่ที่น่าอัศจรรย์พุ่งออกมาอย่างรุนแรงจนแทบจะทำให้เจียงวู่เฉิงหายใจไม่ออก
หลังจากนั้น ชึ่บ!
จังหวะที่แสงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า จู่ๆมันก็พุ่งเข้าหาเจียงวู่เฉิงทันที
อากาศถูกฉีกกระชาก
กระบี่ยังมาไม่ถึง แต่สายลมเข้าปกคลุมเจียงวู่เฉิงทันที
เจียงวู่เฉิงพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขารู้ว่าแก่นแท้แห่งกระบี่ของเซียวหมางนั้นเทียบเท่ากับชั้นที่สิบของประตูมังกร
"เข้ามา!"
เจียงวู่เฉิงตะโกน เขากวัดแกว่งดาบสะบั้นพิฆาตในมือ ชั่วขณะแก่นแท้แห่งปฐพีก็มาถึงจุดสูงสุดและกระบวนท่าที่สิบของคลื่นดาบไร้ลักษณ์ก็ปะทุออกมา
ในขณะเดียวกันพลังของอาณาแก่นแท้ทองคำก็พุ่งไปถึงขีดสุดเช่นกัน
ปัง!
หลังจากเสียงดังขึ้น เจียงวู่เฉิงก็รู้สึกว่าแขนของเขาถูกผลักกลับมา แรงปะทะทำให้แขนของเขาชา หินขนาดใหญ่ใต้เท้าของเขานั้นแตกเพราะแรงปะทะ
"ถ้าข้าสู้กับเขาตรงๆ ข้าจะพ่ายแพ้"เจียงวู่เฉิงรู้ในทันที
"ฮ่าฮ่า ในฐานะที่เจ้านั้นอยู่เพียงขั้นอาณาแก่นทองคำแรกเริ่ม เจ้าอ่อนแอกว่าข้าจริงๆ"เซียวหมางเย้ยหยัน
เจียงวุ่เฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
"แม้ว่าข้าจะเป็นถึงอาณาแก่นแท้ทองคำที่ท้าทายธรรมชาติ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าขั้นอาณาแก่นทองคำทั่วไป แต่เซียวหมางนั้นอยู่ในขั้นสูงสุดอาณาแก่นทองคำ พลังลมปราณของเขานั้นอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาแก่นทองคำ ดังนั้นพลังของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าข้า"
การที่เพิ่งทะลวงขั้นอาณาแก่นทองคำแล้วมีพลังแข็งแกร่งกว่าคนที่อยู่ในอาณาแก่งทองคำทั่วไปนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ และทำให้หลายคนหวาดกลัว เจียงวู่เฉิงตระหนักถึงสิ่งนี้
ท้ายที่สุดเซียวหมางนั้นได้มาถึงจุดสูงสุดของอาณาแก่นทองคำแล้ว เจียงวู่เฉิงต้องไปถึงอาณาแก่นทองคำอันลึกซึ้งเป็นอย่างน้อยถ้าจะต่อสู้กับเขา
"มันยากที่จะสู้กับเขาโดยตรง แต่ข้าสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยทักษะดาบและแก่นแท้แห่งดาบ"ดวงตาของเจียงวู่เฉิงเย็นชา เขายกดาบขึ้น ทันใดนั้นมันก็เป็นดั่งอสรพิษพุ่งหลบกระบี่ของเซียวหมางและพุ่งเข้าหาหน้าอกของเซียวหมาง
"แก่นแท้แห่งลม?"เซียวหมางประหลาดใจ มือซ้ายของเขารวบรวมพลังลมปราณและตบลงไปที่เงาดาบอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะถึงตัว มันไม่ได้หยุดการโจมตีของเจียงวู่เฉิง แต่เบี่ยงเบนทิศทางของดาบ
เงาดาบพุ่งผ่านไปข้างๆเซียวหมาง
"รับการโจมตีของข้าซะ"เซียวหมางคำราม เขาฟันดาบลงไปด้วยความโกรธที่ครอบงำ
เจียงวู่เฉิงใช้ดาบเข้าต้านรับ
ปัง!
หินที่อยู่ภายใต้เท้าของเขากระจัดกระจายเป็นชิ้นๆราวกับโดนโจมตีด้วยอาวุธที่มองไม่เห็น ยิ่งไปกว่านั้นเจียงวู่เฉิงถูกบังคับให้ถอยกลับจากการโจมตีครั้งนี้
โดยไม่คาดคิด เจีรยงวู่เฉิงพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพลงดาบเพลิงโลหิต กระบวนท่าที่หก!
ฟึบ!
แสงดาบที่รวดเร็วนั้นทำให้ดูเหมือนว่าจะทำให้โลกแตกสลาย
"ครั้งก่อนเป็นแก่นแท้แห่งปฐพี ต่อมาคือแก่นแท้แห่งลม และตอนนี้คือแก่นแท้แห่งไฟ ทั้งหมดด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง?"
แม้แต่เซียวหมางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว หลังจากเห็นเจียงวู่เฉิงใช้กระบวนท่าเหล่านี้
"ข้ารู้ว่าศิษย์ของวังมังกรล้วนเป็นอัจฉริยะที่แปลกประหลาด แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพวกเขาเป็นอัจฉริยะที่สามารถเข้าใจแก่นแท้ทั้งสามชนิดในเวลาเดียวกันด้วยความเข้าใจอันลึกซึ้ง"เซียวหมางตกตะลึง อย่างไรก็ตามเขาก็ต้านทานเพลงดาบเพลิงโลหิตได้อย่างง่ายดาย
"แก่นแท้แห่งดาบทั้งสามชนิดที่ข้าเข้าใจนั้นไม่สามารถเทียบกับความเข้าใจในแก่นแท้แห่งลมของเจ้าได้ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะเจ้า หากข้าใช้มันดีพอ"เจียงวู่เฉิงกล่าว
"ฮ่าฮ่า งั้นลองดู"เซียวหมางหัวเราะขบขัน
บูม!
เสียงคำรามที่น่าหวาดกลัวยังคงดำเนินการต่อไป และการต่อสู้ก็เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญ
...
ในขณะที่เจียงวู่เฉิงกำลังต่อสู้กับเซียวหมาง การต่อสู้เพื่อแย่งชิงเมล็ดดอกบัวทมิฬที่ทะเลสาบจันทร์กระจ่างก็ใกล้จะถึงจุดจบเช่นกัน
มีนักรบยืนอยู่รอบๆทะเลสาบและยังมีศพที่ลอยอยู่ในน้ำ อย่างต่ำ100ศพ
โลหิตย้อมไปทั่วทะเลสาบจันทร์กระจ่าง ทำให้ดูเหมือนกับฉากจากนรก
เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า นับรบที่มีชีวิตรอดส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัว ความต้องการในเมล็ดดอกบัวทมิฬนั้นลดลง
ช่างน่าเศร้า!
การต่อสู้นองเลือดนั้นไม่อาจที่จะรุนแรงกว่านี้ได้อีก
นักรบในขั้นอาณาแก่นทองคำส่วนใหญ่ล้วนเสียชีวิต แม้แต่นักรบสองคนที่อยู่ในรายชื่อทำเนียบมังกรปฐพีก็เช่นกัน
นักรบที่มีชื่ออยู่ในทำเนียบมังกรปฐพีทั้งสองที่ตายคือหลิงมู่ป่ายและสิงโตเพลิง
สิงโตเพลิงถูกฆ่าโดยกูเถา และอีกหนึ่งคือซูรูเป็นผู้สังหารหลิงมู่ป่าย
"หญิงสาวคนนี้..."กูเถายืนอยู่ที่ริมทะเลสาบและมองไปที่สตรีที่สวมเสื้อคลุมสีดำข้างหน้าเขาด้วยความหวาดกลัว
เด็กหญิงที่สวมชุดคลุมสีดำดูราวอายุ15หรือ16ปี และการบ่มเพาะของนางนั้นอยู่เพียงอาณาแก่นทองคำอันลึกซึ้ง แต่เด็กหญิงคนนี้ระเบิดพลังออกมาอย่างน่ามหัศจรรย์ นางฆ่าหลิงมู่ป่ายอย่างรวดเร็วและชิงเมล็ดดอกบัวทมิฬมาได้
ในเวลานี้ทะเลสาบจันทร์กระจ่างกลับสู่ความสงบสุข
นักรบคนอื่นๆต่างหลบหนีไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาได้รับเมล็ดดอกบัวทมิฬ ยกเว้นแต่กูเถาและซูรูที่ยังอยู่กับที่ เมื่อรู้ว่าเมล็ดดอกบัวทมิฬถูกครอบครองโดยกูเถาและซูรูนักรบในขั้นอาณาแก่นทองคำย่อมไม่กล้าที่จะเข้ามาแย่งชิง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของกูเถานั้นยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่พวกเขา ความจริงที่ว่าเขาได้ฆ่าสิงโตเพลิงได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาอย่างชัดเจน อันดับที่39ในรายชื่อทำเนียบมังกรปฐพี มันเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันที่จะแย่งเมล็ดดอกบัวทมิฬจากเขา
แม้ว่านักรบทั้งหมดจะช่วยกันต่อสู้ แต่กูเถาก็สามารถที่จะหลบหนีไปได้หากเขาพ่ายแพ้
แต่กลับซูรูถึงแม้ว่านางจะดูอ่อนแออย่างมาก แต่นางก็หลินมู่ป่ายอย่างโหดเหี้ยม
แม้แต่กูเถาก็ไม่กล้าที่จะสู้กับซูรู
เมล็ดดอกบัวทมิฬทั้งหมดนั้นมีแค่เจ็ดชิ้น แต่ข้าได้มาเพียงสอง...และสตรีตรงหน้าเขาได้มาหนึ่ง และข้าไม่กล้าที่จะไปแย่งมันมาจากนาง
กูเถาส่ายหัวและเลิกคิดที่จะแย่งเมล็ดดอกบัวทมิฬมาจากซูรู
นักรบที่เหลือก็ไม่กล้าที่จะสู้กับนางเช่นกัน
ดังนั้นการต่อสู้ที่รุนแรงครั้งนี้จึงจบลง
...