ตอนที่แล้วDNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 54
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 56

DNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 55


ตอนที่ 55

รูปร่างและความสูงไม่มีปัญหา กระดูกและกล้ามเนื้อเองก็ไม่มีปัญหา แม้แต่จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวอย่างเรื่องเชื่องยากก็ถูกอำนาจของเย่ซวงละลายไปหมดแล้ว แบบนี้ยังมีตรงไหนที่มีปัญหาอีกเหรอ?!

พูดตามตรง อย่าว่าแต่การแข่งขันเล็กๆ แบบนี้เลย ถึงเป็นการแข่งขันขี่ม้าระดับนานาชาติ เย่ซวงก็คิดว่าม้าตัวนี้ไม่ได้แย่ไปกว่าม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตที่ตนหารูปได้จากในอินเทอร์เน็ต

และเพราะแบบนั้น เธอจึงไม่เข้าใจคำว่า ‘ไม่ได้’ ที่ออกมาจากปากเด็กหนุ่มนี่เลยจริงๆ ว่ามันเป็นเพราะอะไร

แต่เมื่อเด็กหนุ่มอ้ำๆ อึ้งๆ บอกเหตุผลออกมา เย่ซวงถึงนึกขึ้นได้ ก่อนจะเหลือบมองไปทางหรวนหร่วนที่กำลังต่อปากต่อคำกับกลุ่มคุณชายอยู่...ไม่ได้จริงๆ ด้วย!

“ม้าตัวนี้คือม้าที่เมืองหลวงส่งมา เป็นม้าที่ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษ เพื่อใช้แข่งโดยเฉพาะ?!” หลังจากเด็กหนุ่มพยักหน้ายืนยันแล้ว เธอก็รู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก “มิน่าถึงได้เป็นม้าชั้นดีขนาดนั้น ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่บังเอิญได้เจอม้าพันธุ์ดี...”

ความจริงพิสูจน์แล้วว่าพล็อตตามแบบนิยายทั่วไปนั้นพึ่งพาไม่ได้ ไม่ว่าไปที่ไหนก็เจอแต่เรื่องโชคดีคงไม่เหมาะกับชีวิตเธอ แค่เธอบังเอิญได้รับยีนจากต่างดาวมาก็เท่ากับว่าได้ใช้โชคดีไปมากแล้ว อีกทั้งโชคดีนี้ก็ยังมีผลค้างเคียงที่หลอกลวงสุดๆ อีกด้วย...

“ตอนนี้จะทำยังไงดีครับคุณเย่” เด็กหนุ่มซึมไป แต่ไหนแต่ไรในประเทศก็ยากจะเจอม้าพันธุ์ดีได้ ตอนที่ได้ยินว่าสนามม้าแห่งนี้มีม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตอยู่ เขาก็ดีใจแทบแย่ แต่สุดท้าย...ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่นเลย หลังจากได้รู้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้ม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตตัวนี้ลงแข่ง เด็กหนุ่มก็ถือโอกาสเดินดูรอบๆ อีกครั้ง ถึงแม้จะแค่กวาดตามองผ่านๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าม้าตัวอื่นนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ถ้ายังหาม้าตัวที่พอจะชนะการแข่งไม่ได้ใช้แข่งไม่ได้ เกรงว่าการแข่งขันครั้งนี้จะน่าเป็นห่วงเสียแล้ว

คนข้างกายตนก็มีแต่เย่ซวงที่มีความรู้เรื่องม้า ถึงแม้เด็กหนุ่มจะมั่นใจว่าม้าตัวอื่นพึ่งพาไม่ได้ แต่ในสถานการณ์ที่คิดหาทางอื่นไม่ได้ ถ้าอยากจะหาคนปรึกษา ความหวังสุดท้ายก็จำเป็นต้องฝากไว้ที่เย่ซวงแล้ว

“ยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ? เดี๋ยวฉันไปดูตัวอื่นอีกที!” เย่ซวงบีบจมูกพร้อมกับรู้สึกปวดหัวขึ้นมา

เมื่อครู่เธอเพิ่งบอกคนอื่นไปว่ามีม้าสายพันธุ์ดี ตอนนี้ต้องหันกลับไปบอกว่าเป็นม้าของคู่แข่งเหรอ พูดกลับไปกลับมาแบบนี้มันดูแย่เกินไป อีกอย่าง ผลการแพ้ชนะครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องถึงหน้าที่การงานของตน ยังไงก็ต้องลองพยายามลองดู...

...จะหาน่ะมันยากมาก ผลจะเป็นยังไงก็คิดไว้อยู่แล้ว

จากรายละเอียดของสนามแข่งม้าแห่งนี้ ขอบเขตการดำเนินกิจการเป็นเพียงเพื่อให้โอกาสคนที่สนใจได้มาขี่ม้าเท่านั้น ระดับความเร็วไม่ได้เร็วมาก แค่วิ่งได้ก็โอเคแล้ว ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความมั่นคง...ถ้าจะพูดถึงม้าที่ยอดเยี่ยมและเป็นมืออาชีพ สนามม้าเล็กๆ แห่งนี้คงตอบสนองความต้องการของเราไม่ได้

และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากไปดูม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตตัวก่อนหน้าที่ดึงดูดความสนใจเย่ซวงมากที่สุดด้วยความเจ็บปวดแล้ว เธอก็ดูม้าตัวอื่นอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นเธอก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา

ก่อนหน้านี้ก็พูดไปแล้วครั้งหนึ่ง ม้าแข่งที่ดีที่สุดต้องเป็นม้าหัวรุนแรงที่กระตุ้นให้คึกคักได้ง่าย ซึ่งม้าพันธุ์เธอร์โรเบรต และม้าพันธุ์อาหรับก็เป็นตัวแทนของม้าเลือดร้อนแบบนี้

แต่ดูก็รู้แล้วว่าสนามม้าแห่งนี้เป็นการทำธุรกิจ ที่ต้องการคือความปลอดภัยและความพึงพอใจจากลูกค้า หากเลี้ยงม้าที่แค่กระตุ้นนิดหน่อยก็คลั่งแล้วแบบนั้น ใครมันจะกล้าเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่?! ถึงจะมีแขกที่ใจกล้าจริงๆ เจ้าของก็ไม่กล้ารับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้เหล่านั้นหรอก

ดังที่กล่าวมาข้างต้น การจะมีม้าพันธุ์ดีปรากฏตัวออกมาให้เย่ซวงได้เห็นนั้นจึงถือเป็นเรื่องยาก

กระดูกไม่สูงใหญ่พอ พวกกล้ามเนื้อยังพัฒนาไม่พอ ลายเส้นไม่ราบเรียบพอ...แม้กระทั่งขนแผงคอก็ยุ่งเหยิง ไม่ได้เป็นมันวาวและมีราศีอย่างม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตของฝ่ายนั้น

ถ้าจะขี่ม้าตัวนี้ออกไปจริงๆ ไม่ต้องรอให้เข้าสนาม ฝ่ายตรงข้ามก็คงยืนเรียงแถวกันหัวเราะเยาะแล้ว

มันยากที่จะเลือกม้าตัวที่ไม่ขัดหูขัดตามากที่สุดออกมา จึงได้แต่ฝึนเลือกตัวที่คิดว่าดีที่สุดในบรรดาม้าทั้งหมดออกมาเท่านั้น ในวินาทีที่จูงออกมาสู่สายตาของบรรดาสาวๆ แม้กระทั่งหรวนหร่วนที่เป็นคนธรรมดายังถึงกับชะงักค้างไป

“นี่...นี่คือม้าดีที่เสี่ยวซวงบอกเหรอ?” หรวนหร่วนมองม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตที่วิ่งไปตามทาง แล้วมองมายังม้าที่เด็กหนุ่มแชมป์จังหวัดขี่อยู่ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เป็นม้าตัวที่เย่ซวงบอกว่ามีศักยภาพพอจะชนะได้

ดูรูปร่างก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้!!

“แหะๆ ...” เย่ซวงมองไปยังม้าพันธุ์ดีที่ตัวเองเลือกมากำลังวิ่งอยู่บนสนาม ก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ออกมา “ฉันพยายามแล้ว”

ในสถานการณ์แบบนี้เธอควรจะพูดอะไรถึงจะดี จริงๆ แม้แต่ตัวเองก็รู้สึกเหมือนถูกหลอกไปเหมือนกัน...

บรรดาคุณชายที่มาจากเมืองหลวงได้ยินคำประกาศด้วยท่าทางดุดันของหรวนหร่วนแล้วก็ฟันธงว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องชนะอย่างแน่นอน ตอนแรกยังแสดงออกด้วยความมั่นใจว่าในมือก็มีม้าพันธุ์ดี คิดไม่ถึงว่าดูจากตอนนี้แล้ว...จะทำได้เพียงแค่พยายามอดทน ต่อร้อยยิ้มเยาะเย้ยที่อยู่บนหน้าคุณชายฟางเท่านั้น

ม้าทั้งสองตัวหยุดอยู่ด้วยกันที่จุดเริ่มต้น นักขี่ม้าชาวต่างชาติกับเด็กหนุ่มอยู่ในระยะห่างจากกันไม่ถึงหนึ่งเมตร บวกกับวิสัยทัศน์ระดับมืออาชีพ ทำให้เห็นได้มากกว่าคนทั่วไป

ในสถานการณ์แบบนี้ แม้กระทั่งคนธรรมดาก็ดูออกว่าม้าพันธุ์เธอร์โรเบรตกับนักขี่ม้าชาวต่างชาติได้เปรียบกว่า แล้วนักขี่ม้าชาวต่างชาติจะทำให้ผิดหวังได้ยังไง?!

เขาใช้หางตามองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วก็มองไปที่ม้าแข่ง จากนั้นนักขี่ม้าชาวต่างชาติก็หัวเราะเยาะ แล้วก้มลงไปตบม้าสุดรักของตนพร้อมออกคำสั่ง “สาวน้อย ดูคู่ต่อสู้ของเราคราวนี้สิ...ไม่รู้จริงๆ ว่ามิสเตอร์ฟางตั้งใจเชิญเรามาทำไม” ในสายตาของเขา การแข่งขันที่ตัวเองเคยเข้าร่วมมาก่อนหน้านี้ แค่จูงม้าออกมาก็สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ในวินาทีเดียวแล้ว

‘โรส’ เองก็กวาดตามองข้างๆ อย่างหยิ่งทะนง ขณะที่กำลังจะพ่นลมออกจากจมูกด้วยความพอใจ อยู่ๆ คอม้าก็แข็งค้าง เจ้าม้าน้อยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข้างๆ ม้าโง่ตัวนั้นจะมีเงาของคนที่เป็นฝันร้ายของมันอยู่...

เมื่อเย่ซวงหรี่ตาลง ท่าทางหวาดกลัวของสาวน้อยพันธุ์เธอร์โรเบรตก็ทำให้เธอยิ้มออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด