ตอนที่ 182 สั่นคลอน
หยางเตียนได้รับสายจากเคท เขาถามอย่างสับสน“คุณเคท มีอะไรให้ช่วยงั้นหรอครับ?”
เคทกล่าวอย่างกังวล”มีคนขโมยผลิตภัณฑ์ของสถาบันวิจัยไป รวมถึงยารักษาเชื้อไวรัส หากเราไม่อาจนำคืนมาได้ ผลลัพธ์ของเราจะสูญหาย เนื่องจากทหารไม่อาจมาได้ทัน เราจึงต้องหวังพึ่งพาพวกคุณ
ทั้งคู่จริงจัง“เราจะช่วยอย่างแน่นอน”
“เยี่ยมเลย คุณคือความหวังเดียวของเรา ผมจะส่งพิกัดให้ ศัตรูคือชายที่สวมชุดจักรกลสีดำ!”
ชุดจักรกลดำ?!
สีหน้าของหยางเตียนและเน็ดเปลี่ยนไป
“หรือจะเป็นเขา?!”
…
การวิ่งบนถนนด้วยชุดจักรกลโดดเด่นเกินไป ทันทีที่หานเซี่ยวออกจากสถาบันวิจัย เขาก็ปีนขึ้นดาดฟ้าของอาคารและวิ่งข้ามหลังคาต่อไป ด้วยวิธีนี้ แม้จะมีคนเห็นเขา มันก็ยังไม่เกิดผลกระทบนัก เขากำลังวางแผนที่จะหาจุดซ่อนเพื่อถอดชุดออกและเปลี่ยนไปใช้ใบหน้าอื่น
มียามากมาย พอให้ฉันดื่มมันเล่นเป็นน้ำ หานเซี่ยวหัวเราะ
หลังเปลี่ยนไปตามถนนต่างๆ หานเซี่ยวก็กระโดดเข้าตรอกเปล่า และสัญญาณชีพของผู้แข็งแกร่งสองคนก็ปรากฏบนเรดาห์ และหลังจากการค้นหา มันก็ตรงกันอย่างน่าแปลกใจ มันกลับกลายเป็นสองฮีโร่
พวกเขาไล่ตามฉันมา?หานเซี่ยวคิดสักพัก และรู้ว่าพวกเขาถูกสถาบันวิจัยหลอกใช้อีกครั้ง
ครั้งนี้ การแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าต่างสถานะ
ท่านได้กระตุ้นภารกิจ[สั่งสอนฮีโร่]
เนื้อหาภารกิจ : ฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมไม่เคยขาดคน แต่มีแค่วิธีการที่ถูกต้องเท่านั้น บางคนกลายเป็นคนต่ำช้าและยอมแพ้กับเป้าหมายแรก บางคนสูญเสียสิ่งยึดมั่นและกลายเป็นพวกคลั่งต่อสู้ บางคนถูกหลอกใช้ การเลือกความยุติธรรมเป็นเส้นทางที่ยากลำบากและคุณสามารถสั่งสอนพวกเขาให้เดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง กลายเป็นฮีโร่ที่แท้จริง
ข้อกำหนดภารกิจ : เอาชนะหยางเตียนและเน็ด และเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสถาบันวิจัยลูอิส
รางวัล : สุ่ม
หานเซี่ยวหรี่ตา
เขาค่อนข้างสนใจภารกิจนี้ มันเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะทำตัวเป็นพวกชั่วร้าย
หานเซี่ยววิเคราะห์ข้อมูล
ฉันมีเวลาอยู่บ้าง พอให้ฉันเล่นกับพวกเขาเล็กน้อย
หานเซี่ยวหยุดและรอ เงาร่างของหยางเตียนและเน็ดพุ่งเข้ามาในซอยไม่นานหลังจากนั้น-พวกเขาวิ่งมาไกลเกินไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ทั้งคู่ก็ตระหนักและหันหลังกลับ ยืนอยู่ตรงทางเข้าซอยพร้อมตั้งท่า
“มันเป็นคุณจริงๆ!”สีหน้าของหยางเตียนเปลี่ยนไป เขาเคยเห็นพลังของนักรบลึกลับในชุดจักรกลมากับตา แม้กระทั่งในสภาพพร้อมสมบูรณ์ เขาก็อาจถูกโค่นในไม่กี่หมัด และตอนนี้เขาก็บาดเจ็บ แต่เมื่อคิดว่าหานเซี่ยวขโมยยารักษาไวรัสไป มันก็ทำให้ความคิดเขายึดเหนี่ยว
เน็ดถูมือและพร้อมโจมตี พูดด้วยเสียงต่ำ“ถึงแม้คุณจะช่วยพวกเรามาก่อน แต่เกรงว่าเราจะไม่อาจปล่อยให้คุณนำยารักษานั่นไปได้”
ยารักษา?ไอสองคนนี้มันโง่ขนาดไหนกันเนี่ย?
เน็ดลงมือก่อน มือเขาตบไปข้างหน้าและคลื่นกระแทกก็ระเบิดไปทั่วซอย สีบนกำแพงลอกและรอยแตกก็ปรากฏบนพื้น
ในชั่วพริบตา หานเซี่ยวกระโดดขึ้น ถีบตัวกลางอากาศและพุ่งใส่ศัตรูเหมือนจรวด
หยางเตียนกัดปากและก้าวไปข้างหน้า เหวี่ยงหมัดออกไป
ปัง!
ชุดจักรกลคลุมกำปั้นเหมือนสายฟ้า ปรากฏและหายไปในชั่วพริบตา ก่อนที่หมัดของหยางเตียนจะยื่นสุดแขน หมัดของเขาก็กระแทกใส่หน้าอกหยางเตียนอย่างหนักหน่วง วิสัยทัศน์ของหยางเตียนเลือนราง ทุกอย่างในสายตาดูเหมือนเลื่อนลอยขณะถูกส่งไปข้างหลัง จากนั้นเขาก็กระแทกกับกำแพง กระดูกทุกชิ้นในร่างเกือบแตกเป็นเสี่ยงๆ
หมัดเดียว!
พลังกายของแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิงโตที่ทำให้ฉันบาดเจ็บสาหัส หยางเตียนแทบดึงตัวเองออกจากกำแพงไม่ไหวและหอบหายใจรุนแรง ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงลมรอบหู เน็ดถูกซัดลอยมาทางเขาและกองแทบเท้าเขา เขามึนหัวจากการถูกหานเซี่ยวใช้หน้าผากกระแทก
พวกเขาสู้ได้ไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำ ด้วยโอกาสชนะ0% หยางเตียนจึงเต็มไปด้วยความเสียใจและความเกลียดชัง เราจะหยุดศัตรูเช่นนี้ได้ยังไง?
ความสิ้นหวังเข้ากัดกินหัวใจ
หานเซี่ยวมองเวลาขณะเห็นทั้งคู่พยายามลุกขึ้น เขาให้เวลาตัวเอง5นาทีเพื่อจัดการกับทั้งคู่ แต่สถานการณ์กลับง่ายยิ่งกว่านั้น เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำ
ทั้งคู่คือยอดมนุษย์ระดับ30กว่า ด้วยพลังของหานเซี่ยว มันง่ายเหมือนกับปอกกล้วย
หานเซี่ยวก้าวไปข้างหน้า ขณะที่กำลังจะพูด หยางเตียนก็สามารถรวบรวมพลังเท้าได้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขากัดฟันแน่นและกล่าว“แกเอายารักษาเชื้อไวรัสมรณะไป คนจำนวนมากจะตายเพราะเหตุนั้น ฉันจะหยุดแกต่อให้ต้องตาย!”
หานเซี่ยวนิ่งชะงัก เขามองหยางเตียนด้วยรอยยิ้มเยาะ“ตายในฐานะวีรบุรุษ-นอกจากดอกไม้ตาย คำพูดปากเปล่าและน้ำตาที่เสแสร้ง คิดว่านายจะได้อะไรอีก?”
หยางเตียนกัดฟันแรงขึ้น“มันไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมองฉันยังไง ขอแค่ฉันมีความสุขกับสิ่งที่ฉันทำก็พอ!”
ทันใดนั้น ตัวของหยางเตียนก็หายไป มือสีดำขนาดใหญ่ขยายตัวในสายตาเขาและคว้าหัวเขา เขาถูกจับกระแทกกับกำแพง หินแตกเป็นเสี่ยงๆ
หัวเขามีเลือดออก หยางเตียนนอนแผ่กับพื้น หัวเขาหมุนติ้ว เขาไม่มีพลังจะยืนขึ้นอีก
หานเซี่ยวหยิบปืนพกออกมาและกดลงบนหน้าผากของหยางเตียน
ปากกระบอกปืนสีดำนำความรู้สึกของหยางเตียนกลับมา เขาอยากสู้ แต่หานเซี่ยวเหยียบขาเข้าไว้ จากนั้นก็ค่อยๆออกแรงที่นิ้ว
ดวงตาของหยางเตียนเบิกกว้าง ในเวลานั้น ความรู้สึกเสียใจก็เข้ากัดกิน
หากฉันไม่ใช่พวกชอบยุ่ง ฉันคงไม่ตาย ศัตรูคนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้จะใช้ชีวิต ฉันก็ไม่อาจหยุดเขาได้ การมาที่นี่ก็เหมือนการเอาชีวิตมาทิ้ง ฉันไม่ควรยอมรับคำขอ ...
กริ้ก!
ไกปืนมาถึงจุดสิ้นสุด ร่างของหยางเตียนสั่นสะท้าน แต่ก็ตระหนักว่าไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาตกตะลึงขณะดูหานเซี่ยวถอยห่างออกไป จากนั้นก็ตระหนักว่าเหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วตัวเขา แม้เขาจะไม่อาจเห็นหน้าตัวเอง เขาก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยความกลัว ความเสียใจและไม่เต็มใจ
“ตอนนี้นายคิดอะไรอยู่?”หานเซี่ยวกล่าว
หยางเตียนแข็งค้าง ต่อหน้าความตาย ความเชื่อที่เขาเคยยึดเหนียวกลับสั่นคลอน เขาไม่ใช่คนใจกว้างและแข็งแกร่งเหมือนที่คิด มันกลับเต็มไปด้วยความเสียใจและคิดว่าการตอบรับคำขอคนอื่นเป็นเรื่องโง่ แต่ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ เขามักทำงานหนักเพื่อให้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่-เขาอยากช่วยชีวิตผู้คน เขาอยากปกป้องพลเรือน เขาต้องการเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น
แต่ในเวลานี้ หยางเตียนกลับรู้สึกหลงทาง
หานเซี่ยวเก็บปืนพกเขาไป หยิบแล็บท็อปออกมา ส่งข้อมูลบางส่วนลงไดรฟ์ และโยนมันให้หยางเตียน
หยางเตียนและเน็ดตกตะลึง
ศัตรูจะจากไปอย่างนี้?
“ทำไมเขาไม่ฆ่าเรา?”หยางเตียนกำไดรฟ์ไว้ในมือ
“เราไม่คู่ควร อย่าตามเขาและถามหาความตาย เราต้องไปจากที่นี่ก่อน”หยางเตียนพยุงเน็ด และเดินโซเซออกไป
ภารกิจล้มเหลวอีกแล้ว หัวใจของทั้งคู่เต็มไปด้วยความอับอาย พวกเขาไม่อาจเผชิญหน้ากับเคทได้ เมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูสถาบันวิจัยลูอิส ทหารก็มาแล้วและปิดตายพื้นที่ ทั้งคู่ไม่อยากติดต่อกับทหาร ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปพักผ่อนและทำแผล
หยางเตียนยังคงคิดสิ่งที่หานเซี่ยวกล่าว เขาสับสนและไม่อาจจดจ่อได้เลย เขานอนบนเตียง และความคิดก็หลั่งใหลม่หยุด เขารู้สึกได้ว่าความเชื่อและมุมมองในฐานะฮีโร่ได้สั่นคลอน มันเป็นสงครามในจิตใจตัวเอง
ในเวลานั้น เน็ดไม่อาจยับความอยากรู้กับสิ่งที่อยู่ในไดรฟ์ได้ เขาเสียบมันเข้ากับแล็บท็อปและการดูมันก็ทำให้เขาหลั่งเหงื่อ
“หยาง มาดูนี่สิ!”