DNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 33
ตอนที่ 33
เย่ซวงสุดจะทน เมื่อถูกพูดถึงจึงออกมาเผชิญหน้า “คุณนายเฉินใช่ไหมคะ? ถ้าคุณไม่ขายห้องให้กับฉัน คนที่จะดีใจก็คงจะเป็นเธอสินะ” ในขณะที่เย่ซวงพูดมือก็ชี้ไปยังเมียน้อยที่ยืนนิ่งอยู่
เมียน้อยตกตะลึงไป เธอที่พยายามทนคุณนายเฉินทุบตีด้วยความโกรธ ได้แต่หวังว่าหลังจากปล่อยให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์แล้ว เรื่องใหญ่จะกลายเป็นเรื่องเล็ก แล้วเรื่องเล็กก็จะกลายเป็น...จริงๆ แล้วผู้ชายไม่ได้เรื่องที่เป็นต้นเรื่องเอง เมียหลวงที่หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีก็คงจะไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน แต่ก็ต้องดูว่าเมียหลวงจะตัดสินยังไง
ถ้าหากเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาก็คงจะไม่อะไรด้วย แต่ว่านี่คือคุณนายเฉินผู้ร่ำรวย เธอไม่ปล่อยให้สามีรอดไปได้แน่ ส่วนดาราปลายแถวเองก็อย่าได้หวัง?!
อันที่จริงถ้าคุณนายเฉินไม่ได้เอาพวกมาล้อมไว้ เมียน้อยก็คงจะหาโอกาสหนีออกไปได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเรื่องอุตส่าห์เบาลงแล้ว ยังจะมีตัวซวยหาเรื่องมาให้อีก...
ผู้หญิงคนนี้มาจากไหนกัน?
ถึงยังไงคนที่คุณนายเฉินโกรธแค้นอยู่ก็ยังคงเป็นเมียน้อย เมื่อเย่ซวงพูดแบบนี้ จึงสะดุ้งตกใจทันที จากนั้นก็มองเมียน้อยทีเย่ซวงที “หมายความว่ายังไง?”
“คุณนายเฉินมีธุระเยอะแยะ หลังจากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว คุณก็ต้องจัดการขายห้องเล็กๆ นี้อยู่ดี คุณคงไม่มีเวลาไปขายเร็วๆ นี้หรอก” เย่ซวงยิ้มเล็กน้อย “คุณลองคิดถึงผลที่จะตามมาสิ ถึงเวลานั้นพวกนั้นก็จะได้เวลาไปเตรียมตัวหาคนมาทำการซื้อขายกับคุณแทน หลังจากขายให้แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะวนกลับมาหาเจ้าของเก่าหรือเปล่า”
บ้าเอ๊ย!!!
เมื่อฟังจบ พ่อคุณชายตัวดีก็อยากจะด่าคนขึ้นมา
วันนี้เมียน้อยเองก็ทำตัวดี ตีมาก็ไม่ตีกลับ ด่ามาก็ไม่ด่ากลับ ก่อนหน้านี้คุณชายคนนี้คิดว่าหลังจากรอให้ภรรยาของตัวเองระบายอารมณ์เสร็จแล้ว จะหาคนอื่นมาซื้อห้องกลับคืนมาก็นับว่าไม่เลว...คิดไม่ถึงว่าฟางม่อจะพายายผู้หญิงใจแคบนี่มาด้วย เปิดปากพูดมาก็ทำลายแผนการของเขาเสียเละไม่เป็นท่าเลย...
คุณนายเฉินรีบหันไปมองสามี
ปฏิกิริยาของผู้ชายตายด้านนี่ก็เห็นจนชินเสียแล้ว ดูก็รู้แล้วว่าคงจะทำอย่างที่เธอพูดจริงๆ
“นี่คุณยังจะทำเหมือนฉันเป็นคนโง่อีกเหรอ?!” คุณนายเฉินแทบจะเป็นลมล้มพับไป
ให้ตายยังไงคุณชายเฉินก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด เขาส่ายหัวอย่างหนักแน่น และแสดงใบหน้าใสซื่อ “ไม่ใช่แบบนั้นนะที่รัก! หล่อนพูดจาเหลวไหล!”
ยังไงก็จะไม่ยอมรับผิดเด็ดขาด
เย่ซวงเริ่มสนุก “แค่พูดอย่างเดียวมันพิสูจน์ไม่ได้หรอกนะ ทางที่ดีฉันว่าคุณรีบขายมันไปเถอะจะได้จบๆ กันไป”
นังผู้หญิงสารเลว จะหยุดไม่หยุดฮะ!
ตาของคุณชายเฉินลุกเป็นไฟ ถลึงตามองเย่ซวงด้วยความโกรธ จนอยากจะฉีกร่างเธอให้เป็นชิ้นๆ
ฟางม่อเดินขึ้นมาข้างหน้าครึ่งก้าว แล้วดึงเย่ซวงไปหลบอยู่ด้านหลังของตัวเอง
ถ้าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าตัวเองล่ะก็ เขาคงจะไม่มีหน้าไปพบกับเพื่อนใหม่แน่ๆ ...
คุณนายเฉินทำเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา ถึงแม้จะไม่เชื่อสามีเลยก็ตาม แต่เธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องเชื่อใจเย่ซวงนี่ “ที่เธอพูดหมายถึงฉันควรรีบขายห้องนี้ให้เธอเหรอ?!”
“ผลประโยชน์ร่วมกันยังไงล่ะ!” เย่ซวงพยายามพูดโน้มน้าวเต็มที่ พวกคนมีเงินคงจะไม่ใส่ใจกับเศษเงินเล็กน้อยนี้หรอก ถ้าหากคุณนายเฉินอยากรีบขายออกไปจริงๆ ล่ะก็ ไม่แน่ว่าตัวเองอาจจะได้ใช้โอกาสนี้ขอลดราคาให้เยอะๆ ไปเลย “ฉันจะผ่อนจ่ายเป็นงวดก็จริง แต่ถ้าไปทำธุรกรรมผ่านธนาคารจะต้องใช้เวลานาน ขอเพียงแค่คุณนายเฉินไม่ขายแพงจนเกินไป ฉันก็เอาเงินมาจ่ายค่าห้องได้แน่นอน...”
“ผ่อนจ่ายเป็นงวด?!” คุณนายเฉินตกใจและมองไปยังฟางม่ออย่างมีความหมายแฝง
ฟางม่อ “...” สายตาที่แฝงไปด้วยความหมายมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าเขาดูออก
“...” เย่ซวงก็มองออกเช่นเดียวกัน
ฟางม่อรู้สึกเอือมระอาไปครู่หนึ่ง “...คุณเย่เป็นคู่หมั้นของเพื่อนผมจริงๆ และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมและคนในแวดวงนี้เลย” ฟางม่อนิ่งไปครู่หนึ่ง เขารู้ดีว่าเย่ซวงให้ความสำคัญกับโอกาสนี้มาก เขาจึงช่วยพูดต่อ “ยังไงห้องของคุณนายเฉินก็ต้องรีบขายอยู่ดี จะขายให้คนอื่นก็ต้องไปติดประกาศรอคนมาดูอีก ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก สู้ขายราคาถูกให้เพื่อนผมไปเลยตอนนี้ คุณจะได้สบายขึ้น แถมคุณเย่ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย”
ความคิดของคุณนายเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อฟางม่อพูดออกมาจนหมดเปลือกแล้ว ความสงสัยในตัวผู้หญิงคนนี้ก็น้อยลง
สุดท้ายแล้วหากอีกฝ่ายแค่พูดแบบขอไปที แล้วตัวเองดันไม่รู้สึกตัว ก็โทษตัวเองที่ยังระวังไม่พอแล้วกัน แต่ถ้าหากมาหลอกลวงกันล่ะก็ คิดดูแล้วฟางม่อไม่น่าจะกล้าทำเรื่องโง่ๆ ขนาดนั้นได้หรอก
เย่ซวงก็ช่วยพูดเสริมขึ้น “ใช่แล้วค่ะพี่เฉิน ถ้าขายฉันในราคาถูก พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจด้วย ดีจะตายไป”
คุณชายเฉินเริ่มทนไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากทำให้ภรรยาโกรธอีก แต่ปัญหาคือยายผู้หญิงคนนี้ขี้ตื้อเหลือเกิน จึงต้องพูดออกมาว่า “ห้องของผม ทำไมต้องขายให้คุณถูกๆ ด้วย?!”
“ห้องของคุณหรือของหวานใจคุณกันแน่คะ?!” เย่ซวงสวนขึ้นทันทีโดยไม่สนว่าจะล่วงเกิน แล้วก็มองว่าจะเลือกอยู่ข้างใครดีระหว่างคุณชายเฉินและคุณนายเฉิน แน่นอนว่าต้องเลือกอยู่ข้างคุณนายเฉินอยู่แล้ว
คุณนายเฉินยิ่งโกรธหนัก “เฉินเหอ คุณน่ะเงียบปากไปเลย! ไปกันเถอะ ฉันจะขายห้องนี้ ตอนนี้ไปดำเนินขั้นตอนต่อไปกันดีกว่า!”
ฟางม่อถอนหายใจออกมา
จบไปแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ
นี่ก็นับว่าตัวเองรอดจากเรื่องนี้ไปแล้ว ขอแค่ไม่โดนคุณนายเฉินสงสัยว่าหลอกอีกก็คงดี
พอคิดมาถึงตรงนี้ ก็เห็นเย่ซวงเงยหน้าขึ้นมาทำตาปริบๆ
“...ยังมีอะไรอีกหรือเปล่า?!” ฟางม่อถามอย่างสงสัย
เย่ซวงยิ้มออกมาอย่างรู้สึกผิด “พี่ฟาง พวกเรายังไม่ได้เงินค่าถ่ายโฆษณาเลย...” อีกนัยหนึ่งก็คือเธอยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายในงวดแรกนี้
“...”
“ฉันหมายความว่า ขอเบิกเงินก่อนล่วงหน้าได้ไหมคะ?”
เย่ซวงหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์กับฟางม่อ ส่วนฝ่ายเมียน้อยก็อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาจิกกัดใส่คุณชายเฉิน
โธ่เอ๊ย ทนอยู่ด้วยตั้งหลายเดือน สุดท้ายแม้แต่ห้องที่ได้มาอยู่ในมือก็หลุดลอยไปจนได้
คุณชายเฉินเองก็สุดจะทน จึงก้าวตรงไปข้างหน้าเพื่อบันดาลโทสะ...ไม่ได้ไปหาคุณนายเฉิน แต่ไปหาเย่ซวง “เธอ...”
ยังพูดยังไม่ทันจบก็ตื่นตกใจกับเสียงบางอย่าง