DNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 18
ตอนที่ 18
หลังจากตกลงเรื่องนี้กันเสร็จก็ลาฟางม่อไป แต่แล้วเย่ซวงก็พบว่าสายตาของโอวเชี่ยนหรูนั้นดูไม่ค่อยพอใจ จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เปลี่ยนเรื่องคุย “ไหนล่ะดาราดัง ไปเร็วๆ ฉันอยากได้ลายเซ็น”
“เอาบ้าเอาบออะไร!” ในที่สุดโอวเชี่ยนหรูก็ทนไม่ไหวระเบิดออกมา “เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าแฟนเธอจะไม่เข้าวงการน่ะ!”
“คนนั้นเป็นเจ้านายของฉันนะ!” เย่ซวงที่รู้ว่าตัวเองผิดก็ได้แต่อธิบายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ฉันยังต้องทำงานให้เขาต่อนะ อีกอย่างถ่ายโฆษณาตัวเดียว ใช้เวลาแค่วันเดียวแถมไม่ต้องเดินสายโปรโมทต่อก็มีเงินเข้าบัญชีตั้งหกหลักแล้ว... มีแต่คนโง่เท่านั้นล่ะที่จะไม่ทำ”
โอวเชี่ยนหรูพูดอย่างอดไม่ได้ไปว่า “ยังไงเธอก็ต้องเอาเด็กนั่นมาให้อาหลัว พี่โอวเชี่ยนหรูคนนี้รับรองว่าต่อไปพวกเธอจะได้รับงานแบบนี้อีกเยอะ...ไม่ใช่ว่าวางแผนจะแต่งงานกันแล้วหรอกเหรอ อีกหน่อยก็ซื้อบ้านเดี่ยวหรูๆ มาเป็นเรือนหอได้แล้ว ดีจะตายไป!”
เย่ซวงหมดคำพูด เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงจากแฟนก็เป็นคู่หมั้น จากนั้นก็ข้ามไปถึงขั้นวางแผนแต่งงาน ทุกอย่างเป็นแค่การพูดเองเออเองทั้งนั้น...การแต่งงานสายฟ้าแลบคงไม่ได้มีเร็วๆ นี้แน่
แล้วก็จบเรื่องนี้ได้โดยทำให้เป็นเรื่องขบขันไป เมื่อได้ลายเซ็นของดาราดังกลับบ้านมาด้วยแล้ว เย่ซวงก็รู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจ
แต่ว่ายังมีเรื่องที่โหดร้ายกว่านี้รอเธออยู่อีก
ไม่รู้ว่าโอวเชี่ยนหรูโดนเรื่องที่เกิดในสตูดิโอสะกิดใจหรือเปล่า เมื่อกลับถึงบ้านก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาค้นหาเบอร์โทร
ตอนแรกเย่ซวงนอนอยู่บนเตียงไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วก็ได้ยินเสียงคนคุยโทรศัพท์กัน โอวเชี่ยนหรูกำลังบอกเรื่องราวทั้งหมดกับฝ่ายตรงข้าม “ลุงหลัวคะ ตอนนี้หนูอยู่ที่บ้านของลุงเย่ เสี่ยวซวงหมั้นแล้วลุงรู้หรือเปล่าคะ...”
แย่แล้วๆ!!!
เย่ซวงพลิกตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง สายตาเบิกกว้างมองไปอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกญาติ
แย่งโทรศัพท์ดีไหม?! แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ ถึงยังไงก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีที่ให้ใครรู้ไม่ได้สักหน่อย หากยอมรับว่าเป็นแฟนกันแล้วยังไม่ให้บอกนี่สิถึงจะทำให้คนอื่นสงสัยเอาได้
แต่ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป...ให้ตายเถอะ เกิดร่างผู้ชายหายไป ตัวเองจะไปหาคู่หมั้นจากไหนมาตบตาทุกคนล่ะ?!
เย่ซวงที่แทบจะทรุด ถือโอกาสที่โอวเชี่ยนหรูกำลังจดจ่อกับการคุยโทรศัพท์เดินออกจากประตูห้องไป แล้วรีบเดินไปในห้องครัวเพื่อหาคนช่วยในยามคับขันเช่นนี้
“แม่ เกิดเรื่องแล้ว โอวเชี่ยนหรูเอาเรื่องนี้ไปบอกฝั่งนั้นแล้ว!”
แม่ที่กำลังต้มซุปอยู่ เพิ่งจะยกหม้อลงจากเตาก็ถูกเย่ซวงตะโกนเรียกจนตกใจ อยู่ๆ ก็มีเงาคนแวบเข้ามาในครัว แม่เกือบจะยกหม้อซุปนั้นสาดออกไป
เมื่อเย่ซวงเห็นท่าแบบนั้นก็รีบหยิบผ้ามารองใต้หม้อ แล้วพลิกมืออย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาเดียวหม้อซุปที่เต็มไปด้วยน้ำซุปก็ถูกเคลื่อนไปวางอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างๆ โดยไม่หกเลยแม้แต่หยดเดียว เมื่อคุณนายเย่รู้ว่าในมือของตัวเองนั้นว่างเปล่าสติก็กลับคืนมา มองเห็นลูกสาวของตัวเองที่ท่าทางแตกตื่นเพราะเกิดเรื่องขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า
“…” คุณนายเย่ค่อยๆ ปลอบขวัญตัวเองให้ใจสงบลง จากนั้นจึงกวาดสายตามองมาที่เย่ซวง “เกิดอะไรขึ้น ทำไมรีบร้อนแบบนี้”
เย่ซวงท่าทางเหมือนจะร้องไห้ออกมา “พี่เชี่ยนหรูอยู่ในห้องกำลังคุยโทรศัพท์ กำลังบอกคุณน้าเรื่องที่หนูหมั้นแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้! แม้แต่แฟนลูกยังไม่เคยพามาที่บ้านเลย จะหมั้นกับ...” ยังพูดไม่ทันจบ ก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ จึงพูดออกมาอย่างตกใจว่า “เชี่ยนหรูบอกน้าแล้วเหรอ?”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ก็กำลังคุยอยู่เลย!” เย่ซวงก้มหน้าลงเพื่อซ่อนน้ำตา แล้วมองไปยังคุณนายเย่อย่างรอคอย “แม่ แม่คงมีวิธีตบตาใช่ไหม หนูเคยได้ยินมาว่า ตอนสมัยที่แม่ยังเด็กอยู่แม่เป็นหัวโจกในบ้าน ก่อนที่คุณน้าจะเข้ามหาวิทยาลัย เงินอั่งเปาของทุกปีไม่เคยมีสักครั้งที่เก็บให้พ้นจากมือแม่ได้ ยังไม่ทันจะผ่านปีใหม่วันที่สองไปก็มักจะถูกแม่เอาไปเสียก่อน....”
ด้วยเหตุผลข้างต้นจะเห็นได้ว่า พลังการต่อสู้ของน้าหลัวและคุณนายเย่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ตอนนี้เย่ซวงได้แต่หวังว่าบอสลับในบ้านจะไปจัดการกับน้าหลัวให้ มิเช่นนั้นหากไม่มีใครลงมือ ครั้งนี้เธอคงไม่รอดแน่นอน
คุณนายเย่ใบหน้าแดงก่ำ กัดฟันถามออกไป “ใครบอกลูก?!”
“คุณยาย” เย่ซวงไม่ลังเลที่จะเปิดเผย
“…”
เธอพยายามหาทางโน้มน้าวคุณนายเย่ แต่กลับทำให้แม่ที่สุดแสนจะใจดีก่อนหน้านี้หายไปเสียอย่างนั้น
เย่ซวงถอนหายใจออกมาเบาๆ โอวเชี่ยนหรูที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้อง พอดีกับที่คุณนายเย่ยกหม้อสเตนเลสใบใหญ่ออกมาวางบนโต๊ะ
“โอวเชี่ยนหรูพักพอหรือยังจ๊ะ” คุณนายเย่ทำหน้าเปื้อนยิ้มแต่แฝงไปด้วยคมมีด “มาๆ พอดีว่าพวกคุณลุงเย่ก็ใกล้จะกลับมาแล้ว เย็นวันนี้เรามากินหม้อไฟกัน...เสี่ยวซวงไปยกน้ำซุปที่เคาน์เตอร์มาให้ที”
เย่ซวงรีบเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วยกน้ำซุปออกมา ไม่ต้องรอให้แม่สั่งก็เป็นเด็กดียกน้ำซุปเทใส่หม้อให้ จากนั้นก็เอาผักที่หั่นไว้แล้วค่อยๆ คีบวางลงไปในหม้อ
โอวเชี่ยนหรูกะพริบตาปริบๆ ...กินหม้อไฟในฤดูร้อน?! ช่างเถอะ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ครอบครัวเย่ทำอะไรนอกกรอบแบบนี้...
คุณนายเย่ถือโอกาสช่วงเวลาที่เย่ซวงกำลังเก็บกวาดอยู่ เช็ดไม้เช็ดมือแล้วลากโอวเชี่ยนหรูมาพูดคุย ก่อนอื่นก็ต้องสำรวจสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามก่อน “ช่วงเวลาสองสามวันนี้เชี่ยนหรูได้โทรศัพท์หาอาเช่อบ้างไหม? เด็กผู้หญิงออกมาทำงานต่างจังหวัดมักจะชอบติดต่อหาครอบครัวเป็นประจำ เพื่อให้คนทางบ้านวางใจกัน”
“ค่ะ เมื่อกี้อยู่ในห้องก็เพิ่งโทรไปหา เลยพูดถึงเรื่องที่เย่ซวงมีแฟน” โอวเชี่ยนหรูไม่ได้สงสัยอะไร จึงบอกออกมาต่อว่า “จะว่าไปก็บังเอิญนะคะ ช่วงนี้คุณยายหลัวไปเที่ยวกับทัวร์แล้วผ่านมาทางบ้านน้าหลัวพอดี เลยมากินข้าวที่บ้านด้วยกัน พอได้ยินว่าซวงซวงจะแต่งงานก็ดีใจยกใหญ่...ทุกคนบอกว่าอีกสองสามวันจะมาหาที่บ้าน”
ทุกคน? ทุกคนที่ว่าหมายถึงใคร?
ตัวของคุณนายเย่แข็งไปหมด คิดไม่ถึงว่าจะมีบอสใหญ่โผล่มาอีกตัว
เย่ซวงที่สภาพจิตใจกำลังย่ำแย่ เมื่อได้ยินอย่างนั้นตะเกียบในมือก็ร่วงลงไปบนพื้น
สองแม่ลูกอ้าปากค้างมองดูโอวเชี่ยนหรูอย่างตกตะลึง จนในที่สุดโอวเชี่ยนหรูก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป จึงจ้องมองทั้งสองคน “...ไม่สะดวกหรือเปล่าคะ? หนูบอกพวกเขาไปแล้วว่า เสาร์อาทิตย์นี้แฟนของซวงซวงจะกลับมาถ่ายโฆษณา ยังไงก็ต้องได้เจอตัว”
และแล้วใบหน้าของเย่ซวงก็ไหลอาบไปด้วยน้ำตา