GE143 นิกายปีศาจขาว [ฟรี]
จิตใจหนิงฝานปั่นป่วน สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้… หากรู้ก่อนว่าการชิงเจตจำนงค์กระบี่จำให้ต้องแต่งงานกับนาง เขาคงไม่ทำ หรือหากจำเป็นต้องช่วยนางจริงๆ เขาก็จะหาวิธีอื่น
เขาถูกหานหยวนจี๋หลอกแล้ว
ชายชราหัวเราะลั่น ตู่กูกระทืบเท้าด้วยโทสะ
หนิงฝานหันมองนาง แม้นางจะโกรธไม่พอใจ แต่ก็ไม่มากมายขนาดนั้น อีกอย่าง นางยังดูจะชอบเขาด้วย
หนิงฝานถอนหายใจ นางรู้สึกอย่างไรกับเขากันแน่
ช่างเป็นปัญหา… แต่เป็นปัญหาอย่างไรนั้นยังไม่กระจ่าง ยามนี้ หลังมือหนิงฝานปรากฏลวดลายกระบี่ ตู่กูเองก็เช่นกัน
เมื่อลวดลายกระบี่ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์ หนิงฝานและตู่กูกลับรู้สึกราวกับทั้งสองได้เชื่อมโยงถึงกันด้วยสายใยที่มองไม่เห็น ทำให้ทั้งสองประหลาดใจ
“นี่...” หนิงฝานก้มมองลวดลายกระบี่บนหลังมือพลางหันมองหานหยวนจี๋ ชายชราหัวเราะลั่น
“มันคือ ‘ผนึกกระบี่รวมใจ’... หากมีผนึกนี้ สาวน้อยจะเป็นภรรยาของเจ้าไปตลอดชีวิต… หนิงน้อย...นางเป็นของเจ้าแล้ว!”
คำกล่าวของชายชราทำให้ตู่กูไม่พอใจและเศร้าใจ นางเหม่อมองผืนน้ำแข็งกว้างใหญ่
“หานหยวนจี๋… เจ้ามันคนชั่ว! ปีศาจหนิงน้อย เจ้ามันไม่ใช่คน...ไม่ใช่คน!”
มือกระบี่ที่เก่งกาจในอดีตอย่างนาง ยามนี้ดูกังวลเป็นที่สุด
จบสิ้นแล้ว… ผนึกกระบี่รวมใจถูกสลัก หากตู่กูกลับโลกกระบี่ นางก็ไม่อาจแต่งงานกับหลานชายของเทพกระบี่ได้อีก
“เอาหล่ะ… แม่ทัพฉิน เจ้ากับคนของเจ้าพักก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับศิษย์ของข้า ไม่อยากให้เจ้าได้ยินด้วย...”
“อืม...” ผู้เยาว์คนนั้นถอนหายใจ
ชายชราตั้งใจจะไปโลกกระบี่ด้วยเหตุผล 3 ประการ
หนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของหนิงฝาน… หากชายชราไปโลกกระบี่ เทพกษัตริย์เนี่ยอาจจะไม่มาหาหนิงฝาน มันเป็นผู้หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ย่อมไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตา
สอง เพื่อตัวตู่กู...
ตู่กูมีเพียงร่างวิญญาณ เป็นเหมือนกับปีศาจตนหนึ่ง เมื่อคราวที่นางออกจากโลกกระบี่ นางออกมาได้เพียงจิตวิญญาณ ร่างกายของนางยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในโลงน้ำแข็ง
จิตวิญญาณของนางไม่ใช่จิตวิญญาณธรรมดาทั่วไป เป็นจิตวิญญาณกระบี่… มีเพียงผู้เชี่ยวชาญส่วนน้อยที่สามารถคงร่างจิตวิญญาณเช่นนี้ได้ และร่างวิญญาณเช่นนี้ สามารถใช้ปราณได้
แม้จะเป็นจิตวิญญาณกระบี่ แต่เวลาของนางยังมีจำกัด อย่างมากนางก็อยู่ได้เพียง 100 ปี หลังจากนั้น วิญญาณของนางจะกลับคืนกายหลัก
ยามนี้ตู่กูจากโลกกระบี่มานานหลายปีแล้ว ถึงคราวที่นางต้องกลับคืนสู่โลกกระบี่...
สาม เพราะต้องการช่วยสตรีที่อยู่ในทะเลเพลิงใต้เมืองฉีเหม่ย
ลึกลงไปใต้เมืองฉีเหม่ยคือทะเลเพลิง หนิงฝาน ตู่กู และชายชราเดินลงไปในนั้นด้วยกัน จ้องมองไปยังโลกศพที่อยู่กลางทะเลเพลิง
ในโรงศพนั้นมีสตรีที่ใบหน้าคล้ายตู่กู นางหลับไหลเช่นนั้นมานานหลายปี
หนิงฝานจ้องมองนางครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้าหนี
“นางคือเหม่ยน้อย… จากที่เจ้าเห็น นางตายหรือยัง...” ชายชรากล่าวถามหนิงฝาน
เหตุที่ชายชราพาหนิงฝานมาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้ หนิงฝานเดาว่าสตรีนางนั้นคือผู้ที่เขียนบันทึกฉีเหม่ย พี่สาวของตู่กู… คนรักของชายชรา
เหตุที่ชายชรารับหนิงฝานเป็นศิษย์ก็เพราะนาง
ในขณะที่หนิงฝานมองโลกศพ แววตาของเขาเผยความประหลาดใจ
เพราะจากที่ใช้สัมผัสเทพสำรวจ คุณภาพของโลงศพนั้นไม่ได้สร้อยหยินหยาง
สมบัติแห่งโลกหยิน… โลกศพเร้นสวรรค์!
มันสามารถหลอกลวงสวรรค์ได้ ทำให้ร่างของนางไม่เน่าสลาย… สิ่งที่สตรีนางนั้นเป็นน่าประหลาด นางยังดูเหมือนมีชีวิต แต่ก็เหมือนคนที่ตายไปแล้วในเวลาเดียวกัน หากนำร่างนางออกจากโลงศพ ร่างของนางจะเน่าสลายทันที เหตุที่นางยังคงสภาพร่างได้จนถึงเดี๋ยวนี้ เป็นเพราะโลงศพใบนั้น
นอกจากนี้ ในร่างของนางยังมีพลังน้ำแข็งที่เย็นเฉียบจนยากจะหลอม แต่พลังน้ำแข็งนั่นก็เหมือนกับเพลิงที่แผดเผาอยู่ในร่างของนาง
พลังสายนั้นทำลายเส้นชีพจรของนางทั้งหมด หากไม่มีพลังน้ำแข็งสายนั้น หนิงฝานก็มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยนางให้มีชีวิตอีกครั้ง
พลังน้ำแข็งสายนั้นเป็นภัยร้ายแรง ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกยังไม่กล้าสัมผัสมัน… เพียงแต่นั่น ยิงทำให้สร้อยหยินหยางของหนิงฝานสั่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
นอกจากนี้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างนาง กลับทำให้หนิงฝานรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
“นี่… เส้นลมปราณหยินหยางปีศาจ!”
“ใช่… เจ้ากับเหม่ยน้อยมีเส้นลมปราณเหมือนกัน ในโลกนี้… มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยนางได้”
ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่กังวล
“หนิงน้อย… ข้ามีวิธีช่วยเหม่ยน้อย แต่เจ้าต้องบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกก่อน แต่เมื่อถึงยามนั้น ถึงจะช่วยเหม่ยน้อยได้ เจ้าก็อาจจะบาดเจ็บสาหัส เจ้าเห็นแล้วใช่มั้ยว่าพลังน้ำแข็งนั่นน่ากลัวขนาดไหน ต่อให้ข้าฟื้นฟูพลังดังเก่า ก็ทำได้เพียงสะกดมันเท่านั้น... เจ้าจะยอมช่วยเหลือนางเพื่อข้าหรือไม่?”
หนิงฝานหลับตาลง สีหน้าของตู่กูที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็ดูไม่สู้ดีนัก
นางทั้งอยากช่วยคืนชีพให้พี่สาวนาง แต่ก็กลัวว่าหนิงฝานจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
หนิงฝานลืมตาพลางยิ้มเล็กน้อย
“หากแลกชีวิตนางกับอาการบาดเจ็บของข้า นับเป็นเรื่องเล็ก… เมื่อใดที่ข้าบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก ข้าจะช่วยนาง… ท่านไปโลกกระบี่อย่างวางใจเถอะ”
“ข้าไปแน่… เพราะที่นั่นจะช่วยเสริมจิตวิญญาณของนาง ทำให้มีโอกาสคืนชีพให้นางสำเร็จได้มากขึ้น”
“อาจารย์ข้าขอถาม… นางบาดเจ็บขนาดนี้ได้ยังไง...”
“เจ้าสัมผัสได้เหรอ?”
“อืม… พลังน้ำแข็งนั่นกับเพลิงปีศาจทมิฬของข้าเป็นปฏิปักษ์กัน แต่มันกลับดูเหมือนเพลิงปีศาจทมิฬมาก”
ก่อนหน้านี้ที่หนิงฝานหลับตา เขาไม่ได้ลังเลที่จะช่วยชีวิตเหม่ยน้อย แต่เขากำลังขบคิดถึงอาการบาดเจ็บของนาง
ไม่ว่าใครก็สมควรรู้ว่านางเป็นลูกของเทพกระบี่ผู้ทรงพลัง แต่กลับบาดเจ็บถึงขนาดนี้… บางที ผู้ที่ทำอาจไม่ใช่เทพกษัตริย์เนี่ย เพราะหากเป็นมัน ชายชราคงจับมันถลกหนังไปแล้ว
แต่เทพกษัตริย์เนี่ยยังหักหลังชายชรา… เมื่อครั้งนั้น พลังของชายชราเหนือล้ำกว่ามันมาก มันยังไม่เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกด้วยซ้ำ หากไม่ใช่พิษที่รุนแรง ก็ไม่อาจทำอันตรายชายชราได้แม้แต่ปลายนิ้ว
เมื่อชายชราต้องพิษ พลังของชายชราลดลงมหาศาล
และหลังจากนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งในขอบเขตเซียน คงเป็นผู้ลงมือกับเหม่ยน้อย
คนผู้นั้นสมควรเกี่ยวข้องกับโลกกระบี่
มันเป็นใคร?
“หนิงน้อย… เจ้ารู้จักนิกายปีศาจทมิฬของข้า… เดิมทีนิกายของข้าเป็นนิกายย่อยของนิกายสี่มหาสมุทร แต่ยังมีนิกายอีกแห่ง นามว่า ‘นิกายปีศาจขาว’... นิกายปีศาจทมิฬเก่งกาจเรื่องเพลิง ส่วนนิกายปีศาจขาวเด่นเรื่องน้ำแข็ง”
“หนิงน้อย เจ้าจงจำไว้… ในอนาคตหากเจ้าได้ก้าวไปแดนสวรรค์ทั้ง 4… ห้ามเปิดเผยว่าเจ้าเกี่ยวข้องกับนิกายปีศาจทมิฬ เพราะในแดนสวรรค์นั้น มีศัตรูคู่อาฆาตของข้า นามว่า ‘ปีศาจขาว’ อยู่”
แววตาที่ขมขื่นของชายชรา ราวกับมีหยาดน้ำตาที่ไหลริน
ปีศาจทมิฬ… ปีศาจขาว...