ตอนที่ 179 สถาบันวิจัย
หยางเตียนและเน็ดผิดหวัง ทีมสำรวจที่พวกเขาพยายามช่วยเป็นของสถาบันวิจัยลูอิส และมันก็เป็นสถาบันวิจัยที่มอบหมายงานให้พวกเขา หลังหานเซี่ยวจากไป พวกเขาก็พักผ่อนและเริ่มค้นหาอย่างระมัดระวัง ท้ายที่สุด พวกเขาก็พบเป้าหมายที่หุบเขาซึ่งทีมสำรวจขาดการติดต่อ
แต่ทว่า ทุกคนล้วนรับเชื้อไวรัสและกลายพันธ์ กระดูกเดือยงอกขึ้นบนร่างพวกเขาและพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสัตว์บ้าคลั่ง ไม่มีทางช่วยพวกเขาได้อีกต่อไป
หัวหน้าทีมสำรวจสามารถรักษาได้แค่กลุ่มเล็กๆ เขาให้กระเป๋าโลหะกับทั้งคู่ไว้และบอกว่ามันมีวัตถุดิบสำคัญที่สามารถสร้างยารักษาเชื้อไวรัสได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงขอให้พวกเขานำมันกลับมาสถาบันวิจัย
ทั้งคู่ไม่มีทางเลือกนอกจากทิ้งทีมสำรวจที่ติดเชื้อและออกเขตต้องห้ามมาพร้อมกระเป๋า พวกเขาถูกโจมตีระหว่างทาง และป้องกันกระเป๋าด้วยร่างกาย พวกเขาพากระเป๋าออกมาได้อย่างไร้ริ้วรอย แต่ร่างพวกเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผล
หยางเตียนและเน็ดลากร่างคล้ายศพพวกเขาขึ้นเครื่องและบินมาเคย์ลอส พวกเขาไม่อาจช่วยทีมสำรวจได้และก็เตรียมถูกตำหนิโดยสถาบัน เนื่องจากพวกเขาไม่มีความน่าเชื่อถืออีก
ชายสวมแว่นและดูเหมือนคนมีตำแหน่งสูงเดินออกจากลิฟต์และมองทั้งคู่ด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง
“วีรบุรุษ พวกคุณกลับมาแล้ว”น้ำเสียงเขาฟังดูยินดี
“ขออภัยด้วย คุณเคท เราทำภารกิจล้มเหลว”เน็ดกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษ
สีหน้าของเคทเปลี่ยนไป“พวกเขาตายหมดแล้ว?”
“พวกเขาติดเชื้อ เราไม่อาจทำอะไรได้เลย”หยางเตียนไม่อาจมองดูใบหน้าดำมืดของเคทได้
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณ...”
เมื่อเห็นเคทถอดแว่นตาและขยี้ตา ทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกแย่ เน็ดส่งกระเป๋าเหล็กและกล่าว“ทีมสำรวจขอให้เรานำกระเป๋านี่มาส่งให้คุณ มันเป็นของสำคัญที่สามารถรักษาไวรัสมรณะได้!”(เปลี่ยนจากไวรัสแห่งความตาย)
เคทรับกระเป๋ามาและยิ้มอ่อนโยน”เห้อ ผมหวังว่าพวกเขาจะทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นี่คือความสำเร็จของพวกเขา และเราจะไม่มีทางลืม หากเราสามารถสร้างยารักษาได้ มันจะตั้งชื่อตามพวกเขา
ทั้งคู่ไม่อยากแบกหน้าอยู่ หยางเตียนถอนหายใจและกล่าว“พวกเขาคือวีรบุรุษ การไม่สามารถช่วยพวกเขาได้คือความผิดพลาดที่ผมจะจดจำไปชั่วชีวิต”
“อย่ารู้สึกอย่างนั้นเลยครับ ชีวิตที่เสียไปของพวกเขาจะสูญเปล่าหากไม่ใช่เพราะพวกคุณ พวกคุณทำในสิ่งที่ทำได้ และก็ไม่ควรตำหนิตัวเอง หากคุณไม่ว่าอะไร เราอยากรักษาบาดแผลคุณให้ฟรีๆ”เคทกล่าวอย่างขอบคุณ
“ไม่จำเป็นครับ ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณอีก”ยิ่งเคทแสดงความขอบคุณ ทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกผิด พวกเขาปฏิเสธคำเชิญและเดินออกไป
เคทดันแว่นเขาและมองทั้งคู่ออกไป จากนั้นก็เดินมาหาหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้มและกล่าว“สวัสดีครับ คุณมีธุระอะไรกับสถาบันวิจัยเรางั้นหรอครับ?”
หานเซี่ยวยิ้มกลับและเปิดกระเป๋า แสดงให้เห็นหัวใจกลายพันธ์
“นี่คือหัวใจที่ติดเชื้อมรณะจากสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาก”
ดวงตาของเคทเป็นประกาย และก็กล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสกว่าเดิม“โปรดตามผมมา”
เคทนำไปในลิฟต์ และพวกเขาก็ขึ้นไปชั้นสิบสาม ทางเดินยาวสีขาวปรากฏหลังประตูเปิดออก ด้านข้างมันมีห้องทดลองหลายแห่งที่มีหน้าต่างกระจก บางคนกำลังทำการทดลอง บางคนมีเครื่องจักรและวัสดุ และยังมีนักวิจัยอิสระหลายคนกำลังคุยกันตรงทางเดิน
ชั้น13เป็นหนึ่งในชั้นทดลองของสถาบันวิจัยลูอิส ในขณะที่นำทาง เคทก็กล่าว“ไวรัสมรณะมักเป็นโครงการที่สำคัญมากของเรา เรายังคงพบอุปสรรคและข้อจำกัดเพราะเราไม่มีตัวทดลองมากพอ หัวใจนี้สำคัญมากต่อเรา เราอาจสามารถสร้างยาได้โดยตรง ตามปกติ เราจะมอบยาให้คุณทันทีที่เราสร้างเสร็จ แต่แน่นอน เราสามารถแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้”
“ไม่จำเป็น ผมอยากได้ยา”หานเซี่ยวชี้กล่องเหล็กในมือเคทที่ได้มาจากหยางเตียนและเน็ด“ผมคิดว่าคุณมีของอยู่แล้ว”
“นี่?ฮี่ๆ นี่ก็เป็นของสำคัญเหมือนกัน”เคทหัวเราะและไม่อธิบายเพิ่ม
พวกเขาหยุดด้านนอกห้องทดลองขนาดใหญ่“โปรดรอที่นี่ คนนอกไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าห้องทดลองครับ”
หานเซี่ยวส่งกระเป๋าให้เคท จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในข้างในพร้อมกระเป๋าสองใบและพูดกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าห้องทดลอง กระเป๋าถูกเปิดบนโต๊ะ ข้างในกระเป๋าอีกใบเป็นไข่สีขาว หานเซี่ยวไม่แน่ใจว่ามันมาจากสิ่งมีชีวิตอะไร
เคทและหัวหน้าห้องวิจัยพูดกันเงียบๆ แต่ด้วยประสาทสัมผัสระดับ55 หานเซี่ยวจึงได้ยินทุกอย่า
“เกิดอะไรขึ้นกับทีมสำรวจ พวกเขาตายหมดแล้วงั้นหรอ?”หัวหน้าถาม
“ใช่”เคทตอบกลับ“วีรบุรุษไม่อาจช่วยชีวิตพวกเขาได้”
“อย่างน้อยของก็ถูกส่งมา ลืมเรื่องพวกเขาไป ด้วยหัวใจนี้ เราจะสามารถสร้างยาได้ในไม่ช้า พวก’วีรบุรุษ’พูดว่าไง?”
“พวกเขารู้สึกว่าไม่อาจรักษาความไว้วางใจกับเราได้ ฮี่ๆ การจ้างวีรบุรุษเหล่านี้ถูกกว่าทหารรับจ้างมาก ตราบเท่าที่เราให้เหตุผล พวกเขาก็อาจทำให้ฟรีๆด้วยซ้ำ มันประหยัดเงินฉันได้มาก”
“นายยังไม่ถูกค้นพบใช่ไหม?”
“แน่นอน พวกเขาทั้งโง่และไร้เดียงสา คำโกหกเล็กๆน้อยๆก็เกือบทำให้พวกเขาร้องไห้แล้ว วีรบุรุษเหล่านี้จัดการได้ง่ยมาก แค่โน้มน้าวและชมเชยเล็กน้อยก็ทำให้พวกเขาหมดความระวัง พวกเขาคิดว่าพวกเขาทำเรื่องน่าเคารพเมื่อจากไป ฉันเกือบระเบิดหัวเราะ”
“อย่าไปรุกรานวีรบุรุษเหล่านี้ พยายามสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาเอาไว้”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะสร้างความประทับใจ หากมีอันตรายอะไร เรายังสามารถหาพวกเขาได้ พวกเขาย่อมไม่ปฏิเสธเรา”
หานเซี่ยวรออย่างใจเย็นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
เคทคุยต่ออยู่ไม่นาน เขากลับมาด้านนอกห้องและยิ้มอย่างสุภาพ“มันต้องใช้เวลาผลิตยาหนึ่งวัน หากคุณไม่ว่าอะไร เราสามารถจัดห้องพักให้คุณได้ และยาจะถูกจัดมอบให้คุณทันทีที่เรียบร้อย”
“ตกลง”หานเซี่ยวไม่คัดค้าน
พวกเขาขึ้นลิฟ์ไปชั้นที่พัก และหานเซี่ยวก็ได้พักห้องรับแขก เคทพูดถึงเขตที่เขาไม่มีสิทธิ์เข้าและขอตัวออกไป
หานเซี่ยวตรวจสอบห้องและพบกล้องสองตัว ดังนั้นเขาจึงนำแล็บท็อปออกมาและแฮคระบบ ควบคุมกล้องในห้องเขาและตั้งให้มันเป็นช่วงๆ
จากนั้นเขาก็เจาะเข้าฐานข้อมูลของสถาบันวิจัยโดยไม่ลังเลเพื่อดูโครงการวิจัย
[การเข้ารหัสขั้นพื้นฐาน]อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว ทักษะการแฮคเขาสามารถผ่านไฟร์วอลล์ส่วนใหญ่บนอความารีนได้ ยกเว้นแต่6ประเทศ องค์กรต้นกำเนิด และตาข่ายมืด และองค์กรขนาดใหญ่บางแห่ง สถาบันวิจัยขนาดเล็กไม่อาจหยุดเขาได้เลย เขาเข้าไปโดยไม่กระตุ้นการแจ้งเตือนใดๆ และเขาก็สามารถกลบร่องรอยได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครพบว่าเขาแฮคเข้าระบบ
เขาเปิดไฟล์โครงการของสถาบันวิจัย และชื่อก็ปรากฏบนหน้าจอ
“ยาจิ้งจกเขียว สเตอรอยด์กระทิงป่า การสกัดกรงเล็บสายฟ้า แผ่นหินเชื้อโรคระบาด...”
หลายชื่อเป็นยาที่ผู้เล่นได้รับในชีวิตก่อนหน้าเขา หลังจากค้นหาอยู่สักพัก เขาก็พบโครงการไวรัสมรณะ ชื่อเต็มของมันคือ[ยาเสริมพลังไวรัสมรณะ] รายละเอียดมันคือการทดลองที่สามารถเพิ่มความสามารถทางกายภาพของคน และสถาบันวิจัยก็ไม่ได้ทำการวิจัยใดๆเกี่ยวกับการรักษาอย่างที่หยางเตียนและเน็ดกล่าวถึง
ดวงตาของหานเซี่ยวทอประกายขณะกดแป้นพิมพ์ และจัดวางโปรแกรม