ตอนที่แล้วบทที่ 86 ฆ่าให้เกลี้ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 88 ตำรับอาหารซอมบี้

บทที่ 87 เล่นกล


บทที่ 87 เล่นกล

ในพริบตาเดียว สนามเทควันโดเงียบสงัดลงในทันที ในความเงียบ หลงเหลือเพียงซากศพเกลื่อนไปทั่วพื้น

หลิงม่อกำลังควบคุมให้สวี่ไฉกำแท่นลับมีดที่เสียบท้องเขาอยู่ จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงออก

 

เลือดสีดำทะลักออกมา สีหน้าของสวี่ไฉแสดงออกถึงการพยายามขัดขืน พอเขาล้มลง หลิงม่อก็ปล่อยเขาให้หลุดจากการควบคุม ในช่วงเวลาที่ชีวิตไหลไปอย่างรวดเร็วดั่งสายน้ำที่ไม่เคยย้อนกลับ สวี่ไฉเหมือนได้สติกลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ

 

ดวงตาคู่นั้นของเขาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเสียใจ กวาดมองซากศพรอบตัว สุดท้ายสายตาเขาก็หยุดอยู่ที่ประตูห้องที่ปิดสนิทนั้น

 

ถึงแม้เขาเพิ่งจะโดนควบคุม แต่เพราะสถานการณ์ของเขาค่อนข้างพิเศษ เขาจึงจำได้ลางๆ ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง

 

ไม่เต็มใจ อัปยศ ก่อนจะเผชิญหน้ากับความตายหลากหลายอารมณ์ประดังประเดเข้ามาในหัวของสวี่ไฉ…แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาเอาแต่จ้องประตูห้องที่ปิดแน่นนั้น และปล่อยลมหายใจเฮือกสุดท้ายออกมา

 

ในวินาทีสุดท้ายของสวี่ไฉ หลิงม่อก็ปล่อยมือออกจากประตู เขาถอนหายใจยาว แล้วหันหลังเดินจากไป

 

สำหรับเขา การเข้าไปยืนยันสถานการณ์ในห้องนั้น ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว

 

คนพวกนี้ ถึงตายไปก็ยังไม่สามารถชดใช้บาปที่ก่อไว้ หลิงม่อก็จะไม่หาภาระทางจิตใจเพิ่มให้ตัวเองอีก

 

หลิงม่อกลับไปถึงโกดังเก็บของ ในขณะที่เขาเปิดประตูออก หลินล่วนชิวก็ยืนอยู่ที่ประตูแล้ว แต่กลับถูกเย่เลี่ยนขวางทางเอาไว้ แน่นอนว่าเย่เลี่ยนนั้นอยู่ในการควบคุมของหลิงม่อด้วย ส่วนซย่าน่านั้นยังคงพิงอยู่ที่หน้าต่าง สีหน้าว่างเปล่าไร้ความรู้สึกมองไปยังแผ่นหลังของหลินล่วนชิว

 

“เธอฟังฉันนะ ฉันจะไปเกลี้ยกล่อมสื่อปิน เขาก็จะไม่ทำแล้ว…”

 

ตอนที่หลิงม่อเปิดประตู หลินล่วนชิวกำลังพูดเกลี้ยกล่อมเย่เลี่ยนกับซย่าน่า

 

แต่พอได้ยินเสียงประตูเปิด หลินล่วนชิวก็ปิดปากทันที เธอมองมายังหลิงม่อด้วยสายตาที่วุ่นวายใจเต็มที

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันแต่ไร้คำพูดใดๆ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ หลินล่วนชิวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขมขื่น “เขาตายแล้วหรอ?”

 

หลิงม่อพยักหน้า เขาหยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดขึ้นอีกว่า “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่ผมไม่ได้เป็นคนฆ่าเขา”

 

ประโยคนี้ทำเอาท่าทางของหลินล่วนชิวเปลี่ยนไปในทันที ในตอนแรกเธอไม่ค่อยเชื่อ แต่พอคิดอีกที ตอนนี้เธอตัวคนเดียว แม้แต่เพื่อนคนสุดท้ายก็ตายเสียแล้ว ในสายตาของหลิงม่อ เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคัดค้านอะไรทั้งสิ้น คนที่อยู่เหนือกว่าเธออย่างหลิงม่อ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโกหกเธอ

 

พอคิดถึงจุดนี้ ความคิดของหลินล่วนชิวก็พลันสับสนวุ่นวายขึ้นมาทันที ในเมื่อหลิงม่อไม่ได้เป็นคนฆ่าเขา เธอก็พอจะเดาเรื่องราวบางส่วนได้ การแสดงออกบางอย่างของสวี่ไฉทำให้เธอสนใจอยู่ พอลองปะติดปะต่อเรื่องราว ก็พบว่าสื่อปินแอบย่องออกไปเงียบๆ เพื่อทำอะไรบางอย่าง

พอเห็นหลินล่วนชิวก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร หลิงม่อก็ถอนหายใจ ยื่นมือออกไปตบไหล่เธอ คิดอยากจะปลอบใจเธอสักกี่ประโยค แต่คิดไม่ถึงว่า พอเขาตบไหล่เธอ เธอกลับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที

“เอ๊ะ เธอเป็นอะไรไป” หลิงม่อแปลกใจ เขาไม่ได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย…

 

ซย่าน่าได้ยินเสียงจึงหันมาดู พูดขึ้นทันทีว่า “เธอก็โดนเขาหยิกเหมือนกันหรอ!?” ในมุมที่เธออยู่ เธอไม่สามารถมองเห็นว่าหลิงม่อทำอะไรกับหลินล่วนชิว ทันทีที่ได้ยินเสียงหลินล่วนชิวร้องขึ้นมา พลันคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยเจอ เธอจึงเปิดปากพูดออกมาโดยไม่ทันได้ตึกตรองใดๆ

 

ในฐานะซอมบี้กลายพันธุ ถึงแม้ซย่าน่าจะฟื้นฟูความจำได้ไม่น้อยแล้ว แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ เธอแทบจะไม่ได้ใช้วิจารณญาณใดๆ เลย

 

“ใครหยิกกัน!” หลิงม่อเอ็ดขึ้นทันที

 

หลินล่วนชิวส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไร ฉันสับสนอะไรนิดหน่อย” ส่วนคำถามของซย่าน่า เธอกลับไม่ตอบ ถึงแม้อยากจะถามว่าเธอโดนหยิกตรงไหน แต่พอนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่บังเอิญไปเห็นเข้าก่อนหน้านั้น หลินล่วนชิวก็คิดได้ว่า ไม่ถามออกไปจะดีกว่า

 

หลิงม่อมองหลินล่วนชิวด้วยสายตาเชื่อครึ่งสงสัยครึ่ง ในตอนนั้นเอง เย่เลี่ยนเดินไปข้างหน้าสองก้าว พลันคว้าแขนซ้ายของหลินล่วนชิวขึ้นมา

 

การกระทำฉับพลันเช่นนี้ทำให้หลินล่วนชิวและหลิงม่อตกใจมาก โดยเฉพาะหลิงม่อ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปแทบจะทันที ถึงแม้เขาจะจงใจหยุดควบคุมเย่เลี่ยนชั่วคราว และหวังว่าเย่เลี่ยนจะสามารถใช้ความคิดและควบคุมตัวเองได้มากขึ้น แต่จุดที่เย่เลี่ยนไม่เหมือนกับซย่าน่าคือ เธอไม่เพียงพูดไม่เป็น แต่ยังไม่เป็นมิตรต่อมนุษย์อย่างชัดเจน

 

ซย่าน่ามองมนุษย์ทั่วไปเป็นแค่เหยื่อ ตอนที่ไม่หิวก็จะไม่สนใจ แต่ทันทีที่เย่เลี่ยนหลุดพ้นจากการควบคุมของหลิงม่อ มั่นใจได้เลยว่าเธอจะกลายร่างเป็นเครื่องจักรสังหารในทันที

 

การจู่โจมสัมผัสกับมนุษย์ก่อนเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้น

 

ขณะที่หลิงม่อกำลังตกใจ กำลังจะควบคุมเย่เลี่ยนให้ปล่อยหลินล่วนชิว เธอกลับปล่อยมือออกก่อนแล้ว จากนั้นก็หันมายังหลิงม่อ พลางมองเลยไปยังซย่าน่าที่อยู่ด้านหลังด้วย

 

สายตาของซย่าน่าประกายแวบวาบขึ้นมาราวกับสูญเสียการควบคุมตัว เธอเดินตามมา ทั้งสองมุ่งไปยังหลินล่วนชิวแล้วดมกลิ่นเธอ

 

“น่าแปลกจริง บนตัวเธอมีกลิ่นคาวเลือดอยู่จางๆ” ซย่าน่าพูดพลางเลียปาก คำพูดของเธอทำให้หลินล่วนชิวพลันเปลี่ยนสีหน้า หลิงม่อเองก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ

 

“พวกเธอ…” หลินล่วนชิวรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

 

“มีกลิ่นเลือด? ฉันจำไม่เห็นได้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บระหว่างทาง” หลิงม่อขมวดคิ้วครุ่นคิด ในใจของเขาแอบคิด ในฐานะซอมบี้กลายพันธ์บริสุทธ์วิวัฒนาการสูงอย่างเย่เลี่ยน แน่นอนว่าความรู้สึกทางกลิ่นย่อมดีกว่าซย่าน่า ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าบดบังอยู่ แต่ก็ยังสามารถได้กลิ่นคาวเลือด ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้กลิ่น

 

แต่หลินล่วนชิวไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บระหว่างทางนี่นา…เห็นเธอแสดงสีหน้าลำบากใจที่จะเปิดปากพูด หลิงม่อพลันถามขึ้นว่า “หรือว่าเธอเป็นช่วงนั้นของเดือน?”

 

“ใคร…ใครเป็นช่วงนั้นของเดือนกัน!?” หลินล่วนชิวใบหน้าแดงไปทั้งดวง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงกัดฟันพูดออกมา

 

“อะแฮ่ม!” หลิงม่อกระแอมอย่างเก้อเขิน จากนั้นจึงถามว่า “งั้น…เธอได้รับบาดเจ็บจริงๆหรอ?”

หลินล่วนชิวเงียบไปหลายวินาที จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ม้วนแขนเสื้อด้านซ้ายขึ้น

 

ตอนที่เธอเปิดแขนตัวเองให้ดูนั้น หลิงม่อสูดหายใจลึกทันที

 

เศษผ้าที่ไม่รู้ว่าเธอหามาจากไหน พันไว้รอบแขนของเธอหลวมๆ เลือดสดซึมย้อมผ้าให้กลายเป็นสีแดงดำอย่างรวดเร็ว จนแทบจะมองไม่ออกว่าผ้าผืนนั้นแต่เดิมเป็นสีอะไร สาเหตุที่กลิ่นคาวเลือดจางนั้น เป็นเพราะบนแขนของเธอพรมเหล้าไว้บางๆ

 

หลิงม่อเข้าใจทันทีว่าเธอกำลังใช้เหล้าในบาร์แก้พิษ แต่บาดแผลนั้นดูลึกมาก หากใช้ความสามารถในการฟื้นตัวโดยธรรมชาติ คงไม่อาจหายได้ นอกจากนี้ เหล้าก็ไม่ใช่แอลกอฮอร์แท้ๆ จะสามารถใช้แก้พิษได้มากน้อยเพียงใด ยังไม่อาจรู้ได้แน่ชัด

 

ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถทนความเจ็บมากมายขนาดนี้ได้ ตลอดทางยังทำเหมือนไม่เป็นอะไรเลย หากไม่ใช่คนที่มีจิตใจมุ่งมั่นและความอดทนสูงคงทำไม่ได้แน่

 

“มิน่าล่ะ คุณถึงอยากไปโรงพยาบาลกับผม สภาพคุณแบบนี้ยังไงก็ทนได้ไม่นานหรอก นี่คุณไม่เคยบอกสื่อปินเลยหรอ?” หลิงม่อถามขึ้นอย่างสงสัย

 

หลินล่วนชิวส่ายหัว บอกว่า “พูดไปก็ไม่มีความหมายอะไร แต่ตอนนี้ฉันก็รู้สึกเสียใจอยู่นิดหน่อย ถ้าหากฉันบอกความจริงเขาไป ไม่แน่เขาอาจจะไม่ลงเอยแบบนี้ ก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนดีกว่าตอนนี้มาก เป็นเพราะหายนะบ้าๆ ครั้งนี้ ทำให้คนมากมายต้องเปลี่ยนไป”

 

หลิงม่อมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็หยิบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ออกมาจากเป้หลังหนึ่งขวด พูดขึ้นว่า “คุณอย่าโทษตัวเองเลย เดี๋ยวผมแก้พิษให้คุณก่อน”

 

“อันนี้…มันมีค่ามากนะ” หลินล่วนชิวลังเลอยู่ชั่วขณะ

 

“ไม่ต้องกังวล ที่ห้องพยาบาลมหาลัยพวกคุณ ยังมีของเหลือมากมายเอามาทดแทนได้”

หลิงม่อหัวเราะเบาๆ เขาควบคุมเย่เลี่ยนให้จับข้อมือของหลินล่วนชิวขึ้นมา และให้ซย่าน่าค่อยๆ คลี่ผ้าที่พันไว้ออกมา

 

แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่พอเห็นบาดแผลที่ลึกขนาดนี้แล้ว หลิงม่อก็ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้

 

หลังจากที่ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แก้พิษแล้ว หลิงม่อก็ใช้ยาหยุดเลือด สุดท้ายก็ใช้ผ้าพันแผลสะอาดพันรอบแผลไว้ อย่างนี้จึงจะถือได้ว่าปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เห็นหลิงม่อหยิบของมากมายออกมาราวกับเล่นกลอย่างนี้ สายตาของหลินล่วนชิวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พวกคุณนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ การหาร้านยาในตัวเมืองไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเอาชีวิตรอดโดยที่เอาของพวกนี้ออกมาด้วยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ยิ่งร้านยาส่วนใหญ่ต่างก็อยู่ในพื้นที่ชุกชุม”

 

หลิงม่อหัวเราะเบาๆ ในใจพลางคิดว่าข้างกายมีซอมบี้สาวกลายพันธุ์สองตัวติดตามเขามา ร้านยาเหล่านี้ก็แทบไม่ต่างจากศาลเจ้าที่จะสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเลย…

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด