บทที่ 86 ฆ่าให้เกลี้ยง
บทที่ 86 ฆ่าให้เกลี้ยง
ตอนนี้ในสนามเทควันโด ศพของเด็กสาวสามศพถูกโยนทิ้งไว้ที่มุมหนึ่ง และคนอื่นๆ ก็เหมือนจะอยู่ห่างจากตรงนั้นไปโดยสัญชาตญาณ นั่งล้อมวงกันอยู่อีกฝั่ง
แม้แววตาของพวกเขายังคงมีความบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด ทั่วทั้งร่างยังสั่นสะท้านเพราะตื่นเต้นไม่หาย แต่ในหมู่พวกเขาก็ไม่มีใครพูดให้ชัดได้ว่า ตกลงแล้วเป็นเพราะความตื่นเต้น หรือว่าความหวาดผวา?
“ทำไมสวี่ไฉยังไม่กลับมาอีก?” ในที่สุดใครคนหนึ่งก็เอ่ยถามขึ้นเพราะทนบรรยาศเงียบๆ ไม่ไหว
“นั่นสิ ต้องรีบลงมือแต่เนิ่นๆ นะ! ถ้าพวกเขาหนีไปแล้วจะทำยังไง?”
“โง่รึเปล่า! กลางดึกยังจะมีใครกล้าวิ่งออกไป” หนึ่งในนั้นบอกอย่างไม่เห็นด้วย
“แต่ให้รออยู่แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องนะ บอกตามตรงฉันเครียดนิดๆ”
“นายไม่ใช่เครียดนิดๆ ล่ะมั้ง พูดมาเลยว่านายกลัวก็ได้น่า!”
“เชี่ย แกว่าใครวะ?”
ขณะที่คนกลุ่มนี้ถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน อยู่ๆ ก็มีใครบางคนเคาะประตูห้อง สองสามคนในนั้นเด้งลุกขึ้นยืนทันที
อาจารย์หลัวขยับเข้าไปโดยไม่ส่งเสียง เขาหยิบท่อนไม้ท่อนหนึ่งแล้วซ่อนตัวข้างประตู จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดประตู
พอเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฎตัวตรงหน้าประตู สีหน้าที่เตรียมพร้อมสู้ของคนกลุ่มนี้ก็มลายหายไปทันที อาจารย์หลัวเองก็โล่งอกด้วย เขาวางท่อนไม้แล้วก็เดินไปข้างๆ
คนที่ปรากฎตัวอยู่หน้าประตูย่อมเป็นสวี่ไฉ
ในสภาพที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ไม่มีใครสังเกตเห็นสภาพของสวี่ไฉในตอนนี้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ไม่อาจกลับเป็นแบบเดิมได้...กระทั่งไม่ได้สังเกตเห็นเลือดแต่ละหยดที่กำลังไหลลงมาตามขากางเกงว่า มันค่อยๆ หยดลงบนพื้น
ผู้ชายสองสามคนพากันเข้ามาหา ร้องถามอย่างตื่นเต้น “เป็นไงบ้างสวี่ไฉ ลงมือตอนนี้เลยรึเปล่า?”
“ถามมาละเอียดรึยังว่าพวกเขามีอาหารมากน้อยแค่ไหน? พอให้เรากินไปอีกนานเท่าไร?”
หลิงม่อที่ควบคุมสวี่ไฉอยู่เผยสีหน้ายิ้มเย็น ในฐานที่เป็นหุ่นซอมบี้ สวี่ไฉย่อมไม่อาจเอ่ยปากพูดได้ หลิงม่อเองก็ยังไม่ได้ไปถึงขั้นที่จะสามารถควบคุมให้อีกฝ่ายอ้าปากพูดได้
แต่เขาตอบคนกลุ่มนี้ด้วยวิธีที่ตรงไปตรงมายิ่งกว่า
ตอนที่สวี่ไฉยื่นแขนโอบไหล่ของคนหนึ่งในนั้น คนคนนั้นตะลึงไปในตอนแรกจากนั้นก็เผยรอยยิ้มลำพองใจบอก “สวี่ไฉ...พี่ไฉ พูดสิว่าพวกเราจะลงมือตอนนี้เลยไหม?”
‘สวี่ไฉ’ เงยหน้าขึนเล็กน้อยมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาประกายสีแดงที่แวบวาว ทำให้คนคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แต่เขาเพิ่งคิดจะร้องออกมา ความเจ็บปวดพลันก็ส่งผ่านมาจากเอว
แท่งเหล็กเรียวที่ก่อนหน่านี้ใช้ฆ่าสื่อปิน ตอนนี้ได้บิดหมุนช้าๆ อยู่ที่เอวของคนคนนั้น
สีหน้าของคนคนนั้นกลายเป็นแข็งทื่อทันที ดวงตาของเขาเบิกว้าง มองสวี่ไฉอย่างไม่เชื่อสายตา เสียงขึกๆ ดังมาจากในลำคอ
คนที่อยู่รอบๆ ยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ จนกระทั่งตอนที่คนคนนั้นคว้าแขนอีกข้างของสวี่ไฉ ค่อยๆ คุกเข่าลงที่พื้นก็ยังมีใครบางคนแซวเล่น “แม่งเอ๊ย นายนี่ขี้ประจบเหมือนกันนะ ให้สวี่ไฉพูดเลยสิว่า ขุนนางที่รักตามสบายเถอะ ฮ่าๆๆๆ...”
แต่เพิ่งจะสิ้นเสียง สวี่ไฉก็ดึงท่อเหล็กออกมา จากนั้นก็เสือกแทงเข้าไปในท้องของคนที่อยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นเลือดที่สาดพุ่งออกมาก็ทำให้คนที่เหลืออยู่ตระหนักถึงความผิดปกติในที่สุด!
“สวี่ไฉ นายทำอะไร!”
แน่นอนว่า ‘สวี่ไฉ’ ไม่มีทางตอบพวกเขา อาศัยตอนที่คนข้างๆ ยังไม่ทันได้หลบ สวี่ไฉก็ฆ่าอย่างต่อเนื่องไปแล้วสองคนอย่างเฉียบขาด
ชั่วพริบตาที่เท้าของเขาก็มีศพนอนกองอยู่สี่ศพ
ตอนนี้คนที่เหลือต่างถอยหลังไปด้วยความหวาดผวาสุดขีด มองสวี่ไฉตาค้าง
“สวี่ไฉ แกบ้าไปแล้ว!”
น่าเสียดาย สิ่งที่โต้ตอบพวกเขาก็คือสวี่ไฉที่เงยหน้าขวับขึ้นมา และเผยให้เห็นดวงตาสีแดงเลือดสองข้างที่มีเฉพาะซอมบี้
แม้ระดับสีเดือดจะอ่อนกว่าซอมบี้แท้ๆ แต่พาให้คนกลุ่มนี้สะเทือนใจอย่างไม่ธรรมดา!
“ซอมบี้...”
“อ๊าก! ซอมบี้!”
คนตาขาวสองสามคนกรีดร้องออกมาทันที พวกเขาลนลานรีบถอยหลังไป แต่พื้นที่ทั้งหมดในห้องนี้ก็มีแค่นี้ แล้วจะไปหลบที่ไหนได้ล่ะ?
คนที่ใจกล้าหน่อย แม้จะตกใจจนตัวสั่นไปทั้งตัว แต่ก็ยังคว้าอาวุธที่อยู่ระเกะระกะข้างกายจำนวนหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็เข้าประจันหน้ากับสวี่ไฉ
แต่สวี่ไฉตอนที่ยังเป็นมนุษย์ก็เป็นคนที่กล้าหาญทรหดที่สุดในหมู่พวกเขา ตอนนี้พอกลายเป็นซอมบี้ แม้จะใช้วิชากังฟูแบบฟรีสไตล์ไม่ได้ แต่ก็ทำให้คนพวกนี้ยิ่งรู้สึกกดดัน ยิ่งกว่านั้น สภาพของเขาก็ประหลาดเหลือเกิน!
ซอมบี้เคาะประตูไม่ได้ และใช้ท่อเหล็กฆ่าคนไม่ได้นะ!
ความรู้กลับที่กลับตาลปัตรมักจะน่าขนลุกที่สุด ความกล้าเพียงน้อยนิดที่ได้มาจากการทรมานเพื่อนนักเรียนตอนก่อนหน้านี้สลายไปไม่เหลือในชั่วพริบตา ประเด็นสำคัญที่สุดคือ แม้พวกเขาจะเตรียมพร้อมฆ่าคน แต่กลับไม่มีความกล้าในการต่อสู้กับซอมบี้เลย!
มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
หลิงม่อเห็นสีหน้าน่ารังเกียจของคนพวกนี้ผ่านสายตาของสวี่ไฉ
เดิมเขาไม่ได้คิดจะฆ่าคนพวกนี้ทั้งหมด แต่แค่จะควบคุมร่างกายของสวี่ไฉไปดูว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่เขาไม่คิดเลยว่า พอเข้าไปในห้องจะได้เห็นภาพที่โหดร้ายนั้น ผู้หญิงพวกนั้นประสบกับอะไรมา ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากเลย
พอได้ยินคนพวกนี้ถามด้วยความตื่นเต้นสุดๆ ว่าพวกเขาจะลงมือกันตอนไหน จิตสังหารในใจของหลิงม่อก็สั่งสมจนถึงขีดสุด!
หลิงม่อไม่ใช่พวกอาละวาดฆ่าคนอะไร แต่ตอนนี้เขาเดือดดาลจริงๆ แล้ว!
มีประสบการณ์จากการฆ่าพวกหัวล้านก่อนหน้านี้ ตอนที่หลิงม่อลงมือก็เรียกได้ว่าหมดจดงดงาม ภายในพริบตาสั้นๆ ก็ฆ่าไปแล้วสี่คน
ส่วนพวกที่เหลือ เท่าไรก็เท่านั้น เขาไม่คิดจะปล่อยไว้
ท่ามกลางสีหน้าที่บ้างก็สิ้นหวังบ้างก็หวาดผวาของคนกลุ่มนี้ หลิงม่อควบคุมสวี่ไฉให้กระโจนเข้าไปเหมือนหมาป่าหิวโหย แล้วกวัดแกว่งท่อเหล็กจ้วงแทงเข้าไปทันที
สวี่ไฉจึงให้คนพวกนี้หาอาวุธมาจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะลอบโจมตีพวกหลิงม่อ ถ้าหากต่อสู้อย่างไม่ระมัดระวัง สวี่ไฉก็คงจบเห่แน่ แม้หลิงม่อจะเป็นฝ่ายลงมือเอง ก็ยังไม่แน่ว่าจะถอยได้โดยปลอดภัยสมบูรณ์ แต่คนพวกนี้ตกใจจนขวัญกระเจิงไปแล้ว พอสวี่ไฉขยับนิดเดียว พวกเขาไม่เพียงแค่ไม่ได้เข้ามาต้านทาน ตรงข้ามกลับวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง
ระหว่างการต่อสู้ แม้สวี่ไฉจะถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดนร่างกายหลายครั้ง แต่เขาเป็นซอมบี้ ขอแค่ไม่ถึงตายก็ไม่อาจเกิดผลกระทบใหญ่โตอะไรนัก ตรงกันข้ามบาดแผลที่ท้องกลับมีเลือดไหลไม่หยุด ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ค่อนข้างเชื่องช้า
แต่การรับมือกับกลุ่มคนธรรมดาแบบนี้ ทนๆ เอาก็ยังได้อยู่
ชั่วขณะหนึ่งภายในสนามเทควันโดก็มีเสียงร้องคร่ำครวญโหยหวน มีคนส่งเสียงกรีดร้องออกมาบ้างบางครั้ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะผนังกั้นเสียงไว้อย่างดี ก็คงดึงดูดซอมบี้ข้างนอกไปนานแล้ว
มีหลายคนที่หนีไปถึงหน้าประตู แต่ประตูห้องถูกสวี่ไฉล็อคแต่แรกแล้ว ทว่าตอนที่พวกเขาจับลูกบิดบิดหมุนอย่างบ้าคลั่งนั้น ก็ต้องสิ้นหวังเมื่อพบว่าประตูเปิดไม่ออกแล้ว!
นอกประตู หลิงม่อจับลูกบิดไว้โดยไร้สีหน้า ฟังเสียงกรีดร้องข้างในเงียบๆ
ไม่นานนัก คนกลุ่มนี้ก็ถูกสวี่ไฉไล่ทัน พวกเขาหันกลับไปสู้ตายกับสวี่ไฉอย่างสิ้นหวัง แต่เรือนร่างของสวี่ไฉสูงใหญ่ ทั้งยังแรงเยอะ ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง พวกเขาแต่ละคนก็ล้มลงในแอ่งเลือด
ตอนที่ใกล้จะตายพวกเขาคงคิดไม่ออกเลยว่า ทำไมจึงกลายเป็นแบบนี้...
“อย่าฆ่าฉัน...” อาจารย์หลัวคนนั้นตัวลีบอยู่ตรงมุม มองสวี่ไฉเข้ามาใกล้ตัวเองทีละนิดๆ ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
แต่หลังจากที่พูดซ้ำๆ อยู่หลายประโยค อยู่ๆ เขาก็ตัวสั่นขึ้นมาแล้วบอก “ฆ่าเถอะ ตายไปก็ดี ตายกันให้หมด...”
“ยอมรับชะตากรรมแล้วเหรอ?” หลิงม่อคิดในใจ ขณะเดียวกันก็ควบคุมสวี่ไฉให้เอาแท่งเหล็กเสียบท้องเขา