ตอนที่ 272 ท่านพ่อ, อย่าสร้างความลำบากใจซึ่งกันและกันในช่วงปีใหม่
“อาเฮง !” เฟิงจินหยวนเดินไปข้างหน้าตบประตู “ออกมา ข้ายังพูดไม่จบ”
จากนั้นเขาก็ได้ยินคนข้างในพูดว่า “ข้ากำลังลับมีด ท่านอยากพูดอะไร พูดมาได้เลยข้าได้ยินที่ท่านพูด”
“เจ้า…” เขาต้องการจะพูดว่านางไร้การศึกษา แต่เขาจำสิ่งที่เฟิงหยูเฮงพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป ดูเหมือนว่าความหวังของเฟิงหยูเฮงที่จะช่วยเฉินชิงออกมานั้นค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ เขารู้ว่าลึกลงไปนั้นเหตุการณ์แบบนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฟิงหยูเฮงอย่างแน่นอนเพราะองค์ชายเก้าเพิ่งกลับจากค่ายทหารก่อนที่ชายคนนั้นจะตกจากหลังม้า เฟิงจินหยวนรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน การโกรธเฟิงหยูเฮงในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องดี แม้ว่าฮ่องเต้จะยอมแพ้ต่อองค์ชายเก้า แต่เมื่อมองไปที่ความโปรดปรานของฮ่องเต้ที่มีต่อพระชายาหยุนก็เห็นได้ชัดว่าการที่องค์ชายเก้าสูญเสียความโปรดปรานนั้นเป็นไปไม่ได้ เขาคิดแล้วเปลี่ยนใจเล็กน้อย “ในความเป็นจริง เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้คือมาพบจื่อหรู นอกจากนี้... ท่านย่าต้องการให้แม่ของเจ้าไปฉลองวันปีใหม่ด้วยกัน”
“ท่านพ่อกับท่านแม่หย่ากันแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพระราชโองการของฮ่องเต้ การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวของสามีที่นางหย่าร้างเพื่อฉลองปีใหม่นั้นไม่เคยปรากฎมาก่อนในราชวงศ์ต้าชุน หากท่านพ่อยืนยันที่จะเชิญท่านแม่ไป ท่านพ่อก็ไปที่พระราชวังเพื่อรับพระราชโองการก่อน”
“เฟิงหยูเฮง! มันมากเกินไปแล้ว” เขาโกรธมาก
“ท่านก็ไม่ควรมากเกินไปเช่นกัน !” เสียงภายในห้องดังขึ้นเช่นกัน “อย่าสร้างความลำบากใจซึ่งกันและกันในช่วงปีใหม่ ท่านพ่อได้โปรดกลับไป ! ข้าจะไปกินข้าวเย็นด้วยภายหลัง ถ้าท่านพ่อยังคงอยู่ที่ประตูของลูกสาวต่อไป ข้าจะไปคุยกับท่านย่าเรื่องของคฤหาสน์เฟิง”
เฟิงจินหยวนเงียบทันที
พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคฤหาสน์เฟิง? หากฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่าเขาได้ใช้โฉนดที่ดินของคฤหาสน์เฟิงเพื่อเป็นหลักประกันในการหาเงินให้กับองค์ชายสาม เขาจะไม่ถูกมารดาของเขาฆ่าหรือ ?
ลืมมันไปเถอะ
จากนั้นเขาก็หันออกจากเรือนตงเซิงโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้เขาไม่ต้องการที่จะเหยียบที่นี่อีกครั้ง ! ขณะอยู่ที่คฤหาสน์เฟิง เฟิงหยูเฮงอาจไว้หน้าเขา แต่เมื่อนางกลับมาอาณาเขตของนาง นางก็เป็นเหมือนทรราช การไม่ตัดเขาเป็นท่อน ๆ ก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะเสียใจ แต่การที่บุตรสาวของเขาขุ่นเคืองจนเกินไปก็เป็นเพราะบางเรื่องเช่นกัน
เขาล้มเหลวในการช่วยเฉินชิงและเดิมเขาต้องการถามเฟิงหยูเฮงว่าทำไมนางถึงช่วยเฉินหยู แต่เมื่อเห็นท่าทีในตอนนี้ของนางแล้ว เขาก็ไม่สามารถถามได้ ตอนนี้เขาทำได้เพียงหวังว่าเจ้าเมืองจะใจดีและค้นพบว่าเฉินชิงนั้นตกเป็นเป้าหมายของใครบางคนหรือบางที ... “ผู้คุ้มกันลับ”
หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นเงาดำปรากฏขึ้นทันที “นายท่าน”
“ไปตรวจสอบภูมิหลังของผู้หญิงที่เฉินชิงไปลวนลาม” มันเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะถูกจัดฉากขึ้นมา
ใครจะรู้ว่าผู้คุ้มกันลับจะตอบทันทีว่า “นายท่าน ข้าได้ตรวจสอบแล้วขอรับ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีพ่อแม่และไม่มีปู่ย่าตายาย เมื่อก่อนนางมีลูกอายุ 3 ขวบแต่ตอนนี้เสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน นางอาศัยอยู่คนเดียวและพึ่งพาเงินจากการล้างจานในโรงเตี้ยม หลังจากเหตุการณ์เช่นนี้ วันรุ่งขึ้น… นางก็ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษขอรับ”
“นางเสียชีวิตงั้นหรือ ?” เฟิงจินหยวนขยี้เท้า “เฟิงหยูเฮง โอ้ เฟิงหยูเฮง เจ้ามีจิตใจที่โหดร้าย !” ในสายตาของเขา มันคือเฟิงหยูเฮงที่ไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของคน เห็นแก่การทำร้ายเฉินชิง แต่เขาไม่ทราบว่าการฆ่าตัวตายด้วยยาพิษนั้นเรียกได้ว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าการแกล้งตาย ผู้หญิงคนนั้นกำลังเตรียมฉลองปีใหม่ที่บ้านพักในเขตชานเมืองพร้อมกับเด็กกลุ่มนั้น
หลังจากเฟิงจินหยวนออกไป เฟิงหยูเฮงก็นำหวงซวนไปที่บ้านพักส่วนตัว นางส่งเสื้อผ้าฤดูหนาวที่เพิ่งตัดใหม่ให้กับเด็ก ๆ และนางได้ซื้อเนื้อและลูกอมจำนวนมาก นางมอบอั่งเปาให้เด็กทุกคน สำหรับซางซาง, เทียนตง และผู้หญิงที่ช่วยกำจัดเฉินชิงออกไป นางก็ให้อั่งเปาแก่พวกเขา
เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ในที่พัก นางจึงส่งบ่าวรับใช้ไปก่อนสองสามวัน มีบางคนที่ดูแลเรื่องการทำความสะอาด บางคนดูแลเรื่องการทำอาหาร และยังมีอีกกลุ่มที่รู้วิธีจัดการพืชผลเพื่อช่วยดูแลสนาม สำหรับผู้หญิงคนนั้น นางสมัครเข้าร่วมด้วยความสมัครใจเพราะนางช่วยซางซางและเทียนตงดูแลเด็ก ๆ
สิ่งสำคัญที่สุดคือเฟิงหยูเฮงได้จัดอาจารย์มาสอนเด็ก ๆ อาจารย์เริ่มสอนไปซักพักแล้ว หลังจากสอนอยู่พักหนึ่ง นางก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเฉลิมฉลองปีใหม่ หลังจากวันที่ 15 ของเดือนแรก พวกเขาจะเริ่มบทเรียนอีกครั้ง
เด็กเหล่านี้เป็นเด็กกำพร้าและบางคนไม่เคยมีประสบการณ์ปีใหม่ที่อบอุ่นเช่นนี้มาก่อน ในสายตาของพวกเขา เฟิงหยูเฮงเป็นเหมือนนางฟ้าจากนิทานเพราะนางช่างงดงามและใจดี เด็กบางคนไม่เข้าใจว่าทำไมก่อนหน้านี้นางเป็นผู้ชายและตอนนี้เป็นผู้หญิง แต่หลังจากที่พวกเขาได้ยินเทียนตงบอกว่าพวกเขาเป็นคนเดียวกัน พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะเรียกนางว่าพี่นางฟ้าซึ่งเกิดขึ้นคล้ายกับที่ซวนเฟยหยูเรียกนาง
เฟิงหยูเฮงเล่นกับเด็ก ๆ ครึ่งวันก่อนจะกลับไปที่เรือนตงเซิง ขณะที่นางกลับไปที่คฤหาสน์ นางก็เห็นว่าฉิงหยูกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยความรีบเร่ง ข้างหลังนางมีบ่าวรับใช้ 2 คนที่ถือสมุดบัญชี
แค่ได้เห็นสมุดบัญชีเหล่านี้ก็ทำให้นางปวดหัว นางเดินเข้าไปในเรือนของนางโดยไม่พูดอะไรอีก ฉิงหยูก็เข้มแข็งเช่นกันเนื่องจากนางปฏิเสธที่จะยอมแพ้และไล่ตามเฟิงหยูเฮง ในขณะที่ไล่ตาม นางพูดว่า “คุณหนูไม่ชอบดูสมุดบัญชีเหล่านี้ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามบ่าวรับใช้คนนี้ได้เตรียมสรุปรายได้ให้คุณหนูดู จากนั้นรวบรวมตั๋วแลกเงินเจ้าค่ะ”
ในที่สุดดวงตาของเฟิงหยูเฮงก็สว่างขึ้น “รวมรวบตั๋วแลกเงิน ?”
ฉิงหยูพยักหน้า “ช่วงสิ้นปี แน่นอนร้านค้าทั้งหมดจะต้องรายงานรายได้ของตนให้เจ้านายของพวกเขาทราบร้านห้องโถงสมุนไพร, เหมืองหยก และร้านสมบัติที่ยอดเยี่ยมได้โอนกำไรของพวกเขาไปแล้วในช่วงครึ่งหลังของปี บ่าวรับใช้คนนี้ได้กำหนดว่า 1 ใน 10 ส่วนจะถูกเก็บไว้เพื่อจ่ายค่าใช้จ่าย และอีก 5 ใน 100 ส่วนจะจ่ายเป็นอั่งเปาให้ลูกจ้างเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่ตำหนิเจ้าในสิ่งนี้ควรทำ โชคดีที่เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อดูแลสิ่งเหล่านี้ จิตใจของข้าจะไม่สามารถคิดเรื่องนี้ตลอดทั้งวัน” นางนำฉิงหยูกลับไปที่เรือนของนางเอง หลังจากเข้าไปในห้องของนาง นางก็นำเงินกำไรออกมาอย่างรวดเร็ว นางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “มันมากขนาดนี้เลยหรือ?” ด้วยการรวมสามร้านเข้าด้วยกันทำให้มีรายได้รวม 35,000 เหรียญเงิน นี่เทียบเท่ากับเงินเดือนของเฟิงจินหยวนหลายปี
ฉิงหยูกล่าวกับนางว่า “ชื่อเสียงของร้านห้องโถงสมุนไพรโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ และรายได้จากยาเม็ดและเวชภัณฑ์น่าประทับใจเป็นพิเศษ ในส่วนของเหมืองหยกของเราจะยังคงส่งหยกชั้นดีต่อไป บ่าวใช้คนนี้นำช่างฝีมือดีมาสองสามคน พวกเขามีความรู้ถึงความต้องการของบรรดาฮูหยินและคุณหนู สำหรับร้านสมบัตที่ยอดเยี่ยมนั้นสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ขายเป็นเวลา 3 ปี แม้ว่าจะไม่ได้กำไรมากนักในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีกำไรเล็กน้อยเจ้าค่ะ”
เฟิงหยูเฮงพอใจกับรายได้ของทั้งสามร้านค้ามาก แม้ว่าเงินจำนวนนี้ยังห่างไกลจากที่นางต้องการ แต่อย่างน้อยมันก็เพิ่มขึ้น และนางก็ไม่รีบร้อน
เพราะนางไปที่บ้านพักส่วนตัว นางจึงพลาดเวลาไปคารวะท่านฮูหยินผู้เฒ่า แต่เฟิงหยูเฮงก็ไม่สนใจ เมื่อเร็วๆ นี้ฮูหยินผู้เฒ่าเริ่มตีตัวออกห่าง ดังนั้นแม้ว่านางไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางหยิบตั๋วแลกเงิน 2 ใบจากกองที่ฉิงหยูนำกลับมา ใบแรก 200 เหรียญเงิน อีกใบ 100 เหรียญเงิน นางใส่ในซองแดงแล้วส่งให้หวงซวน “นำ 2 ซองนี้ไปที่เรือนหรูยี่มอบให้กับจินเฉิน 1 ซอง และอีก 1 ซองให้กับม่านซี เจ้าคงรู้นะว่าซองไหนต้องให้ใคร ?”
หวงซวนไม่ค่อยใส่ใจกับความคิดของนางเหมือนกับวังซวนหรือฉิงหยู นางคิดว่าม่านซีเป็นบ่าวรับใช้เท่านั้น ดังนั้นนางจึงควรได้รับเงินจำนวนที่น้อยกว่า ดังนั้นนางจึงพูดว่า:“100 เหรียญเงินมอบให้ม่านซี 200 เหรียญเงินมอบให้อนุจินเฉิน” จากนั้นนางยิ้มและพูดว่า “คุณหนูใจดีจริง ๆ”
อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงหัวเราะ “ผิดแล้ว 100 เหรียญเงินมอบให้กับจินเฉิน, 200 เหรียญเงินจะมอบให้กับม่านซี”
“หา?” หวงซวนเบิกตากว้าง “ทำไม ? จินเจินเป็นอนุนะเจ้าคะ !”
นางส่ายหน้า “ไม่ใช่ใครที่มีฐานะสูงกว่าจะได้รับมากกว่า สิ่งสำคัญคือการดูว่าใครทำอะไรให้มากที่สุดแต่ได้ผลน้อยที่สุด”
ฉิงหยูไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าม่านซีเป็นคนแรกที่ติดตามคุณหนูเพราะคุณหนูรักษาอาการป่วยของนางและมารดาของนาง สำหรับจินเฉิน นางทำได้แค่เกาะมือของคุณหนูที่มอบความช่วยเหลือให้ จากมุมมองของค่าทั้งสองคนนี้แตกต่างกัน ยิ่งกว่านั้นจินเฉินได้รับตำแหน่งเป็นอนุ นางยังได้รับความโปรดปรานจากใต้เท้าเฟิงจินหยวน สำหรับนาง เสนาบดีเฟิงเป็นที่พึ่งพิงสำหรับนางที่จะลงหลักปักฐาน”
เฟิงหยูเฮงมองไปที่ฉิงหยูด้วยการชื่นชม จากนั้นกล่าวกับหวงซวนว่า “ฉิงหยูพูดถูกต้อง ไป เมื่อเจ้ากลับมา เจ้าจะได้รับซองแดงของเจ้าเอง”
“พวกเราได้รับด้วยหรือเจ้าคะ ?” จิตใจของหวงซวนไม่เคยสามารถเก็บข้อมูลมากมายได้ เมื่อได้ยินว่านางจะได้รับซองแดง นางก็ดีใจทันที “คุณหนูให้ม่านซีมาก เป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะที่คุณหนูจะให้เรามากกว่านั้น”
เฟิงหยูเฮงยิ้มและผลักนางออกไป “ไปเร็ว ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ได้ไม่น้อยกว่าม่านซี”
หวงซวนยิ้มก่อนจากไป ฉิงหยูยืนขึ้นแล้วโค้งคำนับให้เฟิงหยูเฮง “คุณหนู บ่าวรับใช้คนนี้ไม่ต้องการซองแดง บ่าวคนนี้ใช้คนนี้ได้รับจากคุณหนูมามากแล้วเจ้าค่ะ และคุณหนูยังต้องใช้เงินอีกมาก ข้าไม่กล้าขอสิ่งอื่นใดเจ้าค่ะ”
เฟิงหยูเฮงรู้ว่าฉิงหยูเข้าใจมาก และนางรู้ว่าการมอบธุรกิจขนาดใหญ่เช่นนี้ไว้กับผู้หญิงคนนี้เป็นแรงกดดันอย่างมาก แต่โชคดีที่ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถทางธุรกิจ ยิ่งนางอยู่ภายใต้แรงกดดันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งประสบความสำเร็จได้มากเท่านั้น นางยุ่งมากทุกวันแต่นางสนุกกับมัน นอกจากนี้นอกเหนือจากค่าจ้างรายเดือนที่นางให้ฉิงหยูทำงานนอกคฤหาสน์ นางยังให้ผลกำไรเล็กน้อยจากร้านค้าแต่ละแห่ง แม้ว่ามันจะไม่สามารถเทียบกับ 1 ใน 10 ส่วนสำหรับสาวใช้ได้ แต่มันก็มีปริมาณมากแล้ว
“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า” เฟิงหยูเฮงบอกฉิงหยู “จำนวนเงินที่ข้าให้แก่เจ้าคือสิ่งที่เจ้าได้รับ และข้ามีความสุขอย่างยิ่งที่ได้มอบมันให้กับเจ้า วันนี้เป็นวันสิ้นปี สิ่งที่ข้าให้คือซองแดง มันไม่ใช่แค่เจ้า แต่ทุกคนในคฤหาสน์จะได้รับ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าไม่ควรกังวลมากเกินไป นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะมีธุรกิจจะเพิ่มขึ้น มีร้านห้องโถงสมุนไพรที่จะเปิดใหม่ในเสี่ยวโจว และจะเปิดในเมืองอื่นๆ เพิ่ม ข้าจะต้องการให้เจ้าออกนอกสถานที่มากขึ้น ข้ายังไม่ได้ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเจ้า ดังนั้นเจ้าจะไม่ยอมรับซองแดงของข้าได้อย่างไร”
ใบหน้าของฉิงหยูเปลี่ยนเป็นสีแดงจากสิ่งที่นางพูด แต่นางก็มีความสุขมาก นางเป็นบุตรสาวของพ่อค้าอย่างแท้จริง นางมีความสามารถพิเศษในการทำธุรกิจ และเมื่อนางได้ยินเฟิงหยูเฮงพูดถึงธุรกิจของนางที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หัวใจของนางก็เริ่มที่เต้นเร็ว “ขอบคุณคุณหนูมากเจ้าค่ะ ในเมื่อคุณหนูพูดเช่นนี้ บ่าวรับใช้ผู้นี้จะยอมรับมันเจ้าค่ะ”
“อืม” เฟิงหยูเฮงพยักหน้าแล้วยืนขึ้น นำกล่องไม้ออกจากตู้ “ซองแดงสำหรับพวกเจ้าข้าได้เตรียมไว้แล้ว” เปิดกล่องไม้ซองแดงจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมชื่อที่เขียนขึ้น นางดึงซองจดหมายของฉิงหยู และมอบมันให้ฉิงหยู "500 เหรียญเงิน ข้าสามารถดูแลเรื่องของคฤหาสน์ได้อย่างสงบ ขอบคุณที่เจ้าจัดการเรื่องภายนอก ขอบคุณฉิงหยู”
เมื่อได้ยินถึงคำขอบคุณของเฟิงหยูเฮง ฉิงหยูก็เริ่มร้องไห้ นับตั้งแต่บิดามารดาของนางเสียชีวิตไป และตั้งแต่นางไม่มีครอบครัว ก็ไม่เคยมีใครที่จะปฏิบัติต่อนางอย่างดีอีกเลย แม้ว่าเฟิงหยูเฮงจะเป็นคนเลวทรามอย่างมากต่อผู้คนในตระกูลเฟิง แต่นางก็ยังคงปกป้องคนของนางได้อย่างแท้จริง รวมถึงบ่าวรับใช้ของเรือนตงเซิง นางกล้าที่จะพูดว่าการได้ทำงานที่เรือนตงเซิงนั้นดีกว่าการทำงานให้กับคนอื่น
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ปีใหม่แล้ว” เฟิงหยูเฮงยิ้ม และแกล้งนาง “ไปที่คลังและเตรียมเงิน มันจะถูกมอบให้กับบ่าวรับใช้ในซองอั่งเปา บ่าวรับใช้ระดับหนึ่งจะได้รับ 50 เหรียญเงิน ระดับสองจะได้รับ 20 เหรียญเงิน และทุกคนจะได้รับ 10 เหรียญเงิน นอกจากนี้ขอบคุณพวกเขาแทนข้าที่ทำงานให้เรือนตงเซิงมาตลอด”
ฉิงหยูพยักหน้า น้ำตาไหลออกมานางวิ่งออกไป
หวงซวนกลับมาเร็วมาก และกลับมาจากคฤหาสน์เฟิงก่อนที่ฉิงหยูจะแจกอั่งเปาให้เสร็จ เฟิงหยูเฮงเห็นว่าใบหน้าของหวงซวนไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นนางอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ?”
หวงซวนเดินไปข้างหน้าและกระซิบบอกเฟิงหยูเฮง หลังจากนั้นไม่นานเฟิงหยูเฮงขมวดคิ้ว และสีหน้านางคล้ำลง