ตอนที่ 166 มนุษย์ต่างดาว 1
“ปีศาจทมิฬได้ไปทวีปตะวันตกแล้ว?ทำไมเขาถึงไปที่นั่น?”เบนเน็ตตกใจ
“ฉันไม่รู้ เขาไม่ได้พูด”หวางหยวนส่ายหัว
เบนเน็ตไม่มีทางเลือกนอกจากต้องโทรหาหานเซี่ยว เขาไม่ได้ตอบ ในขณะที่หานเซี่ยวกำลังบินข้ามทะเล สัญญาณโทรศัพท์เขาก็ย่ำแย่
อย่างช่วยไม่ได้ เบนเน็ตส่ายหัว ความช่วยเหลือด้านวัตถุของมังกรดารามาถึงแล้ว และเฮสล่าก็หละหลวมเล็กน้อย แผนักพิงกำลังจะเปิดตัวในทวีปใต้ เขากำลังวางแผนรวบรวมสมาชิกที่แข็งแกร่งสุดขององค์กรต่างๆเป็นด่านป้องกันแรกของแผน ปีศาจทมิฬคือรายชื่ออันดับ3 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้เชิญชวน หานเซี่ยวก็ออกเดินทวีปตะวันตกแล้ว
ตำแหน่งของที่พักพิงแรกถูกตัดสินแล้ว มันตั้งอยู่ในซากเมืองขนาดใหญ่ในป่า
เบนเน็ตมีความคิดขึ้น“เมเปิ้ลปฏิเสธให้ความช่วยเหลือด้านวัตถุ และกลุ่มข้าราชหการก็ไม่คิดช่วยง่ายต่อให้เราทำอะไรก็๖ม โชคดี ปีศาจทมิฬกำลังไปทวีปตะวันตก เขาสามารถพูดแทนฉันได้!”
…
ห้องปิดตายดูเหมือนจะไม่มีแสงเลยและแยกจากโลกภายนอกด้วยประตูโลหะหนา ผ่านความมืด มีเพียงแสงลอดผ่านประตูเปิดแง้ม อิเลคโทรลักกำลังนั่งอยู่มุมห้อง อ่านหน้าต่างสถานะเขาด้วยความขุ่นเคือง ระดับศักยภาพเอสเปอร์เขาคือเกรดA อย่างไรก็ตาม หลังเปิดเกมมา20วัน ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างอยู่ในระดับ8 แต่เขายังอยู่ระดับ1
องค์กรต้นกำเนิดกล่าวว่าจะกักขังเขาอยู่หนึ่งเดือน และพวกเขาก็ทำจริงๆ หากมันไม่ใช่เพราะความสามารถเอสเปอร์ที่สูง เขาคงเปลี่ยนบัญชีใหม่ไปแล้ว หลังสมาชิกสโมสรได้เรียนรู้ถึงสถานการณ์ของบัญชีเขา พวกเขาก็กังวลมาก พวกเขาบอกให้อีเลคโทรลักรอก่อนและพวกเขาจะลงทุนกับเขาเมื่อการกักตัวสิ้นสุด ด้วยเหตุนั้น เขาจึงต้องอดทนและเข้ามาออนไลน์ทุกวันเพื่อรอความหวัง
ในเวลานั้นเอง ประตูโลหะทองก็ค่อยๆเปิด และแสงสีขาวก็สาดเข้ามาในห้อง
อิเลคโทรลักเงยหน้าขึ้นและเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ ชายคนนั้นจ้องมองอิเลคโทรลักเหมือนกำลังมองของล้ำค่า
“ฉันต้องการทำสอบแกเล็กน้อย”ชายในชุดขาวแสยะยิ้ม
...
ไซเบอร์ลอสมีความสุข
เขาคือหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต้นกำเนิด ในฐานะนักชีววิทยา เขาได้ทำการทดลองต่างๆมาหลายปี ก่อนเข้าร่วมกับพวกเขา ไซเบอร์ลอสคือนักวิจัยระดับสูงที่ทรยศเรย์เร็น เขาเป็นคนบ้าและจิตใจเขาก็เต็มไปด้วยความคิดบ้าๆ แม้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เขาก็ไม่อาจหยุดยั้งความคิดที่จะผ่าร่างมนุษย์คนอื่นได้ เขายังไม่สนใจหลักการและจะเข้าร่วมกับใครก็ตามที่เต็มใจช่วยเหลือด้านทรัพยากรให้เขา ในที่สุดเขาก็เข้าร่วมกับองค์กรต้นกำเนิด
เช่นนั้น องค์กรต้นกำเนิดจึงให้การสนับสนุนไซเบอร์ลอสเพื่อทดลองความคิดบ้าๆเขา เขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการวัลคีรี่ สุดยอดทหาร และการพัฒนายีน –โครงการทั้งหมดล้วนผิดจรรยาบรรณโดยสิ้นเชิง แต่ยังมีการทดลองที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น และเพียงแค่เอ่ยชื่อมัน มันก็ทำให้คนปกติต้องบ้าคลั่ง ตัวอย่างเช่น การผสมยีนขามสายพันธ์ มนุษย์-สัตว์...
ตลอดการวิจัยหลายปี ไซเบอร์ลอสได้ทำการทดลองกว่าร้อยครั้งและเห็นตัวอย่างมนุษย์มาหลายพันคน ในกลุ่มนั้น ไซเบอร์ลอสรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับสองมนุษย์ทดลอง และทั้งคู่ก็คือเอสเปอร์
หนึ่งในนั้นมีไขกระดูกสุดอัศจรรย์ มันสามารถชุบชีวิตศพคนตายได้หลายพัน แต่ทว่า เนื่องจากวิญญาณไม่ดำรงอยู่ในร่างเหล่านั้นแล้ว ศพจึงไม่ได้คืนชีพอย่างแท้จริง นั่นยังเป็นครั้งแรกที่ไซเบอร์ลอสค้นพบแนวคิดเรื่องวิญญาณ เขาทำการทดลองมากขึ้น แต่เนื่องจากการขาดเทคโนโลยี เขาจึงไม่อาจรวบรวมดวงวิญญาณได้
อีกคนมีพลังที่จะรบกวนชะตากรรม มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสุดในสายตาไซเบอร์ลอส บุคคลนี้สามารถแทรกแซงเหตุการณ์ได้โดยแค่แสดงความคิดเห็น มันเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายเมื่อเทียบกับวิญญาณ ความสามารถพิเศษนี้จะใช้ได้เมื่อบุคคลนั้นตื่นตัว การทดสอบชี้ให้เห็นว่ามันไม่อาจทำงานร่วมกับการสะกดจิตได้ บุคคลนี้ถูกขังไว้ตลอดและสวมใส่ที่ปิดปาก ทำให้เขาไม่อาจพูดได้ เนื่องจากความประมาทในอดีตและเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อปีก่อน บุคคลนี้จึงถูกชี้ว่าอาจเป็นภัยพิบัติกับองค์กร ด้วยเหตุนั้น องค์กรต้นกำเนิดจึงต้องระวังตัวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างซีโร่ขึ้น
สำหรับอิเลคโทรลัก เขาเป็ฯตัวอย่าทงี่สามที่ไซเบอร์ลอสสนใจ
ไซเบอร์ลอสอ่านและกลั่นกรองสมุดบันทึกอีกครั้ง
“วันที่1 : มนุษย์ทดลองได้ถูกส่งไปห้องกักขัง มีการเฝ้าสังเกตตลอดเวล รวมถึงการใช้กล้องมองกลางคืน ให้อาหารวันละสามครั้งตอน7โมง 11โมงและ1ทุ่ม มนุษย์ทดลองดูเหมือนจะตื่นตระหนกแต่ก็ยังไม่แสดงผลอะไรหลังการล้างสมอง การสังเกตเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ามีภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ทำการทดสอบตามมาตรฐาน”
“วันที่2 : 8โมง ผ่านการทดสอบ ผลพบว่ามนุษย์ทดลองเชื่อฟังมาก ผ่านการทดสอบทั้งหมด และเครื่องจับเท็จก็ไม่แสดงความผิดปกติใดๆ มนุษย์ทดลองยอดรับตัวตนใหม่จากการล้างสมอง 5ทุ่ม เริ่มผิดปกติ มนุษย์ทดลองหายตัวไป และไม่พบร่องรอบความเสียหายใดๆกับห้อง”
“วันที่4 : มนุษย์ทดลองปรากฏอีกครั้งในห้อง ตำแหน่งเดิมที่หายไป ไม่มีการเตือน เราได้เข้าควบคุมตัวทันทีและซักถามถึงสาเหตุการหายตัวไป ดูเหมือนมนุษย์ทดลองจะสับสนและผลการสืบสวนก็ถูกบันทึกไว้ใน[ภาคผนวก-002] เพิ่มการเฝ้าระวัง
“วันที่6 : ใช้การสะกดจิตเพื่อตรวจสอบว่าโกหกหรือไม่ และมนุษย์ทดลองก็พูดเรื่องไร้สาระ วิดิโอ[ภาคผนวก-003] ตกดึก หายตัวไปอีกครั้ง”
“วันที่8 : ปรากฏตัวอีกครั้ง สอบสวนและสะกดจิต รายละเอียด[ภาคผนวก004] ตอน2ทุ่มทำการผ่าตัดเพื่อสังเกตร่างกายและทุกอย่างก็ดูปกติ ผลการผ่าตัด[ภาคผนวก-005]
…
สมุดบันทึกการสังเกตมีระยะเวลา22วัน คนเร่ร่อนบางกลุ่มในแผ่นดินใหญ่ยังมีอาการคล้ายกันกับอิเลคโทรลัก เช่นนั้น สิ่งนี้จึงดึงดูดความสนใจขององค์กรต้นกำเนิด พวกเขาเงียบและยังคงสังเกตลับๆ
อมตะ สามารถคืนชีพ ปรากฏจากอากาศ ไม่รู้แหล่งกำเนิด...หากมันเป็นแค่คนเดียว นั่นคงไม่ต้องกังวล แต่ทว่า คนหลายพันกลับแสดงอาการเดียวกัน และจำนวนนี้ก็ยังเพิ่มขึ้น มันแพร่ระบาดเหมือนเชื้อโรค ผู้นำเป็นกังวลและทำให้ไซเบอร์ลอสรับผิดชอบในการดำเนินการทดลองต่างๆเกี่ยวกับอิเลคโทรลัก
อิเลคโทรลักถูกตรึงๆว้ตรงกล้าโดยมีทหารและถูกนำตัวไปผ่าตุด นอนลงบนโต๊ะผ่าตัด องค์กรต้นกำเนิดได้ล้างสมองเขา เช่นนั้น เขาคิดว่าคำสั่งทั้งหมดถือเป็นภารกิจบังคับและการละเมิดจะนำไปสู่การลงโทษ
อิเลคโทรลักต้องทำตามคำแนะนำเท่านั้นและเขาก็รู้สึกท้อแท้
ไซเบอร์ลอสสวมชุดผ่าตัดและเริ่มผ่าตัด อิเลคโทรลักได้ระงับความรู้สึกและไม่อาจขยับตัวได้ อย่างเดียวที่ทำได้คือดูมีดเฉือนร่างเขา เมื่อตระหนักว่าเขาถูกชำแหละ ระบบร่างเขาก็เริ่มตอบสนอง
ท่านเสียชีวิต
อิเลคโทรลักโง่งมและเขาก็คืนชีพในห้องหลังผ่านไปสิบวินาที
โลกนี้มันบ้าอะไรกัน..ฉันถูกผ่าและทดลอง?
อิเลคโทรลักชาด้าน เขาเสียการคืนชีพไปหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม ค่าประสบการณ์เขายังไม่ลดลง และนั่นอาจเป็นเพราะการตายภายใต้สถานการณ์พิเศษ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบสถานการณ์เช่นนี้ ในอดีต เมื่อเขาเล่นเกมเสมือนจริงอื่นๆ NPCไม่เคยสนใจความสามารถพิเศษใดๆของผู้เล่นซึ่งทำให้หลายคนบ่นถึงเรื่องนี้ ผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์ขึ้นถึงกับคิดผ่าตัดเพื่อศึกษา เขาไม่เชื่อว่าสิ่งนี้กำลังเกิดในกาแล็กซี่
ไซเบอร์ลอสเห็นกระบวนการทั้งหมดที่อิเลคโทรลักหายและปรากฏอีกครั้ง มันเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีและคราบเลือดก็ยังเปรอะมือเขา
“แก...ไม่สิ แกเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทใดกันแน่?”ดวงตาของไซเบอร์ลอสสว่างวูบ
อิเลคโทรลักรู้สึกตื่นตัว จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันบอกความจริง?