ตอนที่70 กลัวฉันหละซี่!
ตอนที่70 กลัวฉันหละซี่!
ก่อนเริ่มตอนเปลี่ยนจาก สิงโตเกล็ดเพลิงกัลป์ เป็น ราชสีห์เกล็ดเพลิงกัลป์
——————————
“ต่อไปหมายเลข135ขึ้นมาบนสนามประลอง!”
“อั๊ยย่ะ ถึงตาเราแล้วสิ” เซียล์พูด
“รีบจัดการมันให้ได้หละเซียล์” มอนด์พูด
“รู้แล้วน่ายังไงเรามีสามคนอยู่แล้วถึงจะยากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้.....แล้วก็ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดมันควรจะง่ายด้วยซ้ำ”
“เป้งงงง”
“โอ๊ยเขกหัวฉันทำไมเนี่ย”
เบลลีน่าเขกหัวเซียล์ไปหนึ่งทีแล้วพูดว่า
“ง่ายหรอฮ่ะ! มันเป็นนายเลยไม่ใช่หรอที่สุ่มมายากๆทั้งนั้น เพิ่มงานให้ขุนแม่อีกแล้ว” ถึงฉันจะไม่โกรธที่นายสุ่มได้ไม่ดีแต่จริงจังหน่อยสิ!”
“ขุนแม่!? นี้เธอไปเอาคำนี้มากไหนเนี่ย”
“จากคนๆนึงหนะ เห็นว่าเป็นนักเขียนนิยายเรื่อง Rebirth of Dragon spirit สนุกมากๆเลยหละ”
(แอดมิน : 5555)
“เอ๊ะทำไมชื่อเรื่องนี้มันคุ้นจังเลยนะ” เซียล์นึงอยู่พักนึงแต่ความคิดนี้ก็ออกจากหัวไปเพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรในตอนนี้
และแล้วเซียล์ มอนด์ เบลลีน่าก็ เข้าสู้ลานประลอง
————————————
อีกด้านนึง
หอการค้าแอสทริดชั้น9
ณ ห้องๆหนึ่ง
มีผู้หญิงผมสีม่วงเข้มแต่งตัวเรียบร้อยดูสวยงามมาดผู้บริหารคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้บุด้วยหนังชั้นดีกำลังนั่งดูคริสตัลบันทึกเหตุการณ์แล้วก็หน้าจอที่ถ่ายทอดสดลานประลองชั้น2ที่อยู่บนโต๊ะ
ข้างๆของเธอมีพ่อบ้านผมหงอกคนหนึ่งคอยรินชาอยู่ข้างๆ
“ปัง!”
ผู้หญิงแก่นแก้วคนหนึ่งผลักประตูเข้ามาในห้องและพูดกับผู้หญิงที่กำลังดูคริสตัลบันทึกเหตุการณ์
“พี่คะ วันนี้มีกลุ่มเด็กปากดีจะขึ้นชั้นสองมาอีกแล้ว”
ถ้าหากเซียล์หรือเพื่อนๆมาเห็นคงตอบได้ในทันทีว่าผู้หญิงแก่นแก้วที่กำลังบ่นอยู่คือพนักงานต้อนรับตั้งแต่หน้าชั้นหนึ่งนี้เอง! แถมคนที่ถูกบ่นก็น่าจะคือพวกเขาอีกด้วย
“เอาน่าพวกทายาทขุนนางก็เอาแต่ใจบ้างแหละ ถ้านิสัยไม่ได้เลวร้ายมากก็ควรจะตีสนิทเข้าไว้นะเราจะได้อาศัยช่องทางของพวกเขามาทำประโยชน์ให้กับเราได้”
“แต่หนูไม่ไหวแล้ววววว! ตั้งแต่ลองปลอมตัวเป็นพนักงานต้อนรับ แต่ละกลุ่มไม่พวกเด็กผู้หญิงโลกสวยก็มีแต่พวกผู้ชายหื่นๆชอบใช้สายตาแทะโลมทั้งนั้นแถมยังไม่มีสมองอีกตังหากมันไม่ทางสร้างประโยชน์ให้พวกเราได้หรอกไปหาพ่อแม่พวกเขาตรงๆง่ายกว่าอีก!.........ถึงกลุ่มนี้จะเป็นงานกว่านึดหน่อยก็เถอะแต่ก็เด็กไม่รู้จักประเมินตัวเองอยู่ ขอร้องหละให้หนูทำอย่างอื่นเถอะนะ” หญิงสาวแก่นแก้วกระโดดกอดพี่สาวขอร้องสุดชีวิต
“นี้ถือเป็นการฝึกนะ ถึงหอการค้าของเราตอนนี้จะมีเส้นสายในเมืองหลวงพร้อมอยู่แล้วแต่ว่าถ้าสักวันนึงน้องจะต้องกลายมาเป็นเสาหลักของหอการค้านี้แล้วก็จะบอกให้นะ อย่าดูถูกเด็กพวกนี้หละถึงจะไร้ความสามารถ แต่ว่าก็มีเส้นสายที่ได้จากพ่อแม่พอควรแล้วก็มีตังเยอะพอสมควรด้วย แถมยังใช้จ่ายง่ายอีกตังหาก”
“ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะแต่ความสามารถบริหารของหนูทำประโยชน์ให้ได้เยอะกว่าตั้งเยอะหนิ”
“การเป็นผู้นำนอกจากจะบริหารเก่งยังต้องมีทักษะการเจรจา ไหวพริบ และ ความแข็งแกร่ง และอื่นๆอีกนะ ฉะนั้นก็ควรจะฝึกทุกอย่างแล้วก็จะได้เป็นบทเรียนด้วยว่าจะต้องดูแลพนักงานแล้วก็ครอบครัวของพวกเขาให้เป็นอย่างดี”
“หนูเข้าใจแล้วค่ะ!” หญิงสาวตอบด้วยความมุ่งมั่น
“เอาหละแล้วก็พี่มีของขวัญให้ด้วยแล้วก็ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ต่อด้วยหละเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วหลังจากนี้ก็ไปเข้าโรงเรียนซะ” พี่สาวยื่นซองจดหมายให้น้องของเธอ
หญิงสาวแก่นแก้วเปิดมันขึ้นมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า
“ขอบคุณค่ะพี่” แล้วก็เดินออกจากห้อง
พี่สาวได้หยิบคริสตัลบันทึกเหตุการณ์ขึ้นมาดูแล้วก็เทียบการภาพถ่ายทอดสด
“จะดีหรอครับคุณหนู” พ่อบ้านผมหงอกถาม
“ดีแล้วหละเอาจริงๆเธอก็ได้รับจดหมายเชิญมานานแล้ว อีกอย่างประสบการณ์นี้ก็พอแล้วด้วยเวลาไปโรงเรียนแล้วจะได้ไม่ถูกใช้ประโยชน์ง่ายๆ”
“แล้วก็เด็กที่เข้ามาวันนี้รู้สึกว่าจะน่าสนใจมากเลยหนิ น่าสนใจจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเจ้าหญิงคนนั้นจะมีสัตว์ประหลาดน้อยตั้งหลายคนรอบกายขนาดนี้ ตั้งแต่แรกฉันก็คิดแล้วว่าเธอหนะพิเศษแต่ว่าเธอแทบจะไม่ยอมรับใครและไม่เคยมีผู้ช่วยหรือถึงมีเพื่อนคอยช่วยที่ไว้ใจได้แต่เธอก็ไม่คิดที่จะใช้แต่ตอนนี้เหมือนเธอจะมีมันครบแล้ว แล้วก็ยังมีเด็กนั้นอีกประเทศนี้อีกไม่นานจะต้องเจอกับคลื่นลูกใหญ่เป็นแน่”
เธอวางคริสตัลบันทึกเหตุการณ์ลงบนโต๊ะทำงานแล้วก็ดูการถ่ายทอดสดไปด้วย
ถ้าใครที่เป็นหัวหน้าตระกูลขุนนางมาเห็นคงรู้ได้เลยว่าภาพที่คริสตัลบันทึกเหตุการณ์นั้น คือ พิธีปลุกจิตวิญญาณของปีนี้รวมถึงยังมีงานประหลังพิธีอีกด้วย!
—————————
ตัดกลับมาที่ลานประลอง (คนอ่าน : มาซักที)
~มุมมองของเซียล์~
ผม มอนด์ และ เบลลีน่าจัง ยืนแบบหน้ากระดานตรงข้ามกับสัตว์อสูรทั้งสามตัวตามแผน
ด้านซ้ายคือมอนด์ยืนอยู่ตรงข้ามกับ ลูกกระต่ายตัวหนึ่งที่ตัวเล็กๆเหมือนลูกกระต่ายทั่วไปแต่ที่ขนทั่วทั้งลำตัว กรงเล็บเล็กๆ รวมถึงตาของมัน ต่างก็เป็นสีแดงทับทึม สะท้อนแสงเป็นประกาย โดยเฉพาะดวงตาของมันที่เหมือนว่าจะทำจากทับทึมเม็ดโต มันคือ
| รูบี้แรบบิท | ก่อตั้งวิญญาณขั้น3 เลือดโบราณขั้นสูง Bp 554
เป็นสัตว์อสูรที่ร่างกายส่วนใหญ่ประกอบด้วยทับทิม เป็นที่นิยมของนักสู้จิตวิญญาณระดับสูงบางคนก็เอามันมาเลี้ยง เพราะว่ามารถนำมาตัดขน เล็บ เอามาทำเครื่องสวมใส่ เครื่องประดับหรือเอามาป่นเป็นผงทับทิมเป็นวัสดุในการเอนชานท์และเขียนอักขระต่างๆลงบนวัตถุ ซึ่งก็ขายได้ราคาดีเท่ากับทับทิมที่ขุดแล้วเอามาเจียระไนจากเหมืองได้เลย
ส่วนตัวที่ตรงข้ามกับแมรี่ก็ไม่ใช้ตัวอะไรนอกจากอินทรีย์วายุมรกตนี้เองแน่นอนว่าอ่อนแอกว่าตัวที่เราเจอนอกเมืองเพราะว่าตัวที่เจอนอกเมืองอยู่ระดับก่อตั้งวิญญาณขั้น5 ส่วนตัวนี้แค่ก่อตั้งวิญญาณขั้น3เท่านั้น
ส่วนตรงข้ามกับผม เป็น ลูกสิงโตแต่ก็ตัวใหญ่เท่ากับสิงโตเต็มวัย มันมีเกล็ดสีแดงรูปวงรีในแบบสัตว์เลื้อยคลานคลุมตั้งแต่ปลายเท้าทั้งสี่มาถึงลำตัวนึดหน่อย หน้าท้องจนถึงคอและคางเป็นขนสีแดงสดที่ดูนุ่มพลิ้วไหวแต่ลึกลงไปเป็นแผนกระดูกอ่อนสีแดงขนาดใหญ่เป็นเกราะป้องกัน
ขนทั่วทั้งตัวของมาเป็นสีส้มแผงคอเป็นสีคละกันโดยมีสีเหลืองทองเป็นส่วนใหญ่แซมด้วยสีแดง10เปอร์เซ็นต์และสีน้ำเงินเล็กน้อย เมื่อมันขยับก็จะดูเหมือนกับเปลวเพลิงที่กำลังพลิ้วไหว
| ราชสีห์เกล็ดเพลิงกัลป์ | ระดับก่อตั้งวิญญาณขั้น3 สายเลือดราชันขั้นกลาง Bp 600
ในสารานุกรมสัตว์อสูรมีข้อมูลของมันว่าเป็นสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของมังกรไฟแบบอ่อนๆเกิดจากผสมพันธุ์ของมังกรไฟกับสิงโตลาวาแต่ไม่รู้ว่าทำไมสายเลือดมังกรจางลงเรื่อยๆแต่สันนิฐานว่าหลังจากยุคบรรพกาลจบลงไม่มีมังกร พวกมันเลยสืบพันธ์แต่กับสิงโตลาวาจนสายเลือดอ่อนลงเรื่อยๆเมื่อผ่านมานานเข้าเพื่อหยุดการจางลงของสายเลือดมังกรเลยกลายพันธุ์กลายเป็นสิงโตเกล็ดเพลิงกัลป์ แต่ว่าถึงจะบอกว่าอ่อนๆแต่ก็เข้มข้นกว่า อย่างพวกอีกาเพลิงเยอะ อย่างอีกาเพลิงมีสายเลือดของอีกาทองสามขาแค่0.4% เรียกได้ว่าเศษสุดๆเลยก็ได้แต่ ราชสีห์เกล็ดเพลิงกัลป์มีสายเลือดของมังกรไฟอยู่6.25%เเละยังมีเพลิงเฉพาะตัวที่เรียกได้ว่าเป็นเพลิงขั้น6หรือเท่ากับเพลิงมังกรของผมอีกด้วย
แต่ว่าไม่รู้ทำไม สิงโตเกล็ดเพลิงกัลป์ถึงสั่นๆเหมือนจะกลัวอะไรบางอย่าง
“เป็นไปตามที่คิดกลัวฉันหละซี่” เซียล์คิดในใจ
.
.
.
.
.
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตัดพาร์ทก่อนหละ
ก็ขอบคุณทุกคนเลยนะครับ ที่ติดตามมาถึงตอนที่70นี้ ก็ขอบคุณมากจริงๆ เดี๋ยวครบร้อยตอนเเล้วจะทำอะไรค่อยว่ากัน