ตอนที่แล้วAST บทที่ 1752 - ศึกระหว่าง หยางเคินและเหยียนอวี้เจียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 1754 - เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์? เสน่ห์ของราชันย์ปูหยก

AST บทที่ 1753 - แทรกแซงการต่อสู้ เหตุการณ์กลับตาลปัตร


ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1753 - แทรกแซงการต่อสู้ เหตุการณ์กลับตาลปัตร

 

ในไม่ช้าพลังของหยางเคินก็ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้น และพยายามกดดันเหยียนอวี้เจียงกลับ

 

ความแข็งแกร่งไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ใช้วัดการต่อสู้ระหว่างยอดยุทธ ประสบการณ์การต่อสู้และความเชี่ยวชาญในวิทยายุทธ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจทุกวินาที ฉะนั้นเหล่ายอดยุทธทุกคนก็ไม่ควรประเมินค่าปัจจัยภายนอกต่ำเกินไป

 

ในช่วงพริบตา หยางเคินสามารถกดดันเหยียนอวี้เจี้ยงได้โดยอาศัยทักษะการต่อสู้ของเขา เขาปลดปล่อยทักษะที่น่ากลัวเหมือนว่าตัวเขากำลังจะพลิกผืนทะเลให้กลับด้าน เขาจงใจจะกำจัดเหยียนอวี้เจี้ยงภายในกระบวนท่าเดียว

 

แต่ดูเหมือนการกระทำของเขาก็ยังไม่อาจตัดสินชี้ขาดได้ แม้ว่าเหยียนอวี้เจียงจะเสียเปรียบ แต่เขาก็ไม่ได้โดนกดดันจนถึงจุดที่เขาพลาดท่า ในช่วงพริบตา ควันสีขาวโพลนก็ปรากฏรอบตัวของเหยียนอวี้เจียง มันเหมือนไอน้ำที่คอยพรางตัวเขา

 

บทเพลงแห่งอสูรสมุทร!!

 

นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยได้เผชิญหน้ากับบทเพลงแห่งอสูรสมุทร!! อย่างไรก็ตามพลังของมันในครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าครั้งที่แล้วที่เขาได้ยินจากเหยียนสือหยุน มันคือบทเพลงแห่งสงคราม ที่ใช้เพิ่มพลัง และความมุ่งมั่นของตนเองและบั่นทอนความมั่นใจของศัตรู

 

ในไม่ช้า หยางเคินก็ต้องสูญเสียความได้เปรียบที่เขามี ในขณะที่เหยียนอวี้เจียงก็เริ่มเหมือนปลาที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ ในช่วงแรกของการต่อสู้ เหยียนอวี้เจียงเหมือนเร่งรีบที่จะสังหารหยางเคิน แต่ในตอนนี้ เขากลับเต็มไปด้วยความสงบนิ่งเหมือนไม่รีบร้อนที่จะทำเช่นนั้นอีกต่อไป ท่าทางของเขาเหมือนแมวที่กำลังเล่นกับหนู

 

ทรราชหอกราชันย์!!

 

ร่างกายของหยางเคินส่องประกายแสงสีทองสดใส หลังจากนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลังก็ระเบิดพุงพล่านออกมาจากร่างกายของเขา เขายื่นหอกในมือของเขาออกไปข้างหน้าและเอนเอียงร่างกายเหมือนกับคันธนู

 

เหยียนอวี้เจียงไม่ประมาทหยางเคินอีกต่อไป ทันใดนั้นกำแพงน้ำแข็งขนาดยักษ์ก็ปรากฏ น้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นเกิดจากพลังปราณก่อกำเนิด ซึ่งทับซ้อนกันจนมีความหนาและความแข็งแกร่งเหล็กลี้ลับหลายเท่า

 

โฮกกกกก!!

 

หยางเคินแทงหอกออกไปพร้อมกับร่างกายของเขา ท้องฟ้าก็เกิดประกายรอยแยกสีดำทมิฬ พร้อมกับแสงวาบ กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า

 

ปังงงงง!!

 

เศษน้ำแข็งกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ภายในนั้นปรากฏร่างมนุษย์ที่กำลังยืนอยู่กันคนละฝั่ง หยางเคินสภาพทางอ่อนแรง หน้าอกของเขายุบพองในลักษณะที่กำลังหายใจหอบหืด บริเวณมุมปากของเขาปรากฏให้เห็นเป็นคราบเลือด อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยที่กำลังมองดูอยู่ด้านล่าง บ่งบอกได้ทันทีว่าทั้งสองคนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

"จงปล่อยทักษะสังหารของเจ้าซะ มิฉะนั้นก็จงตาย!!"ขณะที่เหยียนอวี้เจียงกล่าวอาวุธที่มีลักษณะคล้ายกับซ้อมที่อยู่ในมือของเขาก็กลายเป็นสีโปร่งใส มันผู้ออกไปจนกลายเป็นลำแสงหิมะ พร้อมกับเสียงขู่ร้องเหมือนงู

 

หยางเคินรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย ในตอนนี้เขาไม่รู้วิธีที่จะเอาชนะศัตรู แต่เขาก็ยังพยายามรักษาความสงบ และควบคุมตนเอง ไม่ให้หลงกลในคำยั่วยุศัตรู

 

"ตายยยยย!!"

 

ยักษาพิโรธ!!

 

รัศมีรอบร่างกายเหยียนอวี้เจียงขยายอาณาเขตเป็นวงกว้างอย่างฉับพลัน หลังจากนั้นเขาก็ขว้างส้อมตรงเข้าใส่หยางเคิน

 

สีหน้าของหยางเคินถูกแรงกดดันจนเริ่มบิดเบี้ยว แต่ดวงตาของเขายังคงมั่นคง พร้อมกับขว้างหอกออกไปโดยไม่ลังเล

 

หนึ่งเพลงหอกขจัดวารี!!

 

ทันทีที่เขาปลดปล่อยพลัง กลิ่นอายรอบร่างกายของเขาก็พวยพุ่ง มันให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังสวมชุดเกราะหนา โดยที่ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน

 

ทางด้านของเหยียนอวี้เจียนเขากลับรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนมหาศาล ในขณะที่พลังรอบตัวของเขากำลังถูกดูดหายไป ความเร็วของเขากำลังลดลง และความแข็งแกร่งก็เริ่มหมดไป หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เหยียนอวี้เจียนก็เริ่มตื่นตระหนก จนลืมไปว่าเขากำลังทำการต่อสู้อยู่

 

ปังงงงงง!!

 

เหยียนอวี้เจียงถูกอัดกระแทกกระเด็นไปข้างหลัง พร้อมกับกระอักเลือดคำโตออกมากลางอากาศ ตอนนี้กระแสทิศทางผู้ชนะกำลังถูกควบคุมอยู่ภายใต้เงื้อมมือของชิงสุ่ย เขาทำให้ผู้ที่ได้เปรียบ กลายเป็นผู้ถูกกระทำ จนบาดเจ็บหนัก

 

เหยียนอวี้เจียงในตอนนี้บาดเจ็บสาหัสอย่างมากจะมีโอกาสที่เขาจะตายได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันหยางเคินก็รู้ดีว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีโอกาสที่จะพรากชะตาชีวิตของเขาไปได้ตลอด เขาจึงยอมรับความจริง และปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มี เพื่อต้านทานการโจมตีของเหยียนอวี้เจียง

 

และเมื่อสภาพอากาศโดยรอบกลับสู่ปกติ ทั้งสองคนยังคงรู้สึกงงงวย ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไร

 

หยางเคินไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีแม้แต่น้อย ขณะที่เหยียนอวี้เจียงกำลังเผชิญหน้ากับความปราชัยอย่างแท้จริง

 

หยางเคินเป็นทั้งคนที่ฉลาดและโหดเหี้ยม เขาพร้อมจะสังหารศัตรูแม้ว่าศัตรูจะบาดเจ็บก็ตาม เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจ จึงกระทำการรัดกุม เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำอีก

 

หยางเคินร่างกายกลายเป็นเพียงแค่แสงเงา ก่อนจะไปปรากฏเพื่อโจมตีเหยียนอวี้เจียงจากทางด้านหลัง

 

"บังอาจจจจ!!"

 

ยอดยุทธคนอื่นๆที่อยู่ฝั่งของเหยียนอวี้เจียง เมื่อเห็นสถานการณ์เสี่ยง พวกเขาก็พุ่งออกไปเพื่อพยายามหยุดการโจมตีของหยางเคิน

 

แน่นอนว่าทางฝั่งคนของพระราชวังหยางแดนเหนือก็ไม่ได้มาเพื่อยืนดูเหตุการณ์เฉยๆ ผู้อาวุโสของพระราชวังหยางแดนเหนือรีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว "พระราชวังอสูรแดนมหาสมุทร เจ้าคิดจะใช้จำนวนคนเข้ารังแกผู้อื่นอีกอย่างนั้นหรือ"

 

ทั้งชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อได้เคลื่อนย้ายตัวเองขึ้นไปยืนอยู่บนหลังมังกรหยกขาวเพื่อเฝ้าดูการต่อสู้ที่วุ่นวายอยู่เบื้องหน้า แม้ว่ากลุ่มพระราชวังอสูรแดนสมุทรจะไม่ได้สูญเสียกำลังพลไปทั้งหมด แต่ก็ถือว่ามันคือความเสียหายร้ายแรง พวกเขาคงไม่อาจฟื้นคืนกำลังได้ในช่วงเวลาสั้นๆ และด้วยพลังของชิงสุ่ย มันจะทำให้พวกเขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น

 

ผู้คนจากพระราชวังอสูรแดนสมุทรหนีหัวซุกหัวซุน ครึ่งนึงถูกสังหาร แต่พวกเขายังโชคดีที่สามารถพาตัวเหยียนอวีเจียงหนีไปได้

 

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง หยางเคินก็รีบกลับลงมาที่พื้นดิน และมองไปหาชิงสุ่ยพร้อมกับกล่าวว่า "ข้าขอขอบคุณท่านผู้อาวุโสมาก"

 

แม้ว่าหยางเคินจะไม่รู้ว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาเชื่อมั่นว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนี้ โลกที่เต็มไปด้วยพลังและผู้แข็งแกร่ง อายุจึงไม่ใช่ตัวบ่งบอกความสามารถที่แท้จริง คนที่แข็งแกร่งย่อมได้รับความนับถือ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่หยางเคินจะแสดงความนับถือชิงสุ่ยในฐานะผู้อาวุโสของเขา

 

ชิงสุ่ยยิ้มขณะจ้องมองหยางเคิน "อย่าได้กังวล ข้าเป็นเพียงคนที่เผอิญเดินผ่านมาแถวนี้เท่านั้น พวกพระราชวังอสูรแดนสมุทร ทั้งไร้เหตุผลและหยิ่งทะนงเกินไป พวกมันจะต้องพบเจอกับหายนะในไม่ช้านี้แน่"

 

"พวกเราคือคนจากตระกูลหยาง ต้องขออภัยจริงๆที่ทำให้ท่านต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าหากพวกมันคิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับท่าน ท่านก็บอกพวกข้าได้เลย แม้ว่าข้าจะต้องบุกน้ำลุยไฟเผชิญหน้าภัยอันตราย ข้าก็จะตอบแทนบุญคุณของท่านให้ได้"หยางเคินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

"ข้าขอขอบคุณ และท่านก็ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อข้าเลย"

 

"พระราชวังหยางแดนเหนือของพวกเราอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก ข้าอยากจะเชิญท่านผู้อาวุโสไปเยี่ยมชมพระราชวังหยางแดนเหนือของพวกเรา เพื่อให้ข้าได้มีโอกาสขอบคุณท่านอย่างถูกต้องได้หรือไม่?"หยางเคินกล่าวคำพูดด้วยความระมัดระวัง

 

"เรียกข้าว่าชิงสุ่ยเถิด ตัวข้านั้นน่าจะมีอายุน้อยกว่าท่าน ถ้าหากท่านไม่รังเกียจ ก็จงคิดซะว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน และอีกอย่างหากไม่เป็นการหยามเกียรติเกินไป ข้าขอเรียกท่านว่าพี่หยาง ท่านคิดว่าอย่างไร?" ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวถาม ด้วยความรู้สึกของเขา เขาเชื่อมั่นว่าผู้นำของพระราชวังหยางแดนเหนือเป็นคนที่มีความสามารถในการวางตัวที่ดี และยังมีบุคลิกที่ดีอย่างมาก

 

"ดีเยี่ยม!! ทีแรกข้าก็ต้องการเช่นนั้น แต่ข้าเกรงว่ามันจะเป็นการหยามเกียรติของน้องชิงสุ่ย"

 

"อืม ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวลา ไว้ข้าจัดการธุระทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะกลับมาเยี่ยมชมพระราชวังหยางแดนเหนือของพี่หยาง"

 

"น้องชายชิงสุ่ย ข้าดูออกว่าเจ้ากำลังรีบร้อน จะเป็นไรหรือไม่ ถ้าหากข้าจะขอถามถึงปัญหาที่ท่านกำลังเผชิญ ในฐานะที่ข้าได้เป็นพี่ชายของท่าน มีสิ่งใดที่พี่ชายคนนี้พอจะช่วยเหลือได้บ้าง?"หยางเคินกล่าวถามหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของชิงสุ่ย

 

หลังจากลังเลสักพักหนึ่ง ชิงสุ่ยก็พยักหน้า "ข้ากำลังออกตามหาดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยเหลือใครบางคน และจุดหมายที่ข้ากำลังมุ่งหน้าไปคือถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์"

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด