ตอนที่ 919 คุณซ่งผู้โชคดี(ฟรี)
หลังการประมูลแสนดุเดือด หลินฮวงก็ประมูลของชิ้นแรกมาได้ด้วยราคา360ล้านคริสตัลชีวิต
มันพิสูจน์ให้เห็นว่าสมุดบันทึกนี้มีค่าต่อผู้บ่มเพาะดาบ การเสนอราคาพุ่งสูงจนเทียบเท่าอาวุธพลังจิตโบราณ แต่ท้ายที่สุด คนอื่นก็ยอมแพ้
“นายใช้360ล้านกับสมุดบันทึก?นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”หยี่เยว่หยู่คิดว่าหลินฮวงใช้เงินสิ้นเปลือง
“ฉันคิดว่าผู้จัดประมูลพูดเกินจริง อะไรคือเต๋าดาบเทวะ?ฉันคิดว่าเธอก็แค่พูดมั่วๆ กึ่งเทพที่สามารถฆ่าเทพเสมือนได้ก็ฟังดูไร้สาระแล้ว”หยี่เสิ่นที่นั่งอยู่ข้างๆกล่าวเห็นด้วยกับน้องสาวเขา“กึ่งเทพก็แค่จักรพรรดิที่มีพลังเทวะในร่างอยู่น้อยนิด ส่วนเทพเสมือนคือเทพตัวจริง เป็นตัวตนในอีกขั้น มันก็เหมือนกับการให้มดไปฆ่าช้าง นั่นไม่มีทางเป็นไปได้”
“พี่ชายเสิ่น นายคิดผิดแล้ว”หลินฮวงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม“ตราบเท่าที่ควบคุมปริมาณได้อย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่กึ่งเทพ แต่แม้กระทั่งจักรพรรดิทั่วไปยังสามารถฆ่าเทพได้”
“อาจารย์ฉันเคยบอกว่าเราจะบรรลุแก่นแท้แห่งเต๋าทันทีที่ผ่านเต๋าขั้น6 แม้แต่เทพเสมือนก็ยังไม่อาจเข้าใจมันได้ กล่าวกันว่าพลังไม่เพียงแต่จะฆ่าเทพเสมือนได้ แต่มันยังทำร้ายเทพแท้จริงได้อีกด้วย”หลินฮวงกล่าวตามคุณฟู่“สิ่งที่ผู้จัดประมูลกล่าวถึงการเป็นเซียนดาบของซ่งเทียนเต๋าคือของจริง เขาสามารถฆ่าเทพเสมือนได้จริงๆ”
“หากซ่งเทียนเต๋าผู้นี้เข้าใจแก่นแท้ดาบจริงๆ สมุดนี่ก็ควรค่าแก่การอ่าน มันไม่ถือว่าสิ้นเปลืองหากฉันสามารถศึกษาอะไรจากมันได้”
“คุณฟู่บอกกับนายอย่างนั้นจริงๆ?”หยี่เสิ่นยังไม่เชื่อ
“แล้วฉันจะแต่งเรื่องไปทำไม?”หลินฮวงโต้กลับ
“คนจะเข้าใจแก่นแท้แห่งเต๋าทันทีที่ทะลวงผ่านเต๋าขั้น6...”หยี่เสิ่นลดหัวลงและบันทึกประโยคนั้นเอาไว้
“หลิน ฮวง ตอนนี้เต๋าดาบนายอยู่ขั้นไหนแล้ว?”หยี่เยว่หยู๋ที่อยู่ข้างๆอดถามขึ้นไม่ได้“ฉันจำได้ว่าปีก่อนนายอยู่ขั้น4แล้ว ปีนี้นายทะลวงผ่านอีกแล้วใช่ไหม?”
แม้แต่หยี่เสิ่นก็ยังเงยหน้าขึ้น
“อยากได้ยินเรื่องโกหกหรือความจริงละ?”หลินฮวงถามขณะยิ้ม
“อะไรคือเรื่องโกหก?ขั้น4?”หยี่เสิ่นคิดอย่างแผ่วเบาว่าหลินฮวงควรทะลวงผ่านได้แล้ว
“ขั้น5”หลินฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยิน หยี่เสิ่นก็คิดว่าหลินฮวงคงยังอยู่แค่ขั้น4 มันเป็นการดีที่จะไม่ถามเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม หยี่เยว่หยู่กลับไม่สังเกตเห็นและยืนกรานจะถามเพิ่ม“แล้วความจริงละ?”
“ความจริงคือขั้น6”หลินฮวงคิดว่าเขาไม่ต้องปิดซ่อนอะไรกับสองพี่น้อง
หยี่เสิ่นและหยี่เยว่หยู่ทำหน้าเหมือนคนโง่กับคำตอบ“นายอยู่ในขั้น6แล้วงั้นหรอ?!”
“ใช่ ฉันเพิ่งทะลวงผ่านไม่กี่วันมานี้”หลินฮวงยืนยัน
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณฟู่ถึงบอกนายเกี่ยวกับแก่นแท้แห่งเต๋า..”ในที่สุดหยี่เสิ่นก็เชื่อว่าหลินฮวงไม่ได้แต่งเรื่องแก่นแท้แห่งเต๋าขึ้นมา
“นั่นหมายความว่านายจะสามารถฆ่าเทพเสมือนได้ทันทีที่ทะลวงผ่านเต๋าดาบได้อีกขั้นงั้นหรอ?!”หยี่เยว่หยู่ถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“มันหมายความเช่นนั้น แต่ก็แค่นั้น”หลินฮวงอธิบาย“ยังไงตัวตนระดับกึ่งเทพก็ทรงพลังกว่าฉันในทุกด้าน วิสัยทัศน์ฉันอาจมองตามการเคลื่อนไหวพวกเขาไม่ทัน”
“นอกจากนี้ การจะทำความเข้าใจถึงแก่นแท้จนทะลวงผ่านเต๋าดาบขั้น6ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน”
“งั้น สมุดบันทึกนี้ก็เหมาะกับนายมาก มันอาจช่วยให้นายทะลวงผ่านได้หากพบอะไรในนั้น”หยี่เสิ่นแสดงท่าทีสนับสนุนต่างจากตอนแรก
“ดูเหมือนว่านายต้องใช้สมุดบันทึกนี้ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่ นายตัดสินใจถูกแล้วละ!”หยี่เยว่หยู่เองก็เปลี่ยนความคิด
การประมูลด้านล่างพวกเขาดำเนินอย่างต่อเนื่อง
หลินฮวงไม่สนใจ เขาจ่ายเงินก่อนการประมูลจบลงและพนักงานก็นำสมุดบันทึกมาส่งให้เขา
เขาเริ่มอ่านมันทันทีที่สัมผัส หยี่เสิ่นและหยี่เยว่หยู่ก็ยื่นคอมาอ่านด้วยแต่ก็ต้องยอมแพ้
“มันเป็นแค่สมุดบันทึกชีวิตประจำวัน”หยี่เยว่หยู่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“มันยังไม่แน่ กึ่งเทพคนนั้นอาจซ่อนความลับอะไรไว้ในสมุดบันทึกนี้ ไม่อย่างนั้น โรงประมูลคงไม่นำออกมาขายเหมือนเป็นสมบัติเทพ”หยี่เสิ่นกลับมีความอดทน“นายควรดูมันอีกครั้งและอีกครั้งเมื่อมีเวลา นายอาจค้นพบความลับในสมุดบันทึกนี้ก็ได้”
หลินฮวงจ้องสมุดในมือเขาและพลิกมันจากหน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย เขารู้สึกผิดปกติ ความรู้สึกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเต๋าดาบแต่เป็นตัวซ่งเทียนเต๋าเอง
‘ซ่งเทียนเต๋าผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นนักเดินทาง...’
เหตุผลหลักที่ทำให้หลินฮวงรู้สึกเช่นนี้คือการขีดเขียนในสมุดบันทึก มันเหมือนความรู้สึกซ้ำซ้อนที่มาจากเพื่อนออนไลน์
“ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า อากาศสดชื่นมาก โลกนี้ช่างน่าทึ่ง!”
“ฉันเห็นคนขายแพนเค้กบนถนน แพนเค้กไม่ได้ดูน่ากินเลย ฉันคงไม่ซื้อหากไม่ใช่เพราะขาเรียวยาวของเธอ แพนเค้กสุดยอดมาก!สุดท้ายฉันก็ซื้อแพนเค้กของเธอจนหมด อืม ดีจริงๆ!ขายาวอะไรปานนั้น!ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่อย่ามารบกวนฉันตอนกำลังกินแพนเค้ก!”
“ฉันพบพวกกากที่ยืนยันว่ากึ่งเทพไม่สามารถฆ่าเทพเสมือนได้ ฉัน...ไม่พบมอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนเลยหลังตามหาอยู่นาน ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่ามันเป็นไปได้!”
“วันนี้เป็นวันปีใหม่ ฉันเบื่อมาก โอ้ ฉันเห็นมังกรไม่กี่วันก่อน มันเป็นสีแดงสนิทและอ้วนจนเหมือนปลาคราฟตัวใหญ่น้ำหนักเป็นล้านตัน ตอนนี้ฉันคิดเกี่ยวกับมัน ฉันไม่ควรกินมันจริงๆ ฉันอาจโชคดีหากเก็บมันไว้
“วันนี้ฉันฆ่ามอนสเตอร์ราชาสมุทรไป!ฉันคิดว่าฉันกินอาหารมีพิษเข้าไป ฉันเหมือนขึ้นสวรรค์!มันรู้สึกเหมือนฉันมาถึงจุดสุดยอดของชีวิตแล้ว!มันงดงาม!มันน่าเกรงขาม!”
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการคิดว่าคนๆนั้นคือนักเดินทาง หลินฮวงไม่พบสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะเลย นอกจากเต๋าดาบแล้ว ซ่งอู่เฉวี่ยก็ไม่ได้กล่าวถึงการบ่มเพาะใดๆเลย
มันคือการเขียนชีวิตประจำวันเขา รวมถึงการคำราม การบ่นและการพร่ำเพ้อ
‘ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะเป็นนักชิมตอนยังมีชีวิต ของส่วนใหญ่ที่ถูกบันทึกไว้ต่างเกี่ยวข้องกับอาหาร’หลินฮวงบ่นอย่างช่วยไม่ได้ ดูจากบันทึก เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีความสุขและโชคดี ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
‘ดูเหมือนว่า360ล้านฉันจะสูญเปล่าจริงๆ...’