เทพกระบี่มรณะ - 233
เทพกระบี่มรณะ - 233
ตอนที่ 233: แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเวค
"นั่นไง มันเป็นภาพติดตาจริง ๆ ด้วย"
หลังจากที่ตะโกนออกมา ร่างเจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ ลางเลือนก่อนที่จะหายไปอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นห่างออกไปไม่เกิน 5 เมตร
ในช่วงเวลาสั้น ๆ มีเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเท่านั้นที่เห็นเจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวจนเกิดภาพติดตา ทุกคนไม่อาจเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้
เหล่าผู้คนต่างก็มองเจี้ยนเฉินอย่างตกตะลึง แต่เรื่องจากเขาเคยผ่านการต่อสู้มาหลายร้อยครั้ง เขาจึงบังคับอารมณ์ของเขาให้สงบและพยายามที่จะจู่โจมไปยังเจี้ยนเฉินอีกครั้งด้วยพลังที่เพิ่มมากกว่าเดิม ใบขวานทำเสียง "ชวิ้ง ! " ขณะที่มันเสียดสีกับอากาศขณะพุ่งไปหาเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยืนอยู่อย่างไร้อารมณ์ขณะที่รอให้ชายคนนั้นเข้ามาหาเขา กระบี่วายุโปรยไม่ได้อยู่ในมือของเขานานแล้ว แต่เขามองไปที่ชายคนนั้นและพูดเบา ๆ ว่า "เจ้าแพ้แล้ว"
ชายคนนั้นมองเจี้ยนเฉินอย่างอึ้ง ๆ หลังจากที่เจี้ยนเฉินพูด เขาไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เมื่อเขาหยุดสักครู่เขาก็ถามด้วยความมึนงงว่า "ข้าแพ้ ? ข้าแพ้ได้อย่างไร ? "
เจี้ยนเฉินยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนั้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่ยินดี "ดูที่คอของเจ้า"
คราวนี้ชายคนนั้นก็แตะไปที่คอของเขาด้วยปลายนิ้วและรู้สึกว่ามีบาดแผลที่คอของเขา เขาไม่รู้ว่าแผลมันปรากฏขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน แต่เขารู้ว่ามันไม่เคยมีแผลมาก่อน รอยแผลที่เกิดขึ้นบนเยื่อผิวบาง ๆ ชั้นนอกสุด มันไม่มีแม้กระทั่งเลือดไหลหรือความเจ็บปวดใด ๆ
เมื่อตระหนักได้ว่าแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงรับรู้ว่ามีแผลที่คอของเขา ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงและเหงื่อก็เริ่มปรากฏเต็มหน้าผาก "ไม่...เจ้าเป็นคนนำทำเช่นนั้นหรือ ? " เขาถามด้วยความแปลกใจ ชายคนนั้นไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเกิดแผลได้จนกระทั่งเขารู้ว่าเขามีแผลแล้ว มันถูกทำและเกิดขึ้นตอนไหน เขารู้ว่าถ้าแผลนั้นลึกไปอย่างนั้น เขาคงจะลงไปกองอยู่ที่เท้าของเขาแล้ว
เจี้ยนเฉินพยักหน้าพลางหัวเราะ "เจ้ายังต้องการสู้ต่อไปอีกหรือไม่ ? "
"ต้าหู่ ยอมแพ้ไปซะ เจ้าไม่อาจต่อกรกับหัวหน้าได้ ถ้าหัวหน้าต้องการให้เจ้าตาย เจ้าจะตายทั้ง ๆ ที่เจ้ายังยืนอยู่" เต้าคังพูดออกมา ในสายตาของเขามีความชื่นชมอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กระ ี่ แต่เต้าคังก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความเชี่ยวชาญกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
"ขอรับ ! " ชายผู้นั้นเป็นอดีตสมาชิกกลุ่มทหารมังกรทองและเต้าคังก็เคยเป็นหัวหน้าของเขา คำพูดของเต้าคังย่อมเหมือนกับพระราชาที่ออกพระราชโองการมาให้เขาและแผลที่คอของเขาก็พิสูจน์ได้เพียงพอแล้วว่าถ้าเจี้ยนเฉินต้องการให้เขาตาย เขาก็จะตายทันที
เจี้ยนเฉินมองไปยังผู้คนรอบ ๆ "มีใครอีกหรือไม่ที่จะเข้ามาท้าทายข้า ? คำพูดของข้าก่อนหน้านี้ยังคงมีผล หากใครก็ตามสามารถเอาชนะข้าได้ คนนั้นจะกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารและข้าจะทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้"
ทั่วทั้งลานกลับไปสู่ความเงียบขณะที่กลุ่มคนที่พูดพล่อย ๆ ก่อนหน้านี้ได้หุบปากเรียบร้อย คนที่เพิ่งเข้าไปท้าทายเจี้ยนเฉินคือคนที่อยู่ในขอบเขตเซียนระดับสูงขั้นสุดยอด ซึ่งถึอได้ว่าเป็นแนวหน้าในบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในเมืองเวค หากคนที่อยู่ในระดับนั้นไม่อาจต่อต้านเจี้ยนเฉินได้แม้กระทั่งกระบวนท่าเดียว คนในกลุ่มส่วนใหญ่ก็ไม่อาจทำได้ดีกว่านั้น ดังนั้นทั้งกลุ่มจึงเริ่มที่จะยอมรับเจี้ยนเฉิน
เมื่อกวาดสายตามองดูรอบ ๆ อีกครั้ง เจี้ยนเฉินก็ยิ้มอย่างผู้ชนะและพูด "เนื่องจากไม่มีใครออกมาแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเจ้าทุกคนจะได้เป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีและข้าจะเป็นหัวหน้า ผู้ใดมีข้อคัดค้านหรือไม่ ? "
"ข้าไม่คัดค้าน ข้า เต้าคังให้คำสัตย์กับท่าน" เต๋าคังอดีตหัวหน้าทหารรับจ้างมังกรทองกล่าว
"ข้าก็ไม่คัดค้านเช่นกัน ข้า เซธ ข้าจะทำตามคำสั่งของหัวหน้าอย่างไม่คิดสงสัย ! " เซธอดีตหัวหน้าทหารรับจ้างคิมหันต์พูดตาม
หลังจากนั้นทหารรับจ้างที่เหลือก็เริ่มให้คำมั่นของตัวเองว่าจะเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี หากอดีตหัวหน้าของเขายอมรับแล้ว พวกเขาก็ควรจะเดินตามและพยายามเอาใจหัวหน้าคนใหม่
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็พาเซธ, เต้าคัง, ชาร์คัส, โม่เทียน, ฉิงเฟิงและทหารรับจ้างคนอื่น ๆ ไปยังสมาคมทหารรับจ้าง
ตราบใดที่พวกเขาเข้าร่วมทหารรับจ้างอัคนีอย่างเป็นทางการ พวกเขาก็สามารถบรรลุภารกิจที่จะทำให้กลุ่มทหารรับจ้างของเขาเพิ่มระดับขึ้น
หากเจี้ยนเฉินตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสร้างทหารรับจ้างอัคนีให้เป็นกลุ่มทหารรับจ้างอันดับหนึ่งในทวีป เพราะฉะนั้นเรื่องการที่จะมีอันดับสูง ๆ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่จะเป็นขั้นตอนแรกที่จะบรรลุความปรารถนาสุดท้ายของเคนดัล
กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 100 คนพร้อมกับสมาชิกที่มีชื่อเสียงทั้ง 5 คนของเมืองเวคทำให้เกิดความวุ่นวายบนถนนอย่างรวดเร็ว ผู้ดูแลแต่ละคนมองไปยังกลุ่มคนเหล่านี้อย่างตกใจและพวกเขาก็เห็นร่างของเต๋าคังและเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษอีกหลายคน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพวกเขาไม่ถือตัวและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
เต๋าคังและผู้เชี่ยวชาญพิเศษคนอื่น ๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญของเมืองเวคอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ละคนเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างที่เข้มแข็งร้อยกว่าคนซึ่งถือว่ามีอำนาจค่อนข้างมากในเมืองเวค แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นบนท้องถนนบ่อยครั้ง เนื่องจากพวกเขาได้ออกมาให้เห็นหน้าพร้อมกัน 5 คน มันเป็นอะไรที่ผิดปกติอย่างมาก เจี้ยนเฉินที่เป็นผู้นำเดินมาหน้าสุดของกลุ่ม ทุกคนก็เริ่มสงสัยว่าเขาเป็นใคร
ไม่มีใครรู้ว่าเต้าคังและคนอื่น ๆ ได้สลายกลุ่มทหารรับจ้างของพวกเขาไปแล้ว
หลังจากใช้เวลานานในการจัดการตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ ในเวลานี้เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ เดินออกจากสมาคมทหารรับจ้าง สถานะของพวกเขาก็เปลี่ยนไปแล้วจากหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างที่แตกต่างกันหลาย ๆ กลุ่มตอนนี้พวกเขาเป็นแค่หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างระดับ C
ในเวลาเดียวกันทหารรับจ้างอัคนีก็มีสมาชิกที่แข็งแกร่งกว่า 600 คน นอกจากเจี้ยนเฉินแล้วยังมีเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษถึง 7 คนและเซียนผู้เชี่ยวชาญ 6 คน แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็ถือว่ามันเป็นกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดในเมืองเวค เมื่อมาถึงจุดนี้มีเพียงเจ้าเมืองเวคเท่านั้นที่มีกลุ่มทหารอยู่ใต้คำสั่งถึง 200,000 นายเท่านั้นที่จะสามารถเทียบเคียงกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี
นอกจากนี้ข่าวใหม่ที่เซธและคนอื่น ๆ อีก 4 คนเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างที่ไม่รู้จักแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจากสมาคมทหารรับจ้าง ในเวลาสั้น ๆ ข้อมูลนี้ทำให้เมืองเวคทั้งหมดตกใจ สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับทหารรับจ้างมาก่อน ชื่อเสียงของพวกเขาได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจเรื่องที่เมืองเวคต่างตื่นตระหนกในเรื่องที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ เนื่องจากพวกเขาได้ใช้เวลานานเกินไปกว่าพวกเขาจะมีท่าทีเช่นนี้
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเจี้ยนเฉินและกลุ่มก็ได้กลับไปที่ลานบ้านตระกูลไค่ทันที
ในลานกว้างทุกคนนั่งลงขณะที่เจี้ยนเฉินเริ่มอธิบายบางอบ่าง เขาถือเข็มขัดมิติและเดินมาหาไค่เอ้อและพูดว่า "มีแกนอสูรไม่มากอยู่ด้านใน ให้แจกจ่ายกับทุกคนและหยุดทำธุระใด ๆ ในตอนนี้ ให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังและตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอเพื่อรับมือกับคลื่นสัตว์อสูร"
ไค่เอ้อหยินเข็มขัดมิติจากเจี้ยนเฉินและดำเนินการแจกจ่ายสิ่งของภายในให้กับทุกคน
เจี้ยนเฉินหยินแกนอสูรระดับ 4 ออกมาก 7 แกนและส่งไปยังเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ "ในอีกสองวันข้างหน้าพวกเจ้าไปเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง อย่างไรก็ตามพวกเจ้าต้องเพิ่มให้มากที่สุด คลื่นสัตว์อสูรต่อไปนี้จะมีสัตว์อสูรระดับ 5 ด้วย"
เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษหยิบแกนอสูรระดับ 4 ไว้คนละแกน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับคลื่นสัตว์อสูรที่มีสัตว์อสูรระดับ 5 พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างก่อนที่จะถาม "ห๊ะ? จะมีสัตว์อสูรระดับ 5 มาด้วยงั้นรึ ? "
เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง "ถูกต้อง มันจะมีสัตว์อสูรระดับ 5 ดูเหมือนว่าคลื่นอสูรพวกนี้จะไม่ง่ายต่อการป้องกันในคราวนี้"
ทุกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดขณะที่พวกเขากำลังทำความเข้าใจคำพูดของเขา บางคนต่างก็หน้าซีดเมื่อพูดถึงสัตว์อสูรระดับ 5
"หัวหน้า สัตว์อสูรระดับ 5 นั้นยากที่จะป้องกันได้ ข้ากลัวว่าในเวลานี้เมืองเวคจะมีภัยพิบัติ ข้าไม่อาจบอกได้ว่าเมืองเวคจะสามารถได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ข้าขอแนะนำให้เราออกจากเมืองทันที" ชายร่างเล็กคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสั่น ๆ ภัยคุกคามจากสัตว์อสูรระดับ 5 ทำให้เกิดผลกระทบที่น่ากลัวในใจของเขา
เมื่อได้ยินอย่างนี้เจี้ยนเฉินก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าจะกลัวอะไร ? ไม่ใช่ว่าฟ้าจะถล่มลงมาเสียหน่อย ทุกคนไม่จำเป็นจำต้องกังวลเกี่ยวกับสัตว์อสูรระดับ 5 ข้าจะหาวิธีจัดการมันด้วยตัวเอง"
เจี้ยนเฉินพูดอย่างมั่นใจ ทำให้ทุกคนมองมาที่เขาอย่างตกใจ บางคนจ้องมาที่เขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ คำพูดของเจี้ยนเฉินทำให้ทุกคนคิดว่าเจี้ยนเฉินกำลังจะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาหรือไม่ เขาก็มีวิธีที่จะจัดการสัตว์อสูรระดับ 5 ถึงแม้ว่าเขาจะอายุน้อยและยังคงมีบางคนที่ตะขิดตะขวงใจต่อความแข็งแกร่งของเขา ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายคนที่อดไม่ได้ที่จะสงสัยเขาว่า "เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาเริ่มฝึกวิชาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ? "
กลุ่มทหารรับจ้างอัคนียังคงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เซียนปฐพีนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องอยู่ในระดับที่สูงมากในทวีปเทียนหยวน หากพวกเขามีเซียนปฐพีในกลุ่มพวกเขาทุกคนต่างก็มีความคิดแบบเดียวกันว่า ถ้าในกลุ่มใดมีผู้เชี่ยวชาญอย่างนี้ พวกเขาก็จะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามให้มากนัก
แม้กระทั่งเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษก็ยังรู้สึกโล่งใจจนแสดงออกบนใบหน้าของเขา จึงไม่น่าแปลกใจที่เจี้ยนเฉินจะสามารถต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 9 คนได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ ก่อนที่จะสังหารไป 2 คนอย่างง่ายดาย นี่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเซียนปฐพี
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจท่าทีของพวกเขาขณะที่โบกมือ "ไปซะ แยกย้ายกันไปก่อน ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างระมัดระวัง เพื่อเพิ่มโอกาสที่ตัวเองจะรอดชีวิตจากการบุกรุกของคลื่นสัตว์อสูร"