เทพกระบี่มรณะ - 192
เทพกระบี่มรณะ - 192
ตอนที่ 192: พบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งอีกคน
ศพของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 20 คนนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น เลือดของเขาพวกเขาไหลจนเป็นสายโลหิต ผู้คนรอบ ๆ ต่างเบิกตากว้างเมื่อมองไปยังกองเนื้อกระจัดการะจาย และเจียนเฉินที่ตัวอาบเต็มไปด้วยเลือดอย่างอึ้ง ๆ ไม่มีใครคิดว่าจะเจอกับการต่อสู้แบบนี้
คนมากมายที่มาสังเกตต่างก็เป็นผู้คนทั่วไป แต่พวกเขาสามารถบอกได้อย่างง่าย ๆ ว่าศพทั้ง 20 ศพนี้เคยเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษมาก่อน เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 20 คนจากเมืองฟินิกซ์ได้มารวมตัวกัน มันก็น่าเหลือเชื่ออย่างมาก แต่ไม่มีใครคิดว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษจำนวนมากขนาดนี้ต้องมาตายพร้อมกันภายใต้น้ำมือของบุรุษหนุ่มอายุไม่ถึง 25 ปี
ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้ด้วยตาของตนเอง พวกเขาก็ไม่อาจจะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่แม้ว่าจะได้เห็นถึงสิ่งเหล่านี้ พวกเขาหลายคนก็ยังไม่อาจเชื่อและคิดว่ามันเป็นภาพลวงตามากกว่าความจริง ฉากตรงหน้านี้ล้วนยากที่จะเชื่อ
สายตาของเจี้ยนเฉินค่อย ๆ มองไปยังศพทั้ง 20 คนตรงหน้าพร้อมกับหายใจหอบ หลังจากผ่านการต่อสู้มากมายในเวลาสั้น ๆ แบบนี้ พลังเซียนของเขาก็หายไปอย่างมากและทำให้เขารู้สึกเหนื่อย
เจี้ยนเฉินรู้ว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปมันไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด สัตว์อสูรระดับ 5 ได้ดึงดูดผู้คนมากมายของเมืองฟินิกซ์มาและมันทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา แม้ว่าจะมีบางคนที่ดูแข็งแกร่ง แต่เจี้ยนเฉินก็ยิ่งกลัวว่ากลุ่มทหารรับจ้างและพวกพเนจรที่แข็งแกร่งได้หมายหัวเขาไว้จากเงามืด อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมสู้อีกต่อไป นอกจากนั้น แกนอสูรระดับ 5 และทักษะการต่อสู้เป็นสิ่งที่เย้ายวน มันมีโอกาสที่ดึงดูดผู้คนเพิ่มเข้าไปอีก
ตอนนี้เขาก็ได้ทดสอบพลังเสร็จแล้วและสังหารเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษไปอีกหลายคนด้วยจิตวิญญาณกระบี่ของเขา จิตวิญญาณกระบี่ของของเขาได้มีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในปัจจุบัน ตอนนี้เมืองฟินิกซ์นั้นอันตรายยิ่งกว่านอกเมืองเสียอีก
จากนั้นสายตาของเจียนเฉินก็หยุดลงที่เข็มขัดมิติของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษอย่างไม่ได้ตั้งใจและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย เขาใช้กระบี่วายุโปรยบินไปฉกเข็มขัดมิติจากศพเหล่านั้นมาทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากกว่าก็คือในขณะที่เขาได้รับเข็มขัดมิติมานั้น เขาก็ได้แหวนมิติมาอีก 3 วง
มันไม่ได้พูดเกินจริงที่จะบอกว่าแหวนมิติมีค่าและมีประโยชน์มากกว่าเข็มขัดมิติ แหวนมิติในทวีปเทียนหยวนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงสถานะและความแข็งแกร่ง ซึ่งแตกต่างจากเข็มขัดมิติ ไม่ว่าเข็มขัดมิติจะหรูหรามากแค่ไหน มันก็ยังเป็นแค่เข็มขัดที่มีคุณภาพต่ำและมีความอ่อนด้อยกว่าแหวนมิติ
หลังจากรวบรวมเข็มขัดมิติทั้ง 20 เส้นและแหวนมิติอีก 3 วงแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่อยากจะเสียเวลากับคนที่เหลือซึ่งยังคงเฝ้าดูเขาและออกจากบริเวณนี้ทันที
เมื่อเห็นเจียนเฉินเดินเข้ามาหาพวกเขา เหล่าคนที่สังเกตการณ์ก็ได้สติจากความมึนงงทันทีและตะเกียกตะกายเปิดทางให้กับเจี้ยนเฉิน
กระบี่วายุโปรยในมือของเจี้ยนเฉินยังคงมีเลือดไหลอาบหยดลงมา ขณะที่เขาเดินฝ่าฝูงชน การปรากฏตัวของเขานั้นทำให้ผู้คนหวาดกลัวและทำให้พวกเขาอยากจะหนีไปให้ไกลที่สุด แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม แต่ก็ไม่มีใครกล้าประมาทเขา
เจี้ยนเฉินได้เดินเข้ามายังม้าอสูรระดับ 1 ที่อยู่ใกล้ ๆ และหยุดลง เขาหยิบเหรียญม่วงออกมา 3 เหรียญและมอบให้กับเจ้าของก่อนที่จะพูดว่า "ขายม้าอส รนั่นให้ข้า ! "โดยไม่รอแม้กระทั่งคำตอบ เขากระโดดขึ้นไปบนม้าอสูรและดึงสายบังเหียนก่อนที่จะมุ่งไปทางประตูเมือง
เจ้าของม้าอสูรพาหนะระดับ 1 นั้นเป็นเพียงแค่เซียนระดับสูงเท่านั้น และเขาก็ได้เห็นเจี้ยนเฉินฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 20 คน ดังนั้นแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะพูดกับเขาห้วน ๆ เขาก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้อะไร
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่จ่ายเงินค่าม้าอสูรระดับ 1 ให้เขา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะปริปากพูดออกมา
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนหลังม้า เขาเดินไปตามทางด้วยความเร็วจนมาถึงหน้าประตูเมือง
เจี้ยนเฉินโชคดีที่ไม่ได้เจออุปสรรคระหว่างทาง แม้ว่าจะมีกลุ่มที่ทรงพลังในเมืองฟินิกซ์ แต่มันก็มีแค่กลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งเพียงกลุ่มเดียว หากต้องการสิ่งที่เจี้ยนเฉินครอบครอง แม้ว่าแกนอสูรระดับ 5 และทักษะการต่อสู้เป็นสมบัติล้ำค่าเกินกว่าจะถูกมองข้าม อย่างไรก็ตาม หลังจากตระหนักได้ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 30 คนได้พบกับความตายภายใต้น้ำมือของบุคคลเช่นเขา พวกเขารู้สึกว่าราวกับโดนน้ำเย็นราดหัว พวกเขาจึงยกเลิกแผนการที่จะต่อสู้ของพวกเขาทันที
หนึ่งในทหารยามที่อยู่บนกำแพงเมืองเห็นร่างที่อาบไปด้วยเลือดกำลังนั่งอยู่บนสัตว์อสูรระดับ 1 จากนั้นเขาก็ร้องเรียกสหายที่เป็นทหารยามทันที ประตูเมืองเริ่มส่งเสียงดังเพื่อเปิดทางให้เจี้ยนเฉินออกไป เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งจากเจ้าเมืองให้ทำอย่างนั้น
ภายในใจกลางเมือง เจ้าเมืองฟินิกซ์หวังว่าเจี้ยนเฉินจะออกจากเมืองไปอย่างสันติ ถ้าเจี้ยนเฉินยังคงอยู่ที่นี่ ในท้ายที่สุด เขาก็จะกลายเป็นจุดสนใจและดึงดูดกลุ่มที่มีอำนาจจำนวนมากเข้ามา เจ้าเมืองหวังว่าจะไม่ถูกคนเหล่านั้นรุกราน
เมื่อเห็นประตูเมืองเปิด เจี้ยนเฉินก็ยังคงเดินต่อด้วยความเร็วปกติ ก่อนที่จะวิ่งผ่านประตูเมืองท่ามกลางความตกใจของคนในเมือง
ทันทีที่เขาพ้นจากประตูเมืองออกไป เจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก สำหรับเขาแล้ว นอกเมืองนั้นปลอดภัยมากกว่า ในขณะนี้เขาไม่ต้องการเจอภัยคุกคามที่ไม่สิ้นสุด หากไม่นับเหล่ากลุ่มผู้มีอำนาจในเมืองฟินิกซ์ ใครจะรู้ว่านอกเมืองจะมีผู้มีอำนาจมากแค่ไหน? ไม่ว่าจะเป็นเซียนปฐพีระดับสูงที่ซ่อนอยู่ หลังจากที่เขาได้สังหารเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเหล่านั้น ผู้มีอำนาจเหล่านั้นจะไม่ยอมรามือแต่เพียงเท่านี้ การที่อยู่ในเมืองฟีนิกซ์นั้นก็หมายถึงการเผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้น
"ฮิฮิ ท่านวู่หยุนมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งและท่านก็แข็งแกร่งตั้งแต่เด็ก นี่เป็นเพราะพลังของทักษะการต่อสู้"แม้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่เจี้ยนเฉินก็ได้ยินเสียงของคนชราเหมือนกับว่าเขามาพูดอยู่ใกล้ ๆ
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของเจียนเฉินก็ซีดเซียวขณะที่เขากลับไปมองด้านหลัง มีร่าง ๆ หนึ่งกำลังบินเข้ามาหาเข้าอย่างรวดเร็วห่างออกไป 5 กิโลเมตร ความเร็วที่เขาใช้มันเร็วกว่าเจียนเฉินอย่างมาก
"บัดซบ!"ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็ซีดลง เมื่อเขาตัดสินจากความเร็วที่ชายคนนั้นใช้ ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษมาก