เทพกระบี่มรณะ - 120
เทพกระบี่มรณะ - 120
Chapter 120: น่าตกใจกับการมาถึงของราชาพยัคฆ์
เจี้ยนเฉินไม่มีความคิดที่จะปะทะกระบี่กับหัวหน้าทหารรับจ้างโจว เขาหลบกระบี่ยักษ์ของหัวหน้าอย่างหวุดหวิด กระบี่ของเจี้ยนเฉินผลุบหายไปและกลายเป็นแสงสีเงินอีกครั้งเมื่อเจี้ยนเฉินแทงไปยังหัวหน้า
แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินจะไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญ แต่เป็นเพราะพลังเซียนของเขายังคงด้อยกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นหากกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินปะทะกับกระบี่ของหัวหน้าทหารรับจ้างโจวแล้ว เจี้ยนเฉินจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที การใช้อาวุธปะทะกันจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด
ข้อได้เปรียบของเจี้ยนเฉินคือการฟันกระบี่ที่รวดเร็วซึ่งจะช่วยให้เขาเอาชนะใครก็ตามที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาโดยที่พวกเขาไม่อาจทำอะไรโต้ตอบกลับมาได้ แม้ว่าคนที่มีระดับความแข็งแกร่งสูงกว่าเขา พวกเขาก็ยังเห็นเพียงแค่ภาพเงาจาง ๆ ของใบกระบี่ ด้วยวิชาตัวเบาของเจี้ยนเฉิน เขาสามารถสู้กับใครก็ได้ที่อยู่สูงกว่าเขาหากว่าพวกเขาไม่ได้เป็นธาตุลม
ต่อให้มีพลังเซียนแข็งแกร่งมากกว่าเขา เว้นแต่ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่เสี่ยงและปิดท้ายด้วยการโจมตีไปที่จุดอ่อนของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินมีความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อในการโจมตีเข้าที่คอของเขา ใบหน้าของหัวหน้าก็ยิ่งจริงจังมากขึ้นพร้อมกับโคจรพลังเซียนของเขาที่อยู่ในร่างอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ร่างกายของเขากำลังอยู่ในสภาวะที่สูงที่สุด ร่างกายของชายคนนั้นก็กระโดดถอยหลังออกไปด้านข้างและหลบกระบี่ของเจี้ยนเฉินได้อย่างหวุดหวิด
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่หัวหน้ากลุ่มที่มีความแข็งแกร่งของเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด เพียงแค่โคจรพลังเซียนก็ทำให้เขาสามารถกระโดดหลบออกไปได้อย่างง่าย ๆ ในเวลาเดียวกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็ทำได้เพียงแค่สร้างบาดแผลที่ไหล่ของเขาเท่านั้น
ด้วยการสะบัดข้อมือ กระบี่วายุโปรยก็เคลื่อนไหวราวกับงูฉก ภายใต้ทักษะของเจี้ยนเฉิน กระบี่วายุโปรยก็ฟันไปยังคนที่อยู่ใกล้ ๆ ที่พึ่งจะหลบกระบี่ของเขาเมื่อกี้นี้
ใบหน้าของหัวหน้าไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าเขาจะรู้สึกได้ว่าพลังของเจี้ยนเฉินนั้นพอ ๆ กับเขา แต่ความเร็วกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเกินกว่าที่เขาจะต่อกรได้ เขาสามารถหลบกระบี่ได้อย่างหวุดหวิดและกระบี่ของเจี้ยนเฉินก็ยังแทงมาที่ลำคอของเขาอย่างต่อเนื่อง หากว่าเขาเกิดผิดพลาดไปเล็กน้อย ก็มีโอกาสที่เขาจะตายสูงมาก
หัวหน้ายกกระบี่ยักษ์ของเขาขึ้นมาเพื่อป้องกันกระบี่ที่พุ่งเข้ามายังลำคอของเขา ทันทีที่เจี้ยนเฉินยกกระบี่ยักษ์แทงมาที่คอของเขา แม้ว่ากระบี่วายุโปรยจะไม่อาจฝ่าการป้องกันของเขาได้แต่ปราณกระบี่ที่อยู่รอบ ๆ ตัวกระบี่นั้นก็ทำให้หัวหน้าหวาดกลัวอย่างมาก เขาแอบคิดกับตัวเองอย่างลับ ๆ ว่า "ช่างเป็นปราณกระบี่ที่น่ากลัวยิ่งนัก ! เด็กคนนี้ฝึกมาแบบใด หรือว่าเขามีทักษะการต่อสู้ใช่หรือไม่?" แค่คิดว่ามันเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ วิญญาณของเขาก็แทบจะหลุดลอยออกมาอย่างไม่ตั้งใจและไม่อาจช่วยอะไรได้ เขาคิดว่าเขายังสามารถต่อกรกับทักษะการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินได้ เนื่องจากทักษะการต่อสู้นั้นมีค่ามากในทวีปเทียนหยวนและมันช่วยให้ผู้คนพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกชั้นสูงในกลุ่มทหารรับจ้างโจวในเมืองเวค แต่เขาก็ยังไม่มีทักษะการต่อสู้และไม่ได้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องเหล่านี้ มันก็เกิดเรื่องที่ร้ายแรงขึ้นกับเขา เขาเห็นแสงสีเงินส่องประกายเจิดจ้าเข้าตาของเขา เขาจึงได้ตระหนักว่าการโจมตีครั้งนี้เร็วกว่าการโจมตี 2-3 ครั้งล่าสุด ทันใดนั้นเองกระบี่สีเงินก็ได้หลบกระบี่ยักษ์ของเขาและพุ่งเข้ามาถึงคอ มีแสงแหลมเล็ก ๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนแม้ว่ามันจะส่องประกายเจิดจ้า
หัวหน้ารู้สึกหวาดกลัวเกินกว่าจะเชื่อ ในช่วงเวลาที่เขากำลังขยับยกเท้าหลบและใช้ปราณกระบี่ป้องกัน แต่กระบี่ได้เข้ามาถึงในชั่วพริบตา แม้ว่าหัวหน้าจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะหลบมันได้
ขณะที่กระบี่วายุโปรยกำลังจะแทงเข้ามาที่คอของหัวหน้า มีเสียงแหลมผ่านข้างหูเข้าปะทะกับกระบี่วายุโปรยจนเบี่ยงวิถีมันออกไปด้านข้างอย่างกะทันหัน ทำให้พลาดคอของหัวหน้าไป
สิ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันนั้นเป็นกระบี่ของเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกคนจากกลุ่มทหารรับจ้างโจว
แม้ว่าหลังจากที่กระบี่วายุโปรยจะพลาดลำคอไปแล้วแต่ชายผู้นั้นก็หาได้หยุดอยู่แค่นั้นไม่ เขาโจมตีเจี้ยนเฉินอย่างรุนแรงทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาว่า "คาซ่า ทำไมเจ้าถึงได้มาใจลอยตอนนี้ เจ้าอยากจะตายรึไง ? "
แม้ว่าชายคนนั้นจะตะโกนใส่เขา แต่หัวหน้าก็ไม่ได้โกรธเลย เขาจับไปที่คอของเขาด้วยใบหน้าซีด ๆ และหน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ นี่เป็นเพราะเมื่อครู่เขารู้สึกว่าคอของเขาถูกฟันจนเหลือแต่เกราะหนัง (หัวขาด) หลังจากที่เขาเผยช่องโหว่ออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของอีกฝ่าย เขาจะเหลือเพียงเกราะหนังที่เรียบง่ายบนร่างกายเป็นอย่างน้อย
ในเวลานี้เจี้ยนเฉินได้ต่อสู้พัวกันอยู่กับเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกคน ชายคนนี้มีความแข็งแกร่งอยู่ที่เซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางและอ่อนแอกว่าหัวหน้าทหารรับจ้างโจวเพียงเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่กระบี่ที่เจี้ยนเฉินได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน เขาค่อย ๆ ถูกกดดันจากเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกคนอย่างช้า ๆ
"คาซ่า ทำไมเจ้ายังคงยืนโง่งมอยู่อีก ? มาเร็วๆ ช่วยข้าจัดการกระบี่ของเจ้าเด็กนี่ มันเร็วเกินกว่าที่ข้าจะปกป้องได้ทัน ! บัดซบจริง ๆ เลย ความเร็วของเขานี่มันเร็วแค่ไหนกันเนี่ย ? " เมื่อมองไปที่หัวหน้าที่ยังคงงงงันอยู่ ทหารรับจ้างคนที่กำลังต่อสู้กับเจี้ยนเฉินก็โวยวายออกมาเสียงดังและยังคงแลกเปลี่ยนกระบวนท่าราวกับพายุฝนและยิ่งแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันมากขึ้นเท่าไรความเร็วของเจี้ยนเฉินนั้นก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้นและยิ่งยากที่จะป้องกันได้ แม้กระทั่งเกราะหนังของเขาก็เริ่มมีรอยกระบี่ของเจี้ยนเฉินที่แฉลบไปโดน ถึงแม้ว่าเกราะหนังจะมีความยืดหยุ่นอย่างมาก แต่เขาก็กลัวว่าอีกไม่นานร่างกายของเขาจะมีบาดแผลทั่วตัว
เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนของเขาที่กำลังก่นด่าอยู่ ดวงตาของหัวหน้าก็หรี่ลงพร้อมกับโคจรพลังเซียนไปที่อาวุธเขาอย่างรุนแรงมากขึ้น เขายกกระบี่ขึ้นและพุ่งไปหาเจี้ยนเฉินทันที
เมื่อกระบี่ฟันลงมา มีปราณกระบี่จำนวนมากลอยพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินพุ่งไปด้านหน้าเล็กน้อยและหลบปราณกระบี่ที่เต็มไปด้วยกระบี่เล็ก ๆ เขาหลบออกไปด้านข้าง จนมันเข้าไปชนกับต้นไม้และเกิดเสียงอึกทึก ทำให้ทุกคนได้ยินและเห็นรอยแตกขนาดใหญ่อยู่บนต้นไม้
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเข้ามาให้หู ขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญทั้งสองเตรียมพร้อมที่จะโจมตีอีกครั้ง เขาโคจรพลังเซียนเข้าไปในอาวุธเซียน
ดวงตาของเจี้ยนเฉินเริ่มเย็นชาขณะที่จ้องไปยังกระบี่ทั้งสอง กระบี่วายุโปรยเริ่มปลดปล่อยปราณกระบี่ที่หนาแน่นขึ้นซึ่งดูเหมือนว่ามันจะปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและเชื่อมต่อกับกระบี่ทั้งสอง
"เคร้ง เคร้ง เคร้ง…"
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นในป่า ในเวลานั้นเจี้ยนเฉินได้ฟาดฟันกระบี่ไปแล้วกว่า 18 กระบวนท่าพร้อมกับโจมตีไปที่กระบี่ของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ
การโจมตีแต่ละกระบวนท่าโจมตีไปยังกระบี่ยักษ์อย่างรุนแรงทำให้ใบกระบี่ของมันสั่นสะท้านทุกคนที่โจมตีโดด เมื่อโจมตีไปครบ 18 ครั้ง พลังเซียนก็ถูกส่งเข้าไปในกระบี่อีกครั้ง คราวนี้มันมากเกินว่าที่ทหารรับจ้างโจวจะรับมือได้ แขนขวาของทหารรับจ้างทั้งสองต่างก็ชาหนึบโดยเฉพาะง่ามระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง
เมื่อรู้สึกได้ถึงอาการชาหนึบที่แขน ทหารรับจ้างทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างตกใจ ในตอนนี้พวกเขาต้องการแอบหนีอย่างลับ ๆ ออกไป แม้ว่าเขาจะรู้ว่าพลังของเจี้ยนเฉินไม่อาจเทียบได้กับเขา แต่อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นมากกว่าพวกเขาทั้งคู่ ความแข็งแกร่งของเขานั้นยากที่จะป้องกันและจากความเร็วที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า พวกเขาต้องใช้พลังสมาธิอย่างมากหรือไม่อย่างนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องข้ามแม่น้ำเหลือง หากพวกเขาไม่ระวังพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
"หัวหน้าคาซ่า พวกเราได้ลูกสัตว์มาแล้ว"
เซียนผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนหันไปยังต้นเสียงและเห็นทหารรับจ้างถืออาวุธพร้อมกับลูกสัตว์ที่กำลังดิ้นรนอยู่ในมือของเขา มันโบกกรงเล็บอย่างหนัก ในขณะที่มันก็ทำให้เกิดภาพน่ารัก ๆ ปนสงสาร
เมื่อเห็นอย่างนี้ทหารรับจ้างทั้งสองต่างก็มีรอยยิ้มอย่างเปรมปรีบนใบหน้าของพวกเขา แต่ในเวลาเดียวกับกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็พุ่งเข้ามายังลำคอของหัวหน้าอีกครั้ง คราวนี้คาซ่าไม่ทันระวังและไม่อาจหลบหลีกได้ทันท่วงทีและเซียนผู้เช ่ยวชาญอีกคนก็ไม่อาจช่วยเขาได้เหมือนกับครั้งที่แล้ว กระบี่ที่ได้เพิ่มพลังจากปราณกระบี่ทะลวงผ่านเกราะหนังของคาซ่าและเจาะเข้าไปยังลำคอของเขา
"คาซ่า!"ทหารรับจ้างอีกคนก็เอื้อมมือออกมาด้วยความตกใจ แต่ในขณะที่เขาเห็นลำคอของหัวหน้าเป็นรูจนเห็นอีกด้านได้อย่างชัดเจน เขาก็คำรามออกมาพร้อมกับระเบิดพลังเซียนและโคจรมันไปที่อาวุธเซียนของเขาและฟันไปยังเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจที่จะปล่อยเขาขณะที่เขากระโดดไปข้างหน้าราวกับกระสุนของปืนใหญ่ เขาพุ่งไปยังทหารรับจ้างที่กำลังจัดการกับลูกสัตว์ที่กำลังดิ้นอยู่ในมือของเขา
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดตาย ดวงตาของทหารรับจ้างหลายคนก็ไม่อาจจะเชื่อได้ว่าผู้เชียวชาญที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะถูกสังหารได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามทหารรับจ้างคนนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาขว้างลูกสัตว์ไปยังเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกคนที่กำลังต่อสู้กับเจี้ยนเฉินทันที
"หัวหน้าครอส รับ ! "
ลูกสัตว์ลอยอยู่บนอากาสก่อนที่จะลงไปในอ้อมแขนของเซียนผู้เชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นลูกสัตว์ระดับ 5 อยู่ในมือของเขา หัวหน้าครอสก็สงบลงทันที เขามีอาการลังเลก่อนที่จะพูดว่า "ทุกคนรีบหนีออกจากที่นี่"
"โฮกกกก!"
ขณะที่ครอสพูดเสร็จ เสียงคำรามของเสือก็ปรากฏขึ้นทันที มันดังมาจากส่วนลึกของป่า เมื่อคนกว่า 20 คนได้ยิน ร่างกายของพวกเขาก็แข็งค้างเมื่อรู้ว่าเสียงคำรามที่พวกเขาได้ยินนั้นเป็นของใคร