เทพกระบี่มรณะ - 102
เทพกระบี่มรณะ - 102
บทที่ 102: หมื่นต้านพิษ (3)
ตอนนี้มีเพียงขั้นตอนเดียวที่เหลืออยู่,และเจี้ยนเฉินก็จะสามารถสร้างหมื่นต้านพิษได้ ขั้นตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้
ณ จุดนี้ เจี้ยนเฉินได้รวบรวมทุกส่วนที่สำคัญที่สุดของเลือดอสรพิษทองริ้วเงิน เขารวบรวมมันไว้ในถุงน้ำดีเพื่อสร้างสารตัวใหม่ สารตัวใหม่คือสิ่งที่จะต่อต้านพิษและเลือดของอสรพิษทองริ้วเงินรวมกัน
ตามเนื้อหาของหนังสือ เจี้ยนเฉินจำเป็นต้องดูดซับสารต้านพิษและเลือดเข้าสู่ร่างกายของเขาเอง และเมื่อเขาได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์แล้วเขาก็จะได้รับหมื่นต้านพิษ
ตราบใดที่สารถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว เลือดของเจี้ยนเฉินก็จะทำหน้าที่ล้างพิษ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเลือดหมุนเวียนไปทั่วร่างกาย หลังจากเวลาผ่านไป ร่างกายจะทนต่อพิษและเพิ่มความต้านทานพิษที่อ่อนกว่าโดยไม่ต้องกลัวอันตราย
เจี้ยนเฉินลุกขึ้นยืนอย่างเคร่งเครียด นี่เป็นขั้นตอนสุดท้าย เช่นเดียวกันมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะสารต้านพิษจะรวมอยู่ในร่างกายของเขาหากถุงน้ำดีของอสรพิษยังปรากฏอยู่ หากไม่มีถุงน้ำดีแล้ว สารจะกระจายไปอย่างไร้ประโยชน์ ก่อนที่เขาจะสามารถย่อยถุงน้ำดีของอสรพิษ เขาจะต้องดูดซึมสารต้านพิษในกระแสเลือดของเขา
เจี้ยนเฉินสงบลงและเริ่มควบคุมสารรอบตัวเขา อย่างไรก็ตามเมื่อสารออกจากถุงน้ำดีจึงมีสิ่งดึงดูดแปลกใหม่เกิดขึ้นและเริ่มดึงสารที่เจี้ยนเฉินพยายามควบคุม
เจี้ยนเฉินกัดริมฝีปากของตัวเองขณะที่เขาพยายามพุ่งสมาธิไปกับการควบคุม แม้ว่าเจี้ยนเฉินยังอ่อนแออยู่ แต่จิตวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้การควบคุมที่เพิ่มขึ้น ในที่สุดสารตัวใหม่ก็ออกจากถุงน้ำดีและหลอมรวมเข้าสู่กระแสเลือดของเขา
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาดูดซึมกระแสเลือด สารตัวใหม่ก็แยกตัวออกจากเลือดได้อย่างสมบูรณ์เหมือนกับขั้วสองขั้วที่ตรงกันข้ามกันของแม่เหล็ก ทั้งสองดูเหมือนขัดแย้งกันและไม่มีทางที่จะผสมรวมกัน เจี้ยนเฉินก็ยังคงไม่ท้อแท้ เขาเน้นความแข็งแกร่งของเขาอีกครั้งในการควบคุมสารตัวใหม่เพื่อรวมเข้ากับกระแสเลือด จากนั้นเขาก็ดูจากด้านข้าง ถ้าสารตัวใหม่แสดงให้เห็นว่ามีการแยกตัวออกมาอีกเล็กน้อย เขาก็จะพุ่งความสนใจไปที่มันแล้วบีบให้มันกลับเข้าสู่กระแสเลือด
เมื่อเลือดไหลไปตามเส้นเลือด สารซึ่งเจี้ยนเฉินดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดของเขาก็ถูกดูดกลืนอย่างสมบูรณ์ในที่สุด น่าแปลกที่ส่วนหนึ่งของสารมีสีเขียวรวมกับสีของมัน แต่ในที่สุดก็ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและหายไป
เมื่อพลังงานจากสารถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเลือดของเขานั้นอ่อนแอลงราวกับว่ามีสิ่งอื่นเกิดขึ้น
หลังจากพลังงานส่วนหนึ่งจากสารถูกหลอมรวม เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ถุงน้ำดีที่เขาย่อยสลายไปได้หดตัวลงเล็กน้อย
เจี้ยนเฉินรู้ว่าถุงน้ำดีไม่สามารถอยู่รอดในร่างกายของเขาได้นาน ดังนั้นโดยไม่ลังเล เจี้ยนเฉินได้แยกชิ้นส่วนของสารออกจากร่างกายและเริ่มพยายามที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดของเขาอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินได้ลองนับครั้งไม่ถ้วน ในท้ายที่สุด สารสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมเข้าสู่กระแสเลือดของเขาในขณะเดียวกันถุงน้ำดีก็กำลังจะหายไป
เมื่อเจี้ยนเฉินรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนในกระแสเลือด เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก หัวใจของเขาเริ่มตื่นเต้นขึ้น รอยยิ้มที่สดใสส่องมาที่ใบหน้าของเขา
"หมื่นต้านพิษ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะมีร่างกายที่ทนทานต่อพิษ ! " เจี้ยนเฉินพูดกับตัวเอง จากประสบการณ์ 20 ปีที่ผ่านมา,เขารู้ว่าโลกใหม่ที่เขาอยู่นั้นอันตรายยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นหมื่นต้านพิษจะนำประโยชน์มากมายมาให้เขา อย่างน้อยที่สุดถ้าเขาจะถูกศัตรูจับตัวไป เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าอาหารจะมีพิษ
อย่างไรก็ตามในขณะที่เจี้ยนเฉินประสบความสำเร็จในการสร้างหมื่นต้านพิษ มันก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและไม่ใช่ช่วงที่สมบูรณ์เต็มร้อย ในขณะที่เลือดของเขาหลอมรวมกับสารต้านพิษจากเลือดของอสรพิษทองริ้วเงิน การผสมนี้ยังไม่สมบูรณ์และจะต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่มันจะถึงความสมบูรณ์แบบ
เมื่อเลือดและสารต่อต้านพิษของเขาถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว มันก็จะไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขาอย่างไม่สิ้นสุดและเปลี่ยนกระดูก เนื้อและอวัยวะภายในร่างกายของเขา ทุกส่วนของร่างกายจะมีความสามารถในการต่อต้านพิษ นี่จะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ของหมื่นต้านพิษ
เจี้ยนเฉินลืมตามองแสงตะวันแรกบนขอบฟ้า ดวงอาทิตย์ที่ลุกเป็นไฟกำลังโผล่ออกมา ซึ่งหมายความว่าเช้าวันใหม่เพิ่งเริ่มขึ้น
เจี้ยนเฉินกระโจนออกจากถังที่เต็มไปด้วยเลือด เขาหยิบผ้าเช็ดตัวออกจากเข็มขัดมิติเพื่อทำความสะอาดเลือดก่อนที่จะสวมใส่ชุดใหม่
ช่วงเวลาที่เจียนเฉินใช้ในถังเลือดทำให้เลือดในนั้นลดลงไปเหลือเพียงหนึ่งส่วนสี่ แม้แต่กลิ่นเลือดฉุนก่อนหน้านี้ก็จางหายไปและสีของเลือดก็เริ่มเข้มขึ้นเล็กน้อย
เจี้ยนเฉินมองไปที่ถังที่อยู่ข้าง ๆ เขาเตะไปที่ภาชนะบรรจุอย่างแน่นหนา ถังพลิกคว่ำและแตกบนพื้นแข็งทำให้เลือดไหลไปบนพื้น
ในขณะที่เลือดของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นมีค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาก็ได้ดูดซับส่วนที่สำคัญที่สุดไปแล้ว เลือดส่วนที่เหลือนั้นสามารถกล่าวได้ว่ามันกลายเป็นเหมือนน้ำธรรมดาและมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อีกต่อไป
หลังจากกลับมาที่เมืองเวคอีกครั้ง เจี้ยนเฉินได้เข้าไปในโรงเตี๊ยมและสั่งอาหารสองสามจานเพื่อดับความหิว หลังจากไม่ได้กินอาหารมาทั้งวันทั้งคืน ท้องของเจียนเฉินก็หิวโหยมาก
ตอนนี้เป็นเวลาที่ยุ่งที่สุดสำหรับโรงเตี๊ยม สภาพแวดล้อมภายในนั้นมีชีวิตชีวามาก ผู้คนที่มาและไปก็เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันจบสิ้นและโต๊ะอาหารก็ถูกเติมเต็มในพริบตา แม้แต่พนักงานในโรงเตี๊ยมก็ยังวิ่งวนไปมาเพื่อบริการลูกค้าและเสิร์ฟอาหาร
"น้องชาย ที่นั่งข้างนอกเต็มหมดแล้ว ข้าขอนั่งที่นี่กับเจ้าจะได้หรือไม่ ? "