ตอนที่แล้วบทที่ 74 เห็นชัดๆ ว่าอยากกัดฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 76 การใช้ความสามารถที่ถูกต้อง

บทที่ 75 ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น


บทที่ 75 ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

 

ดีที่ซย่าน่าและเย่เลี่ยนเมาเร็ว สร่างเมาก็เร็ว แต่ตอนที่พวกเธอปล่อยเขา หลิงม่อก็รู้สึกเหนื่อยจนร่างแทบพัง การรักษาชีวิตนี่ไม่ง่ายเลย...

 

เขาหอบแฮ่กๆ พร้อมกับหันไปบอกซย่าน่าอย่างเฉียบขาดว่า “ต่อไปไม่อนุญาตให้พวกเธอแตะเหล้าแล้ว!”

 

ดวงตาทั้งคู่ที่แดงเรื่อของซย่าน่ากลับมาเป็นสีปกติแล้ว แต่คงเพราะเป็นซอมบี้ แม้จะอยู่ในแสงไฟที่มืดสลัวก็ยังทำให้ดวงตาของเธอสุกใสเป็นพิเศษ

 

และเย่เลี่ยนก็เป็นเช่นนั้น เธอมีวิวัฒนาการทางกายเนื้อที่สูงกว่าซย่าน่า และเธอก็ได้สติก่อนซย่าน่าด้วย ถ้าหากไม่ได้เย่เลี่ยนช่วย หลิงม่อคงไม่มีแรงต้านทานซย่าน่าไปนานแล้ว

 

ถูกสาวบังคับจูบ เดิมนั้นเป็นเรื่องดีที่ทำให้สำราญใจสุดๆ และยิ่งมาพร้อมกันสองคนในคราวเดียวด้วยแล้ว

 

แต่เมื่อฐานะที่แท้จริงของสองสาวนี้คือซอมบี้ มันก็ไม่ได้สำราญใจขนาดนั้นแล้ว โดยเฉพาะตอนที่พวกเธอไม่รู้ขอบเขต

 

หลิงม่อนึกถึงโศกนาฏกรรมตอนที่อาบน้ำอย่างอดไม่ได้ แล้วพลันเดือดดาลขึ้นมาทันที ดึงซย่าน่าเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะจูบลงไปแรงๆ “โทษฐานที่เธอคิดจะกัดฉันเมื่อกี้!”

 

“อึก…” ด้วยความสามารถของซย่าน่าเธอสามารถต่อต้านได้ทุกอย่าง แต่ใครใช้ให้คนที่ลงมือคือหลิงม่อล่ะ

 

เธอคงจะรู้สึกว่าหลิงม่อโกรธจริงก็เลยยอมให้ความร่วมมือเป็นพิเศษ

 

“เอ๋ เรียนรู้เทคนิคได้ไวมากเลยนะ” เมื่อน้ำหวานไหลเข้ามาในลำคอ ความร้อนก็พุ่งพล่านไปทั่วร่างทันที ทำให้กำลังที่หลิงม่อใช้ไปเมื่อครู่ได้รับการชดเชยมาส่วนหนึ่ง

 

หลังจากที่ปล่อยซย่าน่าแล้ว หลิงม่อก็มองเย่เลี่ยนแวบหนึ่งแล้วหัวเราะลั่น จากนั้นก็ดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดตัวเองเช่นกัน

 

แม้เย่เลี่ยนจะไม่ได้เป็นฝ่ายให้ความร่วมมือก่อนเหมือนอย่างซย่าน่า แต่เธอก็ไม่ได้มีการขัดขืนใดๆ เช่นกัน แม้หลิงม่อจะบังคับให้เย่เลี่ยนให้ความร่วมมือกับตัวเองได้ แต่ในใจหลิงม่อก็ไม่ได้อยากให้เย่เลี่ยนทำแบบนั้น

 

หลังจากที่เสริมสร้างพลังกายเต็มที่จากเย่เลี่ยนแล้ว หลิงม่อก็กอดสองสาวซอมบี้ นอนบนที่นอนอย่างอิ่มอกอิ่มใจ และเพราะว่าเตียงนี้เล็กเกินไป หนึ่งคนสองซอมบี้จึงต้องเบียดเสียดแนบชิดกัน สำหรับหลิงม่อแล้วนี่ก็ย่อมเป็นความรื่นรมย์ไปอีกแบบ

 

แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นอนเบียดกัน แต่หลิงม่อก็ยังเอ่ยอย่างจริงจัง “ฉันทำเพื่อไม่ให้พวกเธอไปทำร้ายคนอื่นกลางดึกนะ เพราะถึงยังไงที่นี่ก็ยังมีคนนอกอีกสองคน”

 

ซย่าน่ามองหลิงม่ออย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก จากนั้นก็มองเย่เลี่ยนที่นอนอยู่อีกฝั่ง สุดท้ายก็ค่อยๆ พยักหน้า

 

“ฉลาดจริงๆ” หลิงม่อเอ่ยชมแล้วขมวดคิ้ว

 

“อยู่กับผู้รอดชีวิตมันน่าหงุดหงิดจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงได้เล่นกับพวกเธอแล้วล่ะ...” ได้ยินเสียงถอนหายใจของหลิงม่อ ซย่าน่าเหมือนรู้สึกว่าท่านี้ไม่ค่อยสบาย เธอจึงบิดตัว “เล่นอะไร?”

 

“เล่นเกม”

 

“เกมอะไร?”

 

“เล่นแล้วถึงจะรู้น่ะ”

 

“แล้วจะเล่นตอนนี้เหรอ?” ดวงตาทั้งคู่ของซย่าน่าแวบประกายคาดหวัง แล้วเสริมขึ้นเป็นพิเศษ “พี่เลี่ยนก็ต้องอยากเล่นด้วยแน่”

 

หลิงม่อรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างท่วมท้นขึ้นมา “ไม่ได้ ที่นี่มีคนนอกอยู่ด้วย...เอาล่ะ นอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปมหาวิทยาลัยเมือง X อีก ไม่รู้ว่าพอเข้าไปในมหาวิทยาลัยแล้ว เย่เลี่ยนจะจำอะไรได้บ้างรึเปล่า?”

 

แม้ความเป็นไปได้นี้จะต่ำมาก แต่ก็ต้องบอกว่าก้นบึ้งหัวใจของหลิงม่อยังมีความตั้งใจนี้อยู่รางๆ

 

เมื่อได้ยินเสียงเอะอะกันอยู่พักหนึ่งของพวกหลิงม่อเงียบลงในที่สุด หลินล่วนชิวที่นอนอยู่บนเตียงเดี่ยวก็อดยิ้มขมขื่นไม่ได้ เธอเอามือลูบแก้มของตัวเองแล้วถอนใจ “ยังดีที่เขาไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ ลงไปจริงๆ...”

 

คำ่คืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว สื่อปินที่เบิกตาอยู่ในห้องส่วนตัวทั้งคืนเคาะประตูห้องครัวแต่เช้าตรู่ “ตื่นได้แล้ว! ฟ้าสว่างแล้ว!”

 

เขาไม่ได้ผลีผลามเปิดประตูเข้ามา เพราะกังวลว่าพอตัวเองเปิดประตูเข้ามาแล้ว จะเห็นเรื่องที่ไม่อาจมองตรงๆ ได้ยิ่งกว่าเมื่อคืน

 

แต่เขาไม่คิดว่าเพิ่งจะสิ้นเสียง ประตูก็ถูกดึงเปิดดังเอี๊ยด สิ่งที่ปรากฎอยู่หลังประตู คือใบหน้าเย็นชา สายตาเย็นยะเยือกของเย่เลี่ยน

 

แม้ใบหน้ารูปไข่ของเย่เลี่ยนจะสวยมาก โดยเฉพาะผิวขาวใสและผมยาวที่พองนิดๆ ทำให้ไม่อาจละสายตาได้ แต่ครั้งแรกที่สื่อปินเห็นเย่เลี่ยนนั้นกลับหนาวสะท้านอย่างอดไม่ได้ หางตาก็กระตุกขึ้นมาทันที

 

เย่เลี่ยนก็ไม่ปล่อยให้เขาทรมานน้อยลง กระทั่งหลังจากนั้นตอนที่จับมือเขาไพล่หลังก็ไม่ได้คลายแรงลงเลยสักนิด ตอนนั้นเขายังรู้สึกถึงขั้นว่าแขนสองข้างของตัวเองจะถูกบิดหักแล้ว

 

ได้พักผ่อนมาคืนหนึ่ง อาการบาดเจ็บบนแต่ละแห่งบนร่างกายก็ไม่หนักหนาแล้ว แต่เงามืดในใจกลับไม่มีทางเยียวยาได้ในเวลาสั้นๆ

 

ดังนั้นพอเห็นเย่เลี่ยนจ้องตัวเองไม่พูดไม่จา สื่อปินก็จำต้องหลบสายตาแล้วบอกเธอ “ฟ้าสว่างแล้ว ควรออกเดินทางได้แล้ว ช่วยเรียกหลินล่วนชิวหน่อย...ครับ”

 

เย่เลี่ยนจ้องเขาอย่างเย็นชาแล้วปิดประตูดังปัง

 

ความหงุดหงิดแวบฉายบนสีหน้าของสื่อปิน แต่เหมือนอย่างที่หลินล่วนชิวบอก เขาจะโมโหก็ส่วนโมโห แต่ก็ไม่กล้าไประเบิดอารมณ์ใส่พวกหลิงม่อจริงๆ ได้แต่อัดอั้นความโกรธไว้ในท้อง

 

ความจริงหลิงม่อไม่ได้ตั้งใจจะเพิกเฉยสื่อปิน ทว่าเขากำลังทำเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งอยู่ซึ่งก็คือ ช่วยซย่าน่าถอดเสื้อผ้า

 

เขามีนิสัยตื่นแต่ฟ้าสว่างมานานแล้ว ดังนั้นความจริงแล้วจึงไม่จำเป็นต้องให้สื่อปินมาเตือน แต่เขาเพิ่งจะช่วยเย่เลี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ สื่อปินก็วิ่งมาเคาะประตูแล้ว

 

“เสื้อรูๆ แบบนี้ถอดยากจริงๆ!”

 

ซย่าน่าเวลาตื่นนอนขยับตัวแรงเกินไป ไม่ได้สังเกตว่าชายเสื้อของตัวเองถูกแขนหลิงม่อทับอยู่ ผลคือพอมีเสียงดังแคว้ก เสื้อก็ฉีกออกเป็นแถบ

 

ยังดีที่ในกระเป๋าเป้มีเสื้อผ้าพร้อมใช้อีกสองชุด หลิงม่อช่วยเย่เลี่ยนสวมเสื้อคลุมกันหนาวเสร็จแล้ว ก็มาช่วยซย่าน่าถอดเสื้อผ้าที่ฉีกขาดเสียหาย

 

พอเห็นหลิงม่อขมวดคิ้ว ช่วยตัวเองถอดเสื้อ ซย่าเหมือนจะรู้สึกสนุกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ขยับ แต่หลิงม่อยังไม่ทันใส่ให้เสร็จก็ได้ยินเสียง ‘แค่ก’ เบาๆ จากนั้นก็เป็นเสียงไอ

 

หลินล่วนชิวยืนหน้าแดงอยู่หน้าทางเข้าโกดังสินค้า ดูท่าเธอจะอารมณ์ดีขึ้นพอควร ขณะที่มองหลิงม่อและซย่าน่าที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ครึ่งทางด้วยสีหน้าแปลกใจ...

 

“อะไรน่ะ...”

 

หลิงม่อรีบพลิกหาเสื้อผ้ามาใส่ให้ซย่าน่า พอสวมเสื้อคลุมกันหนาวให้เธอแล้วถึงได้เอ่ยขึ้นด้วยความกระดากนิดๆ “อย่าสนใจเลย ฮ่าๆๆ...”

 

ปากก็หัวเราะ แต่ในใจกลับคิดอย่างกลัดกลุ้มใจว่า คนทั่วไปเวลาเจอเรื่องแบบนี้ ก็ควรจะหันหลังจากไปเงียบๆ ไม่ใช่เหรอ? เช่นสื่อปินเมื่อวานนี้ แม้เด็กนั่นจะไม่ชอบ แต่ดีชั่วยังไงก็รู้ว่าไม่ควรมองอะไรที่ไม่ควรมองนะ!

 

แต่หลินล่วนชิวเป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดแบบนี้ กลับจ้องหลิงม่อกับซย่าน่าเขม็ง ทำให้หลิงม่อรีบร้อนจนทำอะไรไม่ถูก...นี่เธอต้องจงใจแน่ๆ!

 

“นายดีกับแฟนมากเลยนะ ช่วยเธอใส่เสื้อผ้าด้วย” หลินล่วนชิวคลี่ยิ้มบอก ถ้าหากหน้าเธอไม่หลงเหลือความแดงก่ำนั้น ไม่ว่าใครก็คงนึกว่าเมื่อครู่นี้เธอไม่เห็นอะไรเลย

 

หลิงม่อหัวเราะ แล้วหันไปหยิบขวดนมจากในกระเป๋ามาขวดหนึ่งโยนให้หลินล่วนชิว “ยังไม่หมดอายุ เติมพลังหน่อยสิ”

 

ด้วยสภาพร่างกายของหลินล่วนชิว เธอไม่มีทางรับขวดนมนี้ได้แน่ แต่ความสามารถชั่วกระสุนปืนของเธอมีประโยชน์จริงๆ เห็นว่าขวดนมตรงหน้าเธอร่วงลงไปแล้ว หลินล่วนชิวเหมือนยื่นมือออกไปอย่างไม่รีบร้อน แต่กลับรับขวดนมนั้นไว้ได้อย่างแม่นยำ ความเร็วและความช้าเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่กลับให้ความรู้สึกคล่องแคล่วมาก

 

สามารถทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงได้ ช่างน่าทึ่งจริงๆ...แต่ความสามารถพิเศษแบบนี้น่าจะมีพื้นที่ให้พัฒนา เหมือนอย่างพลังควบคุมหุ่นของเขา หากจะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น ก็ต้องหาวิธีใช้ใหม่ๆ ค่อยๆ ขุดศักยภาพของมันออกมา จึงจะเป็นวิวัฒนาการของผู้มีความสามารถพิเศษที่แท้จริง

 

“ขอบใจนะ” หลินล่วนชิวบอกอย่างซาบซึ้งใจ

 

ร่างกายเธอไม่แข็งแรง ด้านหนึ่งนั้นเป็นเพราะอาการป่วย อีกด้านหนึ่งนั้นเป็นเพราะสารอาหารไม่ถึง แม้สื่อปินจะเอาอาหารที่ดีๆ หน่อยให้เธอ แต่ของพวกนั้นจะมีสารอาหารอะไรให้พูดถึงบ้าง?

 

อย่างน้อยหลังจากที่เมื่อวานกินคุกกี้ไปทั้งห่อแล้ว เธอก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ แสดงว่าไม่ใช่แค่กินไม่ดี แต่ยังกินไม่อิ่มด้วย!

 

คิดมาถึงตรงนี้ หลิงม่อก็เห็นใจหลินล่วนชิวอยู่บ้าง เธอเป็นผู้มีความสามารถพิเศษแต่กลับต้องมีชีวิตอย่างน่าเศร้าแบบนี้...

 

แต่สภาพของเธอคงพอๆ กับผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ล่ะมั้ง ในช่วงวันโลกาวินาศสำหรับคนธรรมดาทั่วไปก็ช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายเกินไปจริงๆ แม้จะหลิงม่อเองก็เถอะ เขาก็ต้องก้าวเดินแต่ละก้าวอย่างระมัดระวัง พลาดแม้แต่นิดเดียวก็อาจจะเหมือนคราวก่อนที่เกือบถูกซอมบี้ระดับสูงตัวนั้นฆ่าที่ห้างยุคใหม่ อันตรายแบบนี้แอบซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่ง

 

“วันนี้เราจะเข้าไปทางประตูหลังเหรอ?”

 

หลิงม่อหยิบของกินออกมาจากกระเป๋าเป้เหมือนกัน กินไปถามไป

 

หลินล่วนชิวส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก ประตูหลังมีซอมบี้เยอะมาก ทางที่ดีที่สุดคือปีนกำแพงเข้าไปทางที่เราหนีออกมา”

 

“ก็ได้ ถึงยังไงเธอก็ชำนาญนาง เอาตามที่เธอว่าแล้วกัน” หลิงม่อพยักหน้าแล้วบอกอีก “ฉันขอบอกเป้าหมายของฉันก่อนว่า ฉันอยากไปในเขตที่มีซอมบี้ชุกชุมที่สุด”

 

หลินล่วนชิวประหลาดใจนิดๆ กับคำขอที่เกินคาดของหลิงม่อ แต่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่ได้เอ่ยปากซักถาม ทว่ากลับพยักหน้า “ได้ ถึงยังไงโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยก็อยู่ใกล้ๆ แถบนั้น”

 

“แล้วเธอคิดว่าที่ๆ ซอมบี้เยอะที่สุดคือตรงไหนเหรอ?” เห็นหลินล่วนชิวตรงไปตรงมาแบบนี้ หลิงม่อเลยถามต่อ

 

หลินล่วนชิวหัวเราะ “แน่ล่ะว่าต้องเป็นเขตหอพัก ฉันมั่นใจว่าแถบนั้นนั้นถือว่าเป็นที่ๆ มีซอมบี้ชุกชุมที่สุด นายวางใจเถอะ ฉันไม่หลอกนายหรอก ถึงยังไงฉันก็อยู่ข้างหน้านาย ไม่มีกำลังจะขัดขืนอยู่แล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด