TZ3 ก้อนอิฐทำลายวิทยายุทธ์ (3)
เมืองหลวงตั้งอยู่ทางเหนือของสาธารณรัฐเหยียน ในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่นั่นจะอบอุ่นมาก เมื่อตะวันตกดิน เมืองหลวงแห่งนั้นจะกลายเป็นเมืองที่งดงาม แสงสีต่างๆประดับประดาไปทั่วทุกมุมเมือง ผู้ที่ทำงานกลางคืนเริ่มเผยตัว
เวลา 3 ทุ่มครึ่ง รถไฟโดยสารขบวน T27 จะมุ่งหน้าออกจากเมือง หากหลบหนีไม่สำเร็จ ชีวิตของฉีเยว่ก็จบสิ้น
จุดมุ่งหมายของฉีเยว่คือประเทศทิเบต ที่นั่นมีสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งชื่อว่า ‘วิหารโปตาลา’
ฉีเยว่อยากซื้อตั๋วเพื่อไปลงที่นั่น แต่ไม่มีตั๋วขาย เมื่อสอบถามถึงรู้ว่าที่นั่นเป็นที่ราบสูง ไม่มีรถไฟไปถึงเพราะง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ… รถไฟขบวน T27 เป็นรถไฟนอน มีตั๋วอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือตั๋วธรรมดา อีกชนิดคือตัวชั้นเฟิร์สคลาส… ฉีเยว่ใช้เวลาครึ่งวันในการรอซื้อตั๋วธรรมดาในราคา 800 เหรียญ เงินจำนวนนี้ ฉีเยว่ได้มาจากเจ้าอ้วน
เมื่อซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ฉีเยว่ก็เร่งเดินขึ้นรถไฟ รถไฟขบวนนี้ตกแต่งด้วยโทนสีเหลือง มีพรมหนานุ่มปูตรงทางเดิน เหนือศีรษะมีแสงไฟสว่างจ้า ฉีเยว่ไม่รู้ว่ารถไฟขบวนที่ตนเองนั่งนั้นหรูหราระดับไหน เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาได้นั่งรถไฟ และเป็นครั้งแรกที่เขาจะออกนอกเมือง
เมื่อถึงเวลารถไฟออก ประตูโดยสารก็ปิดสนิท มันใช้เวลา 48 ชั่วโมงในการมุ่งหน้าไปยังทิเบต เมื่อมุ่งหน้าออกนอกเมือง ฉีเยว่เห็นผืนหิมะที่กว้างขวาง ตอนนี้ ฉีเยว่กำลังคิดว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง
ตั๋วธรรมจะจัดที่นอนสำหรับ 4 คนต่อหนึ่งห้อง แต่ละห้องมีเตียง 2 ชั้น 2 เตียง ด้วยที่ฉีเยว่กลัวว่าตัวเองจะโดนจับ จึงปีนขึ้นไปบนเตียงชั้นบนเพื่อเลือกที่ก่อน ตอนนี้ ฉีเยว่ไม่ได้อยู่ลำพัง ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่อยู่ด้วย
คนที่ขึ้นรถไฟเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนเริ่มเยอะ ฉีเยว่ก็เริ่มกังวล ไม่สามารถข่มใจอ่านนิตยสารในมือได้ต่อ จึงได้มองผู้หญิงคนหนึ่งจากบนเตียงของตน
ตอนนี้ แววตาของฉีเยว่ร้อนรุ่ม ผู้หญิงคนนั้นสวยมา อายุไม่มากเกินไป… อวัยวะเพศของฉีเยว่เริ่มแข็งตัว หากจะมองผู้หญิงต้องมองที่รูปร่าง ถึงจะมีใบหน้าที่งดงาม แต่ถ้ารูปร่างไม่ดีก็ใช้ไม่ได้ ฉะนั้น รูปร่างสำคัญกว่า
ฉีเยว่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ แววตาเร้าร้อน
ผู้หยิงคนนั้นสวยมากในสายตาของฉีเยว่ เธอสวมรองเท้าแบรนเนม ใส่กระโปรงสั้นสีขาวเผยขาเรียวงาม สวมเสื้อสีขาวเป็นชุดเดียวกับกระโปรง เธอดูอายุประมาณ 17 ปี รูปร่างดี ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้าที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง
“ให้ตาย… สวยอย่างกับนางฟ้า ถ้าได้เป็นภรรยา ต่อให้มีชีวิตสั้นลง 10 ปีก็ยอม” ฉีเยว่คิดมองผู้หญิงคนนั้นไม่วางตา เธอคนนั้นกำลังเดินตรงมาทางนี้ด้วย
ยิ่งเธอเข้าใกล้ หัวใจฉีเยว่ก็ยิ่งเต้นรัว ลมหายใจถี่กระชั้น คอแห้งผาก สิ่งที่ทำให้ฉีเยว่ตื่นเต้นยิ่งขึ้นคือ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะมาคนเดียว
เมื่อผู้หยิงคนนั้นเดินมาถึงห้องที่ฉีเยว่อยู่ เธอหยุดเดินเงยหน้าสบตากับฉีเยว่ เมื่อได้สบตากับแววตาที่บริสุทธิ์ของเธอ หัวใจฉีเยว่สั่นสะท้านและเอ่ยปากพูดกับเธอ “คนสวย… คุณก็อยู่ห้องนี้เหรอ”
เธอมองฉีเยว่ด้วยแววตาสงสัย เธอยิ้มให้เล็กน้อยและพยักหน้า “สวัสดีค่ะคุณลุง ตาคุณลุงเป็นอะไรหรือเปล่า? ชั้นมียาหยอดตนะ”
คำพูดของเธอคนนั้นช่างทำให้ปวดใจ มันเหมือนกับว่าฉีเยว่ยังไม่ได้เดินประตูห้องหัวใจของเธอ เธอก็ปฏิเสธเสียแล้ว ยิ่งคำว่าลุง ยิ่งทำให้ฉีเยว่แทบทรุด
“ตาของผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก ว่าแต่ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยหรอ?” ฉีเยว่พูดพลางกระโดดลงมาจากเตียง ถึงลักษณะของฉีเยว่จะดูเหมือนคนเกียจคร้าน ไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งวัน แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย… นอกจากนี้ ฉีเยว่ตอนนี้ยังมัดผม
ใบหน้าที่งดงามของเธอคนนั้นแดงระเรื่อ เธอจ้องมองฉีเยว่แล้วพูดด้วยความเขินอาย “ขอโทษค่ะ เมื่อกี้ชั้นมองจากล่างขึ้นบนเลยคิดแบบนั้น… อีกอย่างดวงตาของคุณเบิกกว้างง่ายที่ตาจะแห้ง… ชั้นเรียนหมอมา”
เธอเป็นหมอ แต่ดูเหมือนจะยังไม่ประสีประสาเรื่องชายหญิง ฉีเยว่มีความสุขมากที่ได้เจอผู้หญิงที่บริสุทธิ์เหมือนเธอ
“ว่าแต่… คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เธอมองฉีเยว่
“ผมเหรอ? ผมจะไปป่วยได้ยังไง ผมแข็งแรงจะตาย” ฉีเยว่พูดพลางโบกไม้โบกมือ เขาพยายามโชวกล้ามที่แทบจะมองไม่เห็นให้เธอดู
เธอเอามือปิดปากหัวเราะขบขัน “ทำไมคุณลุงน้ำลายไหล? จริงสิคุณลุง ไม่ๆ… พี่ชาย...ช่วยชั้นยกของหน่อยได้มั้ย ชั้นแรงไม่ถึง”
ฉีเยว่น้ำลายไหลไม่รู้ตัว เขาพยักหน้าให้เธอแล้วช่วยเธอยกขอบอย่างรวดเร็ว
เธอจัดแจงเสื้อผ้าแล้วปีนขึ้นไปเตียงชั้นบนด้วยความระมัดระวัง ฉีเยว่ก็เหมือนกัน นั่นยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นมากขึ้น เพราะจะได้มองใบหน้าและเรือนร่างที่งดงามของเธอชัดๆ เตียงนอนทั้งสองเตียงอยู่ห่างกันเพียง 1 เมตร ยิ่งได้เห็นใกล้ๆ ฉีเยว่ยิ่งแทบทนไม่ไหว หากเทียบกับนานแล้ว เธอคนนี้สวยและเซ็กซี่กว่าหลายเท่า จนแทบอยากจะสละความซิงกับเธอเสียเดี๋ยวนี้
ฉีเยว่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ความคิดต่างๆนาๆแล่นเข้ามา เขาจึงเร่งจับจมูกตัวเองดูว่ามีอะไรไหลออกมาหรือเปล่า
เธอคนนั้นเอนตัวนอน แล้วหันมองฉีเยว่ “ชั้นชื่อ ‘ฉุ่ยเยว่’ พี่ชายชื่ออะไร?”
ฉีเยว่ได้สติแล้วรีบพลิกตัวมา “ผมชื่อฉีเยว่… เราสองคนคงมีชะตาต้องกัน ถึงได้มีชื่อที่ ‘เยว่’ คล้ายๆกัน”
ฉุ่ยเยว่ยิ้มเล็กน้อยและพูดต่อ “พี่ชายกำลังจะไปไหน? ไปเที่ยวเหรอ? ถ้าให้ชั้นเดา… จากการแต่งตัวของพี่ชายแล้ว พี่ชายน่าจะเป็นศิลปินที่กำลังขาดแรงบันดาลใจ”
“อ๋อ… ใช่ๆ ผมเป็นศิลปิน” เมื่อได้ยินคำว่าศิลปิน ฉีเยว่พยักหน้ารับ นับวันฉีเยว่ยิ่งหน้าหนาขึ้นเรื่อยๆ
ฉุ่ยเยว่ตื่นเต้น “จริงเหรอ! ชั้นเดาถูกด้วย แล้วพี่ชายเป็นศิลปินด้านไหน? บอกชั้นได้หรือเปล่า? คิดไม่ถึงว่าการเดินทางไปทิเบตครั้งนี้จะได้เจอศิลปิน ถือเป็นเกียรติจริงๆ”...