ตอนที่ 156 อีกคน
“ถอย ตั้งค่าย!”ลู่เฉินมองหานเซี่ยวและกวาดตามองผู้ลี้ภัย เขาปล่อยให้กองทัพเขาตั้งค่ายในระยะไกล
ผู้เล่นกระสับกระส่าย ผู้เล่นบางคนที่ยังไม่เลือกข้างได้สำรวจสถานการณ์ ดูเหมือนว่าฝั่งหมู่บ้านหุบเขาเขียวจะมีโอกาสชนะสูงกว่า
ท้องฟ้ามืดครึ้ม
หานเซี่ยวเดินไปหาค่ายของลู่เฉิน และทหารยามก็รีบยกปืนขึ้นเมื่อเห็น
“ใจเย็นๆ ผมแค่ต้องการมาคุยกับหัวหน้าพวกคุณ”หานเซี่ยวให้คำรับปาก
ทหารยังคงถือปืนและไม่ยอมให้หานเซี่ยวเข้าค่าย
ในเวลานั้น ลู่เฉินก็ได้ยินเสียงวุ่นวายและเดินมา“ให้เขาเข้ามา”
หากปีศาจทมิฬอยากฆ่าเขา มันคงไม่จำเป็นต้องแจ้งมห้ทราบ ดูเหมือนว่าเขามีเจตนาอื่น เขานำหานเซี่ยวไปยังเต็นท์ใหม่ ดาบคลั่งเองก็เดินตามมา
ลู่แนนั่งลงโดยไม่กังวลว่าหานเซี่ยวอาจคุกคามชีวิตเขา ด้วยมือที่ประสานกับภายใต้คาง เขากล่าวขึ้น“ปีศาจทมิฬผู้โด่งดังกลับปรากฏตัวในสถานที่เล็กกระจ้อยร่อยเช่นนี้ ผมอยากรู้สาเหตุการแทรกแซงของคุณ-ผมไม่คิดว่าบัลซาสจะมีคุณสมบัติพอจ้างนักฆ่าอย่างคุณ-อะไรที่ทำให้คุณมาหาผม?”
หานเซี่ยวตรงเข้าประเด็น“ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณ”
“ช่วยผม?”ลู่เฉินสงสัย“เราไม่เคยเจอกันมาก่อน”
หานเซี่ยวทำให้มีเหตุผล“คุณน่าชื่นชมกว่าบัลซาส”
ลู่เฉินรู้สึกแปลกและหยุดก่อนแสดงความคิดเห็น“บัลซาส....เขาเป็นตัวน่ารังเกียจ เขาปล่อยให้ผู้ลี้ภัยทำตัวเหมือนโล่มนุษย์ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ถึงไม่สนใจชีวิตพวกเขา?อะไรคือผลประโยชน์ที่บัลซาสมอบให้พวกเขา?หรือมันจะเป็นการกักตัวครอบครัวพวกเขา?ผมให้โอกาสพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมไป”
“พวกเขาไม่ได้มีพลังมาก ทำไมคุณถึงไม่บดขยี้พวกเขาละ?ด้วยกองกำลังติดอาวุธของคุณ มันย่อมเป็นการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว”หานเซี่ยวยิ้ม
สีหน้าของลู่เฉินว่างเปล่า เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดและเปลี่ยนเรื่อง“ปีศาจทมิฬ ผมไม่รู้จักคุณและไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงต้องการช่วยผม คุณวางแผนจะทำอะไร ฆ่าบัลซาสงั้นหรอ?ผมเชื่อว่ามันเป็นงานง่ายๆสำหรับคุณ”
“ไม่ ผมไม่ชอบฆ่าคน”หานเซี่ยวพูดพล่าม
ริมีฝปากของลู่เฉินขดตัว นักฆ่ากลับบอกว่าไม่ชอบฆ่าคน?นี่ร้สาระยิ่งกว่าการบอกว่าทหารเรือไม่อาจว่ายน้ำได้!
“งั้นคุณคิดจะอธิบายยังไง?”
“ปัญหาเรื่องผู้ลี้ภัยสามารถแก้ไขได้”
ลู่เฉินเลิกคิ้วขึ้น“คุณสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้?”
“บางที”
“..งั้นคุณต้องการอะไรจากผม?”
ลู่เฉินไม่เชื่อว่านักฆ่าในตำนานจะช่วยเขาแบบฟรีๆ เขามั่นใจว่าปีศาจทมิฬต้องมีแรงจูงใจ แต่เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ปีศาจทมิฬต้องการ
“ผมไม่ต้องการรางวัล”
ดวงตาของลู่เฉินดำมืด และจ้องลึกในดวงตาหานเซี่ยว สิ่งที่เขาเห็นคือหมอกหนาทึบและเขาก็ไม่อาจเจาะความคิดของหานเซี่ยวได้ โดยทั่วไป หากมีคนไม่ต้องการรางวัล มันหมายความว่าคนๆนั้นมีเจตนาอื่นและมีความทะเยอทะยานยิ่งกว่า
เงียบ
ดาบคลั่งทำอะไรไม่ถูกขณะฟังบทสนทนา บรรยากาศตึงเครียดทำให้ต้นคอเขาบีบรัด
หลังหยุดชะงักไปสองนาที ลู่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาพยักหน้าและกล่าวช้าๆ“ถ้าอย่างนั้น ผมก็จะเชื่อใจคุณ”
…
หานเซี่ยวตบไหล่ของดาบคลั่ง ขณะเดินออกค่ายและพูด“ฉันมีเรื่องให้นายทำ”
ท่านได้กระตุ้นภารกิจ[เผยแพร่ข้อมูล]
ภารกิจคือการเผยแพร่ข้อมูลการเข้าร่วมกับฝ่ายลู่เฉินของปีศาจทมิฬ ด้วยการใช้ชื่อเสียงเป็นรางวัล ยิ่งมีคนรู้เรื่องนี้มาก รางวัลก็ยิ่งสูง และผู้เล่นก็จะถูกนับหัวไปด้วย ดาบคลั่งไม่สงสัยเขาและตั้วใจเผยแพร่ข้อมูลชิ้นนี้ในหมู่บ้านหุบเขาเขียว
บางทีผู้เล่นทั่วไปอาจประหลาดใจเมื่อพบภารกิจปฏิสัมพันธ์แบบชีวิตจริงเช่นนี้ แต่ดาบคลั่งผ่านเรื่องนี้จากหานเซี่ยวมามมาก และดังนั้น เขาจึงไม่ตกใจกับภารกิจทุกประเภทอีกต่อไป
“มันคือการดูว่าฉันมีอิทธิพลมากแค่ไหน”หานเซี่ยวกล่าว
ดาบคลั่งมีประสิทธิภาพจริง และบางทีเพราะเขาเริ่มมีชื่อเสียงหน่อยแล้ว ข่าวจึงกระจายผ่านปากอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้ามันก็กระจายไปทั่วหมู่บ้าน จากนั้นก็มีความปั่นป่วนอย่างมากในหมู่ชุมชนผู้เล่น
“หากเราเลือกหมู่บ้านหุบเขาเขียว ก็หมายความว่าเราจะเป็นศัตรูกับปีศาจทมิฬงั้นหรอ?”
“เราจะเอาชนะเขาได้ยังไง?!”
“นี่คือคำแนะนำภารกิจงั้นหรอ?”
ผู้เล่นตื่นตระหนก ภาพของหานเซี่ยวเข่นฆ่าสัตว์ป่าอย่างดุร้ายยังฝังลึกในหัวพวกเขา การเป็นศัตรูกับปีศาจทมิฬก็เหมือนหาเรื่องตาย สถานการณ์ของภารกิจจะพลิกคว่ำทันที โอกาสที่หมู่บ้านจะชนะต่ำลงตลอดเวลา
นอกจากนี้ การเลือกปกป้องหมู่บ้านหุบเขาเขียวก็หมายความว่าผู้เล่นต้องโจมตีปีศาจทมิฬ นั่นส่งผลให้ความชอบพวกเขาลดลงอีกด้วย นั่นมากเกินไปสำหรับภารกิจขนาดเล็ก หากต้องสู้จริงๆ พวกเขาควรโจมตีเขาไหม?หากพวกเขาไม่โจมตี แล้วจะปกป้องหมู่บ้านยังไง?นี่คือปัญหา
ผู้เล่นที่เลือกปกป้องหมู่บ้านหน้าดำกันหมด พวกเขารู้สึกว่าไม่มีโอกาสชนะ หากพวกเขาอยากทำภารกิจให้เสร็จ พวกเขาสามารถเข้าร่วมได้แค่ฝ่ายลู่เฉิน แต่พวกเขาไม่อาจเลือกฝั่งใหม่ได้
ขนมปังสุนัขตัดสินใจถูกมาก เขาคือคนแรกที่เลือกฝั่งลู่เฉิน ภารกิจครั้งที่สอง วัตถุประสงค์หลักเขาคือจับการกระทำของหานเซี่ยวให้มากขึ้น
ทหารได้รับคำสั่งจากลู่เฉินและยอมให้ผู้ลี้ภัยผ่านเข้ามา ขนมปังสุนัขเข้าร่วมฝั่งลู่เฉินสำเร็จ และหานเซี่ยวที่สังเกตอยู่อีกฝังก็หรี่ตามองขนมปังสุนัข
ชื่อนี้ดูคุ้นๆ....เขาคือจ้าวแห่งวิดิโอรึเปล่า?หานเซี่ยวจำไอดีของขนมปังสุนัขได้ เขาเป็นผู้อัปโหลดวิดิโอชื่อดัง เขาถือเป็นคนที่ได้รับแรงตอบรับดีมาก
ในเวลานั้น หานเซี่ยวก็มีความคิดอื่น...
หานเซี่ยวก้าวออกไปและหยุดตรงหน้าขนมปังสุนัข
“คุณเลือกได้ฉลาดมาก ผมรู้สึกว่าคุณมีศักยภาพ คุณอยากกลายเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของผมไหม?”หานเซี่ยวถาม
ดวงตาของขนมปังสุนัขเบิกกว้าง เขางุนงง เขาเพิ่งไปกระตุ้นภารกิจลับงั้นหรอ?
เขาไม่เคยคาดหวังมากเกินไป แต่ก็ไม่คาดว่าตัวเองจะได้รับมัน!
นี่แหละชีวิต คุณอาจไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่สิ่งที่คุณไม่ต้องการอาจมาหาคุณเอง ขนมปังสุนัขแข็งค้าง
เกิดความโกลาหลในหมู่ผู้เล่น
“เขากระตุ้นภารกิจลับของปีศาจทมิฬได้!”
“เขาทำได้ยังไง?!”
“มันต้องเข้าร่วมกับฝั่งปีศาจทมิฬงั้นหรอ?”
“ภารกิจนี้มีโอกาสกระตุ้นภารกิจลับด้วย?”
เมื่อตระหนัก ผู้เล่นที่ยังคอยสังเกตก็ไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป พวกเขากระตือรือร้น เข้าร่วมฝั่งลู่เฉินเหมือนผู้ลี้ภัยน้ำ ค่ายเต็มไปด้วยผู้เล่นทันที มันแออัดและคับแคบ ทหารตะลึงงัน พวกเขาไม่แน่ใจว่าควรไล่คนออกไปดีไหม
ผู้เล่นที่เลิกฝั่งสำเร็จต่างรีบไปหาหานเซี่ยว รอคอยภารกิจ แต่ทว่า พวกเขาก็เผชิญกับการถูกปฏิเสธ
“ทำไมเราถึงไม่ได้?”
“มันจำกัดเฉพาะคนแรกที่เข้าร่วมงั้นหรอ?!”
นั่นคือความเป็นไปได้สูงสุด ผู้เล่นที่ช้าไปก้าวหนึ่งอยากเอาหัวกระแทกพื้น ความเจ็บปวดที่พวกเขารู้สึกเหมือนตรวจหวยผิดงวด
พวกเขามีโอกาสได้เป็นคนแรก แต่โอกาสนี้ถูกขนมปังสุนัขฉกชิงไป
ยิ่งช้า โอกาสทองก็จะหายไป!
ผู้เล่นเต็มไปด้วยความเสียใจ
หานเซี่ยวนำขนมปังสุนัขไปยังอีกฝั่งและมอบแต้มชื่อเสียงให้เขาห้าหน่วย เขาลอบวางแผนใช้ประโยชน์จากขนมปังสุนัข
การนำผู้เล่นที่เป็นผู้ผลิตวิดิโอเกมมาด้วยก็เหมือนกับการนำนักข่าวติดตัว จากนั้นเขาก็สามารถมีช่องทางการเผยแพร่ข่าวให้ผู้เล่นได้อย่างอิสระ เขาสามารถเลือกให้ข่าวแก่ผู้เล่นได้โดยการหยิบเลือกข้อมูลที่อยากให้ผู้เล่นรู้
หลังพบพานข้อมูล การควบคุมความคิดเห็นของผู้เล่นก็เท่ากับการถืออาวุธ เขาสามารถทำให้ศัตรูเสื่อมเสียชื่อเสียง ชักจูงความคิดของผู้เล่น และสร้างภาพลักษณ์เขาให้ดีขึ้น
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปด้วยดี หานเซี่ยวมีความสุข เขารวบรวมภารกิจที่ให้รางวัลสูงและมอบมันให้ขนมปังสุนัข ต่อมา เขาก็นำโทรสัพท์มือถือที่สามารถใช้ติดต่อเขาได้และมอบมันให้ขนมปังสุนัขเช่นกัน เขาบอกขนมปังว่าอย่าทำมันหายเด็ดขาด ขนมปังสุนัขพยักหน้าซ้ำๆและจับมือถือแน่น
เขามีผู้เล่นเป็นสมุนสองคน ขนมปังสุนัขและดาบคลั่ง นี่คือขีดจำกัดของการมอบภารกิจเขา
หลังเลื่อนขั้น ขีดจำกัดสิ่งของที่เขาสามารถมอบให้ผู้เล่นก็เพิ่มจาก300เป็น500ต่อระดับ นี่หมายความว่าด้วยระดับ40 การเพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ20000 แต่หลังเลื่อนขั้น มันก็เพิ่มเป็น25000 ตอนนี้ มูลค่ารวมมันสูงถึง50000
หานเซี่ยวยังไม่รู้ว่าควรเผยแพร่ข่าวไหน ดังนั้นเขาจึงให้การติดต่อเขาไปก่อน
ตอนนี้ฉันมีผู้เล่นที่ชอบสามคน ดาบคลั่ง จันทราเมเปิ้ลและขนมปังสุนัข จุดแข็งยังต่ำ ฉันต้องขยายทีมสนับสนุนฉัน หานเซี่ยวคิดล่วงหน้า เขาอยากเน้นคุณภาพกว่าปริมาณ เขาถูกลิขิตให้เดินบนเส้นทางสูงสุด หากเขาสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในอดีตได้ งั้นทำไมตอนนี้จะไปสูงกว่านั้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าความเป็นไปได้นี้ค่อนข้างไม่แน่นอน เพราะผู้เล่นเก่งๆล้วนมีบุคลิกแตกต่างออกไป
นี่แค่หมู่บ้านฝึกหัดสองแห่ง เขายังเหลือหมู่บ้านอีกกว่าสิบแห่ง ดังนั้น หานเซี่ยวจึงมีโอกาสมากมายให้เขาหยิบเลือกคน