ตอนที่ 262 แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็ต้องลากใครบางคนให้ตกตายตามไป
เมื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงให้สำคัญที่จะออกจากคฤหาสน์ เฟิงเฉินหยูเดินตามไป หวงซวนมองดูทั้งสองที่เป็นเหมือนวิญญาณที่ตามขอส่วนบุญ และนางก็รู้สึกอยากจะเตะพวกเขาทั้งสองคน
ตลอดทางจนถึงรถม้า เฟิงเฉินหยูพูดกับพวกเขาต่อไปว่า “ทำไมน้องรองถึงต้องรีบร้อนด้วย ข้ามอบกำไลให้เจ้าที่เรือน ลองดูที่อาหารบำรุงที่ข้ามอบให้แม่ของเจ้าก่อนสิ !”
เฟิงหยูเฮงยืนอยู่บนบันไดทางขึ้นรถม้าและกำลังจะปีนเข้าไปในรถ แต่คำพูดของเฟิงเฉินหยูทำให้นางเปลี่ยนใจ
นางหยุดและหันหลังกลับ จ้องมองที่เฟิงเฉินหยู ทันใดนั้นนางก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าท่านพี่อยากคุยกับข้ามากกว่า และไม่อยากให้ข้าออกไป !”
เฟิงเฉินหยูพยักหน้า “ใช่แล้ว! ตอนที่เจ้าอยู่ในค่ายทหาร เราไม่ได้คุยกันเลย แต่ตอนนี้สิ้นปีแล้ว และท่านย่าบอกว่าเจ้าไม่ได้อยู่เมืองหลวงตลอดสามปีที่ผ่านมา ข้าจึงมาให้คำแนะนำแก่เจ้า”
“อะไรนะ?” ทันใดนั้นนางหัวเราะ “อาเฮงต้องขอบคุณท่านย่าที่ห่วงใย จริง ๆ ข้าต้องขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วงข้า เพราะพี่ใหญ่ได้รับคำสั่งจากท่านย่า หากอาเฮงจะไม่รับฟังก็คงเสียมารยาท แต่ข้ารีบไปรับจื่อหรู… หรือพี่ใหญ่จะไปกับอาเฮง อาเฮงจะได้นั่งฟังไปในรถม้า !”
หลังจากพูดอย่างนี้ นางไม่ได้รอให้เฟิงเฉินหยูตอบรับหรือปฏิเสธ นางคว้าข้อมือของเฟิงเฉินหยูและโยนนางเข้าไปในรถม้า
ในเวลาเดียวกันหวงซวนก็ทำสิ่งเดียวกัน นางโยนยี่หลินเข้าไปในรถม้า ทั้งสองจึงปีนเข้าไปในรถม้า คนขับยกสายบังเหียนของเขาและรถม้าแล่นออกจากคฤหาสน์
เฟิงเฉินหยูและยี่หลินนิ่งตกใจด้วยความกลัว หลังจากที่รถม้าเริ่มเคลื่อนที่พวกเขาก็ได้สติขึ้นมาแต่มันก็สายเกินไปแล้ว พวกเขาอยู่ในรถม้าและรถม้านั้นก็แล่นออกไปแล้ว
เฟิงเฉินหยูตกใจมากและตะโกนเสียงดัง เมื่อมองตรงไปที่เฟิงหยูเฮง นางถามว่า “เจ้ากำลังทำอะไร”
ยี่หลินปกป้องเฟิงเฉินหยูจากด้านข้างขณะที่นางจ้องมองเฟิงหยูเฮงด้วยความกลัว ในความคิดของนาง คนอย่างเฟิงหยูเฮงเป็นคนที่นางต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังแม้ในที่สาธารณะ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในรถม้าเดียวกัน มันทำให้หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกลัว
เมื่อเห็นใบหน้าทั้งสองที่ดูเหมือนเห็นผี เฟิงหยูเฮงก็สับสน "พี่ใหญ่ไม่ได้พูดว่ามีหลายสิ่งที่จะพูดคุยหรือ ? อาเฮงคิดว่าเราจะคุยกันระหว่างทางไปรับน้องชายของเรา เมื่อเราไปถึง จื่อหรูคงมีความสุขมากเมื่อเขาเห็นพี่ใหญ่ไปรับเขาด้วยตัวเอง”
ใบหน้าของเฟิงเฉินหยูซีดเล็กน้อย แต่นางจะพูดเช่นไรดี นางจะคัดค้านวิธีการของเฟิงหยูเฮงได้อย่างไร พี่สาว 2 คนจะไปรับน้องชายของพวกเขา มีปัญหาตรงไหน ยิ่งกว่านั้นนางยังเป็นคนที่ตามเฟิงหยูเฮงมา มันเป็นนางที่รั้งตัวเฟิงหยูเฮงเช่นกัน มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน ดังนั้นแม้ว่านางต้องการจะตำหนิอีกฝ่าย นางก็ทำไม่ได้
แต่เป้าหมายของนางคือการถ่วงเวลาเฟิงหยูเฮงให้ออกจากคฤหาสน์ช้า ! ไม่ใช่อยู่ในรถม้าด้วยกัน ตอนนี้…นางจะพูดอะไรดี
เมื่อเห็นว่าเฟิงเฉินหยูไม่ได้ตอบอะไร เฟิงหยูเฮงยักไหล่และยิ้ม “พี่ใหญ่เป็นคนตลกจริง ๆ เมื่ออยู่ในคฤหาสน์ท่านมีหลายสิ่งที่จะพูดกับข้า แต่ทำไมท่านถึงเงียบลงในขณะที่ท่านอยู่ในรถม้า ? หรือพี่ใหญ่เหนื่อยแล้วและต้องการพักผ่อน หลังจากเราออกจากเมืองหลวงไม่นาน เราจะได้พบจื่อหรู”
ขณะที่นางพูดสิ่งนี้นางเอนตัวลงในรถม้าและหลับตาเพื่อพักผ่อน
จิตใจของนางก็ไม่มั่นคงเพราะการกลับมาของเฟิงจื่อหรู เฟิงเฉินหยูมาที่เรือนตงเซิงเพื่อมามอบของกำนัลและปฏิเสธที่จะออกไป ชัดเจนว่านางกำลังพยายามถ่วงเวลาให้เฟิงหยูเฮงออกจากคฤหาสน์ช้า นางทำได้แค่ตอบสนองเมื่อนางกำลังจะขึ้นรถ
แต่มันก็ไม่สายเกินไปใช่หรือไม่ ? นางหรี่ตาเล็กน้อยนางมองไปที่ความหวาดกลัวที่บนใบหน้าของพวกเขาทำให้เฟิงหยูเฮงหัวเราะกับตัวเอง การวางแผนคิดร้ายผู้อื่นเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาควรอยู่ให้ห่างจากแผนการของเขา แม้ว่านางจะเสียชีวิต นางก็จะต้องลากใครบางคนให้ตกตายตามไป
รถม้าวิ่งออกจากเมืองไปตามถนนสายหลักในเส้นทางไปเสี่ยวโจว แต่ขณะที่พวกเขาเดินทางไปได้ 5 ลี้ เสียงร้องของเหยี่ยวดังขึ้น คนภายในรถไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายนอก พวกเขาได้ยินเพียงเสียงคนขับตะโกน “อา” ก่อนที่ม้าจะตกใจกลัว พวกมันวิ่งสะเปะสะปะ
คนขับพยายามบังคับบังเหียนอย่างมั่นคง แต่เขาก็ยังไม่สามารถควบคุมม้าได้ ในขณะที่เขาตะโกนเสียงดัง “คุณหนู นั่งดี ๆ !”
แต่เฟิงหยูเฮงจะฟังเขาได้อย่างไร นางไม่ยอมนั่งนิ่ง ๆ แถมนางยังยื่นมือออกและยกผ้าม่าน
อีก 3 คนกลิ้งอยู่ในรถม้า แต่หวงซวนก็ทำอย่างจงใจ เมื่อได้รับการตรวจสอบจากเฟิงหยูเฮง นางก็ผลักเฟิงเฉินหยูและยี่หลินไปที่ประตูรถม้า
เฟิงเฉินหยูงงงวย และนางก็ไม่สามารถบอกได้ว่าทิศไหน รถม้าโยกอย่างรุนแรง ในความเป็นจริงนางไม่ทราบด้วยซ้ำว่านางถูกโยนออกจากรถม้า
ในเวลานี้เหยี่ยวในท้องฟ้าลอยขึ้นอีกครั้ง เฟิงหยูเฮงเงยหน้าขึ้นมองแล้วเห็นเหยี่ยวขนาดใหญ่มากบินร่อนตรงมาหาพวกเขา !
เมื่อเห็นว่าจะงอยปากอันแหลมคมของเหยี่ยวกำลังบินตรงมาที่หัวของนาง เฟิงหยูเฮงก็ผลุบกลับเข้าไปในรถม้า ท่าทางนางค่อนข้างอับอายเพราะนางกลิ้งหลุน ๆ ไปทั่วรถม้า
สำหรับเหยี่ยวที่บินมาแล้วมันไม่สามารถหยุดได้อย่างสมบูรณ์ มันชนกับเฟิงเฉินหยูซึ่งยังคงอยู่ข้างนอก
จงอยปากของนกนั้นแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการฝึกฝนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับมนุษย์ มันจิกหน้าผากของเฟิงเฉินหยูอย่างรุนแรง เฟิงเฉินหยูกรีดร้องออกมา ชิ้นเนื้อถูกฉีกออกไป
เฟิงหยูเฮงมองหวงซวน และหวงซวนเข้าใจความคิดของนาง หวงซวนตะโกนทันที “แย่แล้ว ! คุณหนูใหญ่ถูกเหยี่ยวจิก !”
และในเวลาเดียวกันเฟิงหยูเฮงก็ปีนออกจากรถม้าเมื่อรถม้ากระแทก นางจะไปดูอาการบาดเจ็บของเฟิงเฉินหยู แต่ใครจะรู้ว่าการโยกของรถม้าจะรุนแรงขึ้นในทันใด และนางตกจากรถม้าทันที
หวงซวนตะโกน “คุณหนู !” นางกำลังจะกระโดดออกจากรถม้าด้วยเช่นกัน แต่นางก็ถูกยี่หลินจับไว้ นางกำลังจะเตะยี่หลิน แต่นางมองไปที่เฟิงหยูเฮงที่ส่ายหน้าอยู่ที่พื้น หวงซวนเข้าใจทันทีว่ามันเป็นอุบัติเหตุ นางจึงให้ยี่หลินดึงนางกลับเข้าไป นางก็พูดด้วยความไม่พอใจ “คุณหนูของข้าตกรถม้า !”
ม้ายังคงวิ่งไปข้างหน้า เฟิงหยูเฮงกระโดดออกจากรถม้า ก่อนที่นางจะกระโดดออกมา นางมองม้าและเห็นว่าเหยี่ยวจิกดวงตาข้างหนึ่งของม้าออก นี่แสดงให้เห็นว่าเหยี่ยวแข็งแกร่งแค่ไหน
นางไตร่ตรองขณะที่วางมือขวาบนข้อมือซ้าย ดึงปืนยาสลบออกมา พวกเหยี่ยวมุ่งมั่นที่จะโจมตีนางด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่านางจะกระโดดลงจากรถม้า มันก็สามารถหาตำแหน่งของนางได้กลางอากาศ ปล่อยเสียงร้องออกมาอีกครั้งมันก็รีบลงมาอีกครั้ง
เฟิงหยูเฮงเกลียดปีกและจงอยปากแหลมมากที่สุด นางเกลียดสิ่งที่เคยเป็นอันตรายต่อผู้คนโดยเฉพาะเมื่อเห็นเหยี่ยวบินเข้าใส่นางอีกครั้ง นางก็ยกปืนยาสลบขึ้นและยิงมัน
ทันใดนั้นเข็มยาสลบเจาะเข้ามาในร่างของเหยี่ยว เหยี่ยวก็หมดสติทันที จากนั้นก็ตกลงที่พื้น
เฟิงหยูเฮงขมวดคิ้ว นางเก็บเหยี่ยวไว้ในมิติของนาง เมื่อนางยืนขึ้นเพื่อดูรถม้า นางเห็นว่ารถม้านั้นหยุดที่ป่าแล้ว
เห็นความกังวลบนใบหน้าของนาง เมื่อนางเดินเข้ามาใกล้รถม้า นางก็ตะโกน “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ?” จากนั้นนางก็มองม้า และพบว่ามันล้มลงเพราะถูกหวงซวนจัดการ
ยี่หลินประคองเฟิงเฉินหยู และร้องไห้ “คุณหนูรองรีบมาดูคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ คุณหนูดูเหมือนจะเป็นลมเจ้าค่ะ”
ในความเป็นจริงยี่หลินอยากจะบอกว่านางอาจจะตาย เพราะรูปร่างหน้าตาของเฟิงเฉินหยูตอนนี้น่ากลัวมาก ชิ้นเนื้อตรงหน้าผากหายไป เลือดไหลเต็มใบหน้าและร่างกายของนาง ลมหายใจของนางแผ่วเบา และนางก็หมดสติ ยี่หลินไม่รู้จริง ๆ ว่าเฟิงเฉินหยูยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิต ดังนั้นนางจึงเรียกเฟิงหยูเฮงไปดู
หวงซวนตะโกนอย่างเย็นชา “คุณหนูของข้าตกรถม้า เจ้าไม่ถามสักคำว่าคุณหนูได้รับบาดเจ็บหรือไม่ กลับบอกให้คุณหนูดูแลคนอื่น ?”
ยี่หลินตัวสั่น นางไม่กล้าเถียงหวงซวน นางทำได้เพียงถามอย่างไม่เต็มใจว่า “คุณหนูรองบาดเจ็บหรือไม่เจ้าคะ ?” นางเห็นว่าเฟิงหยูเฮงวิ่งมา ดังนั้นนางจะบาดเจ็บได้อย่างไร
โชคดีที่เฟิงหยูเฮงมีเหตุผลและไม่หลอกลวง นางส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร ข้ารู้สึกปวดเล็กน้อยจากการตกรถม้า แต่ไม่เป็นอะไร ข้าจะดูอาการบาดเจ็บของพี่ใหญ่” ขณะที่นางพูดแบบนี้ นางมองไปที่หน้าผากของเฟิงเฉินหยู เมื่อมองนางก็เกือบจะหัวเราะออกมา นางได้แต่ใช้แขนเสื้อปกปิดใบหน้าของนางซึ่งทำให้นางดูเหมือนจะเสียใจกับเฟิงเฉินหยู แต่มีเพียงหวงซวนเท่านั้นที่รู้ว่านางแอบกลั้นหัวเราะ มันเป็นเรื่องจริง นางได้รับความบันเทิงเพียงแค่คิดว่าเฟิงเฉินหยูถูกจิกในระดับนี้อย่างไร
“คุณหนูรอง” ใจของยี่หลินสั่นไหว นางต้องการถามว่าเฟิงเฉินหยูยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่นางจะพูดสิ่งนี้ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเฟิงหยูเฮงรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ขณะที่นางพูดว่า “ไม่ต้องกังวล นางยังมีชีวิตอยู่ แต่…” นางมองไปที่ยี่หลินใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล “มีพิษที่ปากเหยี่ยว !”
“เป็นไปไม่ได้!” ยี่หลินไม่ได้คิดอย่างนั้นเพราะนางร้องอย่างกระตือรือร้น “เหยี่ยวแบบนี้ไม่มีพิษ !”
“หืม ?” เฟิงหยูเฮงแสดงความสงสัยของนาง “เจ้าจะมั่นใจได้อย่างไร ?”
ยี่หลินรู้ว่านางหลุดปากออกไปและรีบเปลี่ยนคำพูดของนางอย่างรวดเร็ว “ความหมายของบ่าวรับใช้นี้คือถ้ามีพิษบนปากของมัน นกจะไม่ตายด้วยพิษหรือเจ้าคะ”
เฟิงหยูเฮงไม่เถียงนาง “บางทีข้าอาจวินิจฉัยผิดพลาด” จากนั้นนางก็พูดด้วยความดีใจ “โชคดีที่เหยี่ยวนั้นบินไปแล้ว ไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าเราจะตกอยู่ในอันตราย”
สีหน้าของยี่หลินไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อนางรู้ว่าชีวิตของเฟิงเฉินหยูไม่ตกอยู่ในอันตราย นางเริ่มคิดว่านางจะช่วยให้เจ้านายของนางบรรลุภารกิจได้อย่างไร ดังนั้นนางจึงเตรียมใจขณะเอ่ยถามเฟิงหยูเฮงว่า “คุณหนูรองรักษาบาดแผลของคุณหนูใหญ่ได้หรือไม่เจ้าคะ ? ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราไม่ได้อยู่ไกลเกินไปจากถนนสายหลัก หากรถม้าของคุณหนูรองผ่านที่นี่ เราจะสามารถมองเห็นได้ แต่อาการบาดเจ็บของคุณหนูใหญ่ไม่สามารถรอได้ !”
“เจ้าจะให้ข้ารักษาได้อย่างไร ?” เฟิงหยูเฮงตอบคำถาม “ประการแรกข้าไม่ได้นำกล่องยามาด้วย ประการที่สองข้าไม่มีสมุนไพร เจ้าจะให้ข้ารักษานางอย่างไร ?” นางก้มตัวลงบนพื้นแล้วท้าวคางมองไปที่ยี่หลิน สภาพจิตใจของนางดูสบาย ๆ และไร้กังวล ความกังวลที่นางแสดงไว้ก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน
ยี่หลินรู้สึกว่าหัวใจของนางเหน็บหนาวด้วยความกลัวเมื่อนางต้องเผชิญเมื่อเฟิงหยูเฮง ความกลัวพุ่งทะยานขึ้น นางไม่กล้าขอให้เฟิงหยูเฮงรักษาอาการบาดเจ็บของเฟิงเฉินหยูอีกครั้ง แต่นางก็มีความสุขอย่างลับ ๆ เช่นกัน หวงซวนทำให้ม้าสลบไป ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาต้องการจากไป พวกเขาก็ทำไม่ได้
กลุ่มนั่งอยู่ในป่า เฟิงเฉินหยูยังไม่รู้สึกตัว และยี่หลินประคองนางไว้ขณะเช็ดเลือดจากหน้าผากของนางซ้ำ ๆ เฟิงหยูเฮงและหวงซวนนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ทำงาน พวกเขายังคุยกันถึงพลังของเหยี่ยวก่อนหน้านี้ คนขับรถม้าเรือนตงเซิงคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้เมื่อเดินทางกับเฟิงหยูเฮง ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเมื่อเขาอยู่ข้าง ๆ ม้า
เช่นนี้พวกเขานั่งอยู่เป็นเวลานานก่อนที่ยี่หลินจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เฟิงหยูเฮงมารับเฟิงจื่อหรูแล้วทำไมพวกเขาถึงนั่งอยู่ในป่า ? ดูหน้าผากของเฟิงเฉินหยูซึ่งเลือดไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ หัวใจของบ่าวรับใช้เริ่มสั่นอีกครั้ง...