58 จัดการเรื่องราวอย่างเหมาะสม ในเวลาที่สมควร
58 จัดการเรื่องราวอย่างเหมาะสม ในเวลาที่สมควร
“แม่กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวจะดูแลที่นี่เองครับ” หวังเย้าพูดกับแม่ของเขา
หวังเย้านั่งลงบนเก้าอี้ในกระท่อมและชงชาให้ตัวเอง เขารู้สึกผ่อนคลายเมื่อมองไปที่แปลงสมุนไพรที่เขียวชะอุ่ม
หวังเย้าเริ่มที่จะชื่นชอบการใช้ชีวิตในชนบทแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
วันต่อมา เมล็ดพันธุ์ที่เขาได้สั่งซื้อจากอินเตอร์เนตได้มาถึง เขายังไม่ได้วางแผนว่าจะทำยังไงกับพวกมันบ้าง เขาจึงปลูกมันเอาไว้ก่อนแล้วค่อยคิด ในที่สุดเขาก็ได้ปลูกสมุนไพรเอาไว้หลากหลายชนิดด้วยกัน เขาได้ทำแปลงสมุนไพรให้เป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัต แต่ละด้านมีความกว้าง 2 ตารางเมตร เขาตั้งใจที่จะปลูกสมุนไพรหนึ่งชนิดต่อหนึ่งตารางเมตร ด้วยการทำเช่นนี้ มันจะทำให้เขาสามารถปลูกสมุนไพรได้หลายร้อยชนิดในพื้นที่หนึ่งเอเคอร์
หลังจากที่วางแผนเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มลงมือปลูกสมุนไพร ในตอนนี้เขาได้ปลูกสมุนไพรกว่าสามสิบชนิดลงไปในแปลง ซึ่งมากพอสำหรับภารกิจที่เขาได้รับแล้ว สิ่งต่อมาที่เขาต้องทำก็คือการคอยรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งเขาปลูกสมุนไพรไปมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบว่าปริมาณของน้ำแร่โบราณนั้นเริ่มจะไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว แล้วเขายังต้องการที่จะขยายแปลงสมุนไพรเพิ่มด้วยแล้ว
ฉันอยากจะได้น้ำแร่โบราณเพิ่มจริงๆ
เขามองไปที่สมุนไพรรากสองชนิดที่เขาได้ปลูกเอาไว้ : จื่อหยูและวูเถิง จื่อหยูนั้นไม่มีอะไรที่ต้องใช้เพื่อเร่งการเติบโตของมันเป็นพิเศษ เเต่หวังเย้าก็ได้ปลูกมันเอาไว้ใกล้ๆกับกระท่อมเพื่อความปลอดภัย เขายังเหลือที่ใกล้ๆกับกระท่อมเอาไว้อีกเพื่อที่ในอนาคตเขาจะสามารถปลูกสมุนไพรรากเพิ่มได้ ส่วนวูเถิงนั้นต้องให้การดูแลมากกว่า เพราะมันเป็นประเภทเถาวัลล์ มันต้องมีที่ที่มันจะสามารถเลื่อยขึ้นไปได้ เขาจึงปลูกมันเอาไว้ใต้ต้นพุทรา
สมุนไพรแก้พิษ สมุนไพรดอกแสงจันทร์ ชานจิง กุยหยวน จื่อหยู และวูเถิง เป็นสมุนไพรรากทั้งหกชนิดที่หวังเย้าได้ปลูกเอาไว้ ในตอนนี้เขาก็ได้รับประสบการณ์ในการปลูกสมุนไพรรากมาบ้างแล้ว เขาจึงได้รู้ว่าความเร็วในการเติบโตของสมุนไพรรากทั้งหกชนิดนั้นมีความแตกต่างกันอยู่
หวังเย้าได้จดบันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตของสมุนไพรรากแต่ละชนิดเอาไว้ในสมุดบันทึก ถึงแม้ว่าเจาจะมีหนังสือรายการสมุนไพรเวทมนต์อยู่แล้วก็ตาม
มันใกล้มืดแล้วเมื่อหวังเย้าทำงานในแปลงสมุนไพรของเขาเสร็จ เขาเก็บของ ล็อกประตูและกลับบ้านไปทานมื้อเย็น ในระหว่างทางกลับบ้าน เขาก็ได้รับสายจากร้าน4s พวกเขาบอกว่ามีทะเบียนรถที่เป็นที่นิยมบางส่วนพร้อมที่จะให้เขาได้เลือกแล้ว ผู้จัดการร้านได้เลือกเอาไว้ให้เขาแล้ว หวังเย้าตกลงที่จะเข้าไปเลือกเลขทะเบียนในวันพรุ่งนี้และจัดการเรื่องสำคัญต่างๆให้เรียบร้อย
“ลูกจะไปที่นั้นคนเดียวเหรอ? ห่ายชิวมันไกลนะ ทำไมลูกไม่ลองชวนใครไปเป็นเพื่อนด้วยล่ะจ๊ะ?” จางซิวหยิงพูด
“ผมไม่เป็นไรครับแม่ ผมมีจีพีเอสอยู่ แล้วผมก็เคยไปที่นั้นมาแล้วครั้งหนึ่งด้วย” หวังเย้าพูด
“แค่ครั้งเดียวเอง ทำไมลูกไม่ลองชวนพี่สาวของลูกดูล่ะ” จางซิวหยิงเสนอ
“เธอต้องทำงานครับ” หวังเย้าพูด
“แล้วหวังหมิงเปาล่ะ?” จางซิวหยิงถาม
“หวังหมิงเปาต้องเฝ้าร้าน เขามีกิจการที่ต้องคอยดูแล แล้วเขาก็ยุ่งเกินกว่าที่จะไปกับผมด้วยครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม เขาได้แต่รับปากแม่ของเขาว่าจะหาคนไปเป็นเพื่อนในวันพรุ่งนี้เมื่อแม่ของเขายืนกราน
ช่วงเวลากลางนั้นยาวนานขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงฤดูหนาว
หวังเย้ากลับไปที่กระท่อมของเขา ฉันได้ทำสัญญาเช่า ทำแปลงสมุนไพร ต้มยาสมุนไพร ได้รับเงิน และซื้อรถ ฉันยังสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองได้ถ้าต้องการ ดูเหมือนว่าความฝันของฉันจะกลายเป็นจริงแล้ว และชีวิตของฉันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วต่อไปล่ะ? หาเงินเพิ่มขึ้นด้วยระบบที่มี หรือจะกลายเป็นแพทย์ปรุงยาที่มีชื่อเสียง?
“จัดการเรื่องราวอย่างเหมาะสม ในเวลาที่สมควร”
อยู่ๆหวังเย้าก็คิดถึงประโยคนี้จากในคัมภีร์หนานฮวาขึ้นมา
ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็คือชีวิตที่สงบสุข ชื่อเสียงและเงินทองนั้นมาแล้วก็ไป ฉันควรจะปล่อยมันไป เหมือนกับระบบและความเปลี่ยนแปลงที่มันนำพามาให้ ฉันก็ควรจะปล่อยมันไป
หลังจากคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาและอนาคตต่อไปข้างหน้า หวังเย้าก็รู้สึกว่าเขาเข้าใจคัมภีร์ที่เขาเคยอ่านมากยิ่งขึ้น
แล้วเขาก็ค่อยๆหลับไป
วันต่อมา หวังเย้าได้ขับรถไปที่ห่ายชิวเพื่อเลือกทะเบียนรถ หลังจากที่เขาทำงานในแปลงสุมนไพรและฝึกการหายใจเสร็จ
“ขับรถดีดี! อย่าลืมชวนใครไปเป็นเพื่อนด้วยนะจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด
“ครับ แม่ช่วยดูแปลงสมุนไพรให้ผมด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด
“แน่นอนจ๊ะ สมุนไพรของลูกจะปลอดภัยเมื่ออยํ่กับแม่” จางซิวหยิงพูด
หวังเย้าไม่ได้ชวนใครไปเป็นเพื่อนเขา เขาไม่ได้ขับรถเร็วมาก แล้วถนนก็กว้างและมีรถไม่มากนัก เขาขับรถตามจีพีเอสเพื่อไปยังร้าน4s ในห่ายชิว
ผู้จัดการร้านออกมารับเขาและไปเลือกทะเบียนรถพร้อมกับเขา แล้วยังช่วยติดป้ายทะเบียนให้รถของเขาด้วย มันเป็นเวลากลางวันแล้ว เมื่อหวังเย้าไปเอาใบขับขี่ของเขาและจัดการเรื่องสำคัญจนเสร็จ ผู้จัดการก็ได้เชิญหวังเย้าไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
“ได้ครับ แต่ผมต้องเป็นคนเลี้ยงนะ” หวังเย้าพูด
หวังเย้าก็กำลังจะเชิญผู้จัดการร้านไปทานข้าว เพื่อขอบคุณที่เขาได้ช่วยจัดการเรื่องทะเบียนรถให้กับเขา เลขทะเบียนรถไม่ใช่เลขที่เลือกสุ่มๆมา แต่มันเป็นเลขที่ได้รับความนิยม ซึ่งมันมีวิธีในการเลือกเลขที่ดีผ่านระบบคอมพิวเตอร์อยู่ หวังเย้ารู้สึกขอบคุณผู้จัดการมากที่ได้เสนอตัวช่วยเขาเรื่องนี้
“ได้ครับ” ผู้จัดการพูดด้วยรอยยิ้ม เขาก็อยากจะรู้จักหวังเย้าให้มากกว่านี้ด้วย
ทั้งสองเข้าไปในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้กับร้าน4s เมืองห่ายชิวเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเล พวกเขาจึงสั่งอาหารซีฟู๊ดมารับประทาน หวังเย้าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะหลังมื้ออาหารเขายังต้องขับรถอยู่ มันใช้เวลาไม่นานนักในการทานอาหาร ซึ่งมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
หวังเย้าบอกลาผู้จัดการแล้วขับรถกลับบ้าน
ทันทีที่เขาจอดรถที่หน้าบ้านของเขา หวังหมิงเปาก็โทรมาทันที
“ฮัลโหล หมิงเปา” หวังเย้าพูดกับมือถือ
“นายอยู่บ้านรึเปล่า?” หวังหมิงเปาถาม
“อยู่” หวังเย้าตอบ
“ดีเลย เดี๋ยวฉันจะไปหานะ” หวังหมิงเปาพูด
“ได้สิ” หวังเย้าพูด
หวังหมิงเปาขึ้นมาถึงเนินเขาก่อนที่หวังเย้าจะมาถึงกระท่อมของเขาได้ไม่นาน
“มานี่สิ แล้วลองชิมชานี่ดู” หวังเย้าพูด
ชานี้เป็นชาดี มันเป็นชาดำฉีเหมินที่เทียนหยวนถูได้นำมาให้เขา หวังเย้าได้ลองชิมดูก่อนแล้ว แม้แต่คนที่มีความรู้เรื่องชาไม่มากนักอย่างหวังเย้า ยังสามารถบอกได้ว่าชาดำฉีเหมินนั้นเป็นชาที่ดีขนาดไหน
“ชาเยี่ยมมาก ชาอะไรเหรอ?” หวังหมิงเปาถาม
“ฉันดีใจที่นายชอบ เอานี่กลับไปด้วย” หวังเย้าเอากระปุกใส่ชากระปุกเล็กให้หวังหมิงเปา เทียนหยวนถูนั้นได้ให้ชาหวังเย้ามาทั้งหมดแปดกระปุกด้วยกัน เขาให้พ่อแม่ของเขาไปหนึ่งกระปุกและเก็บที่เหลือทั้งหมดเอาไว้ในกระท่อม เขาจึงมีชาดำฉีเหมินอยู่ในมือจำนวนมาก
“ชาดำฉีเหมิน เป็นชาที่มีชื่อเสียงมากแล้วยังแพงมากอีกด้วย ชีวิตนายนี่ดีจริงๆ” หวังหมิงเปาพูดด้วยรอยยิ้ม
“แล้วนายมาที่นี่ทำไมเหรอ?” หวังเย้าถาม
“ฉันได้ยินมาว่ามีคนสร้างปัญหาในหมู่บ้านนี้” หวังหมิงเปาพูด
“อ้อ” หวังเย้ารู้สึกประทับใจ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนแท้