ตอนที่แล้วตอนที่ 13 : การล่มสลายของอารยธรรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 : โลกของมาเรีย

ตอนที่ 14 : แนวคิดโลกใหม่


ลูซีหยูคิดแผนสำรองสำหรับอนาคตของช่องว่างกระดาษ เพราะเค้ามีแหล่งพลังงาน1368หน่วยลูซีหยูตัดสินใจสร้างโลกที่มีโครงสร้างใหญ่กว่าเดิม เพื่อเค้าจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนในอนาคต และแน่นอนนั้นแค่โครงร่างเท่านั้น ลูซีหยูไม่สามารถออกแบบโลกที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ได้แม้ว่าเค้าจะต้องการก็ตาม

ลูซีหยูใช้เวลานานในการคิดเกี่ยวกับมัน แรกเริ่มเค้าคิดเกี่ยวกับจักรวาล ระนาบ โลกคู่ขนาน โลกที่มีเส้นเวลาต่างกัน โลกแห่งเกมส์และอื่นๆอีกมากมาย แต่สุดท้ายลูซีหยูตระหนักได้ว่าการทำโลกเหล่านี้ในความเป็นจริงมันยากเกินไป

สุดท้ายลูซีหยูเลือกใช้พื้นที่ให้มีประโยชน์มากกว่า Krynnspace world(ชื่อหนังสือเกี่ยวกับเกม) The Krynnspace world ประกอบด้วยระนาบหลายแบบและแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากโลกที่พบในจักรวาลของเค้า อะไรก็ตามที่อยู่นอกเหนือระนาบเหล่านี้อาจถือได้ว่าเป็นทะเลที่ไม่มีตัวตนหรือระนาบดวงดาว!

ลูซีหยูคิดว่าจะนำแนวคิดของฮีโร่อมตะหรือองค์ประกอบแห่งจินตนาการมาใช้ แต่หลังจากความคิดบางอย่างตระหนักว่าเค้าจะต้องมีโครงร่างที่ใหญ่กว่านี้ มันจะยากสำหรับเค้าที่จะควบคุมและจัดการกับโลก ที่สำคัญที่สุดลูซีหยูนั้นกลัวว่าจะมีคนเท่ห์ปรากฏขึ้นในโลกที่เค้าสร้างและมาเอาชีวิตเค้าในมิติอื่นโดยอ้างว่าเค้าสามารถฆ่าพระเจ้าได้!

ความคิดนั้นเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น การตั้งค่าแบบฮีโร่อมตะใกล้เคียงกับระแบบการฝึกฝนส่วนตัวของเค้าในปัจจุบัน

สิ่งที่ลูซีหยูต้องการคือระบบที่สามารถกระตุ้นผู้คนให้ปลูกฝังความสามารถของพวกเค้าซึ่งเป็นระบบที่จะนำมาซึ่งการยะระดับอารยธรรม โลกแบบนี้สามารถช่วยเค้าเก็บเกี่ยวพลังงานได้ด้วยและผู้คนจะไม่มีพลังมากเกินไป การยกระดับของระบบแบบค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่าสำหรับลูซีหยู

ด้วยเหตุนี้ลูซีหยูจึงต้องการสร้างโลกที่มีเวทย์มนตร์ในปริมาณต่ำซึ่งสามาถเข้ากับวิทยาศาสตร์ได้ สิ่งนี้จะช่วยให้เค้าได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่องรวมทั้งความคิดและแนวคิดที่ปรับปรุงใหม่จำนวนมาก

ท้ายที่สุดเค้าเป็นเพียงคนเดียวที่ทำงานและทำให้เค้ามีความคิดที่กำจัด มันจะดีกว่าถ้าได้รับไอเดียจากคนกลุ่มใหญ่ เหมือนตอนนี้เค้าได้รับพลังจากมดที่เค้าเคยสร้างในอดีต

หลังจากเขียนแพลนและการตั้งค่าลงในสมุดเค้าก็ปิดมันและหยิบthe Scroll of the Worldออกมา เค้าเปิดมันและเห็นว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย โลกในthe Scroll of the Worldกลายเป็นทะเลที่แห้งแล้งและไม่มีอะไรเหลืออยู่

ลูซีหยูหลับตาและกุมหัวเค้า เค้านำจิตสำนึกของเค้าไปไว้ในแผนที่เชื่อมโยงมันกับนาฬิกาทรายสีเงินและควบคุบพื้นที่ข้างใน เค้าสามารถเห็นได้ทันทีว่าสถานการณ์ภายในแผนที่เริ่มเปลี่ยนไป

โลกในช่องว่างกระดาษเริ่มลดขนาดลงเรื่อยๆจนกลายเป็นสีดำสนิท มันเป็นเหมือนกระแสน้ำวนสีดำที่สามารถกลืนกินทุกอย่างได้

ขณะที่โลกในช่องว่างกระดาษเปลี่ยนแปลง ลูซีหยูสามารถสัมผัสได้ถึงKrynnspace worldที่เกิดขึ้นในthe scroll โลกเริ่มแรกในช่องว่างกระดาษได้ลดลงจนเป็นจุดดำเป็นฟองอากาศเล็กๆ จากนั้นค่อยเคลื่อนจากจุดศุนย์กลางไปยังมุมหนึ่ง

ลูซีหยูหายใจออกและลืมตาขึ้น เค้ารู้ว่าขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามขนาดของแหล่งพลังงานในสมองเค้าได้ลดลงเหลือ930หน่วย หายไป438หน่วย

เพียงแค่ตั้งค่าโครงร่างสำหรับโลกใหม่นั้นใช้พลังจำนวนมาก ลูซีหยูหน้าซีดเมื่อเค้ารู้เนื่องจากพลังงานนั้นยากที่จะได้รับ เค้าจะต้องระมัดระวังมากขึ้น

ลูซีหยูใช้พลังจิตของเค้าอีกครั้งและเห็นว่าที่จุดศูนย์กลางของthe scroll เกิดฟองอากาศขึ้นภายในกระแสน้ำวนสีดำ โครงสร้างของพื้นที่ถูกทำให้มั่นคงโดยลูซีหยู เค้าจะต้องเติมเต็มพื้นที่ว่างด้วยวัสดุเพื่อตัดสินใจว่าโลกจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน

ลูซีหยูไปที่ดานฟ้าซึ่งเค้าเห็นสัญลักษณ์ประหลาด มันดูซับซ้อนมากเช่นพิมพ์เขียวของอาหารที่ระบุรายละเอียดตั้งแต่ภายนอกจนถึงการตกแต่งภายในอย่างชัดเจน หลังจากใช้เวลาไป2ถึง3วันกับมันลูซีหยูก็สามารถดึงมันออกมาได้ในที่สุด

ลูซีหยูได้รับวิธีการควยคุมการเปิดประตูมิติเมื่อเค้าได้รับสิทธิ?ในการควบคุมพื้นที่ภายในช่องว่างกระดาษ ด้วยตัวช่องว่างเองนั้นไม่มีความหมายอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำแนะนำสำหรับพลังจิตของเค้า ลูซีหยูต้องทำตามพิมพ์เขียวและฉีดพลังจิตของเค้าไปในอวกาศเพื่อเปิดประตูมิติ

ทุกอย่างยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าเค้าจะฉีดพลังจิตของเค้าแล้ว อย่างไรก็ตามพลังจิตของเค้าสามารถสัมผัสถึงการสั่นสะเทือนใต้เท้าของเค้าได้ ทันใดนั้นลูซีหยูก็สร้างโครงสร้างโดยใช้พลังจิตขจองเค้า เค้าเห็นหลุมดำขนาดยักษ์ใต้เท้าของเค้ากำลังขยายและแผ่นไปจนถึงท้องฟ้า

 

บูมมม!!

ในช่วงเวลานี้ทุกคนในโลกหยุดทำสิ่งที่พวกเค้ากำลังทำอยู่ ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ท้องฟ้าแปลี่ยนเป็นาสีดำและทิ้งโลกทั้งใบไว้กับความมืด

“เกิดอะไรขึ้น?”

“นี่คือสุริยุปราคา?”

“ทำไมอยู่ๆท้องฟ้าก็มืด?”

นักวิทยาศาตร์จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติต่างสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆก็เกิดสุริยุปราคา? เราไม่ได้คาดการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว!”

“มันไม่ใช่สุริยุปราคา!”

“มันป็นไปได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

“มันเหมือนแสงจากดวงอาทิตย์จะหายไป!”

กลุ่มคนในเครื่องแบบได้รวมตัวกัน พวกเค้ามาจากนาซาในบรรดาพวกเค้าเป็นคนผิวขาว คนเอเชียและชาวแอฟริกัน

มีคนสองสามคนพิมพ์บนแป้นพิมพ์ของพวกเค้าในขณะที่คนอื่นๆจ้องหน้าจอขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่า แสดงความคิดระหว่างกัน

“นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ บางอย่างดูดพลังงานไปจากดวงอาทิตย์”

“ดูดพลังงานไปจากดวงอาทิตย์? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? คุณบ้ารึปล่าว?”

“ฉันอยากจะพูดว่าฉันเป็นบ้าเหมือนกันแต่นี่คือสิ่งข้อมูลโชว์!”

“ที่ไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบ? มันเป็นฝีมือมนุษย์?”

“พื้นที่ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่พวกเราสามรถมั่นใจได้ว่ามันมีผลกระทบต่อทั้งโลกบางทีอาจจะทั้งระบบสุริยะ ฝีมือมนุษย์? ถ้ามันเกิดโดยมนุษย์เค้าก็น่าจะเป็นพระเจ้าแล้ว โอมายก็อตคนทั้งโลกสามารถถูกทำลายได้โดยคนคนนี้อย่างง่ายดาย!”

“มันอาจจะเกิดจากเอเลี่ยนก็ได้”

ในเวลาเดียวกันที่สถาบันดาราศาสตร์ที่เนเธอร์แลนด์และสถาบันดาราศาสตร์อื่นๆท่ะวโลกและภาคอวกาศก็ประหลาดใจด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันของท้องฟ้า พวกเค้ามองมันและเห็นว่าทั้งโลกถูกปกคลุมไปด้วยความมืด

การจราจรอยู่ในความวุ่นวายผู้คนบนท้องถนนกรีดร้องและก้มตัวลง

ความมืดทำให้พวกเค้ากลัว หลายคนเปิดไฟและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ใช้โทรศัพท์และกล้องสองตาพวกเค้าพยายามมองดูสุริยุปราคาแต่ไม่เห็นอะไรเลย

“ทำไมฉันไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้? มีปัญหาอะไรเนี่ย?”

“แสงสว่างจางลง!”

“อินเตอร์เน็ตก็ถูกตัด!”

คนที่ร้าสาเหตุที่แท้จริงของความมืดนั้นก็ถูกหยุดด้วยความตื่นตระหนก พลังงานจากดวงอาทิตย์ถูกดูดไปและโลกก็เข้าสู่ความมืด แต่ยังไม่มีใครรู้สาเหตุของมันและพวกเค้าไม่สามารถเดาได้ว่าทุกสิ่งจะกลับคืนสู่ปกติเมื่อไร หากสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อารยธรรมของมนุษย์จะล่มสลายในม่ากี่วันเผ่าพันธุ์มนุษย์จะตายลงในเวลาไม่ถึงเดือน

“พระเจ้า นี่คือจุดจบของโลกงั้นหรอ?”

“มันยังไม่หายไป เกิดอะไรขึ้นกันแน่? อะไรคือสาดหตุของมัน?พวกเราต้องหาคำตอบไม่งั้นเราจะสูญเสียดวงอาทิตย์ไป!”

“นี่เป็นการลงโทษจากพระเจ้ารึป่าว?’

ลูซีหยูซึ่งขณะนี้อยู่บนดาดฟ้าบนบ้านของเค้าพยายามปิดประตูทางเข้ามิติ เค้าต้องการที่จะเปิดประตูทางเข้าอย่างสมบูรณ์แต่ไมท่ได้คาดหวังว่าพลังความสามารถในการกลืนกินของทางเข้าจะทรงพลังขนาดนี้และทำให้ท้องฟ้าทั้งหมดมืดมิด

นี่เป็นมากกว่าสิ่งที่ลูซีหยูปรารถนาเมื่อเค้าพยายามดูดซับพลังงานจากโลกภายนอก หลังจากนั้นไม่กี่นาทีลูซีหยูก็ปิดประตูทางเข้าได้ในที่สุด โลกก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

ลูซีหยูอดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเค้า โชคดีที่เค้าตั้งประตูมิติเพื่อดูดซับพลังงานไปที่ท้องฟ้าหากเค้าตั้งไว้ที่พื้น เค้าเกรงว่าทั้งโลกจะถูกดูดกลืน

ลูซีหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเค้าเห็นสีของท้องฟ้าค่อยๆกลับเป็นปกติ ลูซีหยูไม่มีทางรู้การเปิดประตูมิติและปล่อยให้มันดูดแสงอาทิตย์ตามความต้องการของเค้าทำให้โลกทั้งใบอยู่ในความมืดเป็นเวลา10นาที สิ่งนี้ทำให้สถาบันของโลกต่างตกตะลึง ทุกคนตอนนี้คาดเดาว่าสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือพระเจ้ากำลังเล่นตลกกับพวกเค้ากัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด