GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 8
คุณครูได้พาไทรานมาถึงห้องพยาบาลทั้งห้องล้อมรอบด้วยนักเรียน
“เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ไทรานสู้เซี่ยปิงที่เป็นเพียงผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่3ไม่ได้เลยสักนิดแค่สองหมัดก็แพ้แล้ว”
“ไม่ได้ยินที่ครูพูดหรอ ที่ว่าเขาเลื่อนเป็นขั้นที่4แล้ว”
“แต่ไทรานเขาก็ยังเป็นถึงผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ขั้นที่5นะ”
“ต่อให้คนล่ะขั้นแต่วิชาของเจ้าเซี่ยปิงมันแกร่งกล้าจริงๆ ทุกคนรอบลานประลองยังตัวสั่นเลย”
“ได้ยินที่ครูพูดที่ว่าการที่ฝึกวิชาจนถึงขั้นสำเร็จวิชาจะทำให้สามารถก้าวข้ามความแตกต่างของขั้นได้”
“แต่ว่าการฝึกวิชาถึงขั้นนั้นได้มันยากมากเลยนะ ข้าไม่เคยได้ยินใครในโรงเรียนเราเคยทำได้เลยนะ”
“ไม่แน่เจ้านี่อาจจะแกล้งทำตัวอ่อนแอก็ได้ เพราะไม่อยากเป็นจุดเด่นของโรงเรียน”
นักเรียนทุกคนคิดว่าต่างหาเหตุผลมาตอบตัวเองว่าเป็นไปได้ยังไงรวมถึงเจียงยารุ
“นี่ นี่!”
เจียงยารุที่ตะลึงเพราะเตรียมตัวจะพาเซี่ยปิงไปโรงพยาบาลแต่ผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้าม
ทั้งที่เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่4 ทั้งทักษะหมัดห้าอสูร ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้” เหลียงเซียวซุยตกใจกับเซี่ยปิงที่ดูธรรมดาๆความรู้สึกเธอตอนนี้เหมือนโดนตบหน้าเพราะว่าเธอเคยไปดูถูกเขา
“ซวยแล้วพวกเรา”
เห็นว่าไทรานแพ้อย่างราบคาบเก๋าวันและหยางุยมีสีหน้าที่ซีดและอยากตบหน้าตัวเองหลายครั้งเพื่อให้ตื่นจากความฝัน
พวกเขาคิดถึงสัญญาที่พวกเขาต้องแก้ผ้าวิ่งรอบโรงเรียนสามรอบและคงจะกลายเป็นคนดังของโรงเรียนไปในทันที
หากไม่ทำตามก็มีความผิดตามกฎหมายอีกซึ่งพวกเขาอาจจะถูกตำรวจจับ
“หยางวุย เก๋าวัน!”
เซี่ยปิงพูดออกมาจากข้างบนลานประลอง“ข้าได้เป็นผู้ชนะการประลองทำตามสัญญาซะ”
ทันใดนั้นนักเรียนที่ลานประลองก็มองไปที่หยางวุยและเก๋าวันกันหมดด้วยความสงสัย
“เซี่ยปิงเราเป็นนักเรียนห้องเดียวกันเจ้ายกเลิกสัญญาเถอะมันเป็นเพียงแค่เรื่องหยอกล้อกันเท่านั้น” เก๋าวันพูดติดๆขัดๆ
เซี่ยปิงไม่เห็นด้วย “เจ้าเห็นเป็นเรื่องหยอกล้อแต่ข้าไม่ ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามข้าจะถือว่าเจ้าแหกกฎของสัญญา”
หยางวุยและเก๋าวันเปลี่ยนสีหน้าทันที ถ้าเซี่ยปิงไปแจ้งตำรวจบอกว่าพวกเขาแหกกฎสัญญา พวกเขาจะเสียเครดิตอย่างมากรวมถึงจะเข้ามหาลัยดีๆไม่ได้ด้วย
เพราะมหาลัยส่วนใหญ่จะสนใจเรื่องภาพลักษณ์พวกเขาจะต้องสืบประวัติของเด็กที่มาสมัครทุกคน
“เซี่ยปิง เจ้าใจเย็นก่อน” หยางวุยเอ่ย
เซี่ยปิงตอบ“จะให้ข้าใจเย็นได้ยังไงในเมื่อเจ้าเป็นคนท้าพนันข้าเอง”
“เจ้ามัน”
หยางวุยและเก๋าวันกำหมัดแน่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“เซี่ยปิงข้าว่าเจ้าเริ่มที่จะมากไปแล้วล่ะ เจ้าไม่รู้จักการให้อภัยบ้างหรอ” นักเรียนรอบๆทนดูไม่ได้จึงพูดออกมา
“นี้เป็นแค่เรื่องเล็กๆเองนะ”
“ทุกคนรู้สึกผิดแล้วล่ะอย่าทะเลาะกันเลย”
“ใช่ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
กลุ่มนักเรียนที่ช่วยกันโน้มน้าวเซี่ยปิง
“หุบปาก!”
เซี่ยปิงที่เริ่มหงุดหงิด“ใครอยากให้ข้ายกเลิกสัญญาก็ขึ้นมาประลองและชนะข้าให้ได้ ถ้าไม่กล้าก็ไสหัวไป”
เขาไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นอีกอย่างการที่เขาทำแบบนี้จะสามารถทำให้ได้มาซึ่งคะแนนความเกลียดชัง
“เจ้า เจ้า...”
เด็กนักเรียนที่โมโหแต่พูดอะไรไม่ออกแม้กระทั่งไทรานยังแพ้เขาแบบง่ายๆ พวกเราจะมีหวังอะไร
“เจ้านี้มันยโสโอหังยิ่งนัก”
“คิดว่าตัวเองชนะไทรานแล้วจะไร้เทียมทานหรอวะ”
“ปากดีจริงๆ”
นักเรียนหลายคนได้แค่พูดเสียงเบาๆด้วยความโมโห
ในตอนนี้ต่อให้สีหน้าเซี่ยปิงจะจริงจังแค่ไหนในใจเขามีกำลังมีความสุขอยู่เพราะว่าในหัวของเขามีเสียงของระบบดังขึ้นมาตลอด “คะแนนความเกลียดชัง+1 คะแนนความเกลียดชัง+1......”
ทว่าเขากลับไม่พอใจเพราะคิดว่าคะแนนมันยังไม่มากพอเขาจึงคิดหาทางเพิ่มคะแนนมากขึ้น เขามองไปที่หยางวุยและเก๋าวัน“พวกเจ้ารออะไรล่ะ ไปแก้ผ้าวิ่งรอบโรงเรียนเดี๋ยวนี้ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง มีปัญญาที่จะท้าพนันแต่พอแพ้แล้วก็ไม่ทำตาม ศักดิ์ศรีพวกเจ้าไม่มีเลยรึไง!”
บัดซบ!
หยางวุยและเก๋าวันโมโหมากๆจนอยากจะกัดเซี่ยปิงจนตายทั้งเป็น แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันจะเป็นการละเมิดกฎสัญญา
“มันจะเกินไปละนะเซี่ยปิง”
“เจ้าไม่มีความดีในตัวเลยรึ”
“ข้าล่ะคิดผิดจริงๆที่คิดว่าไทรานคือคนที่ชั่วร้ายที่สุดแล้ว เจ้ามันชั่วร้ายยิ่งซะกว่า”
นักเรียนทุกคนต่างโมโหและจ้องไปที่เซี่ยปิงด้วยสาตยาอาฆาต
“เฮ้อระบบนี้มันได้คะแนนง่ายจริงๆสงสัยข้าต้องทำบ่อยๆแล้ว”เซี่ยปิงภูมิใจในตัวเองระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงของระบบที่ค่อยๆแจ้งคะแนนมาเรื่อยๆทำให้เขาลืมความอาฆาตรอบๆตัวไปเลย