GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 7
“คุณครูครับ เรามาเริ่มการประลองเลยดีกว่า”
ไทรานหันกลับไปใส่ชุดประลองสีขาวพร้อมพูดกับคุณครูที่มาเป็นกรรมการ
สาเหตุที่ต้องมีกรรมการก็เพื่อป้องกันเหตุที่รุนแรงเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิตได้
คุณครูพยักหน้า“เริ่มการประลองได้ แต่ต้องจำไว้ว่าห้ามทำอะไรที่เกินกว่าเหตุไม่อย่างนั้นครูจะเข้าไปหยุดการประลองทันที” เขามองด้วยสายตาที่ต้องการจะเตือนไทราน
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะใช้พลังให้น้อยที่สุด” ไทรานพูดพร้อมอมยิ้ม
จากนั้นคุณครูก็กระโดดลงจากลานประลองและประกาศเริ่มการประลอง
“เซี่ยปิงข้าจะให้บทเรียนแก่เจ้าว่าอย่าหาเรื่องคนอื่นมั่วซั้วควรดูความสามารถของตัวเองสะบ้าง”
ไทรานตะโกนเสียงดังและตั้งท่าเตรียมที่จะพุ่งไปหาเซี่ยปิง ออร่าที่เขาปล่อยออกมาคล้ายคลึงกับหมีทมิฬมาก
ทักษะระดับกลางหมัดอัสนีพิฆาต!
วิชานี้สามารถทำให้คนปกติธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกฝนร่างกายเละเป็นเสี่ยงๆได้ทันที
“ทรงพลัง หมัดที่สามารถทะลวงได้แม้กระทั่งเหล็กกล้า ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 6 ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะรับหมัดนี้ได้”
“ใช่เลย วิชาหมัดอัสนีพิฆาตไม่ใช่แค่ทรงพลังอย่างเดียวนะแต่ยังรวดเร็วดั่งอัสนีทั้งสองอย่างนี้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว”
“ไม่นึกว่าเขาจะใช้วิชานี้ตั้งแต่เริ่มการประลอง กะจะไม่ให้อีกฝ่ายโต้ตอบเลยหรอโหดร้ายจริงๆ”
นักเรียนรอบลานประลองพูดคุยกันอย่างเสียงดัง
“ช้าเกินไป”
ต่อให้คนอื่นๆจะมองว่าวิชานี้เป็นวิชาที่เร็วมากแต่สายตาของเซี่ยปิงตอนนี้เฉียบคมกว่าคนปกติหลายเท่ามากจึงไม่คิดว่าวิชานี้เร็วแต่อย่างใด
ปัง!
หมัดห้าอสูร-ราชันเสือออกมา
ในพริบตานั่น ออร่าของเซี่ยปิงก็เปลี่ยนไปกลายเป็นราชันเสือ
นักเรียนที่อยู่รอบลานประลองต่างก็รู้สึกได้ถึงออร่าราชันเสือ ร่างกายของพวกเขาอยู่ๆก็เกิดอาการสั่น
“เป็นไปไม่ได้ ออร่าแบบนี้หมัดห้าอสูรหรอ!” คุณครูแสดงสีหน้าไม่น่าเชื่อ
“อะไรกัน” ไทรานแสดงความตกใจที่ได้ออร่าของเซี่ยปิงที่เป็นราชันเสือ
ปัง!
กำปั้นปะทะกำปั้นพลังฉีหลั่งไหลออกมาโดยรอบเสียงดังสนั่นเหมือนกับเสียงระเบิด
ช่วงนี้เองที่ไทรานรู้สึกว่าตัวของเขาถูกผลักไปเรื่อยๆจากกำปั้นของเซี่ยปิง
“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่มีทางแพ้ใครถ้าเป็นเรื่องของพละกำลัง” ไทรานตะโกนอย่างเสียงดังหน้าผากของเขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงเส้นเลือดที่ขึ้นมาพร้อมกับง้างหมัดอีกข้าง
“สายไปแล้ว”
พลังของเซี่ยปิงกลบอัสนีพิฆาตจนหายไปจากนั้นเขาก็ง้างหมัดอีกครั้ง “หมัดราชันเสือ!!”
ปัง!
หมัดที่ทรงพลังและดุร้ายพร้อมทั้งรวดเร็วซัดไปเต็มอกของไทรานดั่งเสือร้ายที่กระโจนเข้าไปขย้ำเหยื่อ เขารู้สึกได้ทันทีว่าซี่โครงของเขาหักไปประมาณ7-8ซี่
“เป็นไปไม่ได้” ไทรานกระอักเลือดออกมาและเริ่มทรงตัวไม่ได้
“เจ้าเป็นแค่ผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่3 ขยะๆจะมาเอาชนะข้าได้อย่างไร ข้าไทรานผู้นี้?” ไทรานที่รับความจริงไม่ได้พยายามทรงตัวให้อยู่และเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย
“ไปซะเจ้าแพ้แล้ว”
ปัง!เซี่ยปิงเตะไปที่ท้องของเขาทำให้ร่างกายเขาปลิวออกไปจากลานประลอง
“อ้ากก!”
ไทรานตะโกนออกมาเสียงดังท่ามกลางนักเรียนที่มองด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อล้อมรอบเขาอยู่ เขาในตอนนี้รู้สึกอับอายเหลือเกิน
“เจ้าไทราน”
เซี่ยปิงยืนอยุ่บนลานประลองและมองลงมา“อยากจะสั่งสอนวิทยายุทธข้าหรือ? อยากส่งข้าเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นหรือ? ดูเจ้าตอนนี้สิใครเป็นขยะกันแน่ ทำตามคำพูดด้วยล่ะว่าจะไม่มายุ่งกับข้าอีก”
“เจ้า.. เจ้ามัน”
ไทรานพูดไม่ออกพร้อมทั้งรู้สึกอับอายขายขี้หน้าเขาพยายามที่จะฝืนตัวเองแต่ว่าทนพิษความเจ็บปวดไม่ได้จึงสลบไปในทันที
“ส่งเขาไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้!”คุณครูบอกให้นักเรียนช่วยยกไทรานขึ้นไปบนเปลที่เขาได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
จากนั้นคุณครูก็มองไปที่เซี่ยปิงด้วยสายตาเป็นประกาย“การประลองนี้เจ้าชนะแต่การที่เจ้าสามารถใช้หมัดห้าอสูรได้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยจริงๆ อีกอย่างระดับเจ้าตอนนี้คงเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่4แน่ๆ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา”
การฝึกวิทยายุทธก็มีระดับของมันเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นขั้นเริ่มต้น ขั้นธรรมดา ขั้นชำนาญ และขั้นสำเร็จวิชาซึ่งในกรณีนี้วิชาหมัดห้าอสูรของเซี่ยปิงได้อยู่ในขั้นสำเร็จวิชาซึ่งเป็นขั้นสูงสุด
การที่จะไปถึงขั้นสำเร็จวิชานั้นจะต้องเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์และขยันฝึกฝนอย่างมาก
“โชคช่วยน่ะครับ” เซี่ยปิงถ่อมตัว
คุณครูยิ้มออกมา“โชคช่วยหรอ ศิลปะการต่อสู้มันไม่ต้องพึ่งโชคหรอกนะ ขยันเข้าไว้ล่ะครูจะรอดูการพัฒนาของเจ้าในอนาคต”
พูดเสร็จคุณครูก็หันหลังกลับเพื่อพาไทรานไปห้องพยาบาล