GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 39

หมัด!

โจวไท่หนานระเบิดพลังที่แข็งแกร่งออกมา  ทำให้ชั้นบรรยากาศผันผวน พลังฉีของเขาหนักแน่นเหมือนกับภูเขา พลังนี้มีอำนาจเหนือกว่าพลังของไทรานอย่างมาก

แม้แต่นักเรียนที่อยู่รอบลานประลองก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงของหมัดนี้

“น่ากลัวจริงๆ นี่มันคือหมัดห้าภูเขาของพี่ใหญ่ที่สามารถทำให้ควายทั้งตัวกลายเป็นเนื้อชิ้นเล็กๆย่อยๆได้”นักเรียนคนหนึ่งกำลังชม“ข้าได้ยินมาว่าพลังของไทรานทั้งดุร้ายและมีอำนาจแต่ว่าถ้าเปรียบกับพลังของพี่ใหญ่โจวละก็ ไทรานดูเป็นเด็กไปเลย”

“เจ้านั่นซวยแล้ว นี่มันเป็นหมัดที่มีสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามกลัวจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว” นักเรียนบางคนส่ายหัวและมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่สมเพช

“อยากจะลองดีกับพี่ใหญ่โจว ผลลัพธ์มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ”

“นี่คือช่องว่างระหว่างอัจฉริยะและคนธรรมดา”

พวกนักเรียนที่กำลังเยาะเย้ยเซี่ยปิง ไม่มีใครคิดว่าเซี่ยปิงนั้นจะชนะได้ ผลลัพธ์อย่างเดียวที่จะเกิดคือถูกอัดจนเข้าโรงพยาบาลและไม่รู้ว่าจะต้องพักรักษาตัวนานแค่ไหน

“โจวไท่หนาน เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก เจ้ายังไม่เข้าใจแก่นแท้ของการเป็นนักวิทยายุทธ” เซี่ยปิงถอนหายใจ พร้อมกับใช้พลังวิญญาณของเขาที่สามารถสัมผัสทุกอย่างได้ในระยะ20เมตร เขารับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกอย่างของโจวไท่หนาน

ถึงแม้ว่าการโจมตีของโจวไท่หนานจะสมบูรณ์แบบและแข็งแกร่งในสายตาคนอื่น แต่ในสายตาเซี่ยปิงที่มีพลังวิญญาณมันดูเหมือนกับว่าเป็นพลังเด็กเล่นเท่านั้นเอง

ที่จริงเรื่องนี้นั้นมันไม่แปลกเลย เซี่ยปิงในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมากมายหลังจากที่เขาได้กลับมาจากเมืองพระจันทร์สีดำ เขาได้ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง เขาได้ปลิดชีวิตผู้คนมากมายและที่สำคัญที่สุดเขาสามารถฝึกการใช้พลังวิญญาณจนสำเร็จ ทั้งหมดนี้ไม่มีนักเรียนปกติธรรมดาคนไหนจะเปรียบเทียบได้

ปัง!

หมัดมังกรแดง!

เซี่ยปิงกำหมัดแน่น หลังจากที่เสียงปังดังทันใดนั้นอากาศรอบๆก็รวมตัวรอบๆร่างกายเขา พลังฉีของเขาไหลออกมาเป็นภาพของมังกรแดง ออร่าของเขาทั้งสุดยอด ดุดันและน่ากลัว

นักเรียนทุกคนรอบลานประลองรู้สึกได้ถึงเลือดที่พุ่งพล่านและหัวใจที่เต้นเร็วของตัวเอง พวกเขาตะลึงกับออร่าของเซี่ยปิง

“นี่มันคืออะไร?!”

โจวไท่หนานมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาคิดว่าหมัดนี้ของเซี่ยปิงมีพลังที่รุนแรงและเป็นหมัดที่หมัดห้าภูเขาของเขาแพ้ทางอย่างมาก ทำให้เขาไม่สามารถป้องกันหมัดนี้ได้

อีกอย่างคือหมัดนี้มันน่ากลัวเกินไป เป็นเหมือนกับมังกรแดงที่คำรามเสียงดังจนไปถึงสวรรค์และนรก พลังอำนาจของมันยิ่งใหญ่จริงๆทำให้เลือดเดือดพุ่งพล่าน ไม่ใช่หมัดที่จะต่อกรได้เลย

ด้วยเสียงปัง! โจวไท่หนานไม่สามารถต่อกรหมัดนี้ได้ หน้าอกของเขาโดนหมัดนี้อัดเข้าไปเต็มๆ มันรุนแรงเหมือนกับอุกกาบาตที่พุ่งเข้าใส่เลย

“อ้า!!!”

เขาส่งเสียงที่น่าสมเพชออกมา พร้อมทั้งเลือดที่ไหลออกมาจากปาก ซี่โครงของเขาหักไป3-4ซี่  ร่างกายของเขาเปรียบเสมือนลูกบอลยางที่ลอยไปกลางอากาศ เซี่ยปิงรีบกระโดดตามทันที

เขาเปลี่ยนรูปแบบเป็นกระเรียนขาวที่มีพลังกระโดดสูง กระโดดขึ้นไปทันทีและเหยียบไปที่อกของโจวไท่หนานที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ

ปัง เหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงตรงพื้นดิน ร่างของโจวไท่หนานถูกเหยียบจากบนอากาศทำให้ตัวเขาพุ่งลงใส่ลานประลองเหล็กทันทีด้วยความเร็วสูง

ลานประลองเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นทันทีจนทำให้นักเรียนหลายคนที่กำลังดูอยู่ต้องตกจากเก้าอี้ พื้นของลานประลองที่เป็นเหล็กนั้นก็แตกผ่าเป็นสองซีกและส่งเสียงคาช่าคาช่าออกมา

“นี่คือหมัดห้าอสูรใช่ไหม?”

กลุ่มนักเรียนที่จ้องมองด้วยความกลัว พวกเขาเคยศึกษาทักษะหมัดห้าอสูร มันเป็นแค่ทักษะระดับธรรมดาของกำลังภายใน แต่ว่าใครจะไปคาดคิดว่าพลังทำลายมันจะรุนแรงขนาดนี้

หมัดที่อัดเข้าเหมือนกับอุกกาบาตและคำรามเหมือนกับมังกรแดง หมัดห้าภูเขาที่มีชื่อเสียงเรื่องพลังป้องกันกลับต้านทานไม่ได้ทำให้หมัดของเซี่ยปิงทะลวงฝ่าการป้องกันไปได้

หยางวุยและเก๋าวันกลัวมากจนฉี่แตก เซี่ยปิงมันไปแข็งแกร่งขนาดนี้ตอนไหน แค่อาทิตย์เดียวที่ไม่ได้เจอกันพลังของทวีคูณขึ้นมาก ออร่าของเขาที่เหมือนกับมังกรแดงมันน่ากลัวเกินไปจริงๆ

นักเรียนมัธยมปลายชั้นปีที่ 3 ทุกคนต่างก็ตกใจ นี่มันไม่ใช่เซี่ยปิงที่พวกเขาเคยรู้จัก นี่มันเหมือนกับนักวิทยายุทธระดับปรมาจารย์อย่างไรอย่างนั้น

คุณครูที่เป็นกรรมการก็ตะลึงเหมือนกัน นักเรียนที่เขาคิดว่าจิ๊บจ๊อยมาตลอดกลับมีทักษะที่น่ากลัวแบบนี้รวมถึงขนาดที่ทำให้ลานประลองแตกเป็นสองซีกได้

“เจ้า เจ้า!”

โจวไท่หนานที่กำลังดิ้นรน เขามองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่ไม่เชื่อตัวเอง ร่างกายเขาตอนนี้มีอาการบาดเจ็บมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซี่โครงที่หักหลายซี่ และอวัยวะภายในที่โดนแรงอัดกระแทก

เขาไม่อยากเชื่อว่าการที่เขาเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 6 จะแพ้ในการดวลหมัดซึ่งๆหน้ากับคนที่ด้อยกว่า พละกำลังนี่มันคืออะไร?!

“พลังแบบนี้ เจ้าไม่ใช่ผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 4 แล้วอย่างแน่นอน เจ้าเลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5 ตอนไหน?!”โจวไท่หนานที่จ้องมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่อาฆาตและได้แต่กำหมัดตัวเองอย่างแน่น

“ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าเจ้ายังไม่เข้าใจแก่นแท้ของการเป็นนักวิยายุทธ”

เซี่ยปิงไขว้มือทั้งสองข้างไว้ข้างหลัง“การที่เจ้าได้ฝึกฝนกับยอดฝีมือระดับเซียนจนเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 6 ออกไปตามล่าสัตว์ปีศาจ ได้รับประสบการณ์ฆ่าฟันมากมาย ทุกอย่างนี้มันทำให้เจ้ายิ่งใหญ่มากนักหรอ?”

“โจวไท่หนานเจ้าก็เหมือนกับกบที่อยู่ใต้บ่อน้ำนั้นแหละ”

“โลกนี้มันกว้างใหญ่กว่าที่เจ้าคิดไว้เยอะ”

ได้ยินเซี่ยปิงที่พูดยอกย้อนเขา โจวไท่หนานก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้คำพูดพวกนี้เป็นคำพูดที่เขาพูดสอนเซี่ยปิงแต่เขากลับเป็นฝ่ายที่โดนสั่งสอนกลับแบบนี้ มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างมาก

เดิมทีเขาคิดว่าเขาคงจะเอาชนะเซี่ยปิงได้อย่างง่ายดาย แต่เหตุการณ์จริงกลับไม่ใช่อย่างนั้น เขาพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยปิงยังไม่พอเขายังโดนดูถูกอีก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเขาเป็นเหมือนกับขยะ

นอกจากเขาจะไม่มีจุดยืนในการที่จะสั่งสอนเซี่ยปิงแล้วเขายังไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะไปดูถูกอีกด้วย

“เซี่ยปิง ข้าขอตาย!”

โจวไท่หนานสติแตก พลังฉีในตัวเขากำลังเดือดระอุ ปัง เขาวิ่งเข้าใส่เซี่ยปิงอย่างบ้าคลั่งและไม่สนใจอะไร

ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตเขาก็จะขอฉีกเซี่ยปิงเป็นชิ้นๆ

“อย่าไปยุ่งกับข้า ไสหัวไป!”

เซี่ยปิงใช้ฝ่ามือที่ทรงพลังเล็งไปที่ใบหน้าของโจวไท่หนานอย่างไม่ลังเล

ปัง! ร่างกายของโจวไท่หนานหมุนขึ้นไปบนอากาศประมาณ5-6รอบ ฟันหน้าของเขาหักไปสามซี่และใบหน้าของเขาบวมเป่งเต็มไปด้วยเลือด