GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 37
“การประลองนัดแรก ข้าต้องเจอกับโจวไท่หนานหรอ?!”
เซี่ยปิงเห็นตารางการประลอง เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องเจอกับโจวไท่หนานแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันตั้งแต่นัดแรก
ตารางการประลองของโรงเรียนนั้นเป็นเหมือนกับระบบของการแข่งขันเมืองเทียนซุย เป็นการตัดสินแพ้ชนะในครั้งเดียว
การประลองครั้งนี้มีผู้ร่วมประลองอยู่ 256คน รอบแรกก็จะมี256คนต่อมาก็ 128,64,32,16,8,รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศตามลำดับ
การที่จะได้เป็นตัวแทนโรงเรียนต้องเข้ารอบ8คนให้ได้
ทว่าในรายชื่อนักเรียนกว่า200คน เขากลับบังเอิญเจอกกับโจวไท่หนานในรอบแรก ช่างเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงๆ
“เซี่ยปิงต้องเจอกับโจวไท่หนานในรอบแรกเลยหรอ? ช่างโชคร้ายยิ่งนักที่จะต้องตกรอบแรก”
“แค่ตกรอบแรกคงจะไม่เป็นไรหรอก แต่เมื่อวันศุกร์ที่โจวไท่หนานบอกจะสั่งสอนเซี่ยปิง ตอนนี้เขาได้โอกาสแล้ว”
“ใช่แล้วล่ะ การประลองนี้เซี่ยปิงคงจะต้องบาดเจ็บสาหัสจนต้องส่งเข้าห้องฉุกเฉินแน่ๆ”
“นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่สองคนนี้ต้องมาเจอกันรอบแรก”
“ข้าว่าไม่บังเอิญ มีข่าวมาว่าโจวไท่หนานมีเส้นสายอยู่ในโรงเรียน เขาคงจะบอกให้ทางโรงเรียนจัดตารางการประลองของเขา ผลลัพธ์มันถึงเป็นแบบนี้”
“ข้าเห็นด้วย เรื่องนี้สำหรับเขามันคงจะง่ายดายมาก”
เด็กนักเรียนทุกคนกำลังพูดคุยกันพร้อมมองหน้าเซี่ยปิงด้วยความสงสาร พวกเขาคิดว่าผิดที่เจ้านี่เองที่กล้าไปยั่วยุโจวไท่หนาน ช่างโชคร้ายเสียจริง
“กรรมตามสนองแล้วล่ะ”
เก๋าวันและหยางวุยที่มองหน้ากันทำหน้าดีใจ ในที่สุดก็จะมีคนมาจัดการกับเจ้าเซี่ยปิงที่อวดดีสักที นี่มันเป็นบัญชาของพระเจ้าแน่ๆ
พระเจ้าต้องรู้แน่ๆว่าพวกเขาโดนรังแกโดยเซี่ยปิงรวมถึงต้องโดนกักกัน ชื่อเสียงที่มีมาป่นปี้จนหมด เมื่อเช้าตอนเข้ามาโรงเรียนก็โดนพวกป้าๆปาไข่ใส่อีก
มันเป็นเหมือนฝันร้าย ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากเกิดเรื่องต่างๆขนาดนี้พวกเขาจะต้องเกลียดเซี่ยปิง พวกเขาได้แต่หวังให้เจ้านี่พบเจอกับความอัปยศอดสูเหมือนกับที่พวกเขาเคยรู้สึก
นี่แหละดี พวกเขามองโจวไท่หนานที่เป็นเหมือนราชาของโรงเรียนนี้ คราวนี้เซี่ยปิงมันจะต้องหลาบจำ เก๋าวันและหยางวุยตอนนี้รู้สึกถึงความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
พวกเขาคิดว่าหลังจากที่เซี่ยปิงถูกส่งเข้าโรงพยาบาล พวกเขาจะไปเยี่ยมและไปซ้ำเติมเขา รวมถึงจะไปเอาขี้หมาไปโปรยใส่ร่างกายเขาทำให้เขารู้สึกแย่มากกว่าเดิม
หล่งง หล่งง หล่งง ~~~
หลังจากที่โรงเรียนประกาศตารางการประลองทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกสีดำขับเข้ามาพร้อมกับกล่องเหล็กขนาดใหญ่ พวกเขาวางกล่องเหล็กนั้นลงกับพื้น
คาช่าคาช่า ทุกด้านของกล่องจะมีบุคลากรที่ต้องกดปุ่ม หลังจากกดปุ่มกล่องนี้ก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นลานประลองขนาดเล็กที่มีขนาด 10เมตร
นอกจากจะมีลานประลองเหล็กที่มีขนาดเล็กแล้วก็ยังมีที่นั่งเป็นชั้นๆที่จุคนดูได้ประมาณ2-3ร้อยคน รอบๆที่นั่งมีกล้องHDที่ครอบคลุมทุกด้าน
ผู้คนที่มองไม่เห็นการประลองจะสามารถใช้กล้องHD นี้ในการดูได้360องศา เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่เหมือนกัน
ลานประลองเหล็กนี้เป็นการเช่ามาจากบริษัทอื่น ซึ่งโรงเรียนเช่ามาทั้งหมด128ลานเพื่อการประลองของวันนี้ สนามเด็กเล่นของโรงเรียนที่มีพื้นที่เยอะสามารถรองรับลานพวกนี้ได้สบาย
ภายใน30นาที ลานประลองทุกลานก็ได้เตรียมการจนเสร็จสิ้นโดยบุคลากรของโรงเรียน นี่มันเป็นการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรที่สิ้นเปลืองเลย
“ผู้ร่วมการประลองโปรดขึ้นลานประลอง การประลองจะเริ่มในอีก15นาที ถ้ามาไม่ทันจะถูกปรับแพ้อัตโนมัติ”เสียงประกาศของโรงเรียนผ่านวิทยุ
ซู่ ซู่ ซู่!!!
ได้ยินแบบนี้นักเรียนทุกคนและผู้ร่วมการประลองก็เริ่มที่จะเดินไปที่ลานหมายเลขของตัวเอง หมายเลขแต่ละลานประลองจะเห็นได้ชัดมาก
“ข้าประลองที่ลานประลองหมายเลข88 เป็นเลขที่ฤกษ์งามยามดีจริงๆ” เซี่ยปิงที่มองดูหมายเลขลานประลองของตัวเอง และเดินไปเพื่อขึ้นลานประลองที่88
เข้าพบทันทีว่ามีนักเรียนมากมายมารวมตัวกันที่ลานประลองหมายเลข88นี้ ไม่ใช่แค่นักเรียนชั้นปีสามเท่านั้นแต่เป็นนักเรียนจากทั้งโรงเรียนที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนผู้หญิง
พวกเขาล้อมรอบลานประลองนี้จนรัดแน่นและอึดอัดระหว่างที่ลานประลองคู่อื่นกลับมีคนดูแค่ไม่กี่คน ช่างน่าเศร้า
แต่มันก็ไม่แปลกเพราะว่าศัตรูของเซี่ยปิง โจวไท่หนานเป็นคนดังของโรงเรียนที่มีสาวๆตามชื่นชอบมากมาย จึงทำให้ลานประลองนี้ดึงดูดคนมาดูทั้งโรงเรียน
รวมถึงเซี่ยปิงที่มีข่าวกับเจียงยารุทำให้การต่อสู้ของพวกเขาครั้งนี้เป็นเหมือนกับสงครามความรัก การประลองที่เต็มด้วยอรรถรสขนาดนี้จึงไม่แปลกที่การประลองอื่นจะไม่มีคนดู
นักเรียนหลายคนที่มาต้องการจะมาดูตำนานของพวกสถุน เสือผู้หญิง ที่ทำให้นางฟ้าของโรงเรียนท้อง ว่าจะเป็นคนที่มีดีอะไร
“ว้ายย โจวไท่หนานมาแล้ว” นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่กรี๊ดพูดออกมาทันทีทำให้นักเรียนหญิงคนอื่นกรี๊ดตาม
หนุ่มที่ใส่สูทสีขาวกำลังเดินมาอย่างงดงาม เขามีหน้าตาที่หล่อเหลา ผมของเขาถูกเซ็ทอย่างเรียบร้อย ตอนนี้เขาเปรียบเสมือนกับอัศวินขี่ม้าขาว
ชายหนุ่มคนนี้คือ โจวไท่หนาน
ข้างหลังของเขามีพรรคพวกของเขาที่เดินตามมาด้วยแต่ว่าเทียบกับพรรพวกของเขาแล้วมันเหมือนกับการที่หงห์ตัวหนึ่งไปหลงอยู่ในฝูงไก่ มันยิ่งทำให้เขาดูโดดเด่นและเกรียงไกรมากขึ้นไปอีก
“หลีกทาง”
โจวไท่หนานพูดใส่กลุ่มนักเรียนที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างเย็นชา ทำให้พวกเขารีบหลบทางให้จนมีทางเดินไปหน้าลานประลอง
นักเรียนพวกนี้ชื่นชมและนับถือเขาที่เป็นเหมือนกับราชาของโรงเรียนนี้ ไม่มีนักเรียนธรรมดาๆคนไหนที่สามารถจะเปรียบเทียบตัวเองกับเขาได้ ในขณะเดียวกันนักเรียนผู้หญิงมากมายก็ยังกรี๊ดอย่างต่อเนื่อง
ปัง! โจวไท่หนานกระโดดอย่างเบาๆ ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน ทิ้งรอยเท้าของเขาที่ปูนแตกออกจากกันจนมีเสียง เป็นพลังกระโดดที่น่ากลัว เขากระโดดขึ้นลานประลองที่สูงประมาณ2-3เมตร
เท้าเขาแตะกับพื้นลานประลองอย่างช้าๆ มันเหมือนกับว่าตัวเขาเบาราวกับขนนก