GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 3
“โอ้ว! หยางวุยมากินข้าวเหมือนกันหรอ บังเอิญจริงๆ” เซี่ยปิงทักทาย
หยางวุยกัดฟันแล้วพูดว่า“มันไม่ได้บังเอิญ ข้ามาตามหาเจ้าโดยเฉพาะ”
“ตามหาข้าโดยเฉพาะ? ทำไมหรอ” เซี่ยปิงพูดด้วยสายตาที่ใสซื่อ
ท่าทีที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ทำให้หยางวุยเริ่มโมโห “อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เจ้าหักหน้าข้าต่อหน้าคนทั้งห้องเรียน”
“อ่อเรื่องวันนี้น่ะหรอ” เซี่ยปิงนึกขึ้นได้ “คือเจ้าไม่ต้องมาขอโทษข้าหรอก ข้าไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น” เขาพูดพร้อมกับแกว่งมือแสดงความไม่ถือสา
“ใครจะมาขอโทษเจ้า เจ้าอย่าแม้แต่จะคิด!” สีหน้าหยางวุยเริ่มแดง
อย่าว่าแต่จะขอโทษเลย ตัวมันเองยังคิดว่าคนอื่นจะต้องขอโทษมัน เจ้านี่มันต้องเสียสติจริงๆ
“ไม่ได้มาขอโทษ แล้วเจ้ามาชวนข้ากินข้าวด้วยกันหรอ” เซี่ยปิงกระพริบตา
หยางวุยโกรธมากจนพูดอะไรไม่ออก
“หุบปาก!”
เสียงแทรกขึ้นมาของชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ได้รับฉายาว่า “หมีทมิฬ”
เขาจ้องมองเซี่ยปิง “คิดว่าทำตัวไม่รู้เรื่องจะทำให้เรื่องที่เจ้าทำผิดมันหายไปหรอ พ่อแม่เจ้าไม่สั่งสอนการมีมารยาทหรอถึงได้หักหน้าคนอื่นเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย”คำพูดของเขาหนักแน่นมาก
“18 ปีที่ใช้ชีวิตมาพ่อแม่ของข้าแค่สอนว่าใครร้ายมาเราต้องร้ายกลับ10เท่า”เซี่ยปิงจ้องมองชายคนนั้น
ชายคนนั้นกำหมัด“น่าสนใจจริงๆ ข้าต้องชมว่าเจ้าก็มีความกล้าหาญที่กล้าโต้ตอบข้าคนนี้แต่ว่าการที่เจ้าจะปากเก่งเจ้าต้องมีพละกำลังในการรับมือกับผลลัพธ์ที่ตามมาด้วย”
“เราใช้วิธีการแก้ปัญหานี้แบบนักวิทยายุทธ์ดีกว่า เจ้ากับข้ามาดวลกันที่ลานประลองมังกรบินถ้าเจ้าชนะข้าจะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นและไม่มาก่อปัญหาให้เจ้าอีก เจ้าว่ายังไง?”
ประลอง?!
เซี่ยปิงตาสว่างขึ้นมาเพราะว่าในโรงเรียนแห่งนี้มีกฎเหล็กที่ต้องทำตามนั้นก็คือหากนักเรียนจะต่อสู้กันต้องไปต่อสู้ที่ลานประลองมังกรบินเท่านั้น นักเรียนที่ไม่ทำตามจะต้องโดนไล่ออกสถานเดียว
สาเหตุที่ชายคนนี้ไม่กล้าทำอะไรเซี่ยปิงเป็นเพราะว่ามีกฎนี้อยู่ เขาทำได้แค่ท้าประลองกับเซี่ยปิงเท่านั้น
ยิ่งเวลาผ่านไปก็เริ่มเป็นจุดเด่นผู้คนเริ่มจ้องมองมาที่บริเวณที่พวกเซี่ยปิงกำลังคุยกัน
“ดูเร็วนั่น! มีคนจะประลองกันมีอะไรดูแล้วล่ะวันนี้”
“คนที่สูงใหญ่นั้นมันหมีทมิฬไทรานไม่ใช่หรอ? ใครที่โชคร้ายขนาดที่ไปมีเรื่องกับเขากัน?”
“หมีทมิฬไทราน!? นั่นมันนักเรียนชั้นปีที่3 ที่มีพลังกายาสวรรค์และเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่5 นี่”
“ใช่คนสุดท้ายที่มีเรื่องกับเขาต้องประสบเหตุกระดูกซี่โครงหัก5-6แท่งเลยนี่ ต้องพักรักษาตัวถึงสองเดือน”
นักเรียนมากมายพูดกันเสียงดังจนเซี่ยปิงได้ยินทำให้หน้าเขาเริ่มซืด
“เจ้ากลัวหรอ!?”
ไทรานแสหะยิ้มและจ้องมองไปที่เขา“ถ้าเจ้ายอมคุกเข่าและขอโทษข้าตอนนี้ ครั้งนี้ข้าจะให้อภัยเจ้า ถ้าเจ้าไม่ยอมทำข้าจะทำให้เจ้าลิ้มรสความเจ็บปวดไปอีก3เดือนเลยแหละ”
“กลัว?” เซี่ยปิงยิ้ม “ข้าจะไปกลัวไอ้โง่ที่แค่ตัวใหญ่ทำไม”
“ไอ้โง่ที่แค่ตัวใหญ่?”
นักเรียนทุกคนตกใจกับพูดของเซี่ยปิงรวมถึงหยางวุยด้วยที่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดอย่างนั้นกับชายที่มีพลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5 และเป็นผู้ใช้พลังกายาสวรรค์
“เซี่ยปิง!”
ไทรานโมโหอย่างมากตาของเขาเริ่มเป็นสีแดงไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาอย่างนี้มาก่อนหรือต่อให้มีคนๆนั้นก็ต้องเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้วตอนนี้
“คำพูดที่เจ้ารับปากต่อการประลองหยางวุยจะรับปากเหมือนเจ้ารึเปล่าว่าจะไม่ยุ่งกับข้าถ้าข้าชนะ” เซี่ยปิงพูดขึ้นมา
หยางวุยรีบตอบกลับไปทันที“ข้าและท่านพี่ไทรานจะทำตามคำพูดของเจ้า ว่าถ้าเจ้าชนะพวกข้าจะไม่มายุ่งกับเจ้าอีก”
“ก็ดี งั้นข้ารับคำท้า เมื่อไหร่ดีล่ะ?” เซี่ยปิงพูดด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยได้สนใจอาจเป็นเพราะว่าเขาอยากจะได้คะแนนความเกลียดชังเพิ่มขึ้นมาตอนนี้
“ต้องอย่างนี้สิ”
ไทรานมองไปที่เซี่ยปิง“งั้น 4.30 วันนี้หลังเลิกเรียนเจอที่ลานประลอง หวังว่าเจ้าจะไม่วิ่งหนีหางจุกตูดไปก่อนนะไม่อย่างนั้นมันจะทำให้ข้าโมโหเอามากๆและผลลัพธ์ที่ตามมาจะร้ายแรงมาก”
จากนั้นเขาก็จ้องมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่แน่วแน่ก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงอาหารพร้อมกับหยางวุยและพวก