GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 27
หลังจากได้ยินเสียงเจิ้งเฉิงก็ไม่ได้หันไปแต่อย่างใด เขาเอามือไขว้หลัง“มีความคืบหน้าอะไร?”
“ขอแจ้งความคืบหน้าครับ”
ซ่งฮุ่ยพูดทันที”พวกเรายังไม่สามารถหาตัวเป้าหมายได้ แต่มีคนรายงานว่าพวกเราเสียคนไป5-6คนโดยผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 4 พวกเขาถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ
“อะไรนะ?”เจิ้งเฉิงตกใจ“โดนฆาตกรรมอย่างทารุณ?อธิบายมาสิ”
ซ่งฮุ่ยคิดก่อนที่จะพูด“คนพวกนี้ตายอย่างกระจัดกระจาย ในตึกร้างบ้าง ในซอยบ้าง มันเป็นการลอบสังหารที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า เป็นหมัดที่ทำให้หัวใจระเบิดออกมา บางรายที่โดนหักคอก็มีเหมือนกัน”
“พวกเราสรุปได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งและมากด้วยประสบการณ์ รวมถึงไร้ความลังเลและปราณี แต่ว่าการที่เขาต้องลอบจู่โจมแสดงว่าฝีมือของเขาคงจะต่อกรกับผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5 ซึ่งๆหน้าไม่ได้แน่นอน”
เขาได้อนุมานจากเบาะแสที่ได้พบทันที
“ข้าก็คิดเช่นนั้น การที่ดูแผลการตายของคนทรยศนั่น พลังโจมตีของเขารุนแรงก็จริง แต่ว่าพลังฉีของเขาคงจะไม่สูง อย่างมากก็เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5”
เจิ้งเฉิลตาเป็นประกาย“เจ้านั่นต้องมีประสบการณ์มากมาย และมีศิลปะการต่อสู้ที่ฝึกฝนมาอย่างดี เราจะประมาทไม่ได้ เราต้องส่งผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 6 ไปตามล่ามัน แต่ว่าบริษัทเราที่มีศัตรูมากมายไม่สามารถส่งยอดฝีมือเก่งๆออกไปมากๆได้ เพราะว่าอาจจะมีการลอบโจมตีบริษัทจากศัตรูอื่นอีก ดังนั้นเจ้าจงไปตามเจิ้งหัวมา ให้เขาไปตามล่าและสังหารศัตรูซะ!”
อะไรนะ เจิ้งหัว?!
ซ่งฮุ่ยได้ยินแบบนี้ตาก็สว่างขึ้นมาทันที เจิ้งหัวไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นลูกชายแท้ๆของเจิ้งเฉิงที่มีอายุเพียงแค่18ปี แต่ว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะที่ตอนนี้เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 6 แล้ว
อีกอย่างคือต่อให้อายุน้อยแต่ก็มีประสบการณ์มากมายยจากโลกใต้ดินแห่งนี้ เจิ้งหัวคือลูกคนเดียวของเจิ้งเฉิง
“ผู้จัดการเจิ้ง ข้าว่ามันเสี่ยงเกินไปครับ อีกฝ่ายมีความโหดร้ายทารุณอย่างมาก ข้าเกรงว่ามันจะออกมาไม่ดี”ซ่งฮุ่ยเตือนหัวหน้าของเขา
เจิ้งเฉิงกวักมือ“เจ้าไม่ต้องห่วง อีกฝ่ายอย่างมากก็เป็นแค่ผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5 ต่อให้สู้ไม่ได้จริงๆลูกชายข้าก็หนีได้ อีกอย่างข้าอยากให้เขาเก็บประสบการณ์การต่อสู้เยอะๆ เพราะเดี๋ยวเขาก็ต้องสมัครเข้ามหาลัยระดับหนึ่งแล้ว ได้ประสบการณ์ดีๆแบบนี้น่าจะช่วยเขาได้เยอะเลย”
“ครับ ผู้จัดการเจิ้ง”
หลังจากบอกเหตุผลซ่งฮุ่ยก็ไม่กล้าขัดอีกและตอบรับโดยทันที
.......................
เวลากลางคืน ณ โกดังร้างของเมืองพระจันทร์สีดำ
เซี่ยปิงกำลังแอบอยู่ในโกดังร้างนี้ที่ลึกลับมาก ไม่มีใครรู้
ในการที่จะหลบจากการไล่ตามของบริษัทหมีดำนั้น เขาได้ฝ่าออกมาและได้สังหารไปอีก5-6คน เขาได้รับบาดแผลเล็กน้อย จนเจอโกดังร้างนี้จึงเข้ามาพักชั่วคราว
เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ อีกอย่างเขาไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้เขาทั้งหิวและหนาว
“เป็นอย่างนี้คงจะไม่ดีแน่ ข้าอาจจะต้องตายอย่างทารุณ” เซี่ยปิงกำหมัดแน่น เขาไม่คาดคิดว่าผู้คนของโลกใต้ดินจะใช้วิธีการที่โหดร้ายและสิ้นคิดขนาดนี้
ต่อให้เห็นเพื่อนตายต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีความลังเลเลย แต่ว่าพวกเขาก็สะสมความแค้นในการตามล่า ถ้าไม่ระวังตัวจะโดนฟันเป็นสองท่อนได้
“ต่อให้มันอันตราย แต่ข้าต้องดื่มน้ำยาทองคำเพื่อนเลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5” เซี่ยปิงตาเป็นประกาย เขากำลังตั้งสติ เขารู้ว่าเขาในตอนนี้ไม่มีทางรอดออกไปได้แน่ๆ
เขาหยิบน้ำยาทองคำออกมา
อึก อึก อึก อึก…
เซี่ยปิงที่ไม่พูดอะไรต่อ ดื่มน้ำยาทองคำจนหมด เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่เอ่อล้นออกมาทันที ที่รวมตัวเข้ากับเลือดของเขาทั่วทั้งร่างกาย
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น หลอดเลือดของเขาขยายขึ้น กล้ามเนื้อเขากระตุกขึ้น เหมือนกับร่างกายที่มีลาวาไหลเวียนอยู่ คล้ายกับว่าจะระเบิดออกมา
“ร้อนเกินไป”
เขาเข้าใจทันทีว่าทำไมอย่างต่ำต้องเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 7 ถึงจะดื่มมันได้เพราะว่าน้ำยาชนิดนี้มีความรุนแรงอย่างมาก คนธรรมดาที่ได้ดื่มในเสี้ยววินาทีร่างกายอาจจะระเบิดได้
เซี่ยปิงคิดว่าหลังจากที่น้ำยาทองคำนี่ได้เข้าไปในร่างกายของเขา พลังงานที่เอ่อล้นไหลไปทั่วทิศทาง อย่างกับอวัยวะภายในทุกส่วนกำลังจะระเบิด
วิชาบ่มเพาะพลังหยางบริสุทธิ์!
ด้วยเสียงดังที่ออกมา ร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะเค้นพลังฉีออกมา และเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองให้เป็นเหมือนกับเตาหลอมโลหะ
การไหลในทั่วทุกทิศทางของน้ำยาทองคำที่บ้าคลั่ง ถูกดึงดูดเข้าหลอมรวมในเตาหลอมใจกลางของร่างกาย พลังงานที่ไม่ดีจะถูกการกำจัดออกจนหมดและกลั่นออกมาเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุด
“คุ้มค่าซะจริงๆ วิชาหยางบริสุทธิ์นี่” เซี่ยปิงรู้สึกโล่งอกขึ้นหลังจากที่พลังงานบ้าคลั่งพวกนี้ถูกกลั่นจนเหลือแต่พลังงานที่บริสุทธิ์ เหมือนกับการที่ทำให้หมาป่าเชื่องกับเรา
นี่มันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับวิชาหยางบริสุทธิ์ที่สามารถแม้กระทั่งดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาได้ แค่น้ำยาทองแค่นี้ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากในการกลั่นเลย
เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่รวมตัวเข้ากับร่างกายของเขา เซลล์ทุกเซลล์ดูเหมือนจะตื่นขึ้นมาและซึมซับพลังงานนี้ไปจนหมด ทำให้เขาพัฒนาไปอีกขั้น
ปัง!
ทันใดนั้นเซี่ยปิงรู้สึกถึงพลังฉีของเขาที่แข็งแกร่งขึ้น แม้แต่กล้ามเนื้อ หัวกะโหลก และผิวหนังเขาก็ได้รับการทำให้แข็งกล้าขึ้น บาดแผลภายในตัวเขาเริ่มๆหายไป อย่างกับว่าเขากำลังจะแปลงร่าง
พลังฉีกระจายไปทั่วรอบๆตัวเขาและส่งเสียงออกมา ฝุ่นที่อยู่รอบตัวปลิวกระจุยกระจายไปหมด ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
“ข้าได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 5 แล้ว!”
เซี่ยปิงกำหมัดแน่น ตาของเขามีแสงสว่างขึ้น อารมข้างในของเขาแสดงความดีใจเอ่อล้นออกมา ในที่สุดเขาก็ได้มาถึงขั้นนี้แล้ว
ปัง!
เขาทนที่จะลองหมัดไม่ไหวจึงต่อยอากาศทันที ทันใดนั้นอากาศก็มีคลื่นพลังงานออกมา มันน่าเกรงขามมาก
หมัดนี้เป็นพลังที่ทรงพลังเหนือไทรานอย่างมากแล้ว