GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 26
การฆ่าทำให้เลือดในตัวของเซี่ยปิงเริ่มพุ่งพล่าน
เขามองดูศพของชายสามคนนั้นโดยที่ไม่รู้สึกเสียใจเลย ก่อนหน้านี้คือวิกฤติชี้เป็นชี้ตาย ถ้าเขาไม่ฆ่าก็ต้องถูกฆ่า เขาต้องเลือกทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองอยู่รอด
“นี่มันปืนเลเซอร์?!”
เซี่ยปิงพลิกตัวศพทั้งสามและเจอปืนเลเซอร์รวมถึงมืดสั้นไทเทเนี่ยมที่คมมาก เป็นอาวุธที่ใช้ได้เลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ถือว่าเขาโชคดีที่ชิงจังหวะฆ่าชายทั้งสามได้ก่อนไม่อย่างนั้นถ้ารอให้พวกเขาหยิบอาวุธออกมา เขาต้องตายแน่ๆ จะดูถูกพวกคนของเมืองใต้ดินไม่ได้
“แต่ว่าการที่บริษัทหมีดำส่งคนทั้งบริษัทออกมาตามหาข้า พร้อมทั้งสั่งให้สังหารทันทีที่เจอ รวมถึงปิดกั้นพื้นที่ระยะ100ไมล์ ชายวัยกลางคนคนนั้นไปก่อเรื่องใหญ่โตอะไรไว้ถึงได้โดนตามล่าขนาดนี้”
เซี่ยปิงไม่ได้คิดว่าจะต้องฆ่าชายวัยกลางคนนั้นและขโมยสิ่งของของเขามา เรื่องนี้มันเหนือคาดจริงๆ ทันใดนั้นเขาก็รีบแกะสิ่งของนั้นดู
ข้างในนั้นมีน้ำยาสีทองบางอย่างที่เรืองแสงได้ รวมทั้งมีคัมภีร์ลับที่เขียนว่า<วิชาเนตรสวรรค์>
“เหลือเชื่อ นี่มันน้ำยาทองคำ 20 ขวด!” การได้เห็นของที่ตามหา นอกจากเขาจะดีใจมากแล้ว เขายังปากสั่นอีกด้วยเพราะตื่นเต้น
น้ำยาทองคำพวกนี้มีมูลค่าถึง10ล้านเหรียญ นี่หรือของที่ชายวัยกลางคนคนนั้นได้ขโมยมาจากบริษัทหมีดำ?
แต่ว่าการที่บริษัทหมีดำลงทุนส่งยอดฝีมือออกมาขนาดนี้และปิดกั้นพื้นที่กว่า100ไมล์มันไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อเอาน้ำยาทองคำคืน มันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ
“คัมภีร์ลับเล่มนี้ก็ดูแปลกๆ”
เขาจ้องมองคัมภีร์ลับและเปิดอ่านมัน ข้างในเขียนว่าเป็นทักษะพิเศษที่ใช้ลมหายใจที่ผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำลายจุดการไหลเวียนพลังฉีเพื่อสร้างพลังวิญญาณออกมา
หลังจากการได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา ผู้ใช้จะสามารถสัมผัสทุกอย่างได้ในระยะหลายไมล์ แม้แต่มดที่เดินอยู่ก็ได้ยินชัดเจน
“มันเป็นไปได้หรอ? ทักษะที่ทำลายจุดไหลเวียนของพลังฉีเพื่อสร้างพลังวิญญาณออกมา?!” ร่างกายของเซี่ยปิงเริ่มสั่น และหายใจติดขัด
ต้องรู้ด้วยว่าการที่ผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 9 จะเลื่อนขั้นไปเป็นผู้ใช้พลังฉีสวรรค์ขั้นที่ 1 ได้นั้นต้องสามารถใช้พลังวิญญาณได้ ผู้ที่ใช้ไม่ได้จะไม่มีวันเลื่อนชั้นไปเป็นผู้ใช้พลังฉีสวรรค์ขั้นที่1ได้
แต่ว่าคัมถีร์ลับนี้สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าคัมภีร์แบบนี้ต้องล้ำค่าอย่างแน่นอน ต้องเป็นคัมภีร์นี้แน่ๆที่ทำให้บริษัทหมีดำต้องวุ่นวายขนาดนี้
“ถึงว่าทำไมพวกคนของโลกใต้ดินมีอาการแตกตื่นจนปิดกั้นพื้นที่ถึง100ไมล์ เพราะว่าคัมภีร์นี้นี่เอง แต่ถ้าให้ข้าประเมินมูลค่าของมันข้าคิดว่ามันต้องมีมูลค่ามากกว่า100ล้านเหรียญแน่ๆ”
เซี่ยปิงตาเป็นประกาย ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก
ทว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถจะใช้วิชาลับนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์ติดตัวและมีจิตวิญญาณที่แข็งกล้าเท่านั้น คนธรรมดาที่ได้คัมภีร์นี้ไปคงจะทำอะไรกับมันไม่ได้เลย
“จิตวิญญาณที่แข็งกล้า? จิตวิญญาณของข้าน่าจะแข็งกล้ากว่าคนปกติทั่วไป ข้าว่าข้าสามารถใช้วิชาลับนี้ได้” เซี่ยปิงนึกขึ้นได้ว่าเขามีสองจิตวิญญาณในตัว แค่นี้ก็ถือว่ามีจิตวิญญาณที่แข็งกล้ากว่าคนปกติมากแล้ว
พ่ะ พ่ะ พ่ะ!!
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้ามากมายดังออกมาจากข้างนอก
“ลืมไปเลยว่าที่นี้เป็นถิ่นของบริษัทหมีดำ ข้าต้องหาที่ๆปลอดภัยกว่านี้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ข้าจะฆ่าสถานเดียว!”
เซี่ยปิงที่สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร รีบหนีอกจากตึกร้าง
...............
ตึกที่สูงประมาณ100ชั้นบนตึกมีชายชุดดำที่กำลังยืนอยู่ ลมที่รุนแรงพัดผ่าน เสื้อผ้าของเขาปลิวไปตามลม แต่ตัวของเขายืนอย่างมั่นคงเหมือนกับหินไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว
เขาคือผู้จัดการของบริษัทหมีดำ ชื่อของเขาคือเจิ้งเฉิง ครั้งนี้พวกเขาได้ใช้เงินกว่า100ล้านเหรียญในการซื้อคัมภีร์ลับ<วิชาเนตรสวรรค์>นั้นมาโดยวิธีที่ยากลำบาก ถือว่าพวกเขาเสียเงินไปมากทีเดียว
พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีสมาชิกที่เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 8 ทรยศพวกเขาและแอบขโมยเอาน้ำยาทองคำจำนวน 20ขวดและคัมภีร์ลับจากภายในบริษัท
หลังจากที่เจิ้งเฉิงได้รู้เรื่องนี้ เขาได้สั่งทันทีให้ยอดฝีมือในบริษัทไปล้อมคนทรยศคนนั้น ถึงคนทรยศคนนั้นจะมีฝีมือแข็งแกร่ง แต่เจิ้งเฉิงก็เป็นถึงผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่ 9 ถือว่าเป็นกำลังสำคัญอีกแรง
หลังจากที่โดนล้อมและประทะกันโดยยอดฝีมือหลายคน ชายทรยศคนนั้นก็บาดเจ็บสาหัส และตกลงไปจากตึก
ถึงแม้ว่าราคามันจะแพงมากแต่เจิ้งเฉิงก็คิดว่าคัมภีร์ลับนี้เป้นสิ่งที่ล้ำค่ามากและมูลค่ามันคงจะมากกว่า100ล้านเหรียญด้วยซ้ำ
สามารถทำให้สร้างพลังวิญญาณได้และรวมถึงสามารถทำให้ก้าวผ่านระดับพลังฉีขุนศึกเพื่อเลื่อนเป็นระดับพลังฉีสวรรค์ นี่มันมีดีเกินไปจริงๆ
ว่ากันว่าถ้าสำเร็จวิชา<เนตรสวรรค์>ได้ ถ้าเกิดผู้ใช้เลื่อนขั้นไปเป็นพลังฉีขุนศึกขั้นที่9โดยที่มีวิชานี้อยู่แล้วก็จะสามารถเลื่อนเป็นผู้ใช้พลังฉีสวรรค์ขั้นที่1โดยอัตโนมัติเลย
ลองจินตนาการดู ว่าถ้าบริษัทหมีดำได้คัมภีร์ลับนี้ไปใช้จะต้องมียอดฝีมือเพิ่มขึ้นมาแน่ๆจนในอนาคตอาจจะเป็นบริษัทที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองพระจันทร์สีดำเลย
แม้แต่เจิ้งเฉิงก็สามารถที่จะเลื่อนขั้นผ่านขีดจำกัดที่เขาเผชิญมาหลายปีอย่างง่ายดาย
“พลังฉีสวรรค์ขั้นที่ 1”
สายตาของเจิ้งเฉิงแผดเผาไปด้วยไฟ เขาอยากที่จะได้คัมภีร์ลับนั้นมาครอบครองแล้ว
การที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังฉีสวรรค์ จะทำให้มีสิทธิในการออกจากเมืองเพื่อไปล่าสัตว์ปีศาจและสู้รบกับศัตรูที่แข็งแกร่ง
ถ้าวันหนึ่งไม่ได้เลื่อนขั้นก็ต้องทนอยู่แบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับแมลงชั้นต่ำ
สายตาของเจิ้งเฉิงแสดงถึงแสงสว่าง เขากำหมัดอย่างแน่น เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คัมภีร์ลับ<วิชาเนตรสวรรค์>มาให้ได้ ใครขวางมันผู้นั้นจะต้องตาย!
“ผู้จัดการเจิ้ง”
ทันใดนั้นลูกน้องของเจิ้งเฉิงก็รีบวิ่งมาหาเขาทันที ลูกน้องของเขามีชื่อว่าซ่งฮุ่ย เป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่5
เขามาถึงข้างกายเจิ้งเฉิงอย่างรวดเร็ว