ตอนที่ 147 แรงบันดาลใจ
ช่างกลเป็นที่รู้จักกันดีว่ากลยุทธ์หลากหลาย ก็เหมือนกับธรรมิกชนที่จะไม่ตกหลุมพรางเดิม ช่างกลไม่เคยใช้กลยุทธ์เดิม เพื่อพัฒนากลยุทธ์ใหม่ มันต้องพัฒนาอุปกรณ์หลักตลอดเวลา การใช้เครื่องมือเพิ่มเติมเช่นรองเท้าแม่เหล็กไฟฟ้า กระสุนพิเศษ ความสามารถการซ่อนตัว และอื่นๆยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้
ฉันมีตัวเลือกไม่มาก โรเวอร์ ป้อมปืนพกพา เครื่องจักรที่สร้างขึ้นเอง อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติและสติปัญญาของโรเวอร์ยังอ่อนแอ และนอกจากนั้น เนื่องด้วยขนาดใหญ่โต พวกมันจึงไม่อาจพกพาไปไหนได้ง่ายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะมีโมเดลรุ่นเดียวในกองทัพหุ่นยนต์ ผลลัพธ์ก็ยังไม่น่าพอใจ พวกเขามันแพงเกินไป
สำหรับแบตเตอรี่...ถึงแม้จะมีคำว่า’พกพา’ในชื่อ แต่ฐานก็ยังใหญ่เกินไป หากฉันไม่อาจประกอบมันได้ภายในไม่กี่วินาที ฉันก็ไม่อาจใช้มันได้เหมือนพวกนักขว้าง บางที ฉันคงทำได้แค่ติดตั้งกับดักล่วงหน้า...
ยังมีอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเอง...
หานเซี่ยวมีพิมพ์เขียวมากมายที่ใช้สำหรับชุดเกราะ เช่นโครงร่างk600 ชิปอัจฉริยะ แขนขาเหล็ก รองเท้าแม่เหล็กไฟฟ้า ลูกบาศก์เก็บของพื้นฐาน และโมดูลอื่นๆ นอกจากนี้ เขายังมีความรู้พื้นฐานทั้งหมด รวมถึงวิศวกรรมชีวภาพ พลศาสตร์เชิงกล การประกอบและพลังงาน เขาได้ทำตามเงื่อนไขการสร้างชุดเกราะจนครบแล้ว
นี่ไม่ใช่ความคิดไม่ดี อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีบางปัญหา ตัวอย่างเช่น การติดตั้งจักรกล เขาต้องมียานพาหนะสนับสนุนที่สามารถซ่อมแซมและเติมวัสดุได้ การต่อสู้เป็นเวลานานอาจทำให้พลังโจมตีลดลงเช่นเดียวกับปัญหาที่ทุกคนเผชิญ
นอกจากนี้ เขายังไม่อยากวิ่งไปรอบๆด้วยชุดกระป๋อง และมันคงดีสุดหากเขาบินได้ เขาพัฒนาเจ็ตแพ็ค แต่มันก็ยังต้องการปรับแต่ง เมื่อใช้งาน เจ็ตแพ็คจะมีความปลอดภัยสูง มันเร็วยิ่งก่อความเร็วของล้อชิงช้าสวรรค์หลายร้อยเท่า หานเซี่ยวไม่อยากลองอีกเป็นครั้งที่สอง และเช่นนั้น นอกจากโดรนลำเล็ก มันก็ไม่มีอุปกรณ์อื่นที่บินได้เลย
เครื่องจักรขนาดกลางและใหญ่ต้องใช้ความรู้ขั้นกลาง[การดัดแปลงเครื่องจักรน้ำหนักสูง] และเขาก็สามารถดัดแปลงได้แค่เครื่องจักรน้ำหนักเบา ชุดกล้ามนาโนเป็นอะไรที่คลาสสิคกว่าแต่ก็ต้องมีความรู้ขั้นกลางของ[การดัดแปลงเครื่องจักรขนาดย่อ]
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็มาพร้อมความคิดใหม่
เกือบทำผิดพลาดแล้วไหมละ จริงๆแล้ว ฉันไม่ต้องการเกราะเป็นแกนหลัก ฉันสามารถเริ่มจากเกราะเบาประเภทช่วยเหลือ ไม่ต้องสนพลังยิงและจดจ่อกับค่าสถานะส่วนตัวฉัน...
เขามีความคิด เมื่อเขานึกถึงชุดเกราะที่เขาเคยใช้หรือเห็นมาก่อน เขาก็คิดถึงเกราะเบาพื้นฐานที่ดูน่าเชื่อถือและง่ายต่อการทำ
สำหรับหุ่นยนต์และป้อมปืน เขาตัดสินใจยอมแพ้เพราะพวกมันไม่สะดวกจะนำมาใช้และมันก็เป็นไปได้ที่จะนำขึ้นรถบรรทุกด้วยเสมอ แม้กระทั่งการสนับสนุนทางอากาศ มันก็ยังต้องมีเครื่องบินขนส่งและจากนั้นก็ต้องใช้เงิน...ไม่มีเครื่องบินลำใดบินในน่านฟ้าของประเทศได้ แม้กระทั่งเครื่องบินของบริษัทฟาเรี่ยน ซึ่งมีใบอนุญาติมันก็ยังต้องบินตามเส้นทางที่กำหนดและไม่ได้รับอนุญาติให้บินตามใจชอบ มันจะไม่เป็นไรหากบินในป่า แต่ก็ไม่เหมาะและมันก็ยากสำหรับการปล่อยของ
ขณะที่ค่ำคืนหายไป แสงสีทองของดวงอาทิตย์ก็เผยโฉม เปลี่ยนท้องฟ้าจากสีดำเป็นสีฟ้า
หานเซี่ยวเหยียดคอเขา และจากกระดูกคอเขาก็มีเสียง เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น พร้อมสำหรับวันใหม่ เขารู้สึกเหมือนสามารถเจาะท้องฟ้าได้ด้วยหมัดเดียว
แน่นอน นั่นแค่ภาพลวงตาเนื่องจากพลังงานอันล้นเหลือ ประสาทสัมผัสเขา หลังเฉียบคมขึ้น หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าวิสัยทัศน์เขา การได้ยินและการได้กลิ่นต่างดีขึ้น เช่นนั้น เขายังสามารถเห็นรายละเอียดบนผิวขรุขระบนลำต้นไม้ได้จากระยะไกล
หานเซี่ยวขึ้นเฮลิคอปเตอร์และสั่งให้นั่งบินนำเครื่องขึ้น
...
หานเซี่ยวเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์และในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านใหม่แห่งหนึ่งบนทวีปใต้หลังนำเครื่องลงหลายครั้งเพื่อเติมเชื้อเพลิง หมู่บ้านนี้ยังเป็นสถานที่ที่พวกเร่ร่อนมารวมกัน และมันก็ยังถูกเรียกว่าหมู่บ้านหุบเขาเขียว
มีเมืองเริ่มต้นทั้งหมด19แห่งสำหรับผู้เล่นใหม่บนดาวอความารีน ห้าจุดในทวีปใต้ สี่ในทวีปตะวันตก สี่ในทวีปเหนือและหกบนแผ่นดินใหญ่
หมู่บ้านหุบเขาเขียวเป็นดินแดนที่ถูกควบคุมโดยขุนพลเร่ร่อนและเป็นของตระกูลอลูเมร่า
อลูเมร่า เป็นผู้นำกองทหารเร่รอน มีการจัดการแบบครอบครัว สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บนทวีปใต้ พวกเขายังมีที่ดินบนทวีปเหนืออีกด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังร่วมมือกับธีซุส หัวหน้าผู้บัญชาชื่อแดรี่ อลูเมร่า ทุกคนที่มีนามสกุลเดียวกันจะถือเป็นสมาชิกครอบครัวทันที ผู้บัญชาการคนอื่นของเขาคือตัวละครที่แข็งแกร่ง เหมือนหัวหน้าสองเสี่ยวจิน หัวหน้าสามปี่ฉี และอื่นๆ กองกำลังถูกก่อตั้งโดยสมาชิกที่เหลือรอดจากประเทศต่างๆ และดังนั้น พวกเขาจึงมีหลากหลายเชื้อชาติ
เหล่าขุนพลเร่ร่อยจะเรียกตัวเองในชื่อต่างกัน ‘ตระกูล’ ‘กลุ่ม’ ‘กลุ่มการเงิน’ ‘แม่ทัพ’ และอื่นๆ พวกเขาเชื่อว่าหากก่อตั้งกลุ่ม พวกเขาจะถูกรังแกหรือคุกคามน้อยกว่า ในที่สุดพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้น อลูเมร่าได้ควบคุมกองทัพและกลายเป็นมีอำนาจในผืนป่า ขุนพลเร่ร่อนหลายกลุ่มอยากร่วมกับพวกเขา เหนือสิ่งอื่นใด ป่าอความารีนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยเลย
ทั้งหมดที่หานเซี่ยวต้องการคือค้นหาผู้เล่นและฉกฉวยค่าประสบการณ์ต่อ เวลามีจำกัด เขาไม่หยุดหลังต่อสู้แต่กลับเดินทางไปหมู่บ้านใหม่ทันที
มีอยู่สามสถานการณ์เมื่อผู้เล่นออฟไลน์และออนไลน์หรือเกิด อย่างแรกคือ’จุดเกิดเดิม’ สิ่งนี้ต้องมีคำอธิบาย เมื่อออฟไลน์ขณะอยู่บนรถ เมื่อเกิด คนจะไม่กลับไปยังจุดเดิม แต่จะกลับไปยังบนรถคันเดิม ตัวอย่างเช่น หากกำลังเดินทางในอวกาศ แต่ตำแหน่งเกิดไม่ได้อยู่บนยาน นั่นคงเป็นเรื่องบ้าบอ
สถานการณ์ที่สองคือการเกิดในเมืองใกล้สุด สิ่งนี้ใช้ได้กับผู้เล่นเกิดใหม่เท่านั้นและไม่ใช่สำหรับพวกที่ล็อคอินเข้ามา นี่หมายความว่าหากถูกฆ่า คนก็จะมีโอกาสเดินทางไปอีกเมืองฟรีๆ และมันก็ก็อาจเป็นได้ทั้งเมืองที่อยากไปหรือไม่อยากไป
สถานการณ์ที่สามคือการผูกติดกับจุดเกิด แต่ทว่า มันต้องมีเงื่อนไขพิเศษ รวมถึงการเข้าร่วมค่าย ของพิเศษหรือการทำข้อตกลงกับNPC ตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าร่วมค่ายลับ ตัวละครเขาก็จะผูกติดกับค่ายและเลือกมันเป็นจุดเกิดได้ แต่คนอื่นไม่อาจทำได้
ดาบคลั่งได้เข้ามาบนเฮลิคอปเตอร์ เช่นนั้น หานเซี่ยวจึงทิ้งโทรศัพท์ไว้ด้านหลังและสั่งให้นักบินรอ จากนั้นเขาก็เดินย่ำผ่านป่า มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านหุบเขาเขียว
หลังผ่านไปสองชั่วโมง เงาร่างของหมู่บ้านก็เห็นได้แต่ไกล มันตั้งอยู่ด้านข้างป่าบนพื้นราบ มันเป็นป้อมปราการและล้อมรอบด้วยลวดหนาม และมีคนเร่ร่อนลาดตระเวนอยู่รอบๆ ตามคาด ผู้เล่นทุกคนมารวมกันที่ค่ายนอกตัวหมู่บ้าน เหมือนหมู่บ้านเขาใหญ่
หานเซี่ยวไม่คิดซ่อนตัว ยามบของหมู่บ้านเห็นเขาแต่ไกลและรายงานให้ผู้รับผิดชอบ บัลซาส
บัลซาสคือชายผิวดำหัวล้าน ไม่สูงหรือแข็.แรง เขากลับตัวเล็กและผอม เขามีดวงตาสามเหลี่ยมดูมืดมน เมื่อได้ยินทหารยามรายงานเขาก็ตัวสั่น“ฟังดูเหมือนปีศาจทมิฬ”
บัลซาสหยิบคอมพิวเตอร์เขาและค้นหารูปของปีศาจทมิฬ เมื่อยืนยันรูปลักษณ์ได้ สีหน้าของบัลซาสก็เปลี่ยนไป“ไม่ใช่ว่าเขาร่วมสงครามแม่น้ำเทอร์ดราม่าด้วยงั้นหรอ?ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่?ฉันไม่ได้มีอะไรกับเขาเลยนะ”
แค่ชื่อ’ปีศาจทมิฬ’ก็ทำให้บัลซาสเป็นกังวลแล้ว ถึงแม้หมู่บ้านหุบเขาเขียวจะติดอาวุธหนัก เขาก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย จากนั้นบัลซาสก็พึมพำ“เราควรเข้าหาเขาและถามหาสาเหตุไหม?”
เนื่องจากอลูเมร่ามีเคยมีความสัมพันธ์กับปีศาจทมิฬ บัลซาสจึงไม่คิดว่าจะต้องเกิดการปะทะกัน และยังไม่มีใครอยากหาเรื่องปีศาจทมิฬอีกด้วย บัลซาสสงบสติและเรียกผู้ช่วยเขา เขาสั่งให้ผู้ช่วยจัดการแทนและเข้าหาปีศาจทมิฬเพราะเขากลัว
เมื่อผู้ช่วยออกประตูและเดินไปหาปีศาจทมิฬ บัลซาสจึงขยับไปข้างประตูใหญ่และสังเกตผ่านรั้วหนาม
อย่างไรก็ตาม บัลซาสกลับเป็นฉากที่ทำให้เขาตัวสั่น เขาเห็นชาวบ้านข้างนอกตื่นเต้นมากและเป็นมิตรกับปีศาจทมิฬ
บัลซาสประหลาดใจ ชาวบ้านทุกคนรู้จักปีศาจทมิฬได้ยังไง?
…
หมู่บ้านหุบเขาเขียวมีผู้เล่นน้อยกว่าหมู่บ้านเขาใหญ่มาก
เมื่อหานเซี่ยวมาถึงค่ายของผู้เล่น เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มันแออัดมาก และทุกคนก็ล้อมขวางเส้นทางเขา
ผ่านฟอรั่ม เหตุการณ์ที่หมู่บ้านเขาใหญ่กระจายไปทั่วตลาดผู้เล่น และผู้เล่นใหม่ทุกคนก็อิจฉาผู้เล่นที่ผู้บ้านเขาใหญ่มาก ด้วยปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันของปีศาจทมิฬ ผู้เล่นใหม่ทุกคนจากหมู่บ้านหุบเขาเขียวจึงตื่นเต้น
“ปีศาจทมิฬอยู่นี่แล้ว!”
“เราเองก็โชคดีเหมือนกัน!”
ผู้เล่น’ขนมปังสุนัข’มีความสุขกว่าใครอื่น เขาคือนักออกแบบวิดิโอเกม และเกมเขาก็เต็มไปด้วยเนื้อหาทำให้เขามีแฟนคลับจำนวนมาก