GOD LEVEL DEMON ตอนที่ 10
ณ ห้องนอน
ในตอนนี้เซี่ยปิงนั่งสมาธิบนเตียงเนื้อหมีไฟที่ได้กินไปได้รวมตัวกับหยางบริสุทธิ์ของเขาทำให้เรารู้สึกได้ถึงพลังงานที่เอ่อล้นออกมา
เขาลืมตาขึ้นและเห็นแสงประกายที่สวยงามรู้สึกได้ว่าพลังฉีของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมพลังงานจากเนื้อหมีไฟซึมซับเข้าร่างกายเขาจนหมดจด
ต้องรู้ด้วยว่าการที่คนปกติจะดูดซึมคุณค่าอาหารอย่างหมดจดนั่นทำได้ยากมาก แต่ทว่าเซี่ยปิงที่มีหยางบริสุทธิ์นั่นสามารถทำได้เพราะตั้งแต่เขาได้รับมันมากระเพาะเขาก็เป็นเหมือนตัวกลั่นพลังงานและสารอาหารที่ดูดซับแต่สิ่งดีๆเข้าไปสู่ร่างกาย
“น่าเสียดายที่เนื้อหมีไฟมันน้อยเกินไปถ้าหากมีมากกว่านี้แค่ครึ่งเดือนข้าก็สามารถที่จะเลื่อนขั้นไปเป็นผู้ใช้พลังฉีขุนศึกขั้นที่5ได้เลย” เซี่ยปิงกำหมัดด้วยความเสียดาย
ถ้าหากเซี่ยปิงได้กินเนื้อหมีไฟทุกวัน ความสามารถในการพัฒนาของเขาก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเรื่องที่จะเลื่อนระดับเป็นขั้นที่ 5 จะเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย รวมถึงเรื่องที่จะสอบเข้ามหาลัยระดับหนึ่งก็จะไม่ใช่ความฝัน
แต่ว่าเนื้อหมีไฟมันแพงมากครอบครัวของเขาไม่มีกำลังจ่ายขนาดนั้น
“ถึงว่าทำไมพวกลูกคนรวยถึงได้พัฒนากันอย่างรวดเร็วถึงแม้จะไม่มีพรสวรรค์ เพราะมีอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าและพลังงานกินนี่เอง” เซี่ยปิงอิจฉา
ในโรงเรียนนักเรียนที่รวยจะกินเนื้อปีศาจเป็นประจำทุกวัน ทำให้พวกเขามีความได้เปรียบกว่านักเรียนธรรมดาคนอื่นๆ
นักเรียนธรรมดาไม่มีโอกาสที่ได้ซึมซับพลังงานชั้นยอดเลยทำให้ความแตกต่างทางพลังฉีมันมากขึ้นเรื่อยๆ
“บางทีข้าอาจจะต้องใช้คะแนนความเกลียดชังซื้อยาชั้นยอดมาเสริมพลัง” เซี่ยปิงตาเป็นประกายจากการประลองครั้งที่ผ่านมาเขาได้คะแนนความเกลียดชังมา 220 คะแนน
“แต่ว่าคะแนนมันก็ยังน้อยอยู่การที่ข้าจะต้องว่าร้ายคนอื่นแบบนี้ตลอดคงจะไม่ดีนัก ไม่เช่นนั่นข้าอาจจะเป็นศัตรูของสาธารณะไปเลยก็ได้ ข้าต้องคิดดีๆก่อนที่จะทำอะไร”
เซี่ยปิงเริ่มท้อนิดนึง“ดูเหมือนว่าข้าคงต้องใช้เงินเพื่อซื้อทั้งพวกยาและเนื้อปีศาจมาเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกายข้าแล้วล่ะ”
“แต่ว่าข้าจะหาเงินยังไงดี”
เขากังวลมากเนื่องจากเขาเป็นแค่นักเรียนธรรมดาที่ไม่รู้ว่าจะมีทางไหนที่จะได้มาซึ่งเงินในจำนวนที่มาก
ระดับเขาตอนนี้ต่อให้ไปล่าปีศาจมาขายแต่ว่าจำนวนเงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้กับปริมาณอาหารที่ร่างกายเขาต้องการได้รับ
“หรือว่าข้าจะแต่งนิยายขายดี”
เซี่ยปิงเริ่มมีความหวัง“ต่อให้ในดาวหยานหวงจะมีเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ากว่าโลกมนุษย์แต่เสน่ห์ของคำสร้อยก็ยังมีอยู่ทุกที่ นักเขียนที่เก่งยังสามารถหาเงินได้เป็นพันล้านต่อปี นี่มันเป็นโอกาสอย่างหนึ่งเลยล่ะ”
อีกอย่างดาวดวงนี้ก็มีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เคร่งครัด ทำให้วงการนิยายเติบโตจนถึงทุกวันนี้
ความทรงจำของเขาในโลกมนุษย์มันชัดเจนมาก เขาได้อ่านนิยายดังๆมากมายและรู้เรื่องการเขียนนิยายมากพอสมควร แต่ว่าเขาจะเขียนนิยายประเภทไหนดีถึงจะถูกใจคนบนดาวดวงนี้
“ข้าต้องตัดนิยายแนวศิลปะการต่อสู้ออกก่อนเพราะว่าคงไม่เหมาะกับดาวดวงนี้”
เซี่ยปิงตัดตัวเลือกออกก่อนเนื่องจากการเขียนนิยายต้องให้ผู้อ่านใช้จินตนาการที่ลึกซึ้งหากว่าเขาเขียนนิยายเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้มันคงจะไม่เหมาะกับดาวดวงนี้เพราะว่าศิลปะการต่อสู้ที่นี้มันไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่เป็นความเป็นจริงตอนนี้เลยต่างหาก
นิยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก็คงจะไม่เหมาะเพราะว่าโลกมนุษย์กับดาวหยานหวงมีประวัตศาสตร์ที่ไม่เหมือนกันผู้คนคงจะเข้าไม่ถึง
“หรือว่าข้าจะเขียนนิยายประเภท18+ดี มันจะต้องดังมากแน่ๆ”
นิยาย18+คือนิยายที่มีถ้อยคำไม่เหมาะสมหรือพูดง่ายๆคือนิยายลามก ซึ่งถูกห้ามปรามในประเทศจีนที่โลกมนุษย์
แต่ว่านิยายบางเล่มก็ถูกแอบเขียนขึ้นมาซึ่งแสดงถึงเนื้อหาที่ลึกซึ้งบวกด้วยพรสวรรค์ของผู้เขียนที่ทำให้เนื้อหามันออกมาน่าอ่าน
“เอาล่ะ ข้าตัดสินใจแล้วนิยาย18+นี่แหละ”
เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา“ต่อให้มันจะเป็นคนละดวงดาว เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จะไม่เหมือนกันแต่ทุกๆคนก็ยังเป็นคน เป็นผู้ชายที่มีอารมทางเพศ ถ้าในโลกมนุษย์มันดังได้ที่นี้มันก็ต้องดังได้”
มีอีกอย่างที่ช่วยให้ง่ายขึ้นนั่นก็คือในดาวหยานหวงนิยายแบบนี้ไม่ได้ถูกห้ามปราบ ไม่ผิดกฎใดๆทั้งสิ้นแค่มีข้อกำหนดที่ว่าคนที่มีอายุมากกว่า12ปีเท่านั้นที่จะอ่านได้
“เราต้องหาเงินด้วยการเขียนนิยายลามกให้ได้”
ตาเซี่ยปิงดูมีความหวังเขาได้พบกับเส้นทางที่เขาอยากทำแล้ว
แต่ว่าอย่างแรกเลยคือเขาจะต้องเลือกนิยายที่เขาเคยอ่านบนโลกให้ได้ก่อน
ใช่แล้ว เรื่องคุณครูไบ๋หลง เขาจำนิยายเล่มหนึ่งออกที่ทำให้เขาต้องเสียทิชชู่ไปมากมายคืนแล้วคืนเล่ามันคือนิยายศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
ถ้านิยายเล่มนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ก็ไม่มีเล่มไหนแล้วล่ะที่จะประสบความสำเร็จ