55 จื่อหยู วูเถิง
55 จื่อหยู วูเถิง
“ค่ะ ฉันจะไปที่นั้นให้เร็วที่สุดค่ะ” กั๋วซือหรงพูดกับคนในครอบครัวของเธอ แล้วเธอก็ตรงไปที่ห่ายชิวพร้อมกับเหอฉีเชิง
หวังเย้าที่อยู่ห่างออกไปไกลถึงพันไมล์ ไม่ได้รู้เลยว่ายาของเขาได้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างมาก ชีวิตของเขานั้นเงียบสงบเหมือนเช่นเคย ดูแลสมุนไพร อ่านคัมภีร์ และฝึกการหายใจ มันเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเตือนว่าภารกิจของเขาสำเร็จไปสองภารกิจ และมีภารกิจใหม่ มีสูตรยาใหม่หนึ่งสูตรและถุงใส่เมล็ดสมุนไพร รวมถึงคะแนนโบนัสจากภารกิจทั้งสอง
‘ภารกิจ(สวนสมุนไพร II) : ภายในเวลา 10วัน ปลูกสมุนไพร 30 ชนิด ห้ามซ้ำกันและต้องมีสมุนไพรรากรวมอยู่ด้วย
รางวัล : สุ่มรางวัล
บทลงโทษ : เสียภารกิจต่อเนื่องไป’
หวังเย้าปลูกเมล็ดทั้งหมดที่หวังเย้าซื้อมาจากในเมือง และเลือกสถานที่ที่เหมาะสำหรับปลูกเมล็ดสมุนไพรที่ได้รับรางวัลจากระบบ หญ้าหลี่ เป็นชื่อของสมุนไพรรากที่หวังเย้าได้รับมา มันฟังดูธรรมดา แต่เขากลับหาในรายการสมุนไพรเวทมนต์ไม่เจอ
‘หญ้าหลี่ : คล้ายกับต้นชิงเฮาและมีดอกสีแดง มันสามารถรักษาแผลเน่าเปื่อยได้’
ถึงแม้ว่าเขาจะปลูกเมล็ดสมุนไพรทั้งหมดที่เขามีแล้ว แต่เขาก็ยังต้องการสมุนไพรทั่วไปอีกสามชนิดและสมุนไพรรากอีกสองชนิด หวังเย้าได้ซื้อสมุนไพรรากสองชนิดจากร้านขายยาของระบบเพื่อนำไปปลูกในแปลง
สมุนไพรรากสองชนิดนั้นสามารถนำมาทำยาได้แล้ว และชื่อของยาก็คือ ทงลั่วซาน ชื่อของมันนั้นธรรมดา แต่มันสามารถกระตุ้นและทำความสะอาดเลือด มันฟังดูธรรมดา แต่หวังเย้ารู้ว่าสมุนไพรตัวนี้นั้นจะต้องมีผลที่ดีมากแน่นอนในเมื่อมันเป็นสมุนไพรราก
‘จื่อหยู : กระตุ้นเลือดและลดความดัน และทำความสะอาดสิ่งสกปรกในเส้นเลือด
วูเถิง : เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและร่างกาย’
สมุนไพรรากทั้งสองได้ถูกนำไปปลูกและที่เหลือก็เป็นเมล็ดสมุนไพรธรรมดา มันไม่สามารถหาซื้อเมล็ดในเหลียนชานเพิ่มได้ หวังเย้าจึงวางแผนที่จะซื้อจากในอินเตอร์เนตแทน
เขาอ่านหนังสือและเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขารู้ แล้วจึงเขียนเป็นรายการสมุนไพร เขาได้ซื้อเมล็เพันธุ์สิบชนิดผ่านทางออนไลน์ ในตอนนี้มีในแปลงสมุนไพมีสมุนไพรทั้งหมด 96 ชนิดแล้ว
ในตอนกลางวัน เขานั้นกำลังอ่านคัมภีร์หลักธรรมชาติอยู่เมื่อได้ยินเสียงเห่าจากด้านนอก เขาจึงรู้ว่ามีคนขึ้นมาบนเนินเขาแห่งนี้ คนที่มาก็คือ กั๋วซือหรงและเหอฉีเชิง พวกเขามาเพื่อขอยาสมุนไพร ซุปเป่ยหยวน
“มันต้องใช่เวลา 20 วัน” หวังเย้าพูด
“คุณเร่งเวลาให้เร็วขึ้นไม่ได้เหรอ?” กั๋วซือหรงถาม
“ไม่ได้” หวังเย้าส่ายหัว
ถึงแม้ว่าเขาจะพอมีคะแนนเหลืออยู่ แต่เขาก็ได้ใช้พวกมันซื้อเมล็ดสมุนไพรไปแล้วครึ่งหนึ่ง แล้วในอนาคต ภารกิจต่อเนื่องก็อาจจะต้องใช้สมุนไพรรากเพิ่มอีก คะแนนที่เหลือก็อาจจะไม่พอ เขายังอาจจะต้องเอาสมุนไพรทั่วไปที่เขามีไปแลกคะแนนเพิ่มอีกด้วย เขาไม่มีคะแนนมากพอที่จะซื้อชานจิงและกุยหยวนที่ใช้ทำซุปเป่ยหยวนแล้ว เขาต้องรอให้เมล็ดที่เขาปลูกโตขึ้นแทน
“ตกลง อีก 20 วัน ขอบคุณ”
“ใช่” หวังเย้ายิ้มและปฏิเสธที่กั๋วซือหรงเชิญไปทานข้าวด้วย
วันต่อมา ฝนตกลงมาและอากาศเย็นลงกว่าเดิม
หวังเย้าได้รับสายบอกว่ารถที่เขาได้จองไว้นั้นมาถึงแล้ว และรอเขาอยู่ที่ห่ายชิว เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าในระหว่างที่เดินทางลงจากเนินเขาพร้อมกับร่มหนึ่งคัน เขาบอกกับครอบครัวของเขาว่าเขากำลังจะไปที่ไหน แล้วจึงนั่งแท็กซี่ไปที่สถานีรถบัสในเมือง เขาเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้เมื่อกำลังเดินทางไปห่ายชิวด้วยรถบัส
เขาขับรถไม่เป็น!
ถึงแม้ว่าเขาได้ไปสอบใบขับขี่และได้มาเเล้วเมื่อเขามีเวลาว่าง แต่เขาก็ไม่ได้ขับบ่อยๆ เขาควรจะขอให้เพื่อนของเขาช่วย
หวังหมิงเปาขับรถเข้าไปในเมืองพร้อมกับจ้าวหยงกางที่เคยไปดูรถกับพวกเขาเมื่อครั้งก่อน
ในร้าน4s รถทวาเรคสีดำจอดนิ่งสงบอยู่ที่นั้น
เมื่อเห็นหวังเย้าและเพื่อนของเขา ผู้จัดการได้ออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มเต็มหน้า หวังเย้าไม่มีความรู้เรื่องรถเลย เขาจึงให้เพื่อนของเขาเป็นคนทดสอบให้เขา
รถไม่มีปัญหาอะไร
มันเป็นรถนำเข้าไม่แปลกที่มันจะมีราคาที่แพงมาก หวังเย้าใช้บัตรเดบิตของเขาเขาจ่ายเงินที่เหลือ ในขณะที่พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการทำประกันและเอกสารสำคัญต่างๆ
ผู้จัดการพบว่าหวังเย้านั้นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับป้ายทะเบียรถเลย เขาจึงเสนอให้ทางร้านเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้ หวังเย้าตกลงเพราะเขาไม่สามารถทำได้เอง
หวังหมิงเปามองไปที่ร้าน4s แล้วจึงขับรถออกมา
“รถราคาหนึ่งล้านนี้มันให้ความรู้สึกแตกต่างจริงๆ” เขาถอนหายใจ
มันรู้สึกสบายเมื่อนั่งในรถที่ขับเคลื่อนด้วยสี่ล้อและเสียงเครื่องยนต์ที่นุ่มนวล
“งั้น ทำไมไม่ซื้อไว้สักคันล่ะ?” หวังเย้าถาม
“ฉันไม่ได้รวยขนาดนั้นนะ!” หวังหมิงโบกมือ
ถนนจากห่ายชิวไปเหลียนชานนั้นเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน มันกว้างแต่มีเพียงแค่สองเลนเท่านั้น มันจึงมีรถใช้ถนนเส้นนี้ไม่มากนัก
หวังหมิงเปาหาสถานที่สำหรับหวังเย้าเพื่อฝึกขับรถ เขาสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่ง แล้วพบว่าเครื่องยนต์มันดีมาก มันไม่มีคลัทช์ เขาจึงไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ มันเยี่ยมมาก หวังเย้าจะขับได้ชำนาญเร็วๆนี้แน่นอน
หวังเย้าเลี้ยงข้าวเย็นพวกเขาแล้วจึงขับรถกลับหมู่บ้าน มันมีฝนตกลงมา ดังนั้นจึงมีคนอยู่นอกบ้านไม่มากนัก ไม่มีใครสังเกตุว่าในหมู่บ้านได้มีรถเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคัน แต่แม่ของเขานั้นเธอมีความสุขมาก เธอมองไปที่รถด้วยความเบิกบานใจพร้อมกับถือร่มเอาไว้ในมือ
หวังเย้านำของของเขาออกมาจากบ้านแล้วขึ้นไปบนเนินเขา เขาเตรียมของสำหรับทำอาหารที่บนเนินเขา เผื่อว่าฝนยังไม่หยุดตกในตอนกลางคืนเขาจะได้ไม่ต้องลงมากินข้าวที่บ้าน
มันเป็นสายฝนที่เย็นยะเยือก ต้นไม้ใหญ่รอบๆแปลงสมุนไพรโยกตัวไปมาตามแรงลมหนาว ต้นกล้านั้นเขียวชะอุ่มเมื่อมันแตกใบใหม่ออกมา พวกมันมีสีเขียวสดตรงกันข้ามกับต้นไม้อื่นรอบๆเนินเขาที่มีใบสีเหลืองและเหี่ยวเฉา
ฝนหยุดตกในเวลาใกล้ค่ำ บนเนินเขามีลมแรงและภายในกระท่อมก็เย็นเยียบ แต่หวังเย้าอยู่ได้เพราะเขามีร่างกายที่ดีและแข็งแรงด้วยพลังฉีในร่างกายของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เวลาอยู่บนเนินเขาเกือบทั้งวัน แต่ความหนาวเย็นก็ไม่มีความหมายสำหรับเขาเลย
วันต่อมาอากาศนั้นขมุกขมัวไร้แสงแดด ลมพัดหวีดหวิว
หวังเย้าดูแลแปลงสมุนไพรและฝึกพลังฉีเหมือนเช่นทุกวัน เขานั่งอยู่บนหินและลมนั้นรุนเเรงยิ่งกว่าเดิม เพราะตรงนั้นไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆอยู่เลย
หวังเย้านั่งนิ่งกลมกลืนไปกับหินที่เขานั่งอยู่ เสียงลมดังหวีดหวิว และพลังฉีที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา
เขาท่องบทความในคัมภีร์หลักธรรมชาติ และศึกษาทุกบทความในนั้นเพื่อทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น เขายังได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิธีการรวบรวมพลังฉีด้วย
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าแขนของเขานั้นขยับเบาๆ แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากพลังฉีภายในกายของเขา
บนท้องฟ้าแสงแดดได้ส่องทะลุเมฆหมอกลงมา
หวังเย้าลุกขึ้นและรู้สึกถึงความอบอุ่นหมุนวนอยู่ในร่างกายของเขา ลมที่พัดผ่านตัวของเขานั้นไม่ได้รุนแรงเช่นเดิม และเขาก็ไม่รู้สึกหนาวแต่อย่างใด
มันเป็นเวลาเกือบ 10โมงเช้าแล้ว แม่ของหวังเย้าขึ้นมาบนเนินเขา และบอกว่าเธอต้องการเข้าเมืองเพื่อไปเยี่ยมป้าและลุงของเขา
แม่ของหวังเย้ามีพี่น้องอยู่สามคน ป้าคนหนึ่งของเขานั้นทำงานอยู่ในกองทัพของเมืองจิงและจะกลับมาในปีหน้า ป้าและลุงอีกสองคนนั้นอยู่ในเหลียนชาน และพวกเขาก็มาเยี่ยมหวังเย้าและครอบครัวของเขาอยู่บ่อยๆ