ตอนที่ 257 ประชาชนทั่วไปไม่ซื้อ ข้าจะขายให้กับฮ่องเต้
***TL ยาเม็ดในตอนก่อนหน้านี้ = ยาเม็ดกลม , ต่อไปจะมียาเม็ดกลมกับยาเม็ดแบนค่ะ
เสียงกรีดร้องในตอนกลางคืนน่ากลัวที่สุด ในเมื่อพวกเขาทั้งคู่เป็นวัวสันหลังหวะ เสียงกรีดร้องนี้ยิ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัว ยี่หลินกล่าวทันทีว่า “เป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะว่าพวกเขาพบ ?”
เฟิงเฉินหยูยืนขึ้นทันทีและดึงยี่หลินออกไปข้างนอก
ขณะที่ทั้งสองผลักประตูออกจากวัด พวกเขาเห็นเซียงเอ๋อรีบวิ่งมาหาพวกเขา เมื่อเห็นเฟิงเฉินหยู นางไม่มีเวลาที่จะคำนับ ขณะที่นางพูดอย่างรวดเร็ว “พบศพที่ก้นบ่อในสวนเล็ก มีคนจำได้ว่าเป็นเป่ยเอ๋อบ่าวรับใช้ส่วนตัวคุณหนูสี่เจ้าค่ะ”
เมื่อพูดแบบนี้นางมองไปที่ยี่หลิน นางจำได้ชัดเจนว่าคุณหนูสี่มาถึงพร้อมกับบ่าวรับใช้
เฟิงเฉินหยูจ้องมองนางอย่างเงียบ ๆ แล้วถามเซียงเอ๋อว่า
“มันเป็นหลี่เซียง” เซียวเอ๋อกล่าว “นางเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแรงแต่โง่ที่เข้ามาในช่วงต้นฤดูหนาว นางรับผิดชอบในการทำความสะอาดเรือน บ่าวรับใช้คนนี้ส่งคนไปจับนางแล้ว แต่หลี่เซียงก็กลัวมาก นางพ่นแต่เรื่องเหลวไหล”
“คุณหนู” ยี่หลินรู้สึกกลัวเล็กน้อย “เป็นเพราะบ่าวรับใช้คนนี้ไร้ความสามารถ คุณหนูได้โปรดลงโทษด้วยเจ้าค่ะ”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้!” เฟิงเฉินหยูตัดสินใจและพูดกับเซียงเอ๋อ “เรื่องนี้ต้องไม่หลุดออกไป ให้เงินทุกคนที่ได้ยินเรื่องเหลวไหลที่หลี่เซียงพูด” จากนั้นนางก็พูดกับยี่หลิน “พรุ่งนี้เช้าส่งหลี่เซียงออกจากคฤหาสน์แต่เช้าตรู่ ยิ่งนางถูกส่งไปให้ไกลยิ่งดี มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าส่งนางออกจากเมืองหลวง”
“เจ้าค่ะ” ยี่หลินรีบพยักหน้า และปฏิบัติตาม
“สำหรับศพในบ่อน้ำ…”
“คุณหนู เราไปถมบ่อน้ำกันเถอะเจ้าค่ะ !” เซียงเอ๋อออกความคิดขึ้นมา “ถ้ามันไม่สามารถถมได้ ให้ปิดผนึกไว้ บอกว่าบ่อแห้งแล้ว ดังนั้นจะไม่มีการใช้บ่อน้ำอีกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าค่ะ”
ยี่หลินไตร่ตรองเล็กน้อยจากนั้นกล่าวว่า “ถ้างั้นขุดศพแล้วฝังล่ะ ? เป่ยเอ๋อนั้นไล่ตามข้าไป และนางก็ตกอยู่ในบ่อน้ำเอง”
เซียงเอ๋อค่อนข้างฉลาด และเข้าใจทันทีว่ายี่หลินอ้างขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้นนางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วเป็นเชิงเห็นด้วยและพูดว่า “ถูกต้อง มีหิมะจำนวนมากบริเวณบ่อน้ำและลื่นมาก เนื่องจากปากบ่อลาดต่ำลงไป ดังนั้นจึงคาดว่านางตกลงไป มันไม่มีอะไรมากไปกว่าบ่าวรับใช้ที่ประมาท คุณหนูไม่จำเป็นต้องคิดมากไปเจ้าค่ะ”
ยี่หลินรู้สึกว่าเซียงเอ๋อนั้นฉลาดอย่างแท้จริง ในปัจจุบันเฟิงเฉินหยูขาดบ่าวรับใช้ส่วนตัว บ่อยครั้งที่มีหลายสิ่งมากเกินกว่าที่นางจะจัดการได้คนเดียว เซียงเอ๋อเคยอยู่กับเฉินซื่อที่เรือนจินหยูและนางก็ไว้ใจได้มาก
ดังนั้นนางจึงมองเฟิงเฉินหยู และเฟิงเฉินหยูก็เข้าใจทันทีว่านางหมายถึงอะไร โดยไม่บอกว่านางขาดบ่าวรับใช้ส่วนตัวหรือไม่ เซียงเอ๋อได้ช่วยนางในเรื่องนี้ ด้วยบ่าวรับใช้แบบนี้ มีสองตัวเลือกคือฆ่านาง และอีกอย่างคือใช้นางต่อไป
หลังจากไตร่ตรองเล็กน้อย นางมองไปที่เซียงเอ๋ออย่างเคร่งขรึมแล้วพูดว่า “วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก ในฐานะบ่าวรับใช้ที่ทำงานให้กับเจ้านาย ข้าก็พอใจมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวของข้า อนุญาตให้ยี่หลินฝึกเจ้า เรียนรู้ได้ดีจากนาง ตราบใดที่เจ้าทำงานให้หนัก ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าอย่างดี”
เซียงเอ๋อกำลังรอคำพูดเหล่านี้จากเฟิงเฉินหยู ขณะที่นางยิ้มและคุกเข่าทันที “คุณหนูไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ บ่าวรับใช้คนนี้จะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน ข้าจะไม่ทรยศคุณหนูอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูพยักหน้า“ดีมาก”
ยี่หลินรีบไปช่วยนางทันทีแล้วพูดว่า "เซียงเอ๋อ ในอนาคตเราทั้งคู่จะเป็นคนของคุณหนูใหญ่ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรเจ้าต้องคิดถึงคุณหนูใหญ่อยู่เสมอ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? "
“บ่าวรับใช้คนนี้เข้าใจเจ้าค่ะ ในอนาคตข้าหวังว่าพี่ยี่หลินจะสอนข้ามากขึ้น” เซียงเอ๋อเป็นคนที่น่ารักด้วยคำพูดของนาง และสมองของนางก็ค่อนข้างไว หลังจากที่เฟิงเฉินหยูเข้าดูแลนาง นางเริ่มจัดการกับเรื่องสำคัญ “บ่าวรับใช้นี้จะไปหาคนให้มาถมบ่อน้ำทันทีเจ้าค่ะ” หลังจากพูดอย่างนี้นางก็วิ่งออกไป
ยี่หลินดูผู้หญิงที่จากไปแล้วกล่าวว่า “ข้าหวังว่านางจะมีประโยชน์ คุณหนูมีผู้ช่วยหลายคนอยู่ข้าง ๆ”
เฟิงเฉินหยูจ้องที่ยี่หลิน “เจ้ามีความกล้าที่จะพูดเช่นนั้น ! เจ้าทำงานล้มเหลวในครั้งนี้ หากมีครั้งต่อไป ข้าจะไม่ปกป้องเจ้า”
“บ่าวรับใช้คนนี้ทำผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” ยี่หลินพูดอย่างนี้และคุกเข่า “คุณหนูได้โปรดยกโทษให้บ่าวรับใช้คนนี้ด้วยเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูถอนหายใจ ยี่หลินเป็นคนที่มีประโยชน์มากที่สุดที่อยู่เคียงข้างนาง เมื่อมาถึงการลงโทษบ่าวรับใช้ผู้นี้ นางก็ไม่เต็มใจจริง ๆ “ลืมมันไปเถอะ” นางเอื้อมมือออกไปและช่วยยี่หลินลุกขึ้น เมื่อจัดการกับบ่าวรับใช้มักจะให้ทั้งพระเดชและพระคุณ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเพราะนางรู้ความลับที่สุด “ไปเอาเงินมาและไปกับเซียงเอ๋อเพื่อปิดปากคนที่เห็นศพ จำไว้ว่าเจ้าต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาปิดปาก นอกจากนี้ให้คนที่ถมบ่อน้ำและให้เซียงเอ๋อด้วย ในอนาคตเราต้องพึ่งพานาง”
“บ่าวรับใช้คนนี้เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” ยี่หลินคิดอย่างรวดเร็วจากกล่าวนั้นเพิ่ม “ข้าจะเผากระดาษเงินกระดาษทองที่บ่อน้ำหลังจากนั้นเพื่อไม่ให้วิญญาณเป่ยเอ๋ออยู่ที่นั้นเจ้าค่ะ”
“ทำตามที่เห็นสมควร” เฟิงเฉินหยูไม่ต้องการพูดอะไรเพิ่มเติม นางหันกลับมาที่วัด
ในเวลานี้ที่เรือนตงเซิง เฟิงหยูเฮงยังไม่ได้นอน นางกำลังฝึกศิลปะการต่อสู้ของนางอยู่ในสนาม
หนึ่งเดือนที่ค่ายทหารทำให้นางฟื้นความสามารถบางอย่างที่นางมีจากชีวิตก่อนหน้านี้ ทำให้นางสามารถพัฒนาสภาพร่างกายของนางได้ ไม่เพียงแต่ร่างกายของนางดีขึ้นเท่านั้นแม้แต่พลังภายในก็ยังดีขึ้น
หวงซวนอยู่ข้างนางและฝึกฝนกับนาง ทั้งสองจะพัฒนาทักษะของพวกเขาเป็นครั้งคราว และบางครั้งจะมีช่องว่าง แต่มันก็เป็นห่วง
เมื่อพวกเขาหยุดลง ในที่สุดเฟิงหยูเฮงเตือนหวงซวน “เจ้าหาคนไปคอยดูสถานการณ์ที่เรือนยี่หลาน ทารกในครรภ์ของฮันชิจำเป็นต้องเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราไม่สามารถอนุญาตให้ทุกคนดำเนินการได้”
หวงซวนมีรอยยิ้มที่โหดร้ายบนใบหน้าของนาง กล่าวว่า “คุณหนูปรารถนาที่จะเห็นความตื่นเต้นหลังจากนั้น”
นางพยักหน้า “แน่นอน สิ่งต่าง ๆ จะน่าสนใจหลังจากที่เด็กเกิด เฟิงจินหยวนจะดูดีเมื่อหมวกเขียววางอยู่บนหัวของเขา เมื่อทุกคนทราบเรื่องนางท้องกับชู้นั่นจะไม่ทำให้ฮันชิน่าสมเพชยิ่งขึ้นไปอีกหรือ” (TL: ผู้ชายสวมหมวกเขียว หมายถึง เมียมีชู้)
“ใช่เจ้าค่ะ” หวงซวนพยักหน้า “คุณหนูไม่ต้องกังวล บ่าวรับใช้นี้จะจับตาดูมันอย่างแน่นอน ใช่ คุณหนูเมื่อคุณหนูพูดว่าครั้งสุดท้ายที่คุณหนูต้องการให้บ่าวรับใช้ในคฤหาสน์เพิ่มความสามารถทางศิลปะการต่อสู้ บ่าวรับใช้คนนี้ไตร่ตรองอยู่นาน แต่นอกจากการยืมบางส่วนจากตำหนัก เราสามารถค้นหาในเจียงฮู่เท่านั้น แต่คนของเจียงฮู่จะขาดความกระตือรือร้นในเรื่องของพฤติกรรม คุณหนูต้องการให้องค์ชายเลือกจากตำหนักมาหรือไม่เจ้าคะ ?”
เฟิงหยูเฮงนึกถึงองครักษ์เงาที่อยู่ในตำหนักของพระชายาหยุน ดังนั้นนางจึงถามหวงซวน “คนที่อยู่กับพระชายาหยุนเลือกมาจากไหน ?”
หวงซวนกล่าวว่า “พวกเขานี้ได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก บ่าวรับใช้ผู้นี้และวังซวนก็เช่นกัน แต่การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ข้ามคืน หากคุณหนูมีความคิดเช่นนี้ข้ากลัวว่ามันจะสายเกินไปเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้” เฟิงหยูเฮงทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “แต่ข้าไม่ต้องการรับจากตำหนักอีก เราควรทำอย่างไรดี”
หวงซวนไม่ทราบว่าต้องทำอะไรเช่นกัน ทั้งสองนั่งอยู่ในสนามพยายามหาทางออกของพวกเขา หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หวงซวนก็คิดบางอย่างได้ “เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาข้าเคยได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้ ในตลาดทาส บ่าวรับใช้บางคนก็ผ่านการฝึกอบรมพิเศษสามารถซื้อได้ในบางครั้ง ทาสที่มีฝีมือสามารถซื้อได้ มีบางคนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเพื่อดูแล ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถซื้อได้ มีบางคนที่มีความสามารถในการเป็นพิณ, หมากรุก, วาดภาพ และการเขียนตัวอักษร และยังมีบางคนที่ได้รับการสอนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย ค่าใช้จ่ายของทาสดังกล่าวสูงมากและพวกเขาจะไม่ขายให้กับประชาชน ก่อนอื่นเราต้องทักทายพ่อค้าทาสก่อนจึงจะสามารถกำหนดเวลานัดหมายได้”
เฟิงหยูเฮงพยักหน้าอย่างไร้เหตุผล “ทำไมมันถึงเหมือนกับการซื้ออาหาร ?”
“แต่นี่เป็นเหมือนกับการซื้ออาหาร” หวงซวนถอนหายใจ “คนที่ถูกส่งไปยังพ่อค้าทาสจะทำได้อย่างไร พ่อค้าทาสไม่แม้แต่จะมองว่าเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับฉิงหยูซึ่งก่อนหน้านี้นางเคยเป็นเด็กของตระกูลใหญ่ หลังจากพบกับความพินาศมันคืออะไร ความสามารถของนางในการจัดการเงินไม่ใช่สิ่งที่พ่อค้าทาสสังเกตเห็น ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่านางจะขายได้เท่าไหร่”
เมื่อได้ยินการกล่าวถึงของฉิงหยู ในที่สุดเฟิงหยูเฮงก็เริ่มให้ความสนใจ “ถ้าเราสามารถหาคนแบบฉิงหยูได้อีกสองสามคน ทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ เลือกคนที่รู้จักศิลปะการต่อสู้และทราบประวัติในอดีตของพวกเขา ไม่อนุญาตให้คนที่มีเจตนาไม่ดีแอบเข้ามา”
หวงซวนพยักหน้า “เจ้าค่ะ เวลานี้ข้าจะตรวจสอบครอบครัวของพวกเขาอย่างแน่นอนในช่วงแปดชั่วอายุคน เมื่อพวกเขาผ่านพ้นไปอย่างสมบูรณ์พวกเขาจะถูกส่งมาให้คุณหนูเจ้าค่ะ”
“อ่า” ได้ยินบ่าวรับใช้กล่าวเช่นนี้ เฟิงหยูเฮงมีความสุขเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนางยังจำเรื่อง “ใช่ ตรวจสอบนางสนมของจักรพรรดิที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย หลังจากที่เจ้าได้รับข้อมูลบางอย่างแล้วให้หาทางให้ข่าวเล็ดรอดไปยังเฟินได ให้นางทำอย่างเต็มที่เพื่อเรียนรู้พวกมัน”
“ทำไมเจ้าค่ะ?” หวงซวนรู้สึกงงงวย “ถ้าคุณหนูสี่เรียนรู้ทุกคน องค์ชายห้าจะไม่ปฏิบัติต่อนางดีกว่านี้หรือเจ้าค่ะ?”
“จะเป็นเช่นไรหากองค์ชายห้าปฏิบัติต่อนางอย่างดี ลองคิดดู ถ้าฮ่องเต้เห็นนางร่ายรำอยู่จะเกิดอะไรขึ้น”
ดวงตาของหวงซวนสว่างขึ้น “น่าสนุกเจ้าค่ะ ! สถานการณ์นี้ยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้าเชื่อมั่นว่าจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่ความคิดทั้งหมดขององค์ชายจะถูกเปิดเผย”
นี่คือสิ่งที่เฟิงหยูเฮงวางแผนไว้ ฮ่องเต้ได้ร่วมมือกับซวนเทียนหมิงและนางเพื่อกดดันองค์ชายสาม ซวนเทียนเย่ อย่างแรกคือต้องนึกถึงกองทหารของเขาทางภาคเหนือ ประการที่สองพวกเขาหวังที่จะดึงดูดความสนใจของเขาที่มีต่อองค์ชายใหญ่มากขึ้น ทำให้เขามีศัตรูที่ต้องให้ความสำคัญ โดยหวังว่าเขาจะทำให้สร้างปัญหาน้อยลง ในเวลาเดียวกันนางจึงริเริ่มที่จะเผยแพร่ข่าวลือว่าขาของซวนเทียนหมิงไม่สามารถรักษาให้หายได้ เรื่องนี้ทำให้บรรดาองค์ชายที่ยังเชื่อว่าเขาไม่สามารถกลับมาหายดีได้และเป็นองค์รัชทายาทได้ สิ่งนี้ทำให้ซวนเทียนหมิงมีเวลาว่างมากขึ้นในการทำสิ่งที่เขาต้องทำ
แค่การต่อสู้ระหว่างองค์ชายใหญ่กับองค์ชายสามก็ไม่เพียงพอ นางต้องกวนน้ำให้ขุ่นมากขึ้นเพื่อซ่อนสภาพร่างกายของซวนเทียนหมิง องค์ชายห้าเป็นเพียงคนที่โชคร้ายและถูกลากลงไปในน้ำ ส่วนใครจะเป็นคนต่อไป นางต้องคิดอย่างรอบคอบ
เช้าวันรุ่งขึ้นเฟิงหยูเฮงนำหวงซวนไปที่ร้านห้องโถงสมุนไพร ในวันถัดไป นางสวมชุดเสื้อผ้าผู้ชาย นางใช้รูปลักษณ์ของเลอหวูหยู่อีกครั้งเพื่อรักษาผู้ป่วย
วังหลินไม่เจอเฟิงหยูเฮงนานกว่าหนึ่งเดือน ดังนั้นเขาจึงปรี่มาหาเฟิงหยูเฮงอย่างเร่งด่วน
เฟิงหยูเฮงรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไรและไร้ประโยชน์ หวงซวนส่งกล่อง 2 กล่องให้เขา “ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ยาเม็ดกลม นอกจากนี้ยังมียาเม็ดแบนสำหรับรักษาโรคบางชนิด ผลลัพท์และการใช้งานถูกเขียนลงไปแล้ว จำไว้ว่ายาเม็ดกลมจะยังคงราคาเท่าเดิม และยาเม็ดแบนจะแพงขึ้น 10 เท่า”
“อะไรนะ” วังหลินทำหน้าโง่งม “10 เท่า? คุณหนู…” เขาต้องการจะพูดเจ้านายว่าบ้าหรือ? แต่เขาไม่กล้า “ราคาไม่สูงไปหรือขอรับ ตอนนี้ยาเม็ดกลมก็ราคาสูงมากแล้ว”
“แต่นั่นก็ยังมีคนซื้ออยู่ไม่ใช่หรือ ?”
วังหลินพยักหน้า “นั่นเป็นเรื่องจริง หลังจากการปรากฏตัวของยาเม็ดกลม ผู้ที่มาจากตระกูลที่มีความมั่งคั่งจำนวนน้อยไม่ต้องการที่จะดื่มยาหม้อที่มีรสขมอีกต่อไป ดังนั้นแม้ว่ามันจะมีราคาแพงกว่านิดหน่อย แต่ยาเม็ดกลมยังคงหมดไปในช่วงกลางเดือน”
“งั้นไม่ต้องกังวล และขายต่อไป !” เฟิงหยูเฮงบอกเขาว่า “แม้ว่าผลของยาเม็ดแบนจะเหมือนกับยาเม็ดกลมทั่วไปแต่ก็ได้ผลเร็วกว่ามาก ยาเม็ดกลมรักษาอาการป่วยให้ขายขาดได้ภายใน 10 วัน แต่ยาเม็ดแบนเหล่านี้ได้ผลภายใน 2 วัน ซึ่งราคานี้ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของมัน เป็นราคาที่ถูกกว่าถึง 10 เท่า”
วังหลินยังกังวลอยู่เล็กน้อย “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีใครซื้อเลยขอรับ”
“ถ้าไม่มีใครซื้อก็ให้คืนให้ข้า ข้าจะขายมันให้ฮ่องเต้”
วังหลินผ่านไป เจ้านายของเขาช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ !
“ตอนนี้ข้าจะเอาตั้งที่หน้าร้านขอรับ” วังหลินไม่พูดอะไรอีก ขณะที่เขารับกล่องจากหวงซวนและไปทำงาน
หวงซวนถามเฟิงหยูเฮง “คุณหนูตอนนี้เรามียาเม็ดกลมและยาเม็ดแบนแล้ว ยอดขายยาหม้อจะลดลงหรือไม่”
“จะเป็นไปได้อย่างไร” เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “คนที่สามารถใช้เงินจำนวนมากได้มีเพียงไม่กี่คน นอกจากนี้ยังมีบางคนที่คุ้นเคยกับยาหม้อ พวกเขาจะยอมรับของแปลกใหม่เหล่านี้หรือ ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เดินไปข้างหน้าแล้วถามความต้องการยาหม้อลดลงหรือไม่?”
หวงซวนไปถามจริง ๆ เมื่อนางกลับมา นางบอกกับเฟิงหยูเฮงว่า “ความต้องการยาหม้อไม่ได้ลดกว่าเมื่อก่อนเจ้าค่ะ”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน วังหลินก็มาพบกันอีกครั้ง และพูดกับเฟิงหยูเฮงด้วยรอยยิ้ม “คุณหนู ข้ามีความคิด และอยากจะได้ยินความคิดเห็นของคุณหนูขอรับ”