ตอนที่ 23 : อัจฉริยะคืออะไร? ฉันกำลังพูดถึงเกม(อ่านฟรี)
สำหรับผู้เล่นบนโลกแห่งความจริง Resident Evil เปรียบเสมือนบทกวีระดับมหากาพย์
เนื้อเรื่องที่เรียบง่ายของนวนิยายทั่วไปกับบทบาทที่ผู้เล่นคนหนึ่งต้องช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขาหรือเธอ โดยการช่วยเหลือนั้นต้องอาศัยความใจกล้า แต่การเขียนนิยายเพียงแค่ผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้นิยายดูไม่สมจริง
ถึงอย่างนั้น Resident Evil One นั้นมีความต่างออกไป ความคืบหน้าของเกมขึ้นอยู่ที่ตัวผู้เล่นเกม ยิ่งไปกว่านั้นรายละเอียดของตัวละคนแต่ละตัวถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากฟางฉีผ่านด่านในเกมทั้งหมดแล้ว คนอื่นๆยังคงเดินเรื่องต่อไป จากประสบการณ์ที่พวกเขาและเพื่อนร่วมทีมได้พบดูเหมือนใกล้ความจริงเข้าไปทุกที
รีเบคก้าแพทย์ของทีมบราโว่ หญิงสาวดูเหมือนคนอ่อนแอแต่เธอฉลาดและเป็นประโยชน์ต่อทีมอย่างมาก เธอจะใช้เทคนิคทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนในทีมยิ่งกว่านั้นเธอสามารถสร้างยาได้ทุกชนิดและในระหว่างทางเธอยังช่วยแก้ไขปริศนาให้กับตัวละครหลัก
แบรี่ผู้มาพร้อมกับจิลล์นหนุ่มวัยกลางคนผู้แข็งแกร่ง เขามีปืนพกคู่กายและมีประสบการณ์คอยช่วยเหลือจิลล์ทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา นอกจากนี้ยังมีริชาร์ดผู้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตผู้เล่น
สำหรับผู้เล่นโลกใน Resident Evil ช่างแปลกประหลาดพิลึกชวนน่าค้นหา ยิ่งไปกว่านั้นมันทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นและต้องการผจญภัยมากขึ้น ระดับที่ยากต่อการผ่านนั้นมีความสำคัญอย่างมาก
- ศาลาลมและพระจันทร์ -
ร้านหยุนชานและศาลาลมและพระจันทร์ เป็นร้านสองร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองจิวหัว
ศาลานี้ตั้งอยู่ในส่วนที่คึกคักที่สุดในเมือง โต๊ะและเก้าอี้ในร้านทำจากไม้ลูกแพร์พันปีร้านอาหารหรูหราตกแต่งไปด้วยสีที่ไม่ฉูดฉาดมากนัก โดยส่วนมากแขกที่มารับประทานอาหารจะเป็นผู้มีภูมิฐานดีหรือผู้มีชื่อเสียง
“ฉีซินปกติแล้วเธอไม่ค่อยมาที่นี่ทำไมวันนี้ถึงเลือกมาร้านนี้ละ” สาวชุดเขียวนามว่าเฉินชิงชิงเอ่ยถามเพื่อน “วันนี้ฉันรู้สึกโกรธมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกนั้นจะไปที่คาเฟ่เร็วขนาดนี้!”
“อย่าไปพูดถึงมัน!” ซูฉีซินหยิบด้วยน้ำชาของเธอขึ้นมาจิบพลางชมวิว กลิ่นของใบชาหลงจิงให้ความหอมสดชื่นบรรเทาความโกรธของเธอให้ลดลง
“งั้นเรามาพูดเรื่อง Resident Evil กันเถอะ” เฉินชิงชิงยิ้ม “เธอไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลยว่าซอมบี้พวกนั้นเป็นยังไง”
“โอ้.. นั่น” เห็นได้ชัดว่าซูฉีซินไม่ขัดแย้งกับหัวข้อนี้ มันช่างเป็นเรื่องที่ควรพูดฆ่าเวลาจริงๆ “ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะไวรัสที่ทรงพลังที่ชื่อว่า T-Virus .. สัตว์พืชหรือมนุษย์หากได้รับไวรัสนี้จะทำให้กลายพันธุ์”
“มันช่างทรงพลังมากจริงๆ ... *0*” เฉินชิงชิงเบิกตาโพง แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะห่วง “ถ้าไวรัสตัวนี้แพร่กระจายขึ้นมาทุกคนในเมืองแร็คคูนจะต้องทุกข์ทรมาณใช่ไหม?”
“นี่เธอไม่เห็นตอนจบที่เจ้าของร้านเล่นหรอ” ซูฉีซินอดไม่ได้ที่จะขำ “ไวรัสนั้นคงแพร่กระจายไม่ได้อีกแล้ว เพราะตอนจบคฤหาสน์ได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆขนาดนั้น”
“ที่เธอพูดมันก็ถูก!” เมื่อชิงชิงได้รับคำตอบเธอรู้สึกสบายใจขึ้น
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเธอ พวกเขาก็กำลังพูดถึง Resident Evil เช่นกัน
จากอายุและชุดของพวกเขาเดาว่าเขาน่าจะเป็นนักเรียนจากสำนักหลิงหยวน
ชายหนุ่มในชุดสีขาวนั่งอยู่กับสองสาวที่มีนามว่าซีฉีและซีเซียวหยุน
“ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆมาเร็วมาก!” ซีฉีตบโต๊ะด้วยความโกรธ “บัดซบที่สุด! ทำไมคนต้องไปที่คาเฟ่กันเยอะแยะแต่เช้าด้วย!”
“ใจเย็นก่อนนายน้อยซี” ชายหนุ่มหน้าเหลี่ยมพูด “พวกเขาสามารถเล่นได้หกชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ไปกันวันหลังเถอะต้องมีที่นั่งสำหรับเราสักที่แหละ”
“แม่งเอ้ย ทำไมเจ้าของร้านไม่ตั้งกฏให้เล่นแค่คนละชั่วโมงวะ” ซีฉีพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ถ้าเขาจำกัดการเล่นของคนอื่นๆแค่ชั่วโมงเดียวและให้เราเล่นเป็นเวลาสิบสองชั่วโมงต่อวัน มันคงทำให้ฉันมีความสุขมากๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” ชายหน้าเหลี่ยมเพ้อ
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ..” ซีฉียิ้ม “นายพูดถูกพวกเขามีเวลาแค่หกชั่วโมงเท่านั้นหลังจากนั้น ที่นั่งก็จะเป็นของเรา!”
“โอ้ หวังหยวนเจียงนายอยู่ระดับไหนของเกม” เขามองไปที่ชายหน้าเหลี่ยม “มาพูดถึงเทคนิคและทักษะใน Resident Evil กันเถอะ อย่าปล่อยให้ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆนำหน้าเราไปได้!”
.. ในเมื่อยังไม่มีเกมให้เล่นก็พูดถึงเกมฆ่าเวลาไปพลางๆแล้วกัน
“Resident Evil? Origin?(ต้นกำเนิด)” ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี นั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาพึมพำ “ช่างเป็นชื่อที่แปลกจริงๆ” เขานั่งกินอาหารและตั้งใจคนพวกนั้นเอ่ยถึงสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
นาหลันหมิงสื่อผู้อยู่ชั้นเรียนระดับ A ของบ้านหวางในสำนักหลิงหยวน เป็นที่รู้จักกันของอาจารย์ทุกคนในฐานะผู้มีความสามารถซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในศตวรรษ เธอมีดวงตาคมลับกับใบหน้ารูปไข่ผิวของเธอขาวดุจไข่มุก ริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ
(ผู้แปล : ก่อนหน้านี้ที่เคยกล่าวถึงบ้านสี่หลังที่มี สวรรค์, โลก, ซวนและหวาง ซึ่งแบ่งด้วยคะแนนและในแต่ละบ้านแบ่งออกเป็นคลาสสี่คลาสคือ A, B,CและD แต่ละคลาสก็แบ่งกันโดยใช้เกรดเฉลี่ย A เกรดเฉลี่ยดีที่สุด และD เกรดเฉลี่ยน้อยที่สุด)
ถ้านักเรียนของคลาส A เปรียบเสมือนดวงดาวเธอก็คงจะเป็นดั่งดวงจันทร์ที่ทำให้ดวงดาวทุกดวงสว่างไสวยามอยู่บนท้องฟ้า นักเรียนอย่างเธอไม่ค่อยแสดงตัว แต่เมื่อใดที่เธอปรากฏอยู่ต่อหน้าสาธารณชนเธอจะกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจทันที
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ยินนักเรียนส่วนใหญ่พูดถึงสิ่งต่างๆเช่น ‘ไทแรนท์’, ‘ร็อคเก็ตรันเชอร์’, ‘ฮันเตอร์’ และ ‘ซอมบี้’ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจชวนสงสัย
ตอนนี้นักเรียนประมาณสิบกว่าคนได้มารวมัวกันที่ ศาลาลมและพระจันทร์พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องเหล่านี้เสียงดังราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่
“คนเหล่านี้ตาบอด!” หญิงสาวในชุดดำนั่งข้างนาหลันตะโกนอย่างเหยีดหยามขณะที่เธอจ้องมองนักเรียนเหล่านั้น “นี่นาหลัน ไปกันเถอะ”
“ไม่!” นาหลันส่ายหัวเธอยังไม่อยากลุกไปจากที่นี่ สิ่งที่คนพวกนั้นพูดถึงทำให้เธออยากหาคำตอบ
แม้ว่าเธอจะเพิ่งลงสมัครในสำนักหลิงหยวนแต่ด้วยความทะเยอทะยานและด้วยทักษะของเธอ นั่นทำให้เธอได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งที่นักเรียนในคลาส A ทุกคนจะคอยฟังเธอ แต่ตอนนี้… พวกเขาปฏิบัติราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน!
“ฟังในสิ่งที่พวกเขากำลังพูดก่อน” ความอยากรู้อยากเห็นของนาหลันเกิดขึ้น
“ฉันว่าในอนาคตเราควรแต่งงานกับผู้หญิงอย่างรีเบคก้า เพราะเธอเป็นคนมีไหวพริบ อ่อนโยนมีความห่วงใยและน่ารัก..” ชายหนุ่มหน้าเหลี่ยมพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่นายจริงจังหรอฉันว่าอย่างนายเหมือนกับซอมบี้สาวมากกว่า!”
“หรือจะเป็นฮันเตอร์สาวก็ไม่เลว!”
“ไอ้พวกบ้า!” ชายหนุ่มเริ่มฉุนจากความอับอาย “ถ้าฉันได้ปืนจรวดเมื่อไรนะจะยิงพวกนายให้เป็นชิ้นๆเลย!”
(ผู้แปล : ปืนจรวดที่เขาหมายถึงน่าจะเป็น Rocket Launcher เพื่อความอรรถรสภาษาบ้านๆ */\*)
บทสนทนาของพวกเด็กหนุ่ม
“เจ้าของร้านบอกว่าเราต้องเล่นให้ไทแรนท์อัพเกรดตัวเองเพื่อเข้าสู่รูปแบบที่สองก่อน แต่ก่อนจะไปถึงนั่นนายใช้เวลาฝึกทักษะไปก่อนอีกสักร้อยปี ฮ่าๆ”
“โอ้.. ฉันได้ยินมาว่าซงฉิงเฟิงกับเพื่อนเขากำลังหาวิธีที่จะพบปืนลูกซองและปืนสั้น”
“พวกเขาเจอไว้ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ไม่! ฉันแค่ได้ยินมาเฉยๆ รวมถึงวิธีการใช้ปืน หวังใต้ได้บอกวิธีระวังตัวจากกับดักแก่พวกเขาด้วย .. ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะมีผลประโยชน์ต่อกัน”
“ฉันว่าปืนสั้นเป็นอาวุธก่อนขั้นสุดท้ายที่จะใช้ต่อสู้กับไทแรนท์”
สีหน้าของนาหลันชักสงสัยเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้
“ขอโทษนะฉันขอขัดจังหวะพวกคุณหน่อย” สาวชุดดำเอ่ย “นี่พวกคุณกำลังพูดคุยกันเรื่องอะไรหรอ?”
“เรากำลังพูดถึงเกมจากร้าน ‘ต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่’ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมื่อง” ชายหนุ่มตอบอย่าสุภาพเขาเงยหน้าหันไปเจอนาหลันเขาถึงกับหันกลับมาด้วยความตกใจ
“เกม?” นาหลันขมวดคิ้ว คำตอบช่างไม่ค่อยตรงตามความคาดหวังของเธอซักเท่าไร
“พวกเขาคงให้ความสนใจกับเกมมากเกินไป!” หญิงชุดดำมองเด็กกลุ่มนั้นด้วยสายตาไม่พอใจนัก “ในฐานะเด็กสำนักหลิงหยวนด้วยกัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะให้ความสนใจกับเกมมากขนาดนี้”
“ไม่นะ” นาหลันยิ้มมุมปาก “ฉันว่ามันแปลกๆ”
“แปลก?” หญิงชุดดำทวนคำพูดซ้ำ “มีอะไรที่แปลก?”
นาหลันหรี่ตาหลงหน้าตามีเล่ห์นัย “ถ้าคนมากกว่าสองคนให้ความสนใจในสิ่งเดียวกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่แล้วมักไม่พูดถึงสิ่งเดียวกันมากนัก ฉันว่ามันต้องเป็นมากกว่าเกม”
เธออาจจะเข้าใจว่ามีเพียงสองหรือสามคนที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับเกม แต่ใครจะรู้อาจมีมากกว่านั้น
ซึ่งมันค่อนข้างยากที่จะเชื่อ!
“ไปกันเถอะ!”
“เธอต้องการไปที่นั่นหรือ” สาวชุดดำดูเป็นกังวล “เธอไม่ควรไปสถานที่แบบนั้น มันเสี่ยงเกินไปให้ฉันไปแทนเธอเอง”
“มีอะไรให้กังวลมันอยู่ในเมืองนะ” นาหลันยิ้มเอ่ยแซว “ไม่ต้องห่วงหรอก ลองไปดูกันพรุ่งนี้ ลันหยันเธอมากับฉันโอเคไหม?”
...