ตอนที่ 143 ฉันจำนายได้ต่อให้กลายเป็นเถ้าถ่านก็ตาม
การทำให้ศัตรูมึนงงคือกลยุทธ์ทั่วไปของผู้ใช้พลังจิต การต่อต้านพลังจิตที่แข็งแกร่งคือความแข็งแกร่งพวกเขา แต่ทว่า ระเบิดเสียงจะก่อให้เกิดอาการวิงเวียนในระดับสรีรวิทยาเพราะมันทำให้เกิดความไม่สมดุลของของเหลวในหู ดังนั้น แม้จะมีการต่อต้านพลังจิต ความทนทานก็คือตัวสำคัญในกรณีนี้ นั่นคือจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่สุดของผู้ใช้พลังจิตนั่นเอง
ฮีล่าได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี ความทรมานฉาบทั่วใบหน้าเธอ เธอเดินโซเซไปอีกข้างเหมือนคลื่น
ไม่ว่าฮีล่าจะเป็นใคร ในช่วงการต่อสู้ เธอก็มีแค่ตัวตนเดียว-ศัตรู!หานเซี่ยวรู้ว่าไม่มีความเมตตาและยิงต่ออย่างเย็นชา กระสุนพุ่งใส่ทั่วร่างฮีล่า ท้ายที่สุด เมื่อกระสุนหมด เขาก็ตั้งรองเท้าแม่เหล็กเป็นพลังสูงสุด และก่อนฮีล่าจะได้โต้ตอบ เขาก็เตะใส่เธอ เธอลอยไปในอากาศ ตกลงไปในแม่น้ำ
แม่น้ำถูกย้อมด้วยเลือดขณะร่างฮีล่าจมลง หานเซี่ยวไม่เชื่อว่าฮีล่าจะตาย และไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ เขาหวังว่าการโจมตีนี้จะทำให้ฮีล่าต้องพักฟื้นสักพัก
ศัตรูฆ่าได้ยาก ฉันไม่อาจจัดการกับเธอได้ในตอนนี้
เมื่อความคิดผุดขึ้น หานเซี่ยวก็มีเวลาคิดเกี่ยวกับหลี่ย่าหลินและเพื่อนร่วมทีมเขา ที่กำลังมองเขาอย่างตกใจ
“ปีศาจทมิฬ?”จางเว่ยถามอย่างระมัดระวัง เขาอดรู้สึกคุ้นเคยไม่ได้
จางเว่ยดูเหมือนจะจำเขาไม่ได้ และถือเป็นเรื่องดี ความคิดเกี่ยวกับความบาดหมางระหว่างองค์กรต้นกำเนิดและซีโร่นับว่าดีสุด และจะช่วยปกปิดตัวตนเขาต่อไปได้ ดวงตาของหานเซี่ยวทอประกายได้ไม่นานและเสียงตะโกนของหลี่ย่าหลินก็ดังขึ้น“หานเซี่ยว?!”
“หานเซี่ยว?ใครกัน?ฉันคิดว่าเธอจำคนผิดแล้ว”
“มันเป็นนาย!หยุดเสแสร้งได้แล้ว!ฉันสามารถจำได้นายแม้จะกลายเป็นกองขี้เถ้าก็ตาม!”หลี่ย่าหลินกัดฟัน
บ้าจริง เธอจำฉันได้ยังไง?จากฝีมือการแสดงฉัน ฉันจะยังถูกเปิดโปงได้ยังไง
หานเซี่ยวสับสน
หญิงสาวคนนี้คาดเดาไม่ได้จริงๆ!
สมาชิกของกองกำลังตกตะลึง พวกเขาสงสัยการตัดสินของหลี่ย่าหลิน แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกเชื่อมั่นเล็กน้อย ในตอนนี้ หานเซี่ยวอยู่ในชุดดำสนิท ซ่อนอินทรีคลั่งไว้ในมือทั้งสองข้าง ค่อยๆลอบเผยใบหน้าเขา
“โอ้ นั่นคือหน้าตาจริงๆของนาย...”จางเว่ยพึมพำ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหานเซี่ยวถึงมักสวมหน้ากาก
ในอดีต เมื่อพวกเขาทำงานร่วมกัน หานเซี่ยวมักสวมหน้ากาก สมาชิกไม่เคยเห็นหน้าตาเขาและไม่เคยรู้ตัวตนจริง ในเวลานั้น พวกเขาคิดว่าใบหน้าที่พวกเขาเห็นตอนใช้หน้ากากจำลองใบหน้าคือหน้าจริง พวกเขาคิดว่าเขาค่อนข้างหล่อ
แต่ไม่คิดเลยว่าปีศาจทมิฬชื่อดังจะเป็นเพื่อนเก่าเขา ทุกคนสับสน เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?ทำไมเขาถึงไม่เขาแสดงให้เห็นในอดีตและทำไมเขาถึงอยากออกจากมังกรดารามาเป็นนักฆ่า?เบื้องบนดูเหมือนจะยอมรับมันเช่นกัน
รอเดี๋ยว เขากลายเป็นปีศาจทมิฬขององค์กรตาข่ายมืด และเบื้องบนก็ยังยอมรับมัน หรือนี่จะเป็นภารกิจลับ?
“เข้าใจผิดแล้ว แต่ช่างมันไว้ก่อน ศัตรูอยู่นี่แล้ว!”หานเซี่ยวกล่าวอย่างเย็นชา
หลี่ย่าหลินโกรธ“อย่าปฏิเสธให้ยาก!”
ใช่แล้ว!เบื้องบนต้องส่งเขามาทำภารกิจลับ นั่นทำให้เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้!หรือมังกรดาราคิดล้วงความลับตาข่ายมืด?
สถานการณ์พาให้คนเข้าใจผิดโดยไม่รู้ตัว
การสนทนาสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว บนสนามรบ ทุกคนสามารถระงับความสงสัยและจดจ่อกับการจัดการศัตรูได้ มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างหน่วยรบมังกรดาราและกองทัพต้นกำเนิด ยอดมนุษย์พบเห็นได้ทั่วสนามรบ เปิดฉากโจมตีด้วยพลังพวกเขา เสียร้องอย่างเจ็บปวดและเสียงปืนดังไปทั่ว
ผู้บริหารต้นกำเนิดตรงไปหาหานเซี่ยว หานเซี่ยวชี้ไปยังผู้บริหารด้วยปืนพกเขาและส่งสัญญาณให้ทีมมังกรดาราเข้าต่อต้าน จางเว่ยและทีมเขาไม่คัดค้านและเริ่มต่อสู้
เมื่อผู้บริหารต้นกำเนิดวิ่งมา ร่างเขาก็พองตัวเหมือนบอลลูนและเปลี่ยนเป็นสัตว์ร้ายสีขาวสูงสี่เมตร สัตว์ร้ายเริ่มวิ่งบนดาดฟ้าเหมือนหมาป่า และร่างหนักเขาก็ทำให้ดาดฟ้าสั่นสะเทือน เขาเปิดปากกว้างและพุ่งใส่ การกระทำนี้เต็มไปด้วยพละกำลัง
การเปลี่ยนรูปแบบคือสายสามัญจากพวกเอสเปอร์ พวกเขาสามารถเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ อ่อนหรือแข็ง รูปแบบที่พวกเขาใช้อาจแปลกมากจนหลุดจินตนาการ กล่าวกันว่ามันข้องเกี่ยวกับวิวัฒนาการและการกลายพันธ์ของยีนต่างๆ บางคนอาจเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาว บางคนอาจเป็นสัตว์ร้าย เอสเปอร์คนนี้ปรากฏได้มากสุดบนดาว ลักษณะนี้สามารถถ่ายทอดได้ผ่านสายเลือดหรือจากการฝึกฝน
วิทยาศาสตร์และเวทมนตร์สร้างด้วยอารยธรรมที่แตกต่างกัน และมีความแตกต่างในความเข้าใจ นอกจากนี้ วิธีการทดลองยังแตกต่างกันและแต่อันก็ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
หมาป่าสีขาวตัวใหญ่กระโจนไปรอบดาดฟ้าขณะพยายามโจมตี หานเซี่ยว จางเว่นและอีกสองร่วมมือกันพยายามโค่นล้มหมาป่า หานเซี่ยวรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขา เขายอมให้จางเว่ยและชุดเขาทำหน้าที่เป็นรถถัง ส่วนหานเซี่ยวยืนข้างๆและพยายาลอบโจมตี บางครั้งเขาก็ใช้ถุงมือเฉือนเนื้อของหมาป่า
ห่าวเย่ใช้อินทรีคลั่งเขา และการลงมือเขาก็รวดเร็วเหมือนสายน้ำ เดิมที เขาภูมิใจตัวเองมาก แต่หลังเห็นฝีมือและการยิงที่ไม่เคนพลาดของหานเซี่ยว ห่าวเย่ก็รู้สึกเหมือนเขากำลังหลอกตัวเอง
ปีศาจทมิฬ ร้ายกาจสมชื่อ ห่าวเย่ลอบชื่นชม
เขาเข้าร่วมกลุ่มของจางเว่ยเพราะเขาได้รับคำสั่งจากเบื้องบนและไม่เคยได้ยินว่ากลุ่มจางเว่ยจะสร้างผลลัพธ์ดีได้ แต่ก็ต้องประหลาดใจที่ว่าปีศาจทมิฬแท้จริงแล้วคืออดีตเพื่อนร่วมกลุ่ม
หมาป่าขาวถูกทุบตีอย่างรุนแรง เมื่อตระหนักว่าเกินขีดความสามารถมันและผู้บริหารคนอื่นก็ไม่อาจเข้ามาช่วยได้ มันจึงหันหลังและหนีไป หานเซี่ยวคิดไว้อยู่แล้วและจากนั้นเขาก็ยิงอินทรีคลั่งใส่ตาของหมาป่าขาวพร้อมเปิดใช้งาน[เจตจำนงค์แห่งเพลิง]
ครั้งนี้ ความเสียหายเพิ่มขึ้น3.2เท่า!
บูฒ!
ตาของหมาป่าขาวระเบิด และมันก็ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดขณะล้มลง เรือทั้งลำสั่นสะเทือน จางเว่ยรีบทำการโจมตีอีกครั้ง ด้วยปืนที่ไร้กระสุน เกราะแขนของจางเว่ยจึงขยายออกเป็นดาบทอง เขากระโจนขณะระเบิดพลังงานของชุดและฟันร่างของหมาป่าขาวอยู่หลายครั้ง
คนอื่นๆเข้ามาร่วมและในที่สุดหมาป่าขาวก็ตกตาย
จากนั้น กำลังหนุนก็มาถึงท่าเรือและปล่อยสัญญาณวูบวาบเพื่อส่งสัญญาณให้ล่าถอย ในเวลานั้น จางเว่ยก็หันมาและถามหานเซี่ยว“หาน...ปีศาจทมิฬ จะกลับไปกับเราไหม?”
“ไม่ ขอบคุณ”หานเซี่ยวโบกมือ
“เอาละ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ฉันจะจำไว้ มังกรดาราจะจดจำมันไว้!”
คำพูดของจางเว่ยมีความหมายซ่อนเร้นอยู่ ร่วมกับกองกำลังเขา เขาหมุนตัวและกระโดดลงเรือจู่โจม หลี่ย่าหลินหันมามองหานเซี่ยวก่อนจากไป
เมื่อสมาชิกของแผนก13ถอนตัว หานเซี่ยวก็เปิดใช้งานรองเท้าแม่เหล็กไฟฟ้าและกระโดดลงฝั่ง เขาวิ่งไปหารถบรรทุกที่วิ่งตามเขามาโดยอัตโนมัติและกระโดดขึ้นที่นั่ง ปรับเป็นระบบมือและออกจากฝั่งทันที
ฮีล่า ผู้ที่เปียกชุ่มได้ปีนขึ้นเรือ สู้กับอาการวิงเวียนของเธอ จ้องมองรถบรรทุกที่ขับหายไปอย่างอาฆาต
“ปีศาจทมิฬ ฉันจะจำแกไว้!”ฮีล่าดูเย็นชาขณะที่ร่างเธอฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
กองทัพต้นกำเนิดมาถึงท่าเรือและปล่อยตอร์ปิโด ทำให้เหมืองทะเลระเบิดด ด้วยการระเบิดของน้ำ พวกเขาประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ทะเลเปิด
กองทัพเรือเฮสล่าเข้ามาและไม่ได้ไล่ล่า เรือทั้งสองฝ่ายต่างถูกจำกัด ในระหว่างการยิงปืนใหญ่ เรือต้นกำเนิดก็จบลง
ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การรบ กองทัพต้นกำเนิดได้หลุดจากการโจมตีและหลบหนีไปได้
แต่ทว่า หากนับความเสียหาย องค์กรต้นกำเนิดก็สูญเสียกำลังไปถึง70% ส่วนเฮสล่าเสียไปไม่ถึง10%ด้วยซ้ำ มันจะกล่าวว่าเป็นชัยชนะขององค์กรต้นกำเนิดก็ไม่ได้
แม้พวกเขาจะไม่อาจหยุดกองกำลังต้นกำเนิดได้ แต่ทั้งสองประเทศก็สามารถสร้างความเสียหายให้ศัตรูได้
สรุปแล้ว ผู้ชนะก็คือมังกรดาราและเฮสล่า
...
ผ่านหน้าต่าง หานเซี่ยวเหลือบมองทะเล มื่อผลพวงจากการทำลายค่อยๆหายไปจากสายตา เขาก็ส่ายหัว
“การต่อสู้จบลงแล้ว”
หานเซี่ยวเหลือบมองดาบคลั่งผู้ที่ดูเหมือนจะคืนชีพแล้วและกำลังนั่งข้างเขาและเขียนภารกิจไร้ข้อกำหนดให้ ดาบคลั่งได้มารีบมีดแทนเขา และดังนั้นเขาจึงมอบค่าประสบการณ์ให้แม้เขาจะไม่ต้องการ
คำอธิบายภารกิจคือรางวัลสำหรับการรับดาบแทนหานเซี่ยว และนั่นทำให้ดาบคลั่งประหลาดใจ การกระทำเขาเป็นไปอย่างสมัครใจเพราะคิดว่าตัวเองตายได้แต่หานเซี่ยวห้าม เขาไม่คิดว่าจะได้รับรางวัลใดๆ และเขาก็กลายเป็นอยากปกป้องหานเซี่ยวมากขึ้น
หลังมอบรางวัล หานเซี่ยวก็หันกลับมาดูหน้าต่างสถานะตัวเองและฉีกยิ้ม
[การเลื่อนสายอาชีพครั้งที่สอง]
ความคืบหน้า : 3/3
หมาป่าขาวที่เขาสู้ร่วมกับจางเว่ยคือตัวละครระดับ45 เมื่อมันเป็นการต่อสู้ร่วม ค่าประสบการณ์จึงได้รับแค่น้อยนิด แต่ ข้อกำกหนดภารกิจก็ยังกล่าวว่าสำเร็จ ซึ่งหมายความว่า...
ฉันสามารถเลื่อนขั้นได้แล้ว!