GE121 นักปรุงโอสถผันแปรที่ 9[ฟรี]
ขั้นตอนแรกคือวาดลวดลายบนร่างของหมิงเชว่
ขั้นตอนที่ 2 คือสัมผัสถึงพิษไร้ลักษณ์ตามลวดลายที่วาดไว้บนร่าง จากนั้นผนึกพวกมัน เหลือไว้ในปริมาณที่พลังระดับของเขตแก่นทองคำของนางจะดูดซับได้
การวาดลวดลายนั้นจะผิดพลาดไม่ได้ ด้วยระดับสัมผัสเทพและเต๋าแห่งข่ายพลังของหนิงฝานนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ขั้นตอนที่สอง คือสัมผัสกับพิษและแยกพวกมันเป็นสองส่วนนั้น หนิงฝานยังไม่มั่นใจนัก เพราะต่อให้มีสมุนไพรหมื่นปีช่วย เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสำเร็จ
ยิ่งเพลิงรุนแรงมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยสยบพิษได้ดีเท่านั้น
หนิงฝานยืนอยู่บนศิลาที่ร้อนระอุ ใต้ฝ่าเท้าเป็นลาวาเหลว เมื่อตัดสินใจได้ เขาโอบประครองหมิงเชว่ จุดเพลิงปีศาจทมิฬคุ้มกาย แล้วกระโดดลงไปในลาวาเหลว!
เมื่อลงไปในลาวาเหลว ยิ่งลึก ความร้อนที่ทวีความรุนแรง แม้ปราณของหนิงฝานจะต้านทานความร้อนเหล่านั้นได้ แต่ก็เผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว หนิงฝานนำสมุนไพรหมื่นปีออกมา มีนามว่าเห็ดฉวน เขากัดและเคี้ยวมันเพื่อฟื้นฟูปราณ
เห็ดฉวนเป็นสมุนไพรหายาก แม้จะไม่สามารถช่วยยกระดับพลังได้ แต่ช่วยฟื้นฟูปราณได้อย่างรวดเร็ว สมุนไพรชนิดนี้มีราคาแพง แม้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มก็ไม่อยากแตะมัน
หมิงลั่วเป็นผู้ให้เห็ดฉวนกับหนิงฝาน และเขาก็ไม่เสียดายที่จะกินมัน เพราะเขาต้องรักษาชีวิตของตนก่อนเป็นอันดับแรก
ปราณของหนิงฝานถูกเผาผลาญอย่างต่อเนื่อง และถูกเติมเต็มอย่าต่อเนื่องไม่ขาด ทั้งแต่ละครั้งที่ปราณเพิ่มพูน ยังทำให้ปราณของเขาทรงพลังมากขึ้น หนิงฝานไม่ได้ปล่อยให้ตนจมลึกลงไปลาวามากนัก เมื่อปราณของเขาใกล้จะหมด เขาจะออกมานอกลาวาแล้วกินเห็ดฉวน
อานุภาพของลาวารุนแรงเกินกว่าที่หนิงฝานคาด แต่นั่นก็ทำให้ฤทธิ์ของพิษไร้ลักษณ์ในร่างเบาบางลง เป็นเหตุให้โอกาสที่จะช่วยนางให้สำเร็จมีมากขึ้น
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขาใช้นิ้วที่ลุกโหมด้วยเพลิงปีศาจทมิฬ จี้ไปที่กลางอกของนาง จากนั้นถ่ายสัมผัสเทพเข้าไปในร่างกายของนาง แต่ไม่นาก็ถูกแช่แข็ง
การแช่แข็งเกิดจากสัมผัสเทพ เมื่อครั้งที่อยู่ในสุสานชั้น 2 หนิงฝานเคยประสบกับการถูกแช่แข็งสัมผัสเทพ
แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ชั้น 2 ของสุสาน หนิงฝานเองก็ดูดซับปราณปีศาจทมิฬแล้ว มันจึงลุกไหม้ และหลอมละลายสัมผัสเทพที่ถูกแช่แข็ง ทำให้สัมผัสเทพของหนิงฝาน ไหวเวียนไปตามเส้นลมปราณของนาง เพื่อสัมผัสถึงพิษไร้ลักษณ์
“เส้นลมปราณ 1 เส้น… 2 เส้น… 10 เส้น!”
20 เส้น… 30 เส้น… 40 เส้น!
หนิงฝานค่อยๆสัมผัสและรวบรวมพิษไร้ลักษณ์เหล่านั้นและผนึกพวกมัน
แต่ในยามคับขัน จู่ๆกลับมีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังขึ้นจากทางด้านหลัง… เป็นสัตว์อสูรที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากลาวา
สัตว์อสูรชนิดนี้มีร่างเป็นเพลิง แม้จะมีพลังในขอบเขตประสานวิญญาณ แต่มันได้ลอบจู่โจม แม้หนิงฝานมีร่างกายที่ทรงพลัง แต่เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งการผนึกพิษไร้แบ่งแยกยังเกือบจะล้มเหลว
“อสูรเพลิงสวะ รนหาที่ตาย!!”
หนิงฝานใช้หนิงสัมผัสหน้าฝาก เรียกร่างวิญญาณของตนออกมา!
เงาสีดำทะยานออกจากร่างหนิงฝาน รูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่กลับมีเจตสังหารที่รุนแรงกว่า แรงกดดันของกึ่งดวงจิตแรกเริ่ม เป่าทะเลเพลิงที่สัตว์อสูรตนนั้นจู่โจมจนหายสิ้น!
“สัตว์อสูรสวะกล้าทำร้ายข้า… กล้าขัดขวางข้าช่วยเหลือนาง… รนหาที่ตาย!”
ร่างวิญญาณของหนิงฝานระเบิดปราณที่ทรงพลัง ระดมจู่โจมเข้าใส่ร่างของสัตว์อสูรตนนั้น จนร่างของมันระเบิด เหลือไว้เพียงมุกกลมสีแดง… ร่างวิญญาณของหนิงฝานเก็บมันขึ้นมา
“แก่นอสูร มีเพียงสังหารสัตว์อสูรขอบเขตแก่นทองคำเท่านั้นถึงจะได้… ดูเหมือนอีกไม่นานมันจะบรรลุแก่นทองคำ แต่น่าเสียดายที่จู่โจมข้า!”
ร่างวิญญาณหันมากล่าวกับหนิงฝาน “เจ้าช่วยนาง ส่วนข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
“วางใจได้”
ร่างวิญญาณคือจิตวิญญาณอีกดวงของหนิงฝาน จึงถือเป็นคนละคน ราวกับคนหนึ่งเป็นซีกซ้าย อีกคนเป็นซีกขวาของร่างกาย ทั้งสองจะไม่มีวันทรยศหักหลังกัน
ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก คนเหล่านั้นมักจะสร้างร่างจำแลงของตนขึ้นมา เพราะในโลกแห่งการฝึกตนนี้ มีเพียงตนเองที่จะไม่ทรยศหักหลังตน… เส้นทางของผู้เชี่ยวชาญนั้นต้องระมัดระวังอย่างสูง เพราะไม่มีผู้ใดที่ชื่อใจได้
แต่เมื่อร่างวิญญาณของหนิงฝานสัมผัสกับลาวา มันกลับร้องลั่นและเร่งถอยห่าง
หนิงฝานที่อยู่ไกลออกไป ยังคงตั้งใจรักษาหมิงเชว่อยู่
อาการบาดเจ็บสาหัสของหนิงฝานยังไม่ได้เยียวยา แต่เขายังสะกดความเจ็บไว้เพื่อช่วยชีวิตนาง
“ท่านพี่โอสถเป็นคนดี… ขอบคุณ… ท่านดีกับข้ามาก...” หมิงเชว่ลืมตา และยิ้มให้หนิงฝานอย่างงดงาม
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก… เจ้าเจ็บหรือเปล่า?”
“ไม่… ไม่เจ็บสักนิด” การชักนำและสะกดพิษนั้น เป็นขั้นตอนที่เจ็บปวดมาก แต่นางยังคงฝืนยิ้มให้หนิงฝาน
นางเป็นสตรีที่แข็งแกร่งนัก
“ทนก่อนนะ… อีกไม่นานข้าก็ผนึกพิษเสร็จ ข้าจะปรุงโอสถให้เจ้ากิน” หนิงฝานปลอบโยนนาง เพราะแม้นางจะกล่าวว่าไม่เจ็บ แต่แววตาของนางเผยถึงความเจ็บปวดอย่างที่สุด
“อืม...”
50 เส้น… 60 เส้น… 90 เส้น...
ด้วยเพราะหนิงฝานบาดเจ็บสาหัส การผนึกพิษไร้ลักษณ์จึงไม่เป็นไปอย่างราบรื่น เขาผนึกพิษไปได้ 9 ใน 10 ส่วน เหลือเพียงส่วนสุดท้ายที่ต้องผนึกมัน
อีกเพียงนิดเดียวจะสำเร็จ… แต่หนิงฝานกลับต้องขมวดคิ้ว เพราะส่วนสุดท้ายของพิษ เขาไม่อาจผนึกมันได้
หนิงฝานพบว่าในร่างหมิงเชว่ยังซ่อนผนึกบางชนิดไว้… เรียกว่า ‘ผนึกสมุนไพร’
ผนึกสมุนไพรเป็นผนึกระดับสูงที่ผู้เป็นนายสมุนไพร ได้ลงผนึกเพื่อป้องกันคนอื่นกินสมุนไพรของตน หากสมุนไพรของตนถูกช่วงชิง สมุนไพรจะสลายไปทันที
ในเมื่อตนเองไม่อาจครอบครอง ผู้อื่นก็อย่าหวังครอบครอง
หมิงเชว่คือสมุนไพรปีศาจ ในร่างของนางก็มีผนึกสมุนไพร… หนิงฝานไม่แปลกใจกับเหตุการณ์เช่นนี้… หมิงเชว่มีนายผู้เป็นนักปรุงโอสถครอบครอง
และผนึกสมุนไพร ก็เป็นอุปสรรคในการผนึกพิษไร้ลักษณ์ส่วนสุดท้ายของหนิงฝาน
“ท่านพี่โอสถ เกิดอะไรขึ้น...” นางขมวดคิ้ว ยามนี้ผนึกสมุนไพรของนางกำลังอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ
“ไม่มีอะไร แค่ผนึกทั่วๆไป...ของนักปรุงโอสถผันแปรที่ 9!”
หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย… นักปรุงโอสถผันแปรที่ 7 คือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ส่วนนักปรุงโอสถผันแปรที่ 9 ต้องบรรลุเซียน เหตุใดเซียนผู้นั้นถึงได้ให้กำเนิดหมิงเชว่ที่นี่… หรือว่าเซียนผู้นั้นกำลังจะก้าวข้ามนักปรุงโอสผันแปรที่ 10
แม้เซียนผู้นั้นจะไม่ได้มีเจตร้าย แต่เมื่อมันสลักผนึกสมุนไพรกับหมิงเชว่ วันหนึ่ง มันก็ต้องกินนางอยู่ดี
แม้หนิงฝานจะไม่อาจปรุงโอสถผันแปรที่ 9 ได้ แต่วิธีคลายผนึกสมุนไพร เขามีอยู่หลายวิธีด้วยกัน
แสงสีฟ้าปรากฏขึ้นชั่วพริบตาแล้วหายไป หนิงฝานยิ้มพลางกล่าวกับหมิงเชว่
“วางใจเถอะ ตอนนี้ข้าผนึกพิษไว้ทั้งหมดแล้ว… นับจากวันนี้ไป เจ้าเป็นอิสระ”
หนิงฝานกระทำบางอย่าง เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วยาม ผนึกสมุนไพรและพิษไร้ลักษณ์ก็ถูกผนึกทั้งหมด
ชั่วลมหายใจนั้น แรงกดดันของหมิงเชว่เพิ่มพูน ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง
แรงกดดันของนางทะลวงจากขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นไปยังขั้นสูงสุดในพริบตา
แรงกดดันที่ดูยิ่งใหญ่ค่อยๆก่อตัวอย่างช่างๆ ร่างกายของนางก็เปลี่ยนแปลง
…
ภายในทะเลไร้สิ้นสุด มีเกาะแก่งด้วยกัน 103,000 แห่ง แต่หนึ่งในนั้น มีเกาะลอยฟ้าขนาดยักษ์อยู่เกาะหนึ่ง ที่นั่นได้ปรากฏลำแสงสีดำยิงลงมา
ผู้เชี่ยวชาญบนเกาะแห่งนั้นตกตะลึง
“ท่านเทพ… ท่านเทพไม่ได้ทอดทิ้งเรา ท่านกลับมาแล้ว!”
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณคนหนึ่งกล่าว พลางคุกเข่าให้ผู้ที่เรียกขานว่าเทพ คนอื่นๆก็คุกเข่าเช่นกัน
หากสังเกตุดีๆแล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญของเกาะแห่งนั้น แม้จะมีรูปลักษณเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่เส้นลมปราณภายในไม่ใช่เส้นลมปราณของมนุษย์ เป็นของสัตว์อสูร!
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณนับร้อยที่คุกเข่า ทั่วร่างแผ่ปราณอสูรที่ทรงพลัง
ผู้ที่พวกมันเถิดทูนนั้น คือราชินีแห่งเผ่าวิหคทมิฬโบราณ… ซือชาง!...