53 เส้นทางของชีวิตนั้นไม่มีวันหยุด
53 เส้นทางของชีวิตนั้นไม่มีวันหยุด
เธอกังวลเป็นอย่างมาก เมื่อปู่ของเธอในตอนนี้อยู่ใกล้ปากเหวของความตายเข้าไปทุกที หมอได้บอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว และให้ครอบครัวเตรียมพร้อมรับเรื่องเลวร้ายที่สุดเอาไว้
ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตและสถานการณ์นั้นค่อนข้างจะเคร่งเครียด
ความจริงมันแย่มากที่เธอฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับชายหนุ่มคนหนึ่ง
โรคที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์หลายคนยังรักษาไม่ได้ แล้วชายหนุ่มคนนี้จะทำได้เหรอ? กั๋วซือหรงคิด
“อีกสามวันคุณค่อยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” หวังเย้าพูด
เขาสะสมคะแนนได้บางส่วน เขาจึงซื้อชานจิงและกุยหยวนสำหรับทำซุปเป่ยหยวนได้แล้ว มันเป็นเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น พวกเขาก็กลับมาหาเขาแล้ว มันคงเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขา
“อีกสามวันเหรอ?” กั๋วซือหรงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สามวันนานเกินไปเหรอ?” หวังเย้าถามอย่างสงบ
ถึงแม้ทุกวันนี้เขาจะต้มยาสมุนไพรออกมาหลายตัวแล้วและได้รับความรู้มากมายจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองและได้รับความรู้จากระบบ แต่ก็ยังมีเรื่องที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับการต้มยาชนิดนี้อยู่สองเรื่อง นั้นก็คือความสามารถในการรักษาโรคของยาตัวนี้มีอยู่สองอย่าง ซึ่งเขาไม่รู้ว่าผลลัพท์ของมันจะใล่รักษาได้ผลหรือไม่ และซุปก็ไม่สามารถทำอย่างเร่งรีบได้
“ตกลง สามวันได้ ขอบคุณ” กั๋วซือหรงและเหอฉีเชิงอยู่เพียงครู่เดียวแล้วจึงจากไป
หวังเย้าใช้คะแนนที่เขาสะสมเอาไว้มาแลกกับชานจิงและกุยหยวนจนหมด
หวังเย้ามองไปยังสมุนไพรทั้งสองชนิดในมือของเขา พวกมันสมุนไพรที่ใช้รากในการทำยา พวกมันดูคล้ายกับโสม แต่ชนิดหนึ่งนั้นมีขนาดยาวกว่าและอีกชนิดหนึ่งนั้นแข็งกว่า พวกมันมีรากฝอยและรากแก้วพร้อมกับกลิ่นที่เข้มข้น
เขาได้จัดเตรียมสมุนไพรและฟืนไว้ภายในหนึ่งวัน และเขาก็ได้ตรวจสอบสูตรยาอีกหลายครั้ง แล้วจึงเริ่มอ่านบทความในคัมภีร์และฝึกการหายใจเหมือนทุกวัน
บนท้องฟ้านั้นสว่างสดใส และพระอาทิตย์ก็สว่างสดใสในวันต่อมา
หลังจากทำสวนและฝึกร่างกายเสร็จแล้ว หวังเย้าก็เริ่มต้มยาสมุนไพร เขาตรวจสอบสูตรยา, สมุนไพร, ฟืน, น้ำแร่โบราณ และหม้ออเนกประสงค์สำหรับต้มยา
น้ำเริ่มเดือดเมื่อไฟข้างใต้เริ่มแรงขึ้น
เวลาในการต้มสมุนไพรแต่ละตัวนั้นแตกต่างกันออกไป บางตัวต้องใช้เวลานานในการเคี่ยวเพื่อให้ได้ส่วนสกัดออกมา ขณะที่บางตัวก็ใช้เวลาไม่นานเพราะฤทธิ์ของยาอาจจะถูกทำลายได้ถ้าเคี่ยวไว้นานจนเกินไป
หวังเย้ามองไปที่หม้อต้มยาและเช็คเวลา เขาเพิ่มฟืนเข้าไปเพื่อให้ไฟยังคงมีอยู่
ฟืนนั้นจำเป็นสำหรับการต้มยา เพราะเมื่อใช้แก็สแทนมันจะทำให้ฤทธิ์ของยานั้นไม่ดีเท่าที่ควร ฟืนนั้นมาจากต้นไม้ มันจึงเป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติและนำมาใช้ให้กลายเป็นไฟได้ คล้ายกับการทำเครื่องดินเผา การทำเครื่องดินเผานั้น จำเป็นต้องใช้ฟืนที่พิเศษ มันไม่สามารถทำสำเร็จได้หากใช้แก็ส
น้ำในหม้อเดือดอย่างสม่ำเสมอด้วยไฟที่เผาอยู่ใต้หม้อ ส่วนผสมที่ใช้ในการต้มสมุนไพรนั้นมีน้ำแร่โบราณอยู่ด้วย ทำให้เกิดกลิ่นหอมพิเศษอยู่เต็มกระท่อม
สมุนไพรนั้นควรจะต้องใส่ลงไปที่ละอย่าง
โสม, หลินจือ, ตังกุย...
เวลาผ่านไปและซุปในหม้อก็ค่อยๆเปลี่ยนสีไป
สมุนไพรรากถูกใส่ลงไปอย่างระมัดระวัง ชานจิงถูกใส่ลงไปก่อนเพราะมันต้องใช้เวลาตุ๋นพอๆกับโสมป่า กุยหยวนถูกใส่ลงไปหลังจากนั้น เพราะมันค่อนข้างพิเศษ มันจะช่วยประสานฤทธิ์ของสมุนไพรเข้าไว้ด้วยกัน
ไฟยังคงเผาไหม้อยู่ในขณะที่หม้อถูกนำออกจากเตา
หวังเย้าเทซุปสีแดงลงไปในขวดกระเบื้องสีขาวที่เขาได้เตรียมเอาไว้ แล้วซุปเป่ยหยวนก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หวังเย้าเงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่าง มันมืดแล้ว เขาไม่สนใจด้านนอกเลยในตอนที่เขาจดจ่ออยู่กับการต้มยา แม้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ก็จะได้รู้ผลเร็วๆนี้
ในวันนี้ พระอาทิตย์ขึ้นในเวลาแปดโมงตรง มีรถขับเข้ามาในหมู่บ้านที่เงียบสงบและมีคนสองคนออกมาจากรถและขึ้นไปบนเนินเขา พวกเขาตรงไปที่แปลงสมุนไพร แต่กลับไม่พบหวังเย้า มีเพียงสุนัขที่มีขนบางเบากำลังเห่าใส่พวกเขาไม่หยุดเท่านั้น
“เขาไปไหน?!” กั๋วซือหรงมองไปรอบๆอย่างกังวลและสุนัขก็ยังคงเห่าไล่พวกเขาอยู่
“คุณหนู เงียบก่อนครับ เราควรรอสักพัก” เหอฉีเชิงที่อยู่ข้างๆหยุดเธอ
สุนัขหยุดรบกวนพวกเขาเมื่อเห็นว่าพวกเขาหยุดอยู่ตรงทางเดิน
“เสียดายจัง!”
บนหินก้อนใหญ่ด้านบนเนินเขา หวังเย้าได้ยินเสียงเห่าแล้วจึงลืมตาขึ้น
เขาพบคนสองคนเมื่อเขาเดินลงมา
“พวกคุณมาเร็วมาก” เขาพูด
“มันทำเสร็จรึยัง?” กั๋วซือหรงถาม
“มันเสร็จแล้ว” หวังเย้าโบกมือแล้วขวดกระเบื้องก็ปรากฎออกมาบนมือเขา มันยังคงอุ่นอยู่และกั๋วซือหรงก็อยากจะยื่นมือออกไปเอามันมา
‘ภารกิจ : ยาที่ดีต้องมีราคา’
“ฉันรู้น่า!” หวังเย้าพูดเสียงเบากับระบบ
“ราคาเท่าไหร่คะ” กั๋วซือหรงถาม
‘ในร้านขายยาต้องจ่ายเป็นทอง 4,000กิโลกรัม คุณสามารถใช้เงินแทนทองได้ คิดเป็นเงินหนึ่งล้านหยวน’
มันแพงมาก
เมื่อได้ฟังราคา หวังเย้าก็ถอนหายใจ เขาไม่แปลกใจเลย เพราะซุปอันเฉินซานก็แพงเหมือนกัน
“คุณกั๋วนั้นคือราคาของยา” แม้หวังเย้าจะไม่อยาก แต่เขาก็ต้องพูดออไป
“อะไร?” กั๋วซือหรงตกใจ “เท่าไหร่นะ?”
“หนึ่งล้าน” หวังเย้าตอบ
“อะไรนะ?!” กั๋วซือหรงยังคงตกใจ แต่เธอก็กลับมาเป็นปกติในไม่ช้า “เลขบันชีของคุณคืออะไรคะ ฉันจะโอนเงินให้คุณทันทีค่ะ”
ในชีวิตนี้เขาคงหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นไม่ได้ แต่มันกลับไม่มีความหมายสำหรับเธอเลย ตอนนี้ได้มีเงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนอยู่ในบันชีของหวังเย้าเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องนี้จะต้องเป็นความลับ” หวังเย้าย้ำอีกครั้ง
“ไม่มีปัญหา ฉันทำได้ แล้วยาตัวจะใช้ยังไงเหรอคะ?” กั๋วซือหรงถาม
“กินสามเวลาในสองวัน และตอนกินในตอนที่ยังอุ่นอยู่ด้วย”
กั๋วซือหรงและเหอฉีเชิงเข้าใจขั้นตอนการกินยาแล้ว พวกเขาก็จากไปพร้อมกับยาอย่างรวดเร็ว พวกเขาขับรถไปตามถนนและออกจากมณฑลฉีด้วยเครื่องบินในเช้านี้ทันที พวกเขาบินไปยังเมืองจิง
ในเมืองจิง มีโรงพยาบาลเฉพาะทางและห้องผู้ป่วยพิเศษ มีบุคคลากรทางการแพทย์หลายคนให้การดูแลชายชราอยู่ ชายชรานอนไม่มีสติอยู่บนเตียง เขาดูผอมบางและมีจุดกระแสดงถึงความชราอยู่บนใบหน้าของเขา สามารถบอกได้ว่าเขานั้นอยู่ในช่วงเวลาของความเป็นความตาย
มีชายอายุราว40ยืนอยู่ข้างหนึ่งของเตียง เขาดูเป็นกังวลมาก
“ลุงเฉิน เขาเป็นยังไงบ้างครับ?”
“เราได้พยายามถึงที่สุดแล้วเพื่อประคับประคองอาการของเขาเอาไว้” หมอพูดช้าๆ “แต่พวกคุณทุกคนควรจะเตรียมใจเอาไว้ด้วย!”
“ได้ครับ ขอบคุณครับ” ชายวัยกลางคนพูด
เขาออกไปจากห้องและจุดบุหรี่ เขามองไปที่วิวข้างนอกหน้าต่าง ช่วงเวลากลางคืนในเมืองจิงนั้นเต็มไปด้วยแสงไฟ ในเวลานั้นมีหญิงวัยกลางคนที่ดูน่าดึงดูดใจรีบเข้ามาในห้อง
“เขาเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรอัพเดทไหม?” เธอถามด้วยความกังวล
“ไม่มี เขายังเหมือนเดิม”