ตอนที่ 141 ดวล
จางเว่ยสวมชุดเพิ่มพลังเขา ยืนอยู่ด้านหน้าของเรือรบ แลมเบิร์ตค่อยสร้างความเสียหายด้วยการซุ่มยิง
เรือจู่โจมลำนี้ไม่เพียงแต่จะมีกลุ่มของจางเว่ย-แต่ยังมีนักสู้อีกสิบคน
เรือรบพุ่งทะยานไปข้างหน้าผ่านคลื่น แล่นผ่านกระสุนและขีปนาวุธก่อนจะชนกับเรือต้นกำเนิดเสียงดัง กลุ่มแทรกซึมได้กระโดดขึ้นเรือและเริ่มปะทะกับทหารต้นกำเนิดอย่างดุเดือด
แผนขององค์กรต้นกำเนิดได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ความคืบหน้าช้าลง ผู้บริหารของต้นกำเนิดเริ่มโต้ตอบทีมแทรกซึมของมังกรดารา
ทีมของจางเว่ยดิ้นรนเพื่อให้ยืนหยัดบนเรือได้ ทันใดนั้น ลมพายุแรงก็โหมกระหน่ำโดยไม่มีการเตือน เหมือนกับผี สัญญาณเตือนภายในทีมดังขึ้น พวกเขารีบกลิ้งตัวหลบ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่อาจลมคลื่นลมได้ คลื่นรุนแรงพัดจนพวกเขากระเด็นไปชนผนังเรือ
พวกเขากัดฟันแน่น มองไปยังทิศทางที่ศัตรูยืน ตรงนั้น พวกเขาเห็นฮีล่าที่พวกเขาเคยพบเจอมาก่อน
ฮีล่ามีสีหน้าเย็นชา เธอยังจำได้ว่าเมื่อสู้กับทหารมังกรดารา ครั้งก่อน เธอต้องเสียหน้าเพราะพวกเขา เมื่อนึกขึ้น จิตสังหารเธอก็รุนแรงกว่าเดิม มือทั้งสองของเธอเปล่งแสงสลัวสีเทาราวกับพวกมันเป็นบอลลึกลับ พลังงานน่าสะพรึงก่อตัวขึ้น นอกจากนี้ มันยังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันคงยากจะจินตนาการว่าการโจมตีต่อไปของเธอจะรุนแรงแค่ไหน
ห่าวเย่แสดงสีหน้าเจ็บปวดขณะยกปืนเล็ง แต่ด้วยเสียงจิ๊เบาๆจากฮีล่า เสียงของเธอก็ก่อให้เกิดการสะกดข่มทางจิต ราวกับเขาถูกค้อนทุบ ห่าวเย่โซเซไปข้างหลังขณะมีเลือดกำเดาไหล
ฮีล่าไม่แม้แต่จะมองเขาขณะหันไปมองหลี่ย่าหลิน จิตสังหารเธอชัดแจ้ง นี่คือนักสู้หญิงที่ใช้แขนกลน้ำหนักเบา เธอต้องรู้ที่อยู่ของซีโร่อย่างแน่นอน!
หลี่ย่าหลินมีความมุ่งมั่น เธอดึงมีดพับออกมาขณะพุ่งใส่ฮีล่าอย่างไม่เกรงกลัว ในฐานะนักสู้ของทีม เธอต้องเปิดฉากการต่อสู้
หวังว่าฉันจะสามารถรับมือได้บ้าง หลี่ย่าหลินลอบกัดฟัน ตราบเท่าที่เธอสามารถทนถึงการโจมตีครั้งต่อไปของฮีล่าได้ เธอก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถกำจัดการเคลื่อนไหวของฮีล่าได้ ไม่เปิดโอกาสให้เธอปล่อยการโจมตีทางจิตอีกครั้ง แม้ความสามารถของฮีล่าจะแข็งแกร่ง เธอก็ใช้แค่การโจมตีระดับผิวเผินเท่านั้น และการปล่อยทุกครั้งก็ต้องมีการสะสมเพื่อปล่อยทักษะ
“คิดตื้นๆ”ฮีล่ายังไร้อารมณ์ พลิกฝ่ามือทั้งสองข้าง เธอกำลังจะใช้ความสามารถของเนโครแมนเซอร์ ทำให้หลี่ย่าหลินตกใจเหมือนคนโง่
แต่ทว่า วินาทีต่อมา คลื่นขนาดใหญ่ก็พุ่งกระแทกซี่โครงเธออย่างฉับพลัน ส่งเธอลอยออกไป และซี่โครงเธอก็สั่นด้วยความเจ็บปวด
ฮีล่าเจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว พลังลึกลับในมือเธอกระจายตัวทันที ด้วยความตกใจ เธอหันไปมองที่มาของการโจมตี
มีรถตู้กำลังขับอยู่ตามชายฝั่ง ขับขนาบเรือ จากหน้าต่างรถ มีปืนไรเฟิลซุ่มยิงติดอยู่ที่หน้าต่างพร้อมถุงมือดำ
หานเซี่ยวขยับปืน และกระสุนควันอีกนัดก็ปล่อยจากปากกระบอกปืน เขานั่งในที่นั่งคนขับและระบบชิปอัจฉริยะในรถตู้ก็เริ่มขับอัตโนมัติ ขับด้วยความเร็วคงที่ตามเรือข้งต้นกำเนิด เมื่อพวกเขามาถึงหุบเขา เขาก็พบร่องรอยที่มังกรดาราอาจปล่อยให้กองทัพต้นกำเนิดหลุดจากตะขอ ดังนั้น หานเซี่ยวจึงขับรถไปยังทะเลสาบก่อน เป้าหมายเขาคือการจับตัวผู้บริหารขององค์กรต้นกำเนิด
เขาเห็นฮีล่า จากนั้นก็เห็นจางเว่ยและคนอื่น เขาผงะเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าจะเห็นพวกเขาเหล่านั้น เมื่อเห็นอดีตเพื่อนเขากำลังตกอยู่ในอันตราย หานเซี่ยวก็อดหยิบเหยี่ยวแดงขึ้นมาและยิงไม่ได้ กำแพงลมป้องกันของฮีล่าอ่อนแอลงมากและความสามารถการเจาะทะลวงก็ลดลง เปลี่ยนมันกลายเป็นแรงกระแทกที่ผลักเธอออกไป
หน้าต่างสถานะแสดงความสามารถของฮีล่า หลังจากหนึ่งปี ฮีล่าได้เลื่อนจากระดับ30เป็น40 และหานเซี่ยวก็อยู่ในระดับเดียวกับเธอ เขาสามารถเห็นค่าสถานะเธอได้ และสถานะที่แข็งแกร่งสุดทั้งสองของเธอก็คือความลึกลับและสติปัญญา
[พลังแห่งเนโครแมนเซอร์] : บงการความตายและจับดวงวิญญาณ
พลังแฝงเร้น : S
คนนอกสามารถเห็นได้แค่คำอธิบายความสามารถ มีเพียงผู้ใช้ความสามารถจึงเห็นผลพิเศษได้
ด้วยความรู้พื้นฐานเธอ ที่เธอใช้ยีนของเธอก็เพื่อพัฒนาความสามารถ ทำให้ประยุกต์ใช้เทคนิคต่างๆได้มากขึ้น
แม้ว่าศักยภาพของฮีล่าจะสูง เธอก็มีระดับแค่40เท่านั้น ความแข็งแกร่งเธอยังไม่ถึงศักยภาพสูงสุด แต่หานเซี่ยวไม่สนใจวิธีการต่อสู้ของฮีล่า ความสามารถพิเศษของฮีล่าดูจะไม่ใช่การโจมตี แต่จริงๆแล้วมันเป็นความสามารถที่หลากหลาย จากความสามารถของฮีล่า เขาเห็นได้ถึงความยืดหยุ่น
[ฟิวชั่นความเร็วสูง] : พลังของเคียวยมฑูตสามารถรักษาบาดแผลได้-ภายใต้สถานการณ์ปกติ +500%ความเร็วการฟื้นฟูพลังชีวิต ขณะใช้พลังงาน +1000%-2000%ความเร็วการฟื้นฟูพลังชีวิต
[คุ้มกันชีวิต] : กลิ่นอายแห่งความตายจะช่วยชีวิตท่าน-มีความต้านทานต่อการโจมตีจุดตาย
[ฝืนวิญญาณ] : เผด็จการแห่งความตายที่ไร้ความหวาดกลัว-+20%ความต้านทาน +30%ความต้านทานทางจิต
[เพิกเฉยต่อความตาย ] : ความตายก็เหมือนกับลม มักอยู่ข้างท่านเสมอ-จะไม่ได้รับการโจมตีถึงตายใดๆ เมื่อพลังชีวิตต่ำกว่า1% จะได้รับผลสถานะพิเศษ
หานเซี่ยวถอนหายใจ ความสามารถเหล่านี้ทำให้ฮีล่าไร้เทียมทาน มันเหมือนกับแมลงสาปที่ไม่ตายในการโจมตีเดียว เว้นแต่จะใช้ความสามารถที่รุนแรงจนปลิดชีวิตฮีล่าได้
โอ้ ฉันลืมเลย เธอมีการคุ้มกันความตายฉับพลัน....
หานเซี่ยวส่ายหัว
ตามคาดของบอสใหญ่ในอนาคต จำนวนความสามารถเธอสูงเกือบเท่าเบนเน็ต ความแตกต่างเดียวระหว่างบทบาทหลักคือโชค
ฮีล่า คนที่รับมือยากสุดคือคนแรกที่เขาพบ แต่ทีมจางเว่ยก็ตกอยู่ในสถานการณ์นั้น เนื่องจากเขามีหนทางช่วยเหลือ เขาจึงไม่เลือกยืนข้างๆและคอยช่วยเหลือลับๆ เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาเคยสู้ร่วมกันมาก่อน
เมื่อเห็นฮีล่าเสียสมดุล หลี่ย่าหลินก็เข้าประชิดและฟันใส่เธอ ฮีล่าระงับความเจ็บปวด โกรธกับการลอบโจมตีของหานเซี่ยว ในขณะเดียวกัน การฟื้นฟูบาดแผลเธอก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ทว่า การที่เธออยู่บนเรือก็หมายความว่าเธอไม่อาจไปจัดการมือซุ่มยิงบนชายฝั่งได้ ท้ายที่สุด เธอไม่ได้มีความเร็วมากและสามารถทำได้แค่ใช้ยานพาหนะเป็นสิ่งกีดขวางการลอบยิง
แต่เมื่อหลี่ย่าหลิน จางเว่ยและคนอื่นพบช่องว่าง พวกเขาก็เข้าพัวพันเธอทันที บังคับให้ฮีล่าต้องย้ายออกจากตำแหน่ง เผยตัวเธอต่อมุมมองของหานเซี่ยว
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นมือซุ่มยิงบนฝั่ง พวกเขาก็รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ดังนั้น ทีมของจางเว่ยจึงริเริ่มการโจมตี
กลยุทธ์นี้ได้ผลมาก การเคลื่อนไหวของฮีล่าถูกจำกัด และด้วยความสามารถอันน่าพิศวงของมือซุ่มยิง เขาจึงสามารถหยุดเธอจากการโต้ตอบได้เหมาะเจาะทุกครั้ง สิ่งนี้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของหลี่ย่าหลิน จางเว่ยและคนอื่นอย่างลงตัว ฮีล่าตระหนักว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจโต้ตอบได้เลย ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงป้องกันและหลบการโจมตี
แต่จากมุมมองของจางเว่ยและคนอื่น มันถือเป็นแสงสว่างสำหรับพวกเขา เดิมที ทั้ง4ได้สร้างกลยุทธ์ต่อสู้ขึ้น แต่หลังห่าวเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็ไม่อาจต่อสู้ได้และทิ้งช่องโหว่ในแผนเดิม แต่มือซุ่มยิงกลับมาอุดช่องโหว่นั้น เขาสามารถยิงสนับสนุนได้อย่างเหมาะเจาะทุกครั้ง
มันราวกับเขาคือคนที่เข้าใจสไตล์การต่อสู้พวกเขา
เขาเป็นใคร?
หลี่ย่าหลินและจางเว่ยเริ่มมีความคิดเช่นนั้น
ห่าวเย่ ผู้ยังคงบาดเจ็บทำได้แค่นักเฉยๆ เฝ้าดูจางเว้ยและคนอื่นพร้อมบมือซุ่มยิง และจู่ๆก็รู้สึกราวกับมือมือซุ่มยิงคือสมาชิกทีมจริงๆของพวกเขา และมันก็คือเขาที่เป็นคนนอก
“ฮีล่าถูกกดดัน?”หลินยู่เลิกคิ้วขึ้น มองไปทางรถตู้บนชายฝั่ง“ปีศาจทมิฬ?เขามาทำอะไรที่นี่?”
พวกเขาเกือบถึงปากน้ำแล้ว แค่ข้างหน้าก็ถึงทะเล หลินยู่ต้องการความสามารถของฮีล่าเพื่อสร้างความเสียหายวงกว้าง เธอต้องหลุดให้พ้นสถานการณ์นี้ เขาสั่ง“อูการ์ กำจัดปีศาจทมิฬซะ”
อูการ์ขึ้นเรือแล้ว ด้วยออร่าสีม่วงเข้มเขาและโดยไม่รอคำสั่งเพิ่ม เขาก็คิดพุ่งใส่หานเซี่ยวบนรถตู้ แต่ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานจากนักสู้บางคนที่ทรงพลังเท่าเขา เมื่อเขาหันไปมอง เจ้าหน้าที่พิเศษมังกรดาราวัยกลางคนก็ก้าวขึ้นเรืออีกลำ หมัดเขาห่อหุ้มด้วยออร่าสีแดงเพลิง และบดขยี้กับรถSUVที่จอดอยู่บนดาดฟ้าเรือ
รถลอยถูกซัดลอยเหมือนลูกกระสุนทันที ระหว่างทาง มันชนกับทหารต้นกำเนิดหลายคนและรถอีกสองคันก็ลอยออกไปตาม
หมัดนั่นแข็งแกร่งเท่ากับขีปนาวุธ!
