52 แน่นอนเขาสามารถ!
52 แน่นอนเขาสามารถ!
หวังเย้านั้นไม่เก่งเรื่องต่อรองราคาเลย แต่จ้าวหยงกางนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เขาพยายามลดราคาให้ถูกลง แต่ถึงอย่างนั้นราคาก็ยังสูงเกือบหนึ่งล้านบาทหลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว
หวังเย้าไม่ได้พูดอะไรออกมาในตอนที่เขาจ่ายเงินมัดจำทันที แล้วเขาก็จากไป
“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะซื้อจริงๆ!” เมื่อพวกเขาจากไปแล้ว พนักงานที่ดูแลพวกเขาก็พูดออกมา
“ใช่ ตอนแรกพวกเขาดูไม่โดดเด่นอะไรเลย!”
“มีแค่คนที่ทำตัวไม่โดดเด่นเท่านั้นแหละที่จะซื้อรถคันนั้น ดูสิ ผู้จัดการดูดีใจมากเลย!”
“ความต้องการซื้อรถรุ่นนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ดังนั้นเขาต้องดีใจมากอยู่แล้ว!”
...
“เรื่องของพี่สาวฉันเป็นยังไงบ้าง?” ภายในรถ หวังเย้าถามหวังหมิงเปา
“อ้อ ไม่มีเรื่องอะไรนะ ผู้ชายคนนั้นทำตัวดีอยู่”
“อืม” เมื่อได้ยินเรื่องของชายคนนั้น หวังเย้าก็รู้สึกเป็นห่วงพี่สาวของเขาขึ้นมา
เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้วเมื่อพวกเขากลับมาถึงเหลียนชาน ซึ่งท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว หวังเย้านัดกับหวังหมิงเปาและเพื่อนของเขาเพื่อเลี้ยงข้าวขอบคุณหลังจากที่เขาได้รับรถแล้ว แล้วเขาจึงขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้านไป
“เพื่อนของนายเขาทำงานอะไรเหรอ?” จ้าวหยงกางถามด้วยความสงสัย เมื่อมองไปที่หวังเย้าที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์อยู่ไกลๆ
“เขาทำสวน ทำไมเหรอ?” หวังหมิงเปาพูด
“ทำสวน? แล้วสามารถจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อซื้อรถคันหนึ่งเนี้ยนะ?!” จ้าวหยงกางพูดด้วยความประหลาดใจ
“เขาทำไม่ได้เหรอ?”
“แน่นอนว่าเขาทำได้! ถ้าฉันมีเงินเยอะขนาดนั้นนะ ฉันจะซื้อBMW X5 หรือไม่ก็ เบนซ์GLEมากกว่า ไม่มีใครซื้อทวาเรคหรอก ในเมื่อมันดูคล้ายไทกวนจนเกินไป!” จ้าวหยงกางพูด
“เพื่อนของฉันเขาชอบทำตัวไม่โดดเด่นน่ะ”
หวังเย้ากลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาสำหรับอาหารค่ำแล้ว เขาได้บอกเรื่องที่เขาซื้อรถกับพ่อแม่ของเขาตอนกินอาหาร
“เท่าไหร่เหรอ?!”
“ราคาของมันประมาณสามแสนหยวนครับ” หวังเย้าคิดว่าพ่อแม่จะต้องรู้สึกว่ามันแพงมากแน่ๆ เขาจึงได้บอกราคาที่ต่ำกว่าความจริงออกไป
“อะไรนะ? ทำไมถึงแพงจังเลย!” จางซิวหยิงพูดด้วยความตกใจ
“ใช่ มันสวยมากเลยครับ” หวังเย้าพูด
“ทำไมลูกถึงได้มีเงินมากขนาดนี้ล่ะ?” จางซิวหยิงถาม
“มีคนมาซื้อสมุนไพรจากผมไป แล้วผมก็ยังต้มยาให้พวกเขาบางคนด้วยครับ” หวังเย้าตอบ
“ลูกหาเงินได้ถึงสามแสนหยวนจากเรื่องนี้น่ะเหรอ! แต่แม่ไม่เห็นว่าสมุนไพรที่ปลูกเอาไว้มันจะน้อยลงเลยนะ?!”
“มันน้อยลงครับ แม่ต้องดูดีดี มันเป็นเงินที่มากพอเมื่อรวมกับเงินที่ผมขายพุดทราและซิลเวิร์ธไป”
“แล้วเราจะซื้อบ้านได้ยังไง ในเมื่อลูกใช้เงินซื้อรถไปเกือบหมดแล้ว?” จางซิวหยิงถาม
“ผมยังมีเงินอยู่ ผมจะได้เงินเพิ่มอีกเร็วๆนี้ถ้าผมเก็บสมุนไพรขาย” หวังเย้าพูดให้แม่ของเขาสบายใจ
เขาพยายามอย่างมากเพื่อให้แม่ปล่อยเรื่องนี้ไป หลังจากมื้อค่ำ หวังเย้าก็รีบขึ้นไปบนเนินเขา เพราะเขาไม่ต้องการตอบคำถามของแม่อีก
“เฟิงฮวา ฉันคิดว่าเขากำลังโกหกเราอยู่” จางซิวหยิงพูดกับสามีของเธอที่กำลังจิบไวน์อยู่ “ทำไมเขาถึงมีเงินมากมายขนาดนี้?”
“มันไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าเขาทำถูกกฎหมาย” หวังเฟิงฮวาพูด
“หรือว่าเขาจะทำแชร์ลูกโซ่? ฉันได้ยินมาว่ามีคนขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานเพื่อเอาของขวัญให้กับเขา”
“มันมีของขวัญให้คนที่เล่นแชร์ลูกโซ่ด้วยเหรอ? แล้วอีกอย่าง ลูกของคุณก็อยู่แต่บนเนินเขาทั้งวัน เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปทำเรื่องแบบนั้นกัน?”
“ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่!” จางซิวหยิงพูด
“เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? เลิกพูดมากได้แล้ว ช่วยเติมข้าวให้ผมด้วย” หวังเฟิงฮวายื่นถ้วยของเขาให้กับภรรยา
“อั่ย คุณควรจะสนใจเรื่องของลูกมากกว่านี้นะ ทำไมต้องมาเปลี่ยนเรื่องด้วย?”
“เขาก็แค่ทำเรื่องของเขาไป มันไม่เป็นอะไรหรอกในเมื่อเขาไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีสักหน่อย”
“คุณควรจะรีบติดต่อรุ่ยนะ จะได้ขอคำแนะนำจากเธอ” จางซิวหยิงพูด
...
วู้ว! มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ที่ฉันทำให้คนที่อยากจะสร้างปัญหาให้กับแปลงสมุนไพรของฉันต้องสับสนได้!” หวังเย้ารู้สึกสบายใจเมื่อเขาขึ้นมาบนเนินเขา เขามองไปที่สมุนไพรหลากหลายชนิดที่เขาได้ปลูกเอาไว้
“ดูเหมือนจะมีบางส่วนที่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว”
เช้าของอีกวัน ท้องฟ้าเริ่มสว่างและหวังเย้าก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า เขาทานอาหารเช้าง่ายๆและเริ่มทำงานของเขาในแปลงสมุนไพร เขาได้ปลูกเมล็ดที่เขาซื้อมาเมื่อวานและรดน้ำพวกมัน แล้วจึงขึ้นไปบนเนินเขาเพื่อฝึกการหายใจที่เขาทำเป็นประจำ
พลังฉีถูกส่งมาที่ท้องของเขาก่อนที่มันจะกระจายไปทั่วร่างกายของเขาราวกับสายน้ำ แล้วการหมุนวนของพลังฉีก็ครบหนึ่งรอบ เขาลงมาที่แปลงสมุนไพรและเตรียมที่จะเก็บเกี่ยวสมุนไพร
ซินเจียว ฟางเฟิง และชาเชิน เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้รากมาทำยาได้ หวังเย้าขุดพวกมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วเขาจึงนำพวกมันไปเทียบกับรูปภาพในอินเตอร์เนตและใช้ความรู้ที่เขามีตรวจสอบมัน แล้วเขาก็มั่นใจแล้วว่าสมุนไพรที่เขาปลูกเอาไว้นั้นพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว พวกมันจะต้องขายได้ราคาดีแน่
เขาตั้งใจจะติดต่อคุณเถิง แต่ว่ามันเป็นเวลาแค่สามเดือนเท่านั้นหลังจากที่เขาได้ขึ้นมาซื้อซิลเวิร์ธไป ตอยนั้นสมุนไพรก็ยังไม่ได้มีการปลูกเลย มันคงจะเป็นเรื่องน่าตกใจมากถ้าพบว่าซิลเวิร์ธที่เพิ่งปลูกนั้นพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวและนำไปทำยาได้แล้วในเวลาแค่ไม่นาน มันจะต้องไม่ดีแน่ๆถ้ามีคนรู้มากๆเข้า
หรือว่ารอบนี้ฉันควรจะขายให้คนอื่นดี? หวังเย้าคิด
หวังเย้าถือรากของฟางเฟิงเอาไว้ แล้วเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา แล้วเขาก็คิดบางอย่างได้
“เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขายมันให้กับร้านขายยาได้หรือเปล่านะ?”
วูชช แล้วฟางเฟิงก็หายไปในทันที หวังเย้ามองไปที่ไปที่ช่องแลกเปลี่ยน มันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนได้ 0.1คะแนน
มันแลกได้! สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หวังเย้าตกใจและดีใจ ถึงแม้มันจะแลกได้ในราคาที่ต่ำก็ตาม
“เดี๋ยวนะ” หวังเย้าหาในร้านขายยา แต่เขาก็ไม่พบฟางเฟิงอยู่ในนั้น
“ทำไมระบบถึงไม่มีฟางเฟิงล่ะ?”
‘สมุนไพรธรรมดาไม่สามารถจัดวางได้’
หวังเย้านั้นไม่ได้ขาดเงิน แต่เขามีคะแนนอยู่น้อยนิด เขาจึงเก็บเกี่ยวครึ่งหนึ่งของสมุนไพรทั้งสามชนิดจากแปลงสมุนไพร เพื่อแลกเป็นคะแนน
เขาไม่ได้ปลูกพวกมันมากนัก เขาจึงแลกมาได้แค่ 50คะแนนเท่านั้น
หลังจากยุ่งมาเกือบครึ่งวัน ในที่สุดงานของเขาก็เสร็จเรียบร้อย หวังเย้าอ่านบทความในคัมภีร์แล้วจึงกลับบ้านเพื่อทานอาหารค่ำ ในตอนที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว
...
เวลาได้ผ่านไป
อากาศในเดือนธันวาคมนั้นหนาวเย็น และอุณหภูมิก็ลดต่ำลง
แม่ของหวังเย้าพยายามชวนให้เขานอนอยู่ที่บ้านแทนการขึ้นไปนอนอยู่บนเนินเขา เพราะมันหนาวจนเกินไป แต่หวังเย้าก็ปฏิเสธไป เขาคิดว่าบนเนินเขานั้นเงียบสงบดี แล้วอีกอย่างความหนาวก็ทำอะไรเขาไม่ได้ด้วย
ในวันนี้ ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยเมฆ
ในหมู่บ้าน มีผู้มาเยี่ยมเยือนและรถของพวกเขานั้นก็จอดตรงทิศใต้ของหมู่บ้าน พวกเขารีบขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานทันทีที่ลงจากรถ พวกเขานั้นเดินอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินเสียงเห่าของสุนัขของเขา หวังเย้าจึงออกมาด้านนอกและเห็นคนสองคน ก็คือกั๋วซือหรงและเหอฉีเชิง ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำคล้ายกับว่าพวกเขาได้วิ่งขึ้นมาบนนี้
“คุณช่วยเร่งเวลาทำยาให้หน่อยได้ไหมคะ?” กั๋วซือหรงถามด้วยความกังวลเมื่อมองไปที่เขา
“เร่งเวลา?” หวังเย้ารู้สึกสับสนเล็กน้อย
“ใช่ เกิดเรื่องขึ้นกับปู่ของฉัน หนึ่งเดือนดูเหมือนจะนานเกินไปสำหรับเขา” กั๋วซือหรฃอธิบาย