ตอนที่ 139 ปีศาจทมิฬ 3
โครงการสุดยอดทหารของต้นกำเนิดถูกนำมาใช้ล่วงหน้าปีหนึ่ง?
หานเซี่ยวเลิกคิ้วขึ้น
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมนุษย์จักรกลขึ้น ผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้เป็นจักรกล ทำให้พวกเขามีความสามารถทางกายภาพสูงขึ้นมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเทคโนโลยี มันจึงรอบรับร่างกายพวกเขา และเป็นผลให้นักรบอย่างสุดยอดทหารสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยียังอยู่ในช่วงเริ่มต้น กระบวนการนี้เจ็บปวดมากเพราะโครงร่างภายนอกให้เชื่อมต่อกับเส้นประสาทและจะต้องทำการฝังชิ้นส่วนจักรกลต่างๆเข้าไปในร่างเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
มีคนที่ผ่านการทดลองวัลคีรี่จึงสามารถทนทานต่อการดัดแปลงเช่นนี้ได้ ท้ายที่สุด ความเจ็บปวดพวกเขาจะหายไปและเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเท่านั้น
ตามมาตรฐานสากลของกาแล็กซี่ มันเป็นเทคนิคการดัดแปลงที่ยังไม่พัฒนาและถูกกำจัดไปนานแล้ว แต่บนดาวเคราะห์อความารีน องค์กรต้นกำเนิดกลับสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้โดยการละเลยสภาพร่างกายของผู้ทดลอง
โครงร่างภายนอกไม่ใช่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องสวมใส่จากภายนอก แต่มันยังสามารถถูกทำให้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้อีกด้วย การทำเช่นนั้นจะต้องเชื่อมต่อเส้นประสาทเข้ากับเกราะ อย่างไรก็ตาม องค์กรต้นกำเนิดยังไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีถึงขั้นนั้น โดยการทดลอง พวกเขาสามารถทำได้แค่ช่วงแรก
ผู้เล่นหลักของอความารีนมีทักษะขั้นกลางหนึ่งหรือสองอย่างเท่านั้นและ[การรวมประสาท]เป็นความรู้ขั้นกลางที่อยู่ในมือองค์กรต้นกำเนิด
ทักษะขั้นกลางที่หานเซี่ยวเรียนรู้คือ[องค์ประกอบวัสดุขั้นกลาง] สำหรับผู้เล่นบนดาวอความารีนที่จะได้รับความรู้ขั้นกลาง พวกเขาต้องมีส่วนร่วมจำนวนมากหลังเข้าร่วมค่าย หานเซี่ยวเล็งถึงอนาคตเขา ความรู้ขั้นกลางหาได้ยากมากบนดาว แต่ในระยะยาว เราสามารถใช้เงินเพื่อให้ได้รับมันง่ายๆ หากเขาไม่สามารถได้รับความรู้ขั้นกลางอื่นๆจากอความารนีน มันก็ยังมีโอกาสอื่นในอนาคต
ในแผนเดิม สุดยอดทหารเหล่านี้มีผลพิเศษ แต่สุดยอดทหารทั้งสามยังไม่สมบูรณ์ ร่างพวกมันมีแม้กระทั่งเกราะความร้อนสูงติดอยู่ และทั้งสามเหล่านี้ก็ใช้แค่โครงสร้างภายนอกเพื่อเสริมสร้างร่างกาย ซึ่งยังไม่สมบูรณ์
ดูเหมือนว่าโครงการทดลองขององค์กรต้นกำเนิดจะยังไม่ครบถ้วนดี โครงสร้างภายนอก....ลองมาคิดถึงมัน เมื่อฉันหลบหนีจากห้องทดลอง ฉันได้ทิ้งแขนกลน้ำหนักเบาไว้ และดูเหมือนพวกมันจะใช้มันเป็นต้นแบบ
ดวงตาของหานเซี่ยวสว่างขึ้น ความคิดกังกล่าวไม่ได้ไร้เหตุผล แขนกลของมนุษย์ทดลองทั้งสามมีลักษณะคล้ายกับแขนกลน้ำหนักเบา พวกมันแข็งมากและแม้กระทั่ยมีโล่ทอดคำยึดติดอยู่ ซึ่งช่วยให้ป้องกันกระสุนจากป้อมปืนพกพาได้
มนุษย์ทดลองทั้งสามแยกจากรถและเริ่มกระจายตัว ทั้งสามเข้าใกล้ป้อมปืนพกพาได้ พร้อมกับทำการโจมตีด้วยหมัดที่หุ้มด้วยเกราะเหล็ก เหล็กที่หยั่งรากกับข้อต่อปล่อยควันออกมา เมื่อรวมพลังมากขึ้น พวกมันก็ทำลายป้อมปืนได้ทันที
หลังทำลายป้อมปืนที่เหลือ ทั้งสามก็วิ่งใส่หานเซี่ยว แต่ละก้าวทำให้พวกมันไปไกล7-8เมตร พร้อมจิตสังหารที่ปกคลุมไปทั่วป่า
สายตาของหานเซี่ยวยังไม่สะทกสะท้านขณะดึงแท็บเล็ตออกมา เขาปล่อยอาวุธลับอีกอย่างออกมาอย่างรวดเร็ว
รถบรรทุกสั่นอย่างรุนแรง โรเวอร์รุ่นสองพุ่งออกมายืนข้างหานเซี่ยว ทันใดนั้น พวกมันก็เปิดใช้[การระดมยิง] ด้วยมือทั้งสองข้าง ปืนกลได้ปล่อยกระสุนมันออกมา หน้าอกพวกมันยิงขีปนาวุธขนาดเล็ก ทำลายล้างกลุ่มมนุษย์ทดลองทั้งสาม ความเสียหายนับว่ารุนแรง แต่ก็ถูกเกราะเหล็กกันไว้ได้หมด มีเพียงความทนทานเท่านั้นที่ลดลง
ค่าสถานะของมนุษย์ทดลองก็ยังได้รับการเปิดเผยเช่นกัน
ตามระดับของท่าน ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ดังนี้
ร่างทดลองสุดยอดทหาร(042)
ระดับ : 40
สายอาชีพ :
-[สายลับพิเศษ]ระดับ10
-[อุปกรณ์จักรกลระดับต่ำ]ระดับ30[อัตราการแปลงความทนทานต่อพลังชีวิต 1:10]
ค่าสถานะ : 51พละกำลัง 54ความเชี่ยวชาญ 70(80)ความทนทาน 25สติปัญญา 8ความลึกลับ 4เสน่ห์ 6โชค
พลังงาน : 0
ขั้นพลังงาน : 500
เกรด : E
พลังชีวิต : 534/650
สถานะ : [การดัดแปลงอย่างรุนแรง] พลังชีวิต-150 ความทนทาน-10
ความสามารถ :
-ความยืดหยุ่นทางจิตวิญญาณระดับต่ำ : +3การต้านทานทางจิต
-การฝึกฝน : +100พลังชีวิต
-ต้านความเจ็บปวด : อาการบาดเจ็บไม่ส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้
ทักษะ :
-การต่อสู้ระยะประชิดขั้นพื้นฐานระดับ7
-พื้นฐานการยิงระดับ5
-การจับระดับ3
-การยิงที่แม่นยำระดับ1
อุปกรณ์:
แขนเหล็กแม่แรง:
แขนกลน้ำหนักเบา ติดตั้งด้วยเกราะทองที่ยืดขยายได้
เกรด : ขาว
สถานะพื้นฐาน
- ความเสียหาย: 32–45
- พลังป้องกัน: 20–24
- ระดับพลังงาน: 45
- ความทนทาน: 250
ผลความสามารถ : +8พละกำลัง
ขาพลังนักล่า :
ขากลน้ำหนักเบาช่วยเพิ่มความเร็วการวิ่ง
เกรด : เทา
สถานะพื้นฐาน
- ความเสียหาย: 27–31
- พลังป้องกัน: 15-18
- ระดับพลังงาน: 53
- ความทนทาน: 230
ผลความสามารถ : +8 ความเชี่ยวชาญ
เกราะชนิดฝังP-2
ทองน้ำหนักเบาที่ฝังในผิว มีพลังป้องกัน
เกรด : เทา
สถานะพื้นฐาน
-พลังป้องกัน : 15-20
-ความทนทาน : 500
สถานะของมนุษย์ทดลองทั้งสามถือว่าต่ำมากสำหรับระดับ40 ด้วยระดับที่สูงเช่นนั้นแต่สถานะต่ำ มันหมายความว่าพวกมันไร้ศักยภาพ
ตามแต่ละคน พลังชีวิตพวกมันอยู่ในระดับต่ำมาก แต่พลังป้องกันและความทนทานจากเกราะนอกสามารถลดความเสียหายให้กับร่างกายได้สูง หานเซี่ยวทำการคำนวณและตระหนักว่าเกราะนอกชุดนี้มีความทนทาน1460หน่วยและพลังป้องกันเกือบ100หน่วย นี่คือผลกระทบเนื่องจากอุปกรณ์ หากมองแค่พลังชีวิต คนย่อมคิดว่ามันเป็นเกราะไร้ประโยชน์
โรเวอร์รุ่นสองยิงปืนอยู่หลายนัด ซึ่งลดพลังชีวิตพวกมันไปได้1ใน5
หานเซี่ยวตระหนักว่ามนุษย์ทดลอง(044)แท้จริงมีระดับ45 และสถานะมันก็สูงกว่าอีกสองตัว บางทีมันคงเป็นหัวหน้าของทั้งสาม
ในขณะเดียวกัน กองรถของต้นกำเนิดก็วนกลับมา ด้วยพลังยิงของโรเวอร์ทั้งสอง มันจึงยากที่จะจัดการทั้งสองฝั่ง หานเซี่ยวจึงตัดสินใจทันที
“หยิบกระเป๋าเอกสารที่มีเครื่องหมายรูปสามเหลี่ยมสีแดงมาให้ฉัน ฉันมีบางอย่างอยากให้นายทำ!”
ดาบคลั่งรีบวิ่งไปแบกกระเป๋ามา ภายในมันคือระเบิดพลังทำลายล้างสูง หานเซี่ยวรีบเขียนงานและโยนมัน
[การเสียสละของผู้กล้า] : เติมเต็มความฝันของท่านและระเบิดมันให้งดงาม!
ดาบคลั่งกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“ไป เจ้าหนู ฉันจะทิ้งเวทีนี้ให้นาย”หานเซี่ยวพูดขณะยังคงโจมตีมนุษย์ทดลอง
“ผะ...ผมเข้าใจ...”ดาบคลั่งจับขากรรไกรเขา รางวัลจากงานนั้นน่าดึงดูดอย่างมากและสามารถชดเชยโทษการตายได้อย่างแน่นอน
เหยี่ยวแดงฉบับดัดแปลงปล่อยกระสุนหลายนัด ทิ้งรูกระสุนไว้ในร่างของมนุษย์ทดลองทั้งสาม ความสามารถที่ก้าวร้าวของหานเซี่ยวมาถึงขีดสุดแล้ว ผ่านรอยแตกในเกราะ เขาสร้างความเสียหายให้กับกายเนื้อได้โดยตรง การโจมตีเขาได้ผล
ในไม่ช้า 042ก็ถูกยิงใส่จุดตาย พลังชีวิตมันลดลงเหลือ0ขณะล้มลง แต่อีกสองกลับไม่ได้สนใจเรื่องการตายของพันธมิตรเลย และยังคงรุกหน้าอย่างต่อเนื่อง
อีกด้านหนึ่ง รถบรรทุกทหารอีกคันกำลังพุ่งใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว หานเซี่ยวเปลี่ยนเส้นทางของโรเวอร์รุ่นสองไปหามัน เปิดฉากยิงต่อต้านรถทหารหลายคัน กระสุนหลายนัดพุ่งติดต่อกันจนเห็นเป็นแถบสีแดง ราวกับมันเป็นสายรุ้งที่เชื่อมต่อกัน
ความทนทานของโรเวอร์ตกลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล หานเซี่ยวจึงสั่งให้โรเวอร์เข้าไปในกลุ่มและระเบิดตัวเอง ศัตรูไม่อาจตอบสนองได้ทัน และถูกเปลวไฟเข้ากลืนกินจนรถหลายคันพากันระเบิดตาม
ทั้งสองฝั่งต่างถูกถล่มในคราเดียว
ด้วยการสูญเสียโรเวอร์สองตัว หานเซี่ยวกลับยังไม่สะทกสะท้าน สงครามที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเช่นนี้ การเผาเงิน...แต่เขาก็ร่ำรวยจริงๆ หากมันเป็นผู้เล่นอื่น พวกเขาคงไม่อาจแบกรับมันได้ แต่หานเซี่ยวร่ำรวยอยู่แล้ว
ปืนไรเฟิลซุ่มยิงมีความเร็วการยิงจำกัด ท้ายที่สุด มนุษย์ทดลองทั้งสองก็อยู่ห่างจากเขาแค่50เมตร
ดาบคลั่งจดจำรายละเอียดงานได้ เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พุ่งใส่หมายเลข043ขณะถูกหมัดของอีกฝ่ายชกทะลุหน้าอก เขาพ่นเลือดและกัดฟันแน่นพลางกระตุ้นระเบิดในกระเป๋า
บูมม!
เมฆรูปเห็ดขนาดเล็กก่อตัวในท้องฟ้า คลื่นร้อนระอุของอากาศปะปนไปกับเศษระเบิดและหานเซี่ยวก็เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
ผ่านควัน ร่างแหลมเละของหมายเลข44ออกวิ่งอีกครั้ง ในชั่ววินาทีที่เกิดการระเบิด หมายเลข043ได้ผลัก044ไปข้างหน้าและหลบแรงระเบิดส่วนใหญ่ 044ล้มลงกับพื้นทันทีและยังเคลื่อนไหวได้
ในเวลานั้นเอง [เจตจำนงค์แห่งเพลิง]ก็ใช้งานได้อีกครั้ง!
หานเซี่ยวโยนเหยี่ยวแดงไปข้างๆ หยิบปืนไรเฟิลซุ่มยิงภูติผีขึ้นมาขณะใช้งาน[ทะลายขีดจำกัด] เสริมด้วย[เจตจำนงค์แห่งเพลิง]และยิง
กระสุนแสงทิ้งรอยสีฟ้าไว้ด้านหลังมัน หายไปจากสายตาขณะพุ่งผ่านหัวของ044 เลือดปะทุออกมาเหมือนน้ำพุ
หมายเลข044ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าวโดยไม่สูญเสียโมเมนตัม ทะนใดนั้น ร่างมันก็ล้มลงแทบเท้าหานเซี่ยว อีกเพียงก้าวเดียว มันก็จะมาถึงตัวหานเซี่ยวได้แล้ว ดวงตามันยังอัดแน่นไปด้วยความไม่เต็มใจ
ภาพฉากนี้เป็นสิ่งที่หานเซี่ยวคุ้นชิย การสู้กับช่างกล ระยะทางมักเป็นปัจจัยกำหนดระหว่างชนะหรือแพ้ ศัตรูอีกมากมายหลายคนมักล้มลงก่อนถึงเป้าหมายเช่นนี้
มันน่าอับอาย แม้จะสามารถเข้าถึงตัวฉันได้ แกก็ไม่มีทางรอดชีวิต
หานเซี่ยวส่ายหัว ยังมีไพ่อีกมากมายที่เขายังไม่เผย มนุษย์ทดลองเหล่านี้ห่างไกลเกินจะต่อกรกับเขา
[การเลื่อนสายอาชีพครั้งที่สอง]
ความคืบหน้าปัจจุบัน : 1/3
การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าง่าย
ยังเหลืออีกสอง
หานเซี่ยวหรี่ตา เขาแค่ต้องฆ่าศัตรูระดับสูงกว่าอีกสองคนก่อนจะเพิ่มระดับได้ หน้าต่างสถานะแสดงค่าประสบการณ์จำนวนมาก และเขาก็กำลังรอคอยที่จะพัฒนาทักษะเขา
ดาบคลั่งเสียสละชีวิตแสนบริสุทธิ์ของเขา สิบวินาทีต่อมา เขาก็คืนชีพขึ้นมา มองดูรางวัลภารกิจและค่าประสบการณ์การฆ่าศัตรู เขาอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้
กลุ่มองค์กรต้นกำเนิดที่มาสกัดกั้นถูกเขากำจัดไปแล้ว การต่อสู้ที่ร้อนระอุอยู่ในจุดสูงสุด ทหารราบของต้นกำเนิดและมังกรดาราต่างถูกสังหารหมู่ การต่อสู้อยู่ในจุดยุ่งเหยิง หานเซี่ยวกวาดตามองสนามรบและรู้ดีว่าเขาไม่มีโอกาสเข้าไปแทรกแซงอีก
หลังใคร่ครวญอยู่สองวินาที เขาก็ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เขากระชากดาบคลั่งที่กำลังยิ้มหวานขึ้นรถ
รถออกตัว วนเวียนอยู่ในความร้อนของการต่อสู้และมุ่งหน้าไปตามทิศทางของแม่น้ำเทอร์ดราม่า
...
ในสมรภูมิ ฤดูหนาวขี้เซาร้องตะโกน“ฉันตาฝาดไปรึเปล่า?นั่นคือดาบคลั่ง?!”
การต่อสู้ของหานเซี่ยวเด่นชัดมาก พวกเขาเห็นชื่อของดาบคลั่งลอยอยู่เหนือหัวและตกใจ ข้าวผัดขยี้ตารัวๆ แม้กระทั่งเจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างน้ำฝนคิมก็ยังอ้าปากค้าง
ฤดูหนาวขี้เซาจำได้ว่าแม้ในช่วงทดสอบ ดาบคลั่งจะปฏิเสธความปราถนาดีเขาและไม่เข้าร่วมกองทัพมังกรดารา งั้น เขามาอยู่บนสนามรบได้ยังไง?และด้วยการระเบิดตัวเอง เขาก็ล้มสัตว์ประหลาดนั่นได้ พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด!
“หากฉันตาไม่ฝาดไป ชายชุดดำที่เขากำลังติดตาม...ต้องเป็นปีศาจทมิฬแน่”น้ำฝนคิมกล่าวขึ้น
“เธอแน่ใจนะ?”ฤดูหนาวถาม
“ฉันได้บันทึกการต่อสู้เมื่อสักครู่ไว้หมดแล้ว แค่ดูมันและนายจะรู้”ข้าวผัดกล่าว
ฤดูหนาวดูเหมือนจะหดหู่เล็กน้อย ดาบคลั่งและพวกเขาทั้งสามเริ่มพร้อมกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะทิ้งห่างไปแล้ว มันทำให้ฤดูหนาวรู้สึกหดหู่เล็กน้อย...และอยากรู้เช่นกัน
ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่อยากเข้าร่วมกับเราในช่วงทดสอบ เกิดอะไรขึ้นกับดาบคลั่งกันแน่?ทำไมเขาถึงอยู่กับปีศาจทมิฬ?
