SC:บทที่ 21 รูปภาพ
SC:บทที่ 21 รูปภาพ
หลินเฉิง กลับเข้าไปในห้องสอบสวนอีกครั้งเขาหยิบเก้าอี้แล้วนั่งลง เขาไม่สนใจเสียงไออย่างรุนแรงจากด้านนอกเขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋าและจุดสูบ
“ปรากฏว่าไพ่ตายของพวกเขาคือปืนของตำรวจสาว…”
ในขณะที่เขาสูดควัน หลินเฉิง ก็ขบคิดในใจอย่างเงียบๆ การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของเขาเพื่อทดสอบหาไพ่ตายของผู้รอดชีวิตเหล่านี้ จากที่ตำรวจสาวบอกว่ามีคนแนะนำให้ขังเขาไว้ในห้องสอบสวนนี้ทำให้เขาเข้าใจเหตุการมากยิ่งขึ้น พวกเขามีเพียงไพ่ตายหนึ่งเดียวและคงไม่มีคนโง่คนใดต้องการที่ จะทำให้ หลินเฉิง ขุ่นเคือง
สำหรับวิธีการจัดการกับไพ่ตายนั้น หลินเฉิง มองที่ค่าพลังงานสะสมของเขาตอนนี้มีอยู่ 86 คะแนน ดูเหมือนว่าเรื่องไพ่ตายไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปตราบใดก็ตามหากเกิดเหตุสำคัญเขาสามารถแลกเปลี่ยนปืนจากระบบได้ตลอดเวลา และด้วยความเร็วของเขาที่แตกต่างจากคนทั่วไป คนในสถานีตำรวจแห่งนี้ไม่มีใครสามารถทำอะไรก็ได้!
อันที่จริงแล้ว หลินเฉิง ถูกทดสอบตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมา หากเป็นบุคคลอื่นที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลกๆพวกเขาคงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ดังนั้นพวกเขาจะต้องทำให้มั่นใจที่สุด
หลังจากขบคิดเบื้องต้นหากเดาไม่ผิดผู้รอดชีวิตคนอื่นๆอาจมีอาวุธในมือ แต่ตำรวจสาวมีปืนพกดังนั้นสถานที่แวดล้อมเช่นนี้ใครมีปืนคือเจ้านาย!
ในเวลานี้เสียงที่อยู่ด้านนอกเงียบหายไปแล้ว หลินเฉิง ต้องการรู้ความแข็งแกร่งและอุปนิสัยของคนเหล่านี้อย่างละเอียดผ่านการขัดแย้งเมื่อสักครู่ จากทัศนคติที่เขาแสดงออกมาต่อผู้รอดชีวิตเหล่านี้หากเขาต้องการฆ่าใครเขาไม่จำเป็นต้องใช้ปืนเลย!
หลังจากด้านนอกเงียบลง หลินเฉิง เรียกเมนูระบบขึ้นมาเพื่อดูค่าพลังงานและเขาก็เริ่มขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
“เราควรที่จะเปลี่ยนเป็นปืนพกหรือว่ามีดตามที่คิดไว้ก่อนหน้านี้..”
หลังจากที่เขาขบคิดอยู่สักพักหนึ่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะรอก่อน แม้ว่าเขาต้องการที่จะทดสอบอาวุธใหม่ของตัวเอง แต่เขายังคงกลัวสูญเสียค่าพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ อีกอย่างหากเขาใช้อาวุธในตอนนี้อาจเร่งให้เกิดปฏิกิริยาการจลาจลเร็วมากขึ้นและประชาชนเหล่านั้นอาจรวมใจรุมทำร้าย หลินเฉิง
ในตอนนี้ หลินเฉิง เลิกคิดถึงเรื่องนี้ก่อนเขาหันมาหยิบพวงกุญแจที่พบบนชั้น 2 ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พวงกุญแจมีรูปถ่ายขนาดเล็กที่เคลือบด้วยพลาสติกแข็ง มีภาพสาวน้อยน่ารักหน้าตาสดใสยืนอยู่ในสวนดอกไม้ สวมกระโปรงสีชมพูราวกับเจ้าหญิง มีลักยิ้มลึกสองข้างอยู่มุมปากของเธอ ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสุขอย่างชัดเจน บนหลังภาพมีข้อความว่า
“สุขสันต์วันเกิด ซินซินลูกรักของพ่อ..”
เมื่ออ่านคำด้านบน หลินเฉิง รู้สึกตกตะลึงสักครู่ มันง่ายมากสำหรับเขาที่จะขบคิดบางอย่างเกี่ยวกับรูปภาพนี้ พ่อที่รักลูกสาวตัวเองอย่างลึกซึ้ง แต่เนื่องจากเขาทำงานยุ่งเกินไปจึงยากที่จะได้พบเธอบ่อยๆ ด้วยความรู้สึกผิดต่อลูกสาวเขาจึงแขวนรูปลูกสาวของเขาไว้ข้างเอวตลอดเวลา และเมื่อเขาคิดถึงเธอเขาจะยกรูปนี้ขึ้นมาดูต่างหน้า
อย่างไรก็ตามถ้าเดาไม่ผิดพวงกุญแจนี้เป็นของผู้กำกับตำรวจที่ตายไปแล้วอย่างที่ตำรวจสาวพูดถึง
พ่อและลูกสาวแสดงถึงความรัก แต่เมื่อถึงกาลอวสานของโลกพวกเขาไม่มีเวลาที่จะกล่าวคำอำลาใดๆเป็นครั้งสุดท้าย และพวกเขาก็ถูกแยกจากกันตลอดกาล…
ด้วยพวงกุญแจนี้ หลินเฉิง รู้สึกถึงความหนักหน่วงในใจของเขา เขาเป็นคนโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เล็ก เขาไม่มีครอบครัวหรือแม้กระทั่งแฟน เขาไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกลึกซึ้งของความรักผู้เป็นพ่อ แต่เขาสามารถเข้าใจถึงการเกลียดชังที่มีต่อวันสิ้นโลกนี้ได้
เมื่อคิดว่าป้าฉินเป็นเพียงคนเดียวที่ห่วงใยเขาตลอดเวลาและเธอยังคงอยู่ที่ เซียงโจว เพื่อกำลังรอคอยเขาอยู่มันทำให้ หลินเฉิง รู้สึกถึงความสุขในใจของเขาจากนั้นเขาพยายามเพ่งสายตาไปที่รูปภาพและสังเกตคำเล็กๆข้อความนั้น
มันเป็นเพียงรอยเส้นบางๆแทบจะมองไม่เห็นถ้าสายตาของ หลินเฉิง ไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนด้วยยาเสริมสร้างร่างกายเขาอาจจะไม่สังเกตเห็นมันเลย
“2 พฤศจิกายน 2014..”
ในที่สุดเขาก็สามารถอ่านคำเล็กๆที่อยู่ใต้ข้อความได้ หลินเฉิง ท่องมันอย่างเงียบๆในใจของเขาและจดจำไว้ในใจ
ก่อนหน้านี้เขาสงสัยอยู่แล้วว่าซอมบี้ร่างอ้วนนั้นต้องมีบางอย่าง และหลังจากที่เขาค้นพบพวงกุญแจในร่างกายของซอมบี้ตัวนั้นเขายังคงเก็บเอาไว้ และเมื่อเขารู้ว่าซอมบี้ร่างอ้วนนั้นเป็นผู้กำกับของสถานีตำรวจแห่งนี้และเขายังเป็นคนเดียวที่รู้รหัสผ่านของห้องเก็บปืน ดังนั้น หลินเฉิง จึงพยายามหาเบาะแสต่างๆ
การที่พ่อรักลูกสาวของเขาเป็นอย่างมากบางทีเขาอาจใช้วันเกิดของลูกสาวของเขาเป็นรหัสผ่านในการเปิดห้องอาวุธปืน
เมื่อนึกถึงดังนี้ หลินเฉิงท่องวันเกิดอีกครั้งและเริ่มคิดในใจว่า เขาจะต้องหาห้องอุปกรณ์ปืนนั้นให้เจอและลองใช้รหัสผ่าน
เพียงไม่นานท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ หลินเฉิง รู้สึกหิวแล้วต้องการออกไปด้านนอกเพื่อถามตำรวจสาวว่ามีสิ่งใดให้กินหรือไม่ แสงที่ส่องเข้ามาในห้องดูเหมือนจะมืดลงเรื่อยๆ หลินเฉิง รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยจากนั้นเขาจึงเปิดประตูออกไปแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างตรงทางเดิน มันทำให้เขารู้ว่าตอนนี้หิมะตกแล้ว
บนลานด้านหน้าของสถานีตำรวจถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ในตอนนี้หิมะยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ซอมบี้ที่เขาจัดการก่อนหน้านี้ถูกฝังอยู่ในหิมะ ฝูงซอมบี้ที่ถูกเขาดึงดูดก่อนหน้านี้ค่อยๆแยกย้ายกันออกไปและยังคงมีซอมบี้บางตัวถูกขังอยู่ได้หิมะ พวกมันถูกหิมะปกคลุมโดยไม่ตั้งใจและพยายามที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาจากกองหิมะ
หิมะตก…
หลินเฉิง ถอนหายใจเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าพลังงานของเขาจะถึง 100 ในไม่ช้าเขาจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เมื่อค่าพลังถึง 100 เขาไม่เพียงแต่สามารถแลกเปลี่ยนมีดได้เท่านั้นแต่เขายังสามารถยกระดับระบบและแลกเปลี่ยนกับแคปซูลจัดเก็บได้อีกด้วย ตราบใดที่การกระทำในคืนนี้ของเขาราบรื่นเขาสามารถมีปืนและกระสุนจำนวนมาก และเมื่อเขาพร้อมเขาสามารถเดินทางไปเมืองเซียงโจวได้ตลอดเวลา!
แน่นอนว่าการฆ่าคนนั้นเป็นเรื่องผิดศีลธรรมแต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับการข่มขู่และเผชิญหน้ากับความโลภของมนุษย์ ตราบใดที่เขาสามารถแลกมีดออกมาจากระบบและเขาเจอมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวอีกครั้งเขาจะทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกถึงการสูญเสีย
“คุณกำลังทำอะไร?”
หลินเฉิง กำลังคิดอยู่ในใจในขณะที่เขา มองลงไปที่หิมะตกทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงชัดเจนมันเป็นเสียงของ เกาหยู
เมื่อ เกาหยู เห็นชายคนหนึ่งกำลังเฝ้ามองไปนอกหน้าต่างเพื่อดูหิมะมันทำให้ เกาหยู รู้สึกซับซ้อน สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันคงเล่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจของเธอ การระเบิดอารมณ์ของ หลินเฉิง อย่างกะทันหันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและสั่นสะท้านราวกับตกอยู่ในถังน้ำแข็ง หลี่โบและหลี่เซียงหยาง ที่ถูกชายหนุ่มคนนี้สั่งสอนยังคงนอนอยู่กับเตียงและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ผู้รอดชีวิตคนอื่นรู้สึกว่า หลินเฉิง นั้นเป็นบุคคลอันตรายเกินไปและต้องการให้ขับไล่ชายหนุ่มคนนี้ออกไปทันที
แต่เหตุผลอะไรที่เธอจะต้องขับไล่ หลินเฉิง หรือใครก็ตาม แม้ว่าจุดประสงค์การมาที่นี่ของเขาจะไม่เป็นมิตร แต่เขาก็ไม่ได้ใช้ความคิดนี้สร้างปัญหาแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก
นอกจากนี้เธอมีบางอย่างที่ต้องการขอร้องเขา….
---------------------------------------