ตอนที่แล้วตอนที่ 252 เกิดอะไรกับเหยาซื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 254 ฆาตกรรม !

ตอนที่ 253 มีบางอย่างในแจกัน


เมื่อนางเข้ามาในเรือนเป็นครั้งแรก นางรู้สึกเพียงว่าผิวของเหยาซื่อนั้นดูซีดเซียวซึ่งหากสังเกตจะเห็นได้ชัดเจนมาก ดังนั้นนางจึงคิดว่ามันเป็นเพียงการอดนอนจากความหนาวเย็นและกังวลเกี่ยวกับบุตร ๆ ของนาง แต่ในขณะที่นางคุยกับเหยาซื่อ นางจับข้อมือของเหยาซื่อเป็นครั้งคราว และนางก็พบว่าอาการของเหยาซื่อนั้นไม่ได้ดีอย่างที่หวังไว้

มีบางอย่างที่ทำให้ร่างกายของเหยาซื่ออ่อนเพลียเป็นประจำ ด้วยยาจำนวนเล็กน้อยในแต่ละวันซึ่งมันไม่น้อยหรือมากเกินไป ทำให้หมอไม่สามารถตรวจพบได้ เนื่องจากไม่ใช่ยาที่มีผลรุนแรง เหยาซื่อเองจึงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกายของนาง ในความเป็นจริงนางรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย

นางแน่ใจว่าแม้แต่หมอหลวงเป็นคนตรวจก็อาจจะไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะนางเพิ่มยาในอาหารแต่ละมื้อตามอาการของเหยาซื่อ บางทีนางอาจจะไม่รอดชีวิตจนถึงวันนี้

ตอนนี้นางให้ยาเหยาซื่อมาครึ่งปีแล้ว แต่ร่างกายของเหยาซื่อกลับแย่ลง ดูเหมือนการที่นางให้ยาเหยาซื่อมาครึ่งปีจะเสียเปล่า ดูเหมือนร่างกายของเหยาซื่อจะแย่ลงตั้งแต่ตอนอยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ

เฟิงหยูเฮงเริ่มไตร่ตรอง นางโบกมือเรียกบ่าวรับใช้เข้ามา “ไปที่เรือนของท่านแม่แล้วเรียกฉิงหลิงมา บอกนางว่าข้ามีบางอย่างอยากถามนาง”

บ่าวรับใช้ปฏิบัติตาม และเดินออกไป ไม่นานนางก็กลับมาพร้อมกับฉิงหลิง

ฉิงหลิงเห็นว่าเฟิงหยูเฮงกำลังมองหานาง ดังนั้นนางจึงรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับเหยาซื่ออย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงพูดอย่างละเอียดเกี่ยวกับการแต่งตัวและอาหาร นางยังพูดเกี่ยวกับการออกไปเยี่ยมองค์หญิงเหวินซวนเป็นครั้งคราว จากนั้นนางก็พูดถึงจดหมายจากเสี่ยวโจว และชื่นชมยินดีกับน้องรองที่กลับปีใหม่

เฟิงหยูเฮงรับฟังและไม่ได้ยินอะไรผิดปกติ นางถามฉิงหลิง “ยาที่ข้าให้เจ้าเพิ่มลงในอาหารของท่านแม่ เจ้าได้ใส่ลงไปหรือไม่ ?”

ฉิงหลิงพยักหน้า “ข้าใส่ทุกมื้อเจ้าค่ะ และใส่ในปริมาณที่แตกต่างกัน บ่าวรับใช้ผู้นี้ดูพ่อครัวใส่ด้วยตัวเอง” นางสังเกตสีหน้าของเฟิงหยูเฮงและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าค่ะ ?”

เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “ไม่มีเป็นไร มันนานเกินไปแล้วตั้งแต่ข้ากลับมา ข้าจึงต้องปรับยาอีกนิดหน่อย” นางไม่ต้องการที่จะบอกกับฉิงหลิงเพราะกลัวว่าจะเพิ่มภาระเรื่องเหยาซื่อ ดังนั้นนางจึงพูดว่า “พรุ่งนี้ ตอนเช้าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจ้าใช้ยาเก่า ข้าจะให้ยาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เจ้าอย่าบอกท่านแม่เรื่องการปรับยาเพื่อที่ท่านแม่จะได้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้”

“เจ้าค่ะ” ฉิงหลิงพยักหน้า “คุณหนูดูไม่ดีเลยและอาจเหนื่อย คุณหนูพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”

“ไม่เป็นไร” นางไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วโบกมือให้ฉิงหลิงออกไป

นางไว้วางใจฉิงหลิง ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากฉิงซวง นางเข้ามาในคฤหาสน์ก่อนหน้านี้และดูแลเหยาซื่อตลอดเวลา วิธีที่นางทำงานทำให้คนรู้สึกสบายใจ

เนื่องจากไม่มีปัญหากับยาก็ต้องมีปัญหาที่อื่น

คืนนั้นเฟิงหยูเฮงนอนไม่หลับ จิตใจของนางวุ่นวายเพราะนางกำลังคิดถึงเรื่องของเหยาซื่อ นางไปที่ห้องครัวกับหวงซวนและบานซูเพื่อตรวจสอบ แต่ความเป็นจริงพิสูจน์แล้วว่าทุกอย่างเป็นปกติในครัวของเรือนตงเซิง แม้แต่แม่ครัวและบ่าวรับใช้ของเหยาซื่อก็ถูกตรวจสอบโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ปรากฏขึ้น

แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เช้าตรู่ของวันต่อมา หวงซวนถามขณะที่ช่วยเฟิงหยูเฮงอาบน้ำ “คืนนี้เราจะสืบต่อหรือไม่เจ้าคะ? หรือจะตรวจสอบทางด้านคฤหาสน์เฟิง ?”

เฟิงหยูเฮงส่ายหน้า “ไม่จำเป็น อย่าทำตัวเหมือนแมลงวันหัวขาด เนื่องจากเราไม่สามารถหาอะไรได้แล้วข้าจะต้องใช้ความพยายามพิเศษและช่วยฟื้นฟูท่านแม่ เราดูกันเงียบ ๆ จากด้านข้าง ข้าอยากเห็นว่าใครกล้าที่จะทำในเรือนตงเซิงของข้า”

บ่าวรับใช้คนหนึ่งเคาะประตูแล้วเข้ามาพูดกับหยูเฮง “ข่าวจากคฤหาสน์เฟิงบอกว่าท่านฮูหยินผู้เฒ่านอนไม่หลับเมื่อคืนนี้ วันนี้คุณหนูไม่ต้องคารวะเจ้าค่ะ”

หวงชวนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ก็ดีเช่นกัน คุณหนูนอนพักเพิ่มหรือไม่เจ้าค่ะ ?”

แต่บ่าวรับใช้ที่มาพร้อมกับข่าวนี้ยังคงดำเนินต่อไป “คุณหนู ตอนนี้มีคนรอพบคุณหนูอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงตื่นตกใจ “ใคร?”

บ่าวรับใช้ยิ้ม และพูดว่า “บ่าวรับใช้จากพระราชวังเหวินซวน คฤหาสน์ของแม่ทัพปิงหนาน คฤหาสน์ของเสนาบดีเฟิง และคฤหาสน์ของตระกูลเป่ย พวกเขามาในนามของคุณหนูเพื่อมองของกำนัลให้เจ้าค่ะ บ่าวรับใช้คิดว่าคงเป็นของกำนัลปีใหม่เจ้าค่ะ”

หวงชวนจึงจำขึ้นมาได้ “ใช้แล้ว ตอนนี้สิ้นปีแล้วเจ้าค่ะ เจ้าหน้าที่กำลังยุ่งอยู่กับการส่งของกำนัลเข้าไปในพระราชวัง และพวกฮูหยินและคุณหนูก็กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมของกำนัล คุณหนูรีบไปดูสิ่งที่พวกเขาส่งมาให้เจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงถูกบ่าวรับใช้ทั้งสองคนลากไปที่ห้องโถง ที่นั่นพวกเขาเห็นบ่าวรับใช้ตัวใหญ่สี่คน และมีบ่าวรับใช้จำนวนมากถือของกำนัลอยู่ที่ทางเข้า

นางจำบ่าวรับใช้ทั้งสี่คนได้ พวกเขาคือบ่าวรับใช้ส่วนตัวของซวนเทียนเก้อ, เฟิงเทียนหยู, เหรินซีเฟิง และเป่ยฟู่หรง

เหยาซื่อมาถึงก่อนหน้าเฟิงหยูเฮงเพื่อต้อนรับพวกเขา และนางก็คุยกับพวกเขาอย่างมีความสุข เมื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงมาถึง พวกเขารีบไปทักทายนางอย่างรวดเร็ว บ่าวรับใช้ส่วนตัวของซวนเทียนเก้อเป็นคนแรกที่พูด “เราไม่ได้เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ องค์หญิงของเราเป็นห่วงคุณหนูมาก แต่เนื่องจากองค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันอยู่ที่ค่ายทหาร มันคงไม่ดีที่จะไปและก่อให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นเรารอให้คุณหนูกลับมาที่เมืองหลวงเจ้าค่ะ”

บ่าวรับใช้ส่วนตัวของเฟิงเทียนหยูก็กล่าวขึ้นมาว่า “แน่นอน คุณหนูใหญ่ของตระกูลเราก็พูดถึงคุณหนูเช่นกันเจ้าค่ะ ตอนนี้สิ้นปีแล้วเราได้เตรียมของกำนัลพิเศษสำหรับองค์หญิงแห่งมณฑลจี่อัน เราหวังว่าองค์หญิงแห่งมณฑลจะชอบเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงยังรู้สึกละอายเล็กนอยเพราะนางลืมเรื่องการส่งของกำนัลสำหรับปีใหม่ เมื่อพวกเขานำของกำนัลมาให้นาง นางก็ไม่ได้มีของกำนัลมอบกลับไป

“พี่น้องของข้าสุภาพเกินไป” นางพูดด้วยความอาย “ข้าเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวง และข้ายังไม่มีโอกาสเตรียมของกำนัล พวกเจ้ากลับไปบอกเจ้านายของเจ้าว่าข้าจะนำของกำนัลส่งไปให้พวกเขาภายใน 2 วัน”

บ่าวรับใช้ของซวนเทียนเก้อพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่าของกำนัลที่ส่งคืนจะเป็นเพียงสิ่งของเล็กน้อยหรือไม่ก็ตาม คุณหนูมีความสุขอย่างแน่นอนที่เจ้าหญิงแห่งมณฑลส่งให้เจ้าค่ะ!” นางกล่าวขณะที่ชี้ไปที่บ่าวรับใช้ที่ถือกล่องไว้ข้างนอก “ในความเป็นจริงของกำนัลทั้งหมดสำหรับฮูหยิน ของขวัญสำหรับองค์หญิงแห่งมณฑลนั้นมาพร้อมกับของกำนัลจากคุณหนูเป่ยเจ้าค่ะ”

บ่าวรับใช้ส่วนตัวของเป่ยฟู่หรงรีบนำกล่องขนาดใหญ่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และบ่าวรับใช้ของเทียนเก้อกล่าวต่อ “องค์หญิงกล่าวว่าคฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลไม่ได้ขาดอาหารหรือเสื้อผ้า แต่องค์หญิงแต่งกายด้วยความชัดเจน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ตระกูลเป่ยเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องของเครื่องประดับแล้ว พวกคุณหนูก็จัดหาวัสดุและส่งพวกมันไปที่คฤหาสน์ตระกูลเป่ย ลองดูเจ้าค่ะ ทั้งหมดนี่ทำโดยช่างฝีมือของตระกูลเป่ย”

เมื่อกล่าวเช่นนี้บ่าวรับใช้ของตระกูลเป่ยเปิดกล่อง และมีเครื่องประดับศีรษะ 3 ชุด ทองคำ 1 ชุด หยก 1 ชุด และอีก 1 ชุดทำจากอัญมณีหลากสี พวกมันงดงามไม่แพ้กัน

หยูเฮงรู้อยู่เสมอว่าถึงแม้เครื่องประดับทองคำจะถูกขัดเงาในศตวรรษที่ 21 มากกว่าสมัยโบราณ แต่ก็มีการถดถอยในงานฝีมือ แม้ว่าจะมีรูปแบบต่างๆ มากมายที่เครื่องจักรผลิตได้ แต่ก็ยังขาดความเฉลียวฉลาด สิ่งที่ดีอย่างแท้จริงมาจากมือของช่างฝีมือโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือของช่างตระกูลเป่ย

เมื่อเห็นอย่างนี้นางก็มีความสุขมาก และนางก็อดไม่ได้ที่จะได้รับกล่อง จับมันไว้ ดวงตาของนางเป็นประกายจับจ้องไปที่พวกมัน

เมื่อบ่าวใช้เห็นสิ่งนี้ พวกเขารู้ว่านางชอบมันจริง ๆ และบ่าวรับใช้ของตระกูลเป่ยกล่าวว่า “ถ้าองค์หญิงแห่งมณฑลชอบนั่นเป็นเรื่องดี คุณหนูคงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในความเป็นจริง วัสดุทั้งหมด องค์หญิงวู่หยาง คุณหนูเหรินและคุณหนูเฟิงเป็นผู้จัดหามา ตระกูลของเราไม่สามารถจัดหาสิ่งที่ดีเช่นนี้ได้” บ่าวรับใช้พูดเบา ๆ และใบหน้าของนางเป็นสีแดงเล็กน้อยเนื่องจากนางอายอย่างเห็นได้ชัด “คุณหนูกล่าวว่าตระกูลเป่ยมีความสามารถเท่านั้นที่สมควรนำเสนอ องค์หญิงแห่งมณฑลอย่ารังเกียจเลยเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงรู้สึกซาบซึ้ง นางเข้าใจเป็นธรรมดาว่าตระกูลเป่ยเป็นเพียงตระกูลช่างฝีมือ พวกเขาจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับพระราชวัง คฤหาสน์ของแม่ทัพ หรือคฤหาสน์ของเสนาบดีได้อย่างไร แต่ตระกูลเป่ยก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจอย่างมากในการเตรียมของขวัญชิ้นนี้ นางจะรังเกียจได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องประดับของช่างฝีมือเป่ยก็เป็นที่อยากได้สำหรับนางสนมของฮ่องเต้ แม้แต่ฮองเฮาก็ได้รับเครื่องประดับศีรษะเพียง 1 ชุดจากช่างฝีมือเป่ยในแต่ละปี

แต่นางได้รับ 3 ชุดในครั้งเดียว

“ขอบคุณช่างฝีมือเป่ยที่ทำขึ้นมาให้ข้า” นางพูดด้วยความจริงใจ “ข้ารู้ว่าเครื่องประดับเหล่านี้มีค่าเพียงใด และข้าจะรักษาพวกมันอย่างดี”

“ขอบคุณองค์หญิงมากเจ้าค่ะ”

พวกเขาพูดคุยกันซักพักก่อนที่บ่าวรับใช้จะกล่าวคำอำลา หยูเฮงสั่งให้หวงชวนไปส่งพวกเขาออกจากคฤหาสน์ เหยาซื่อคว้าตัวนางแล้วพูดว่า “ในความจริงข้าได้เตรียมของขวัญแล้ว ข้าแค่รอให้เจ้ากลับมา แต่เมื่อได้รับของกำนัลที่องค์หญิงวู่หยางและบรรดาคุณหนู ของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ไม่อาจส่งมอบได้ ลองคิดดูอีกสักนิดเพื่อดูว่าเราจะให้อะไรตอบแทนเพื่อไม่ให้พวกเขาขุ่นเคืองใจเจ้า”

เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “ท่านแม่ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ อาเฮงเข้าใจดี”

แต่หลังจากที่นางกลับไปที่เรือนของนาง นางก็เริ่มกังวล มันจะแปลกถ้านางมีความเข้าใจ ! นางคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย โชคดีที่คำพูดของหวงซวนเตือนนางว่า “เมื่อให้ของกำนัล ควรให้สิ่งที่พวกเขาพึงพอใจหรือขาดแคลน คุณหนูลองคิดดูเจ้าค่ะ”

ดีมาก นางกำลังคิด

ดังนั้นเฟิงหยูเฮงจึงใช้เวลาช่วงเช้าในการคิดเกี่ยวกับของกำนัลที่จะมอบกลับไป

แต่ในขณะที่นางเท้าคางของนางและกังวลเกี่ยวกับของกำนัล นางไม่รู้ว่าเฟิงเฉินหยูได้พบกับหายนะในห้องนอนของนาง

เฟิงเฟินไดทานอาหารเช้าเสร็จและเดินไปหาฮันชิในเรือนยู่หลานเพราะนางรู้สึกว่าวันนี้นางว่าง วันนี้หงหยุนไม่สามารถมาสอนร่ายรำได้จนถึงเวลากลางคืน ดังนั้นนางจึงต้องหาอะไรทำในตอนกลางวัน

หลังจากคิดและไตร่ตรองแล้ว นางตัดสินใจที่จะสร้างปัญหาให้กับเฟิงเฉินหยู

เมื่อนางเข้าไปในเรือนของเฟิงเฉินหยูกับเป่ยเอ๋อ เฟิงเฉินหยูพูดกับยี่หลิน “แม้ว่าในอนาคตจะไม่ต้องอับอายจากการทาหน้าดำ แต่ก็ไม่สามารถโยนมันทิ้งไปได้ นั่นเป็นสิ่งที่ได้รับพระราชทานจากพระราชวัง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าฮองเฮาจะเอาผิดข้า ถ้าข้าโยนมันไปแล้ว นั่นจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรือ ?”

ยี่หลินรู้สึกว่าคุณหนูของนางนั้นพูดถูกต้องมาก นางจึงพูดว่า “บ่าวรับใช้คนนี้จะเก็บมันไว้ในห้องด้านข้าง” จากนั้นนางก็ออกจากห้องแต่นางหันกลับมาอย่างรวดเร็ว นางไม่ได้มีโอกาสกำจัดผงทาหน้าสีดำดังที่นางพูดกับเฉินหยู นางรายงานทันทีว่า “คุณหนูสี่มาเจ้าค่ะ !”

เมื่อนางพูดจบ เฟิงเฟินไดรีบวิ่งเข้าไปในห้องเหมือนลมกระโชก

เมื่อเห็นเฟิงเฟินได หัวใจของเฉินหยูก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เด็กคนนี้สร้างปัญหาให้นางเสมอ และปากของนางไม่มีหูรูด นางเกลียดน้องสาวคนนี้จริง ๆ

“โอ้!” เมื่อเข้าในห้อง เฟิงเฟินไดก็ตะโกนออกมา จากนั้นนางก็เริ่มมองไปรอบ ๆ ห้อง “เชิญท่านพี่ตามสบาย”

“น้องสี่มีเรื่องอันใดหรือ ?” นางต้องการแสดงออกด้วยความห่วงใยจริง ๆ แต่นางก็ไม่สามารถทำได้

“มีเรื่องเล็กน้อย” เฟิงเฟินไดดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง “ครั้งสุดท้ายท่านพี่พูดว่ามีความแตกต่างระหว่างการเกิดของฮูหยินใหญ่และอนุ เราในฐานะบุตรของอนุไม่สามารถล่วงเกินศักดิ์ศรีของบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ได้ นี่ไม่ได้จำกัดแค่เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ท่านพี่ห้องนี้เต็มไปด้วยสิ่งของจำพวกทองและของเก่า มันจำเป็นต้องส่งของพวกนี้ให้ท่านย่าหรือไม่ ?”

นางพูดแบบนี้ขณะยืนขึ้น ก้มลงไปที่แจกันสีแดง นางยื่นออกมาแล้วหยิบมันขึ้นมา

“ก่อนหน้านี้เมื่อเฉินซื่อยังมีชีวิตอยู่ นางมอบสิ่งดี ๆ มากมายให้ห้องของท่านพี่ ท่านพี่ แจกันนี้มีมูลค่ามากใช่หรือไม่ ? น่าเสียดายที่ไม่คู่ควรกับบุตรสาวของอนุ” กล่าวอย่างนี้แล้วนางปล่อยแจกันหลุดมือ ทำให้แจกันหล่นลงบนพื้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เฟิงเฉินหยูเริ่มสับสนแล้วเมื่อเห็นเฟิงเฟินไดหยิบแจกัน ตอนนี้มันแตกแล้ว นางจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นและหัวใจของนางเกือบกระโจนขึ้นมาจากลำคอของนาง !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด