ตอนที่ 138 ปีศาจทมิฬ 2
“การโจมตีทางอากาศ!”
รถยิงขีปนาวุธของมังกรดารายิงอย่างไร้ความปราณี ขีปนาวุธฉีกอากาศพร้อมเสียงกรีดร้อง เพิ่มบรรยากาศให้หนักหน่วง
อูการ์ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย เขาสั่งให้กองทัพปิดช่องว่างในขบวน ด้วยรถยิงขีปนาวุธ ก่อเป็นขบวนรุก นี่ช่วยลดพื้นที่เป้าหมายและปืนกลก็จะทำลายขีปนาวุธทุกลูกในอากาศได้ ทำให้เกิดสูญญากาษศ ช่วยให้กองทหารสามารถเคลื่อนผ่านคลื่นระเบิดได้อย่างราบรื่น
หวงฉิ่วหมิงหยุด
เขาเพิ่งได้รับข่าวว่าการต่อสู้ที่แม่น้ำเทอร์ดราม่าอยู่ในช่วงร้อนระอุ ทีมกลยุทธ์ได้ทำจุดไม่กี่แห่งที่ทีมต้นกำเนิดสามารถรวมตัวกันได้ ทีมกลยุทธ์แนะนำให้พวกเขาเปลี่ยนจากแผนเดิมเป็นแผนB หวงฉิ่วหมิงได้ทำการจัดการใหม่และสั่งให้โอบล้อมเพื่อสกัดช่องโหว่
ในเวลาเดียวกัน น้ำฝนคิมและคนอื่นก็มาถึงแนวหน้า ทหารจำนวนมากรวมตัวกันด้วยชุดและอุปกรณ์ที่เหมาะสม รถหุ้มเกราะส่งเสียงคำรามอยู่ และมีทหารระดับสูงยืนประจำการ
“เราจะเข้าร่วมการต่อสู้ได้ยังไง?”ฤดูหนาวถาม
น้ำฝนคิมขมวดคิ้วและครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้า“ฉันไม่รู้”
งั้นทำไมเธอถึงพยักหน้ากันเล่า?!ฤดูหนาวอยากโขกหัวตาย
ข้าวผัดกระพริบตา ชี้ไปยังสนามรบและตะโกน“มีคนมา!บ้าเอ้ย!มันดูเหมือนจะเป็นตัวละครระดับสูง!”
อีกสองคนหันไปมอง พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังนำกลุ่มทหารติดอาวุธบนมอเตอร์ไซต์หุ้มเกราะเพื่อแยกจากกำลังหลัก พวกเขาเร่งมายังฐานของมังกรดารา หลบกระสุนได้อย่างราบรื่น
...
ตาเหยี่ยวหลบการโจมตีบนมอเตอร์ไซต์เขาอย่างคล่องแคล่ว แต่เขาก็กระตุ้นทุ่นระเบิดโดยไม่ตั้งใจ และรถเขาก็ถูกระเบิด เขาเริ่มวิ่ง ความเร็วเกือบเทียบเท่ากับมอเตอร์ไซต์ งานเขาคือส่งระเบิดที่เขาแบกไปยังฐานมังกรดารา
ยอดมนุษย์มักต่อสู้ในทีมจู่โจมบนสนามรบ ตาเหยี่ยวสามารถเห็นว่าศัตรูได้ส่งทีมโต้ตอบมาจัดการพวกเขา
เขายังคงไร้อารมณ์และปรับพลังงายภายในเพื่อประหยัดเอาไว้
ทันใดนั้น ตาเหยี่ยวก็รู้สึกถึงอันตรายอย่างฉับพลัน เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ออกแรงผลักขา และกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง
แต่เขาไม่เร็วพอ
กระสุนแสงสีฟ้าฉีกอากาศ พุ่งใส่คอของตาเหยี่ยวจากด้านข้างและทำให้เลือดสาดกระเซ็น เขาบาดเจ็บสาหัส ร้องครวญครางและพ่นเลือดออกมา ไม่มีที่ให้หลบบนทุ่งโล่ง ทางเลือกเดียวเขาคือวิ่งต่อไป แต่บาดแผลก็ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลง
นักสู้ที่สามารถทนกระสุนปืนได้กลับบาดเจ็บสาหัสในนัดเดียว!
หวงฉิ่วหมิงตกใจ
“นั่นไม่ใช่เรา ใครคือคนยิง?!”
เขานึกถึงเป้าหมายที่เขาพบตอนแรกและรู้สึกว่าการยิงนี้ดูคุ้น เขาครุ่นคิดอยู่สองวินาทีและดวงตาเขาก็เบิกโพล่ง
มีสัตว์ประหลาดเพียงคนเดียวที่สามารถสร้างความเสียหายให้ยอดมนุษย์ได้-ปีศาจทมิฬคนนั้น!
กระสุนแสงสีฟ้า นั่นต้องเป็นเขาแน่ๆ!
เขามาทำอะไรที่นี่?ทำไมเขาถึงช่วยเรา?
“ผู้บัญชาการ เราควรทำยังไงดีครับ?”รองผู้บัญชาการถาม
หวงฉิ่วหมิงพิจารณาและตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว“เขาไม่ใช่ศัตรูเรา ไม่ต้องสนใจเขา ทุ่มทุกอย่างเพื่อจัดการกับองค์กรต้นกำเนิด”
โดยปกติ ทักษะของมือซุ่มยิงจะถูกกำจัดมากในการต่อสู้เช่นนี้ แต่เมื่อมันเป็นสุดยอดมือซุ่มยิงอย่างปีศาจทมิฬ เรื่องราวก็แตกต่างออกไป
มังกรดาราไม่รู้ว่าทำไมปีศาจทมิฬถึงช่วยพวกเขา แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องสงสัย!
...
อูการ์โกรธ
“กระสุนนัดเดียวที่ทำร้ายตาเหยี่ยวได้ นั่นต้องเป็นไอปีศาจทมิฬแน่!ไม่นานมานี้ เขาก็ได้ยิงกลุ่มของไฟเรอร์เช่นกัน ไอสัตว์ประหลาดนี่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ตามคำขอของมังกรดาราเป็นแน่!”
อูการ์รู้สึกกดดันมากเมื่อนึกถึงสถิติการฆ่าของปีศาจทมิฬบนเครือข่ายมืด เขาได้รับฉายาว่า’นักฆ่ายอดมนุษย์’ มันอันตรายเกินไป แม้อูการ์จะแข็งแกร่งกว่าตาเหยี่ยม เขาก็ไม่อยากลิ้มรสความแข็งแกร่งของปีศาจทมิฬ
ด้วยความเข้าใจผิด อูการ์จึงสั่งการ“ทีม3 ค้นหาตำแหน่งและยุติการซุ่มยิง นำมนุษย์ทดลองไปด้วย แกต้องเบี่ยงเบนความสนใจเขาไปจากเราให้ได้!”
รถหุ้มเกราะคันหนึ่งขับออกจากกำลังหลักและเร่งความเร็วไปหาหานเซี่ยว
..
ท่านได้สร้างความเสียหายจริง1297หน่วยแก่ตาเหยี่ยม(ระดับ40)!
ท่านได้โจมตีจุดตาย!
ตาเหยี่ยวอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ค่าสถานะทั้งหมดลดลง50%เป็นเวลา10วินาที
ว้าว เขาอึดดีแหะ หานเซี่ยวประหลาดใจ ความเสียหายในทางทฤษฏีของนัดนี้คือ1600หน่วย เมื่อพิจารณาถึงสภาพร่างกายของนักสู้ มันควรเป็นประมาณ1300หน่วย การยิงนัดนี้ล้มไป่จินผู้เป็นระดับ48ได้ในนัดเดียว แต่ตาเหยี่ยวกลับยังยืนและวิ่งต่อได้ เขาอึดมากจริงๆ
ครั้งนี้[เจตจำนงค์แห่งเพลิง]ไม่ดีนัก มันเพิ่มการโจมตีเขาแค่148% ปืนไรเฟิลซุ่มยิงภูติผีเขาได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกด้าน ไม่มีค่าประสบการณ์ใดเสียเปล่า หานเซี่ยวทั้งประหยัดค่าประสบการณ์หรือใช้มันเพื่อเลื่อนระดับทักษะ พรสวรรค์ และอุปกรณ์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของความแข็งแกร่ง!
หลังยิงนัดแรก หานเซี่ยวก็เปิดใช้งานใหม่
[สงครามแม่น้ำเทอร์ดราม่า] ท่านได้เข้าร่วมสงครามระหว่างมังกรดาราและองค์กรต้นกำเนิด เนื่องจากท่านเลือกข้างแล้ว ก็จงช่วยพันธมิตรของท่าน]
นี่คือภารกิจระดับC ผู้เล่นต้องฆ่าทหารต้นกำเนิดและป้องกันพวกเขาจากการหลบหนี รางวัลขึ้นอยู่กับผลงาน
รางวัลค่าประสบการณ์ไม่ควรน้อยกว่าสามแสน หานเซี่ยวพอใจที่เขาสามารถได้รับค่าประสบการณ์ด้วยการเป็นคนยุ่ง
หานเซี่ยวยิงปืนใส่ตาเหยี่ยวนัดเดียว และเขาก็ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมการถูกลุมยิงได้ ความตายเขาช่างน่าสลดใจ
นี่คือจุดจบของนักสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าป่านกวง
นักสู้สามารถสู้กับคนหลายคนได้ แต่หากอยากรับมือกับทั้งกองทัพ แม้จะไม่มีเทคโนโลยีอะไร คุณก็ต้องแข็งแกร่งให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเบนเน็ต หานเซี่ยวคิด
นักสู้ต้องใช้พลังงาน ทุกคนต้องการเป็นวีรบุรุษ และนักสู้จะช่วยให้ตัวเองจัดการทุกอย่างได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธ
แต่ทว่า ถึงแม้รูปแบบการต่อสู้นี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ต้องผ่านการเติบโต คลาสCคือระดับสูงสุดของผู้เล่นในเวอร์ชั่น1.0
...
มือซุ่มยิงทำให้ทีมจู่โจมอ่อนแอลง ซึ่งกลายเป็นเป้ายิงง่ายๆ แผนจู่โจมยังไม่ทันเริ่มและล้มเหลวภายใต้การแทรกแซงของหานเซี่ยว
ในเวลานี้ เขาสังเกตเห็นกองทหารที่แยกตัวจากกองทัพหลักขององค์กรต้นกำเนิดและกำลังเคลื่อนมาทางเขา เขาเปลี่ยนเป้าหมายและเริ่มยิงโดยใช้ปืนเหยี่ยวแดง เพราะมังกรดารายังอยู่ หานเซี่ยวจึงตั้งใจหลีกเลี่ยงการใช้กระสุนระเบิด
ปืนไรเฟิลซุ่มยิงสามารถสร้างความเสียหายให้รถหุ้มเกราะได้จำกัด ดังนั้นหานเซี่ยวจึงเปิดใช้งานป้อมปืนพกพาที่เขาติดตั้งไว้ล่วงหน้า
สามร้อยเมตรด้านหน้ากองทัพต้นกำเนิด แบตเตอรี่พกพา4อันเปลี่ยนเป็นป้อมปืนกลขนาดเล็กหลายลำกล้อง พวกมันยิงถี่ และรถหุ้มเกราะหลายคันก็ระเบิด ทหารที่เหลือกระจายตัวและยิงโต้ตอบ
เมื่อทีมกระจายตัว ป้อมปืนพกพาก็มีประสิทธิภาพน้อยลงเพราะมันต้องหมุนและเล็งแทนที่จะเล็งยิงจุดเดียว
ป้อมปืนไม่ได้มีกลไกการป้องกัน แม้หานเซี่ยวจะใช้ทองคำขาวเป็นวัสดุพื้นผิว แต่สองในสี่ก็ถูกระเบิดอย่างรวดเร็ว โดยรวม ผลลัพธ์นับว่าดี รถกว่าครึ่งถูกทำลาย และศัตรูก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
ในเวลานี้ กองทหารได้ทำสิ่งที่หานเซี่ยวไม่คาดคิด หลังรถหุ้มเกราะคันหนึ่งเปิดออก มนุษย์จักรกลสามคนกระโดดออกจารถและวิ่งใส่ป้อมปืนพกพาด้วยความเร็วยิ่งกว่ารถ พวกเขาดูแปลกมาก และดาบคลั่งก็ผงะ
“โลกมีอะไรแบบนั้นด้วยงั้นหรอเนี่ย?”ดาบคลั่งอยากตรวจสอบพวกมันแต่ก็ได้รับแจ้งว่าอยู่ไกลเกินไป
มนุษย์จักรกลถูกสร้างมาอย่างดีและไร้อารมณ์ มีข้อต่อโลหะจำนวนมากและโครงสร้างภายในแขน ขาและกระดูกสันหลัง โลหะถูกทำให้พอดีกับกระดูกที่ข้อต่อ เช่นหัวเข่าและข้อศอก ขณะที่พวกมันวิ่ง ข้อต่อโลหะจะมีเลือดไหลออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเคลื่อนไหวทุกครั้งย่อมสร้างความเจ็บปวดให้พวกมัน แต่ทั้งสามกลับดูไร้อารมณ์ราวกับพวกมันไม่อาจรู้สึกได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชั้นเกราะบางๆที่งอกจากผิวหนังของมนุษย์จักรกล
หานเซี่ยวระบุตัวตนพวกมันได้ทันทีหลังเห็น