บทที่ 63 มีดหั่นผักออกโรง
บทที่ 63 มีดหั่นผักออกโรง
ไม่ว่าคนที่โจมตีซอมบี้จะเป็นใคร เขาคนนั้นย่อมไม่ได้มาเพื่อปัดเป่าหายนะให้ประชาชนแน่ สิ่งที่มีมูลค่าเพียงสิ่งเดียวในไซต์งานก่อสร้างนี้ก็คือตึกที่พักนั้น และคือสถานที่ที่หลิงม่อเก็บซ่อนข้าวของมีค่าเอาไว้ เป้าหมายของอีกฝ่ายน่าจะอยู่ตรงนั้น
พบผู้รอดชีวิตในช่วงโลกาวินาศใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป หลิงม่อเข้าใกล้ตึกที่พักอย่างระมัดระวัง หลังจากไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่ชั้นล่างแล้วจึงได้เข้าไปข้างในเงียบๆ
เพิ่งจะมาถึงชั้นสอง หลิงม่อก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ชายสองสามคน ยังดี ฟังเสียงแล้วคนพวกนี้เพิ่งจะขึ้นมาที่ชั้นสอง พวกเขาน่าจะมาหลบฝน นี่ก็แสดงว่าข้าวของที่ซ่อนไว้ชั้นสามน่าจะยังไม่ถูกพบ
แต่เสียงหัวเราะที่ได้ยินเข้ามาในหูกลับบาดหูอย่างประหลาด!
“ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่คงไม่ทำเธอตายหรอกนะ?”
“อย่าเล่นจนตายนะ พี่น้องเรายังไม่ได้ซี้ดเลย!”
เสียงหายใจหอบหนักๆ ดังเป็นพิเศษ “จะรีบทำไม! มีฉันอยู่ ยังจะกลัวไม่มีผู้หญิงมาประเคนให้เอารึไง? แม่งเอ๊ย หุ่นนังคนนี้สุดยอดยิ่งกว่านังตัวเล็กเมื่อกี้เยอะ...”
ตอนที่พูดมาถึงประโยคสุดท้าย อยู่ๆ เสียงของเขาก็สูงขึ้นเล็กน้อย และท่ามกลางเสียงหัวเราะกึกก้องมีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งผสมอยู่ในนั้น
แต่ปากของเธอน่าจะถูกยัดไว้ด้วยอะไรบางอย่าง เสียงจึงฟังดูอู้อี้นิดๆ แต่แม้จะเป็นแบบนั้นก็ยังฟังออกถึงความเจ็บปวดของเธอ
“แม่งเอ๊ย จะร้องทำไมวะ!ฉันรู้นะว่าผู้หญิงอย่างเธอ แต่ก่อนก็ดูถูกคนอย่างพวกเรา แต่ตอนนี้น่ะเหรอ ทางที่ดีเธอปรนนิบัติให้ฉันสบายตัวจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นฉันจะแร่เนื้อเธอเป็นชิ้นๆ ให้ซอมบี้กิน!”
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ทำเธอขวัญกระเจิงแล้ว”
“อย่าเล่นจนตายนะ ตอนนี้ผู้หญิงยิ่งหายากอยู่!”
“จะกลัวอะไร!ไม่บ่อยที่จะได้ฟินแบบนี้ อาศัยตอนฝนตก ไม่มีซอมบี้มาได้ยินด้วย ฮ่าๆๆ...”
สีหน้าของหลิงม่อกลายเป็นบึ้งตึงนิดๆ แต่เขาไม่ได้หยุดฝีเท้า ทว่าเดินขึ้นบันไดไปใกล้ชั้นบนช้าๆ
เดิมหลิงม่อตั้งใจว่าแค่จะไล่คนพวกนี้ออกไปเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้ยินคนกลุ่มนี้กำลังเหยียดหยามผู้หญิง นิ้วของเขาที่กำมีดสั้นอยู่กระชับแน่นขึ้นทันที ในดวงตาก็แวบปรากฎไอสังหาร
ความจริงในช่วงวันโลกาวินาศ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนอ่อนแอ และในโลกที่ระเบียบทางสังคมล้มเหลวแบบนี้ คนที่มีพละกำลังย่อมมีสิทธิ์ที่จะครอบครองทรัพยากรได้มากกว่า และในนั้นหมายรวมถึงผู้หญิงที่อยากจะเกาะติดคนอื่นเพื่อความอยู่รอด
แต่คนที่ดูถูกเพศหญิงแบบนี้ หลิงม่อรู้สึกสะอิดสะเอียนจากสุดขั้วหัวใจ!
ถึงไม่ได้มีข้อผูกมัดในเรื่องระเบียบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนจะต้องต่ำทรามจนกลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน!
“แม่งเอ๊ย พวกแกเล่นกันนานขนาดนี้ยังไม่เสร็จอีก”
ผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงปากทางตรงบันไดชั้นสาม ในปากคาบไม้จิ้มฟันซี่เล็กๆ ในมือนั้นมีมีดหั่นผัก เขามองขึ้นไปข้างบนอย่างหงุดหงิดนิดๆ...ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของคนพวกนั้นที่อยู่ในห้อง เป้ากางเกงของเขาก็ตุงขึ้นมา
“รีบๆ ให้ใครมาเปลี่ยนฉันหน่อย!แม่งให้ฉันยืนตากลมอยู่ตรงนี้คนเดียว ฝนตกหนักขนาดนี้ไม่เห็นแม้แต่เส้นขนซอมบี้ จะกลัวอะไรวะ...”
เขาเพิ่งจะหันไปคำรามใส่ระเบียงทางเดิน เงาคนก็พุ่งออกมาจากมุมเลี้ยวตรงบันได พริบตาที่เขาหันกลับมา มีดสั้นก็แทงทะลุคอของเขาและยังดันเขาตรึงบนกำแพง
ชายคนนั้นแขนขาอ่อน มีดหั่นผักหลุดมือทันที และหลิงม่อก็รีบเอาไว้พอดี
เห็นชายคนนี้เบิกตากว้าง ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสิ้นหวัง หลิงม่อรีบดึงมีดสั้นออกมา ขณะเดียวกันก็คว้าแขนชายคนนั้นวางราบลงกับพื้น
เลือดสดไหลออกมาจากปากของเขา ท้ายทอยที่ถูกแทงทะลุก็มีเลือดไหลออกมาเป็นแอ่งใหญ่ แม้ร่างกายของเขาจะกระตุกเล็กน้อย แต่ก็หมดลมหายใจไปแล้ว
กระบวนการทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเงียบสนิท ไม่ได้ทำให้คนอื่นๆ แตกตื่น
ตอนนี้ในห้องชั้นสองที่สกปรกที่สุด กำลังแสดงฉากที่โสมมที่สุด
และผู้ชายอีกสี่คนที่อยู่ในห้องนั้น กำลังร้องกระตุ้นผู้ชายหัวล้านที่เป็นหัวหน้าอย่างชอบอกชอบใจ
ตอนที่หลิงม่อปรากฎตัว ชายหัวล้านเพิ่งจะเสร็จกิจ ผู้ชายอีกคนก็เดินเข้าไปอย่างอดใจรอไม่ไหว
“เมื่อกี้ได้ยินไอ้โง่นั้นแหกปากอยู่ครึ่งค่อนวัน พวกแกไปเปลี่ยนมันหน่อย ให้มันมาเล่นบ้าง” ชายหัวล้านหยิบกางเกงพลางบอกลูกสมุน
ทว่าเขาเพิ่งจะหันมาก็เห็นเงาร่างซูบผอมปรากฎอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“สวบ!”
ประกายแสงเงินที่มาพร้อมสายลมที่รุนแรงและรวดเร็ว สาดพุ่งไปทางชายที่เพิ่งจะเดินไปข้างหน้า เขาไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติด้านหลังเลย เพิ่งจะเตรียมตัวไปฟินก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ส่งผ่านมาจากก้น เขากรีดร้องแล้วล้มลง
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นทันทีทันใด ทำให้คนในห้องแข็งทื่อไปในพริบตา!
มีดหั่นผักที่ส่องแสงแวบวาบแทบจะผ่าก้นของชายคนนั้นเป็นสองซีก พละกำลังมหาศาลนั้นทำให้คนอื่นๆ เป็นใบ้ไปเลย!
หลิงม่อเลื่อนระดับพลังมาแล้วหลายครั้ง แม้พัฒนาการด้านพละกำลังทางร่างกายจะไม่ชัดเจน แต่เมื่อเทียบกับคนทั่วไปก็ยังเรียกได้ว่าแข็งแกร่งกว่ามาก
รูก้นถูกผ่า ชายคนนั้นยังไม่หมดลมหายใจ ได้แต่กระตุกอยู่บนพื้นไม่หยุดพร้อมส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา
คนที่ได้สติก่อนใครเพื่อนคือชายหัวล้านคนนั้น เขาหยิบขวานที่อยู่ข้างๆ ที่เกิดเหตุขึ้นมา ถลึงตาโตจ้องหลิงม่อที่ตอนที่อยู่หน้าประตูด้วยความเดือดดาลสุดขีด
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของหลิงม่อ เขาเป็นแค่วัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่วิธีการของหลิงม่อ และรังสีสังหารในแววตาที่ไม่ปิดบังแม้แต่นิดในตอนนี้ ทำให้ชายหัวล้านรู้สึกผวาสุดๆ
“แกเป็นใคร!” ชายหัวล้านถอยไปสองก้าวโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ทิ้งระยะห่างกับหลิงม่อให้ไกลขึ้น “แม่งเอ๊ย แกเป็นบ้ารึไง? มาถึงปุ๊บก็ฆ่าคนของฉันเลย?”
เห็นสีหน้าของเขาเหมือนคิดไม่ถึงเลยว่า สาเหตุที่หลิงม่อลงมือนั้นคือการเหยียดหยามผู้หญิง
เหตุผลนั้นง่ายมาก ในสายตาของไอ้หมอนั่น ผู้หญิงมีไว้ให้พวกมันระบายอารมณ์ พวกมันยังเห็นกระทั่งว่า นี่คือสัจธรรมที่เป็นเรื่องที่เหมาะสมถูกต้อง
แต่หลิงม่อไม่คิดแบบนั้น โดยเฉพาะข้างกายเขามีเด็กสาวที่ติดตามมาด้วยสองคน
ได้ยินชายหัวล้านตวาด เขาก็ไม่ตอบ แต่แค่มองในห้องนี้อย่างเย็นชา** สุดท้ายสายตาก็หยุดอยู่ที่ร่างของผู้หญิงคนนั้น
พอเห็นสภาพของเธอ หลิงม่อก็ขบกรามแน่น
ใบหน้าของเธอดูเหมือนสกปรก เห็นหน้าตาไม่ชัด แต่ดูแล้วน่าจะอายุไม่มาก แต่ถูก**คนพวกนี้ทรมาน ก็แทบจะอยู่ในสภาพใกล้ตาย
คงเพราะต้องการให้บรรลุความสุขสมในการ** คนพวกนี้จึงกรีดแผลเล็กๆ มากมายบนตัวเธอ ให้เธอมีสีเลือดทั่วทั้งตัว สองแขนถูกมัดรวบไว้ เล็บสิบนิ้วถูกดึงออกหมด เลือดไหลเป็นแอ่ง ปากก็ถูกยัดด้วยถุงเท้าเหม็นๆ สีประหลาด แม้จะยังส่งเสียงร้อง “อื้อๆ” อย่างรันทด แต่ฟังแล้วก็รู้ว่าเธอหายใจไม่ทัน คงเพราะหายใจออกมามาก แต่หายใจเข้าไปน้อย
“แม่งแกเป็นใครกันวะ!”ชายหัวล้านรู้สึกตะหงิดๆ ว่า เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ไม่ใช่กระจอก แต่ในฐานะที่เป็นหัวโจกของคนกลุ่มนี้ เขาก็ต้องฝืนคำรามออกไป
เสียงตวาดดังลั่นของเขาทำให้ผู้ชายอีกสามคนได้สติทันที พวกเขาไม่ได้โง่ พอเห็นหลิงม่อถือมีดที่เปื้อนเลือดอยู่ในมือ สายตาก็เปลี่ยนเป็นระแวดระวัง ขณะเดียวกันต่างคนต่างก็หยิบอาวุธที่ทิ้งไว้ด้านหนึ่งขึ้นมา
หลิงม่อเหมือนไม่เห็นการกระทำของพวกเขาอยู่ในสายตา แต่นี่ไม่เพียงแค่ไม่ทำให้พวกชายหัวล้านรู้สึกเบาใจ ทว่ากลับให้ความรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาจากขั้วหัวใจ!