GE115 นักปรุงโอสถผู้มีชื่อ [ฟรี]
สำหรับปีศาจสมุนไพรที่มานั้น หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจ เพราะนางไม่ได้มีเจตนาสังหาร… นางเป็นเพียงเด็กซุกซน
จริงๆแล้วปีศาจสมุนไพรคือสาวน้อยคนหนึ่ง นางแค่ใช่วิชาอำพรางกายหลอกล่อเท่านั้น
ครั้งก่อนนางไม่ได้ร้ายชูชิง ครั้งนี้ก็เช่นกัน
หนิงฝานไม่ได้สนใจชูชิงและปีศาจสมุนไพร ระดับจิตใจของชูชิงยามนี้ยังอ่อนด้อย อย่างน้อยชายชราสมควรบรรลุระดับที่ไม่หวั่นกลัวความตาย จึงจะไม่ถูกปีศาจสมุนไพรหยอกล้อได้
ยามนี้ หนิงฝานกำลังขบคิดเรื่องเจตจำนงค์เทพพิรุณ
แม้จะไร้พิรุณโปรยปราณ แต่บนนภายังมีหมอก และนั่นก็เกิดจากเจตจำนงค์เทพพิรุณเช่นกัน
ในเมื่อไม่มีพิรุณ เช่นนั้นแล้ว ชายชราผู้นั้นสำนึกรู้สิ่งใด...
“จิตใจของข้าไม่มั่นคงเฉกเช่นชายชรา จึงไม่อาจผสานรวมเป็นหนึ่งกับพิรุณอันไร้ที่สิ้นสุด...”
จิตใจของหนิงฝานค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ แต่ยังสงบไม่พอ เขาเริ่มซึมซับความรู้สึกของชายชราที่เหลือไว้
ข้าถูกหักหลัง ถูกขับไล่จากแดนสวรรค์ทั้ง 4 จนต้องลงมาที่โลกใบนี้ ระหกระเหินเพียงลำพัง กระทั่งได้พบภูเขาที่สงบลูกหนึ่ง… ข้าพบร่องรอยของวิหคทมิฬโดยบังเอิญ ลึกลงไปใต้ภูเขาลูกนี้ 1 แสนจ้าง มีสุสานวิหคทมิฬ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าสนใจนั้น ไม่ใช่กระดูกเซียนของวิหคทมิฬ แต่เป็นพิรุณ...
เมื่อลงมาถึงชั้นที่ 1 ของสุสาน หนิงฝานสัมผัสได้ถึงความเปล่าเปลี่ยวของชายชรา นั่นเป็นความรู้สึกที่แท้จริง ที่หนิงฝานสัมผัสได้จากหยาดพิรุณ
ชั้นที่ 2 ของสุสาน หนิงฝานสัมผัสถึงความโศกเศร้าของชายชราได้
แต่ชั้นที่ 3… ไร้ซึ่งพิรุณ แต่เจตจำนงค์เทพไม่ได้ลดลง เพราะภูเขาแห่งนี้ยังอาบชโลมไปด้วยพิรุณ!
เมื่อจิตวิญญาณแห่งการตระหนักรู้ของหนิงฝานเปิดออก เขาก็เริ่มได้เสียงลมหวิว!
สัมผัสทั้ง 6 ถูกเปิดออกโดยสมบูรณ์ แม้จะไร้ซึ่งพิรุณโปรย แต่กลับได้สัมผัสได้ถึงพิรุณโหมกระหน่ำเข้าใส่ใบหน้า
“แม้ไร้ซึ่งพิรุณ...แต่ใช่ว่าไร้ซึ่งพิรุณ… นี่คือลักษณะของพิรุณกระหน่ำ... ฝักกระบี่คือที่ซ่อนกระบี่อันแหลมคม แม้ฝักกระบี่จะดูไร้ซึ่งอันตราย แต่มันได้ซ่อนอันตรายเอาไว้… ข่ายอาคมก็เช่นกัน มันมีหน้าที่หยิบยืมพลังพิภพสวรรค์ ใช้ในการต่อสู้ แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ที่ถูกหยิบยืมไปนั้น มาจากที่ใด...”
หนิงฝานลืมตา จ้องมองออกไปยังที่ห่างไกล
“พิรุณไม่โปรยปราณ แต่อานุภาพของพิรุณยังคงอยู่… ขุนเขาไม่เคลื่อนไหว แต่ยังมีพลังยังคงอยู่… สัตว์อสูรที่ทรงพลังซ่อนอยู่ใต้สระน้ำที่เงียบสงบ… ดักแด้ให้กำเนิดผีเสื้อ… ราชาครองบัลลังก์มีอำนาจ… พิภพและสวรรค์จึงมีอำนาจเป็นของตนเองเช่นกัน!”
ยามนี้ หนิงฝานไม่ได้มองพิรุณ แต่มองอำนาจที่คงอยู่ของพิรุณ
ดวงตาหนิงฝานเปล่งประกาย อ้าปากนำกระบี่แยกสวรรค์ออกมา มือจับกระบี่วางขวางไว้เบื้องหน้า หลับตา โคจรปราณสั่งสมปราณกระบี่… ยามนี้ แม้กระบี่ในมือไม่เคลื่อนไหว แต่มันกลับเปล่งอานุภาพมากกว่าตอนที่กวัดแกว่ง
แรงกดดันกระบี่มหาศาล เจตจำนงค์กระบี่ไร้สิ้นสุด หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายหนิงฝาน ทำให้รอบกาย 3 จ้างไม่มีสิ่งใดกล้าเข้าใกล้
เจตจำนงค์กระบี่ขวางกั้นเจตจำนงค์เทพพิรุณ จนมันต้องถอยห่าง
หนิงฝานคิดค้นเพลงกระบี่นี้ขึ้นมาเอง… มันไม่ได้มีไว้ฟาดฟันศัตรู ไม่ได้ใช้กระบี่จู่โจม แต่ใช้เจตจำนงค์กระบี่ป้องกันทุกการจู่โจม หากหนิงฝานมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งกว่านี้ เจตจำนงค์กระบี่จะทรงพลังยิ่งขึ้น กระทั่งวันหนึ่งคงได้เหยียบย่างไปในทะเลโลหิต โดยที่ตนไม่ต้องขยับกระบี่… กระบี่นั้น จะช่วยต้านรับการจู่โจมทุกชนิด
“นี่คือเพลิงกระบี่แรกของข้า… มิได้มีไว้ฟาดฟันศัตรู มีไว้เพียงป้องกันตน… แม้พิรุณมิโปรยปราย แต่อำนาจของมันยังคงอยู่… เพลงกระบี่นี้มีนามว่า ‘กระบี่เขาพิรุณ’”
หนิงฝานเก็บกระบี่ ชูชิงที่อยู่ข้างๆยังคงหวาดกลัวปีศาจสมุนไพร
เมื่อถอนเจตจำนงค์กระบี่ หนิงฝานก็หลับตาและเผยรอยยิ้มบาง
“ชั้น 3 ของสุสานไร้พิรุณ แต่กลับมีอำนาจของพิรุณคงอยู่… ชายชราผู้มาเยือนสุสานแห่งนี้ ช่างเข้าใจได้ลึกซึ้ง...”
หนิงฝานสัมผัสได้ถึงอำนาจของพิรุณได้อย่างชัดเจน
และในยามนี้ ในหัวของเขาปรากฏภาพหนึ่งขึ้นช้าๆ
ชายชราอาภรณ์ดำ หุบร่มสีขาว หยุดยืนยอดเขามือไพล่หลัง ผสานตนเองให้เป็นส่วนหนึ่งของภูเขา และสัมผัสกับอานุภาพของพิรุณ
“สถานที่แห่งนี้ไร้พิรุณ… แต่กลับมีอำนาจของพิรุณ… แม้แดนสวรรค์ทั้ง 4 จะไร้ซึ่งตัวข้า แต่หากข้ากลับไป ที่นั่นต้องนองเลือด ผันแปรเป็นหยาดพิรุณ ต่อกรกับสวรรค์หล้า ไร้วันสูญสิ้น”
หนิงฝานลืมตา ใบหน้าดูราวกับเข้าใจ
ขั้น 3 ของสุสานไร้ซึ่งพิรุณ แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ชายชรากลับบรรลุจิตใจไปอีกระดับ… ชั้น 4 ของสุสาน น่าจะเป็นสิ่งที่ชายชราเหลือไว้ เป็นความเข้าใจของชายชรา
หนิงฝานนำแผนที่โบราณที่กุ่ยเชว่สื่อให้ออกมา ดูแผนที่ชั้น 4 ของสุสาน เห็นรอยวงกลมแดงอยู่เต็มไปหมด และวงกลมเหล่านั้นบอกว่า มีสัตว์อสูรขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มอยู่
“หากข้าไปสุสานชั้น 4 ข้าคงไม่รอด… ช่างเถอะ ข้าควรใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจเจตจำนงค์เทพ...”
หนิงฝานถอนหายใจเล็กน้อย เขายังแข็งแกร่งไม่พอ จนไม่อาจได้ทราบถึงสิ่งชายชราคนนั้นเข้าใจ
แววตาหนิงฝานกลับคืนสู่สภาพปกติ... ในระหว่างการฝึกฝนนั้น การทดสอบจะมีเข้าใส และต้องผ่านมันให้ได้
หนิงฝานหันมองปีศาจสมุนไพรและชูชิงด้วยแววตาแปลกๆ
เพราะยามนี้ ชูชิงกลับนำเตาปรุงโอสถออกมา ราวกับจะปรุงโอสถให้ปีศาจสมุนไพรกิน
ปีศาจสมุนไพรเองก็ท้องร้องยกใหญ่ คล้ายกับนางกำลังหิว
“ท่านยาย… เรามาทำข้อตกลงกัน ข้าาจะปรุงโอสถให้กิน ส่วนท่านก็ห้ามกินข้า...”
“ได้! ข้ารับปาก รีบปรุงโอสถได้แล้ว ข้าหิวมาก…”
นางเอามือน้อยๆเช็ดคราบโลหิตที่ปาก… นั่นน่าจะเป็นน้ำลายของนางมากกว่า
ชูชิงเป็นนักปรุงโอสถที่มากฝีมือ มันจึงใช้เวลากลั่นโอสถผันแปรที่ 1 ด้วยเวลาเพียงธูปไหม้หมดดอก
ชายชราเปิดฝากระถาง โอสถผันแปรที่ 1 นับร้อยเม็ดปรากฏ แต่ชายชราก็เก็บพวกมันเข้าไปในขวดอย่างรวดเร็ว
“นี่คือโอสถผันแปรที่ 1… โอสถฝึกปราณ สามารถช่วยเปิดผนึกเส้นชีพร 1 เส้นให้กับผู้ใช้...”
ชายชรายังกล่าวไม่จบ ปีศาจสมุนไพรก็คว้าเอาขวดโอสถไป ก่อนจะคืนร่างเป็นสาวน้อยนางหนึ่ง
นางสวมอาภรณ์กระโปรงดำ ลักษณ์ดูเก่าแก่โบราณ เอวของนางยังไม่คอด หน้าอกยังไม่ตั้งเต้า หน้าตาน่ารัก ผมมัดทรงซาลาเปาคู่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนปล่อยยาวตามแผ่นหลัง… แม้นางจะเป็นปีศาจ แต่นางดูไม่ต่างจากสายน้อยน่ารักนางหนึ่ง
นางดูอายุได้ราว 8 ถึง 9 ขวบ โครงหน้าของนางแสดงให้เห็นว่า หากนางเติบใหญ่ นางจะกลายเป็นสตรีที่งดงามนางหนึ่ง
เมื่อนางคืนร่างจริง แรงกดดันจำนวนมหาศาลของนางก็ไม่อาจปิดบัง ทั้งยังกลิ่นหอมพัดโชยต้องจมูก จนหนิงฝานสีหน้าแปรเปลี่ยน
กลิ่นของนางเหมือนกลิ่นของสมุนไพรผันแปรที่ 5! ซึ่งเพียงแค่กลิ่น ก็ทำให้หนิงฝานยกระดับพลังขึ้นเล็กน้อย
กลิ่นอายที่นางแผ่ออกมาทำให้หนิงฝานขมวดคิ้ว เพราะมันคือกลิ่นอายของสัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำชั้น 2 ของสุสาน
นางคือปีศาจสมุนไพร และนางคือสัตว์อสูร!
ที่สำคัญนางยังเป็นสตรี ทั้งยังไม่ได้มีเจตนาสังหารตั้งแต่แรก… แต่ระดับพลังของนางค่อนข้างแปลก นางมีระดับพลังอยู่เพียงขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น แต่สัมผัสเทพของนางกลับบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง… ยามนี้นางกำลังเคี้ยวโอสถผันแปรที่ 1 อย่างมูมมามจนเห็นฟันที่เหมือนเขี้ยวของสัตว์ ไม่นานโอสถก็หมดลง
แม้โอสถที่นางกินเข้าไปจะเป็นเพียงโอสถผันแปรที่ 1 แต่พวกมันก็ถูกปรุงขึ้นมาอย่างประณีตและแข็งราวกับพลอย ฤทธิ์ของพวกมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้น สาวน้อยนางนั้นกลับเคี้ยวและกลืนพวกมันอย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นว่าร่างกายของนางแข็งแกร่งมาก
“ไม่อร่อย… โอสถนี้ไม่อร่อย!”
นางไม่พอใจกับโอสถที่ชูงชิงปรุง ทำให้หน้าผากชายชราเริ่มผุดเม็ดเหงื่อ
“เช่นนั้น ให้ข้าปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ให้ท่านกิน… เพียงแต่ข้าไม่ได้นำสมุนไพรมามากนัก… จริงสิ! ขอให้อาจารย์ข้าปรุงโอสถให้ท่านกินก็แล้วกัน! อาจารย์ข้าปรุงโอสถได้อร่อยมาก!”
ขณะที่ชายชรากำลังแตกตื่นอยู่นั้น หนิงฝานก็ยิ้มเล็กน้อย แต่ชายชรารู้ทันทีว่าตนเองได้ดวงซวยแล้ว
“เขาจะปรุงโอสถให้ข้ากินเหรอ?”
สาวน้อยหันตามนิ้วของชูชิงที่ชี้ไปยังหนิงฝาน แต่ในจังหวะนั้นเอง ดวงตาของหนิงฝานได้เปล่งแสงสีดำ เทละสติของตนเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระทั่งต้องถอยไป 2 ก้าว
แสงสีดำเมื่อครู่คือวิชาวิญญาณของนาง… มันทำให้ทะเลสติกระบี่ของหนิงฝานเจ็บปวดได้
“นี่! เจ้าปรุงโอสถให้ข้ากินได้แล้ว ไม่งั้นข้าจะกินเจ้า!
นางอ้าปากเล็กน้อยเผยให้เห็นเขี้ยว และทำท่าทางกัดเพื่อขู่ให้หนิงฝานกลัว
“กินข้า… เนื้อข้าไม่อร่อยหรอก… ข้าสามารถปรุงโอสถอร่อยๆให้เจ้ากินได้ แต่ทำไปแล้วข้าจะได้อะไร?” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังผ้าคาดเอวของนาง
คุณภาพของผ้าคาดเอวนั้นสูงมาก สูงจนเหนือกว่ากระเป๋าเก็บของทั่วอย่างเทียบไม่ติด… นางสวมผ้าคาดเอวไว้หลวมๆ และกลิ่นของสมุนไพรก็โชยออกมาจากตรงนั้น จนทำให้หนิงฝานตกตะลึง
สมุนไพรพันปี สมุนไพรสองพันปี สมุนไพรห้าพันปี และสมุนไพรหมื่นปี
สาวน้อยช่างมั่งคั่ง
“แล้วเจ้าอยากได้อะไร? งั้นเอาเป็นว่า หากเจ้าปรุงโอสถได้ถูกใจข้า ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า” นางกล่าว
“ทำร้ายข้า? เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก...”
“หากข้าเอาชนะเจ้าได้ เจ้าต้องปรุงโอสถอร่อยๆให้ข้ากิน!”
เมื่อกล่าวจบ นางก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำตรงเข้าหาหนิงฝาน จากนั้นเหวี่ยงหมัดเบาๆ แต่อานุภาพที่ได้กลับดูราวกับระเบิดอัดอากาศ
“นางมีร่างกายที่ทรงพลังมาก!”
หนิงฝานตกตะลึงเล็กน้อย มือทั้งสองข้างเปล่งแสงสีเงิน ซัดฝ่ามือเข้าปะทะกับหมัดของนาง พลังการปะทะสะท้อนอย่างรุนแรง แต่ทั้งสองฝ่ายยังระดมหมัดและฝ่ามือใส่กันอย่างต่อเนื่อง
แต่ละหมัดของนางทำให้หนิงฝานโลหิตปั่นป่วน... แค่หมัดธรรมดาของนางก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ไม่ยาก
ผ่านไปเพียงพริบตา ทั้งสองก็ปะทะกันไป 13 ครั้ง
ยามนี้หนิงฝานเค้นพลังไปที่หมัด แล้วชกเข้าปะทะกับนางอย่างรุนแรง
*เปรี้ยง!*
เสียงระเบิดดังสนั่นราวกับอัสนีฟาดผ่า รอบข้างทั้งสองกินพื้นที่หลายร้อยจ้าง พื้นหินถูกทำลาย
เมื่อได้แลกหมัดสุดท้ายกับนาง หนิงฝานก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายของนาง
หากเขาไม่ยอมเปิดเผยความลับของตน เขาอาจเอาชนะนางไม่ได้
“อืม… ข้าเอาชนะเจ้าไม่ได้จริงๆ”
นางหยุดมือและมองหนิงฝานด้วยสีหน้าแปลกๆ เพราะระดับพลังของหนิงฝานแล้ว น่าจะถูกนางชกปลิวไปตั้งแต่แรก
แต่แล้วใบหน้าของนางก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้าย “ถึงข้าจะเอาชนะเจ้าไม่ได้ แต่เด็กๆของข้าช่วยข้าได้… หากข้าสั่งการ พวกนั้นจะเข้าจู่โจมเจ้าทันที… บอกมา ว่าเจ้าจะปรุงโอสถให้ข้ากินหรือไม่?”
นางยกมือขึ้น สถานที่ที่เงียบสงัดอย่างชั้น 3 ได้ปรากฏดวงตาสีแดงฉานไปทั่ว และพวกมันแต่ละตัวก็มีระดับพลังในขอบเขตแก่นทองคำ
จำนวนสัตว์อสูรมากมายขนาดนั้น หนิงฝานก็รับมือไม่ไหวเช่นกัน
เขาคาดไม่ถึงว่าสาวน้อยอย่างนาง จะเป็นผู้บ่งการสัตว์อสูรเหล่านั้น
“ก็ได้ ข้าจะปรุงโอสถให้… แต่ข้าไม่มีสมุนไพร คงต้องหวังพึ่งเจ้าแล้ว”
หนิงฝานจ้องมองผ้าคาดเอวของนาง แต่ยามนี้กลับรู้ตัวและเร่งเอามือปิดไว้ทันที
“ไม่! ไม่ได้… ข้าก็ไม่มีสมุนไพรเช่นกัน”
“เช่นนั้นก็ไร้ความหมาย… หากเจ้าไม่ยอมเสียสละสมุนไพร เข้าก็ไม่มีโอสถกิน...” หนิงฝานเผยแววตาเย้าหยอกนาง นางเป็นถึงสมุนไพร เป็นถึงสัตว์อสูรที่คอยออกคำสั่ง แต่จริงๆแล้วนางก็ไม่ต่างจากสาวน้อยคนหนึ่ง
“ไม่เอา! ข้าจะเอาโอสถ… ข้าจะเอาโอสถ...” นางไม่พอใจ
“เจ้าก็เอาสมุนไพรให้ข้า แล้วข้าจะทำให้… ที่โลกภายนอก ข้าเป็นถึงปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ที่เชี่ยวชาญเชียวนะ”
“เจ้าคือนักปรุงโอส… เจ้าไม่ธรรมดา!” น้ำลายของนางเริ่มไหล
ส่วนชูชิงที่อยู่ข้างยามนี้กำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มันไม่กล้ากล่าวขัด แม้สตรีนางนี้จะไม่ฉลาดมากนัก แต่นางทรงพลัง หากชายชราต้องรับหมัดของนาง ร่างของมันคนแหลกเหละ
หนิงฝานยิ้มบางจ้องมองใบหน้าของนาง
หลังจากนางขบคิดอยู่นาน นางก็เหงยหน้า จ้องมองหนิงฝานราวกับออดอ้อน
“เจ้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรจริงเหรอ?”
“ใช่...”
“แล้วทำของอร่อยได้ใช่หรือไม่?”
“หากรสชาติไม่ถูกปาก ข้าจะปรุงให้เข้าใหม่”
“งั้นเอาสมบัติข้าไป… และต้องปรุงโอสถอร่อยๆให้ข้าด้วย” นางปลดเอาผ้าคาดเอวออก แล้วยื่นให้กับหนิงฝาน
ยามนี้ หนิงฝานรู้สึกราวกับกลั่นแกล้งเด็กจบใหม่
เมื่อหนิงฝานก้มมองผ้าคาดเอาของนางชัดๆ ดวงตาเขากลับเบิกกว้าง
“สมุนไพรพันปีเป็นจำนวนมาก!”
ที่สำคัญ ขนาดของที่เก็บของภายในผ้าคาดเอวของนางนั้น มีขนาดใหญ่กว่านิกายกุ่ยเชว่ทั้งนิกายเสียอีก
นอกจากนี้ สมุนไพรหมื่นปีราวกับถูกผนึก ไม่สามารถนำออกมาจากผ้าคาดเอว ที่สำคัญ ผนึกที่ตรึงไว้นั้น เป็นข่ายอาคมระดับแก่นทองคำ ที่หนิงฝานไม่อาจแตะต้องได้
หนิงฝานรู้ว่าสตรีนางนี้ไม่ธรรมดา บางทีอาจมีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกคอยจับตาดูอยู่ เพื่อปกป้องสาวน้อยนางนี้
“หากนางเป็นเพียงปีศาจสมุนไพร เหตุใดผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกถึงได้เฝ้าจับตานาง… นางเป็นผู้ใดกันแน่!”
หนิงฝานขมวดคิ้ว แต่ในขณะที่เขาจะถอนสัมผัสเทพจากผ้าคาดเอว ไกลออกไปภายในพื้นที่ของผ้าคาดเอว ที่มุมแห่งหนึ่งของแหวน มีเมล็ดผลไม้วางกองเป็นพะเนิน
แกนผลไม้เหล่านั้นถูกปกคลุมด้วยลวดลายบางอย่าง ทั้งพวกมันแผ่ปราณออกมา
เป็นครั้งแรกที่หนิงฝานเผยสีหน้าตกตะลึง… เขานำเมล็ดผลไม้ภายในออกมาเม็ดหนึ่ง
“นั่นคือเมล็ดผลไม้ กินไม่ได้… ท่านปู่เคยบอกว่า กินผลไม้ก็ให้เหลือเมล็ด เพื่อจะได้นำไปปลูกใหม่...” สาวน้อยตอบราวกับกลัวหนิงฝานจะใช้เมล็ดผลไม้ ปรุงโอสถให้นางกิน
“ท่านปู่?”
หรือปู่ของนางคือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก?
แต่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกไม่น่าจะสนใจเมล็ดผลไม้
เมล็ดผลไม้ที่หนิงฝานถือ ‘ผลแห่งความฝัน’ เมื่อผู้ที่กินโอสถหลับไป มันจะทำให้ผู้ที่กินจมอยู่ในความฝัน 50 ปี แม้ผลไม้ชนิดนี้จะช่วยเพิ่มระดับพลังไม่ได้ แต่มันช่วยให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น
มูลค่าของมันเทียบได้กับผลไม้แห่งเต๋าของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม!
“ที่นี่มีผลแห่งความฝัน หากข้าได้พวกมันมา จิตใจของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น...”
โอกาสในการทะลวงขอบเขตแก่นทองคำจะเพิ่มขึ้น...