ตอนที่10 : การตรวจร่างกาย

ลูซีหยูนอนอยู่บนเตียงของเค้าและเล่นโทรศัพท์เมื่อเซียแฟนเข้ามาหาเค้า เริ่มมองหน้าเค้าอย่างละเอียดเธอเอ่ยปากถามว่า “ทำไมฉันถึงจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้คุณหล่อขนาดนี้? ก่อนหน้าคุณก็หล่อแต่ตอนนี้คุณดูน่าทึ่ง…”

“บอกฉันมาตามตรงนะ คุณไปศัลยกรรมมาใช่มั้ย?”

ลูซีหยูผลักหัวเซียแฟนออกไปที่ซึ่งเกือบจะแตะหน้าเค้าแล้ว “ก่อนหน้านี้สภาพแวดล้อมที่ทำงานฉันมีผลต่อสุขภาพของฉัน แต่ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้วและฉันก็ไปออกกำลังกายทุกวัน ดังนั้นนี่คงจะพออธิบายได้นะ”

“มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งมาก!” เซียแฟนเป็นคนเชื่อคนง่ายดังนั้นเค้าจึงเชื่อสิ่งที่ลูซีหยูบอกกับเธอ อย่างไรก็ตาม

“เฮ้ลูซีหยู ฉันเพิ่งอกหัก!”

“โอ้!”

“คุณจะไม่ปลอบฉันหน่อยหรอ?”

“ฉันต้องทำ? ฉันว่าไม่จำเป็นนะ”

ลูซีหยูวางโทรศัพท์ลงและเหลือบมองเซียแฟนเค้ารู้สึกมีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่เค้าสามารถควบคุมพลังจิตได้เค้าก็ไม่ได้อ่านความคิดคนอื่นถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆเพราะเค้ารู้สึกว่ามันไร้ความหมาย

“เดี๋ยวนะ…ที่เธอกำลังจะขอให้ฉันมาเป็นแฟนเธอหรอ?” เค้าถาม

เซียแฟนนั่งลงและตะโกนว่า “เฮ้! ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น? ที่โรงเรียนฉันดังมากและมีคนจีบมากมายเลยนะ!”

จากนั้นเธอก็มองไปที่ลูซีหยูและสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นในอดีตแต่ตอนนี้…ถ้าคุณเต็มใจฉันสามารถพิจารณาให้คุณใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้ดังนั้นคุณสามารถเป็นแฟนฉันได้!”

ในตอนที่เธอกำลังพูดเธอมีแค่ผ้าห่มห่อตัวเธออยู่ดังนั้นมันมีความหมายแฝงจากคำว่า “ใช้ประโยชน์” อย่างไรก็ตามลูซีหยูก็ปฏิเสธเธออย่างตรงไปตรงมาหลังจากนั้นเค้าก็ไล่เซียแฟนออกจากห้องของเค้าและล็อคประตู

เด็กมัธยมสมัยนี้นี่บ้าจริงๆ ลูซีหยูคิดว่าถ้าเค้ายังอนุญาตให้เธอเข้ามาให้ห้องนานกว่านี้อีกละก็ เค้าจะไม่สามารถทนไว้

เช้าวันต่อมาก่อนเซียแฟนจะออกไปเธอยังคงตามตื๊อลูซีหยู เป็นเพราะเธอทำให้ลูซีหยูใช้เวลาถึง10นาทีในการแปรงฟัน แม้แต่ร่างกายของเค้าก็เกือบจะคล้อยตามไปกับเธอ

“สัญญากับฉันนะ มันจะต้องน่าอายมากๆถ้าฉันไม่มีแฟนในปาร์ตี้วันเกิดของฉันเดือนหน้า”

ลูซีหยูตะคอกและถามว่า “มันมีอะไรน่าอายหรอ? มันก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กอายุเท่านี้จะไม่มีแฟน ถ้าเธอเป็นลูกสาวฉัน ฉันจะตีก้อนเธอ!”

เซียแฟนตอบกลับว่า “คุณมันหัวโบราณที่สุด คุณอยู่ในยุคไหนเนี่ย?”

ในท้ายที่สุดเพราะลูซีหยูมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องไปทำและไม่สามารถเสียเวลาไปกับเซียแฟนแล้ว เค้าจึงตัดสินยอมทำคำขอของเธอแต่เค้าจะไปแค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น เค้าไม่ยอมที่จะตกหลุมกลของเธอหรอก เซียแฟนรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หลังจากถ่ายรูปลูซีหยูเสร็จเธอก็เดินออกไปอย่างภาคภูมิใจ

ลูซีหยูไปโรงพยาบาลและรู้สึกว่าเค้านั้นได้รับการดูแลเป็นพิเศษที่นั่น ตั้งแต่วินาทีที่เค้ามาถึงโรงพยาบาลและเข้าคิวคนมากมายก็มองมาที่เค้า พยาบาลหลายคนดูเหมือนว่าจะได้รับข่าวว่าเค้าอยู่ที่นี่ พวกเค้ามองมาที่เค้าจากระยะห่างที่ไกล

‘ว้าว เค้าดูดีเหลือเกิน! ฉันคิดว่ามันคือการโกหกซะอีก!’

‘เค้าช่างงดงามและมีรูปร่างที่ดีด้วย’

ลูซีหยูรู้สึกว่าอาการป่วยของเค้าหายดีแล้วแต่เค้ากลัวว่าเค้าอาจจะคิดผิด ดังนั้นเค้าจึงตัดสินใจที่จะไปตรวจร่างกายอย่างเต็มรูปแบบในโรงพยาบาลเพื่อดูว่าเค้าหายแล้วจริงๆและไม่มีปัญหาอื่น

เมื่อเค้าทำการทดสอบสายตา เลือด และความดันเลือดเช่นเดียวกับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทุกอย่างนั้นปกติดี อย่างไรก็ตามเมื่อแพทย์หญิงกำลังตรวจสอบเค้า เธอสัมผัสเค้าไปทั่วและทำให้เค้ารู้สึกอึดอัด

“ถอดเสื้อผ้าของคุณออก”

“ห้ะ ถอดทั้งหมดเลยหรอ??”

ลูซีหยูมองไปที่แพทย์หญิงที่มีแว่นตาห้อยอยู่ที่คอ

แพทย์หญิงมองไปที่ลูซีหยูด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและพูดว่า “รออะไรอยู่ละ ถอดเสื้อผ้าของคุณออกให้เร็วสิ”

ในขณะที่ลูซีหยูกำลังลังเลว่าจะถอดทุกอย่างออกแพทย์หญิงก็เสริมขึ้นมาว่า “แต่เหลือกางเกงในของคุณไว้”

หลังจากตรวจเค้าเสร็จแพทย์หญิงก็พูดว่า “ร่างกายของคุณปกติดี คุณแข็งแรงมากจริงๆ ผลจากตรวจเลือดและปัสสาวะจะเสร็จในอีก2-3วัน พวกเราจะแจ้งคุณเมื่อผลทดสอบออกมาแล้ว”

ลูซีหยูพยักหน้าและถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าร่างกายเค้าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วจริงๆ แม้แต่ความเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆของปอดในขณะนี้เค้ารู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนกลับแพทย์หญิงก็ส่งนามบัตรและบอกเค้าว่า “ในอนาคตถ้าคุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนก็โทรมาที่เบอร์นี้ ฉันสามารถไปตรวจที่บ้านคุณให้ได้”

หลังจากรับนามบัตรลูซีหยูรู้สึกตกใจ แพทย์ในโรงพยาบาลมีบริการแบบนี้ด้วยหรอ? เค้ามองดูนามบัตรและรู้ว่าแพทย์หญิงคนนี้ชื่อลี่เหว่ย

เมื่อเห็นการงอตัวไปข้างหน้าของลูซีหยู ลีเหว่ยก็เอามือของเธอใส่เข้าไปเสื้อของลูซีหยูและกดลงที่กระดูกสันหลัง หลังจากได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรหักลูซีหยูก็รู้สึกว่ามีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาที่หัวของเค้า

“คุณควรยืนหลังตรง อย่างอไปข้างหน้าไม่อย่างงั้นคุณจะดูอ่อนแอ นอกจากนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณด้วย”

นี่เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูซีหยูเป็นผลจากการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายปี ในสังคมสมัยใหม่นี้ก็เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย อย่างไรก็ตามลูซีหยูรู้สึกถึงการกระทำที่ไม่ปกติของลี่เหว่ยต่อเค้า ทันทีที่เค้ารู้สึกถึงความคิดเธอ

ลูซีหยูขอบคุณลี่เหว่ยพร้อมกับรอยยิ้มและรีบเดินออกมาจากประตู  ขณะที่เค้ายืนอยู่ที่ประตูเค้าก็เช็คเหงื่อบนหน้าผากของเค้า ตั้งแต่เค้าสามารถอ่านใจคนอื่นได้เค้าตระหนักว่าสิ่งที่ทุกคนแสดงออกแตกต่างจากสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเค้า ส่วนใหญ่แล้วในความเป็นจริงนั้นข้างในมันบ้าคลั่งมาก

เมื่อลูซีหยูกลับถึงบ้านเค้าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โรคมะเร็งและความตายอยู่ในหัวเค้าตลอดเหมือนกับเงาแต่ตอนนี้เค้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกมันอีกแล้ว

เค้าหยิบthe Scroll of the Worldออกมา แค่เค้าเปิดมันเค้าก็ตระหนักได้ว่าขนาดของสัญลักษณ์สีเงินที่อยู่ในหัวของเค้าเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ลูซีหยูรู้ว่าขนาดของมันแทนปริมาณของthe Source Form

ก่อนหน้านี้เค้าเคยจะใช้the Source Formปริมาณมากเพื่อที่จะเปลี่ยนกฎและข้อบังคับของช่องว่างกระดาษ เค้าได้ดูดthe Source Formออกมาหมดแล้ว หลังจากนั้นเค้าก็ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของมันแต่ขนาดก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เค้ารู้ว่ามันต้องมีเหตุผลสำหรับสิ่งนี้

แม้ว่าลูซีหยูไม่สามารถใช้the Source Formโดยตรงจากสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มพลังจิตและวิญญาณของเค้า เค้าสามารถใช้the Source Formเพื่อเปลี่ยนกฎของช่องว่างกระดาษ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเค้าเพราะด้วยthe Source Formที่เพียงพอก็สามารถเปลี่ยนช่องว่างกระดาษได้ตามที่เค้าต้องการเหมือนกับเค้าเป้นพระเจ้า!