ตอนที่แล้วบทที่ 171 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (1) [29-06-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 173 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (3) [03-07-2019]

บทที่ 172 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (2) [01-07-2019]


บทที่ 172 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (2)

 

ยูอิลฮานได้สรุปขึ้นมาได้ทันทีว่าเขาไม่จำเป็นต้องไปดูแลโลกอื่นนอกจากโลกหลังจากที่ได้เห็นโลกจำนวนมากมายรวมถึงฟีทัวโร่ดีขึ้นมา

แม้แบบนั้นส่วนช่วยจากเขากับแบรนด์ของเขาก็มหาศาลมากๆอยู่แล้วด้วย ตอนนี้มันก็ยังเข้าสู่สภาพมั่นคงขึ้นด้วย ถ้าหากได้มีการจัดการอย่างดีเขาก็ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่อีก

ในตอนนี้มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวขึ้นมาบนโลกก็ยังถูกมนุษย์บนโลกล่าออกไปทั้งหมด จะมีความแตกต่างไปก็คือไม่ได้มีข่าวใหญ่เรื่องของการกระทำของยูอิลฮานในฐานะของซูซาโนะหรือยมทูตอะไรก็แล้วแต่ออกมา แน่นอนว่าสิ่งต่างๆมันจะต่างไปแน่หากว่ามีมอนสเตอร์คลาส 4 เริ่มปรากฏออกมาจนทั่วทุกที่ แต่หากว่าพวกมอนสเตอร์คลาส 4 มันปรากฏตัวออกมาง่ายๆโลกก็คงจบสิ้นไปนานแล้ว

เพราะแบบนี้สิ่งที่เหลืออยู่ให้ยูอิลฮานทำคือ

เขาอยากที่จะเชี่ยวชาญในความรู้เรื่องวิศวกรรมเวทย์และใช้ประโยชน์จากโลหะเวทย์เครชน่าที่เก็บเอาแก่นแท้ของวิศวกรรมเวทย์ได้เพื่อที่จะเอามาเสริมพลังให้กับพื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้าจนกลายไปเป็นป้อมปราการที่บินได้ แต่การจะทำแบบนั้นเขาต้องการเวลาที่จะเข้าใจในบันทีกทั้งหมดของเทพแห่งช่างตีเหล็ก และใช้เวลาอย่างมากในการปรับความรู้เรื่องเรื่องวิศวกรรมเวทย์ให้เข้ากันกับบันทึกทั้งหมดที่เขามีอยู่

แถมมันดูเหมือนว่าเขาจะไม่อาจจะทำอะไรเพื่อเร่งกระบวนการนี้ได้ เขาทำได้แต่รอคอยให้มันขยับไปทีละนิดๆ

ดังนั้นเขาก็เลยตัดสินใจไปที่ ‘โลกนั่น’ โลกที่เขาได้บังเอิญเปิดขึ้นมาในอดีตตอนที่เขาพยายามจะหาค่าประสบการณ์จากวังวน สถานที่ที่แม้แต่ทูตสวรรค์ก็ยังไม่รู้จัก ในเมื่อเขาได้มีประสบการณ์การต่อสู้กับโกเลมเครชน่าที่มาจากลานปลาส ตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัวแล้ว

หลังจากฝากฝังให้คังมิเรย์รับหน้าทีดูแลน้ำตานางฟ้ากับแวนการ์ด เขาก็ได้เฝ้ารอฝูงมอนสเตอร์ที่จะมาบุกคฤหาสน์ของเขาอย่างอดทนและสังหารพวกมันจนเกิดวังวนขึ้นไม่นานลังจากนั้น

เขาได้จัดการโจมตีวังวนเรื่อยๆจนถึงจุดที่มันไม่ระเบิดออกมาและเกิดเป็นประตูมิติขึ้นได้สำเร็จ

[นี่มันแย่มากเลยนะ หมอกมานาที่หนาจนน่ากลัวในพื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้ามันกำลังรวมเข้ากับมานาสีเลือดที่ไม่น่าสบายใจนี่] (เลียร่า)

“นี่ก็ดีแล้วในเมื่อมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาก็จะมีระดับที่สูงขึ้นไปอีก เฟมิลนายก็เฝ้าดูต่อไปนะ นี่ไม่ใช่ประตูมิติตามปกติดังนั้นระวังไว้ด้วย”

“เข้าใจแล้วนายท่าน”

เฟมิลเป็นคนที่เขาได้เตรียมเอาไว้เผื่อในกรณีที่เลวร้ายเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงที่ประตูมิติเปิดอยู่ หลังจากที่เฟมิลได้กลายเป็นลูกน้องของยูอิลฮาน เฟมิลก็ได้รับผลจากสกิลปกครองและยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เฟมิลได้เป็นลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว

เหตุผลที่เฟมิลได้มาเป็นลูกน้องของยูอิลฮานก็ล้วนแต่เป็นเพราะเอริเซีย

จริงๆแล้วเฟมิลอยากที่จะอยู่รับใช้เอริเซียตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าเขาถูกผูกติดอยู่ที่ไคโรเนื่องจากว่าเขาไม่อาจจะปล่อยให้เผ่าหมาป่าที่อ่อนแอเอาไว้ได้

แต่การที่เอริเซียได้พัฒนาขึ้นมามากจากการอยู่กับยูอิลฮานทำให้พลังต่อสู้ของเหล่าหมาป่าเพิ่มขึ้นเองโดยธรรมชาติเช่นกัน และเมื่อเฟมิลมั่นใจได้ว่าเผ่าหมาป่าสามารถเอาตัวรอดในไคโรได้โดยไม่ต้องมีเขา เฟมิลก็ได้ลงมาอยู่ที่โลกเป็นการถาวร

“เฝ้าเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะ แล้วก็เมื่อไหร่ที่ประตูมิติปิดลง นายก็ไปหาเอริเซียได้เลย มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันที่เข้าไปแน่ แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ประตูมิติระเบิดออกมาแล้วมีมอนสเตอร์โผล่ล่ะก็เรียกฉันทันทีเลยนะ”

“เข้าใจแล้ว”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถจะสร้างโกเลมได้ แต่เขาก็สามารถจะสร้างอะไรได้มากมายจากความรู้ที่ได้ดูดซับมาจนถึงตอนนี้ หนึ่งในของที่สร้างขึ้นมาก็คือเครื่องมือสื่อสาร ยูอิลฮานได้ทำเครื่องมือสื่อสารมาหลายอันและแจกจ่ายให้พวกของเขา รวมถึงพ่อ แม่ คังมิเรย์และนายูนา

แม้ว่าเครื่องมือสื่อสารที่เขาทำขึ้นมามันจะทำได้แค่ส่งสัญญาณหรือเรียกเขาก็ตาม แต่แน่นอนว่ามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะโทรคุยแบบโทรศัพทย์ได้ในเมื่อเครื่องมือสื่อสารไม่ได้มีทั้งการชาจต์แบตเหมือนโทรศัพท์ ไม่จำเป็นต้องมีเสาสัญญาณ แล้วก็ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นการสื่อสารกันข้ามโลกอื่นด้วย

“ถ้างั้นฉันจะรีบกลับมานะ”

“ผมก็ยังอย่างจะไป...”

“ไปเล่นกับพี่สาวก่อนนะแล้วเดี๋ยวพ่อจะรีบกลับมาทันทีเลย”

“ครับผม...”

ยูมิลได้รู้สึกเศร้าใจแต่ว่ายูอิลฮานก็ไม่อาจจะพาลูกของเขาไปในที่ที่อันตรายอย่างเห็นได้ชัดได้ ในเมื่อเขาได้บอกนายูนากับคังมิเรย์ถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็เชื่อมั่นว่าพวกเธอก็คงไม่ปล่อยยูมิลเหงาคนเดียวแน่

“ดีล่ะ ถ้างั้นไปล่ะนะ”

[การที่นายเข้าไปที่นั่นหลังจากที่เจอกับปีศาจสั่นสะเทือนอัปลักษณ์นั่น นายนี่มันโรคจิตจริงๆเลย] (สเปียร่า)

[จะเป็นยังไงล่ะถ้าเกิดในนั้นเต็มไปด้วยปีศาจสั่นสะเทือนน่ะ?] (เลียร่า)

[นายต้องการอะไรกันแน่ แค่ไปเอาไอ้ดินปืนเวทย์จากตัวอัปลักษณ์นั่นเนี้ยนะ?] (เอิลต้า)

“เฮ้ ขอเถอะพอเถอะะะะ”

หลังจากกอดลูกเขาแล้ว ยูอิลฮานก็ได้มอบอาร์ติแฟคและของใช้สิ้นเปลืองเอาไว้มากมาย จากนั้นก็เข้าไปในประตูมิติโดยไม่ลังเล มีแต่ยูมิลที่เศร้าใจกับเฟมิลที่ยืนมองเขาจากไปเงียบๆ

และนับจากนั้นก็ได้ผ่านพ้นไปสองเดือน

ยูอิลฮานได้ลบการท่องเที่ยวออกไปจากรายการสิ่งที่จะทำทันที เนื่องจากเพราะว่าที่นี่เขาได้มาเที่ยวนรกแล้ว

[ก๊าซซซซซซซซซซซ!]

“ตายไปซะปีศาจน้ำแข็ง!”

ในโลกนี้ที่ทั้งท้องฟ้ากับผืนดินได้ถูกย้อนไปด้วยสีแดงเลือด มอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่ทั้งตัวปกคลุมได้ด้วยน้ำแข็งได้พุ่งเข้ามาใส่ยูอิลฮาน ตัวมันได้มีออร่าความหนาวยะเยือกออกมาจากทั่วร่างกายแช่แข็งทุกสิ่งอย่างไปในทันทีที่มันสัมผัส และการเคลื่อนไหวของมันก็คล่องแคล่วอย่างมากจนหากเขาเผลอตัวไปก็จะจบลงในทันที

แน่นอนว่ายูอิลฮานสามารถจะทนต่อความเยือกแข็งได้นิดนึงจากการสวมใส่ชุดเกราะเต็มตัวโครงกระดูกทรราชน้ำแข็งที่เพิ่มความต้านทานต่อธาตุน้ำให้เขา 90% แต่ว่านั่นมันก็แค่เพิ่มเวลาให้เขา 0.01 วินาทีหรือ 0.1 วินาทีเท่านั้นเอง

“โอ้ววววววว!”

ในทางกลับกันการที่จะฆ่ามันเขาก็ทำได้แต่การทุบหัวของมันหลังจากที่ทะลวงกำแพงน้ำแข็งขนาดมหีมาแล้วเท่านั้น แต่ว่าโดยปกติแล้วอาวุธจะถูกแช่แข็งและพังลงไปในทันทีที่สัมผัสกับตัวของมัน จะมีก็แต่อาวุธที่มีความร้อนมากๆเท่านั้นที่ใช้ได้ เพราะแบบนี้ยูอิลฮานจึงได้ใช้แส้มังกรดำในมือข้างหนึ่งกับหอกมังกรแปดห้างในอีกมือเพื่อต่อสู้

[ก๊าซซซซซซซซ!]

“อึก”

หมอกคริสตัลโปร่งใส่ที่เกิดขึ้นมาจากแขนของปีศาจน้ำแข็งได้กระจายไปทั่ว! ไม่ว่าหมอกคริสตัลน้ำแข็งนี่จะดูสวยงามมากสักแค่ไหน แต่ว่าหากเขาไปแตะมันเข้าเข้าก็จะถูกแช่แข็งในทันทีแน่

ยูอิลฮานที่รู้เรื่องนี้อย่างดีได้เหวี่ยงแส้มังกรดำที่ปกคลุมด้วยเพลิงสีชาดเพื่อทำให้หมอกระเหยไปทันทีแต่ว่าเมื่อเขาทำแบบนี้ก็เปิดช่องว่างขึ้นมาทำให้ปีศาจได้พุ่งตัวเข้ามาหายูอิลฮาน ปีศาจนี่มีขนาดที่สูงมากกว่า 10 เมตร มันได้แช่แข็งทุกๆอย่างที่มันวิ่งผ่านมาหาเขา มันคือการรวมกันของพลังที่เขาคิดว่าคงจะได้พบเจอแค่ในฝันร้ายเท่านั้น

“ฮ่าห์”

ยังไงก็ตามนี่ก็เป็นโอกาสที่ยูอิลฮานได้เล็งเอาไว้เหมือนกัน ยูอิลฮานได้เหวี่ยงแส้มังกรดำในทันทีที่เขาได้จัดการลบหมอกคริสตัลทั้งหมดออกไปและรัดพันแส้เข้าที่ข้อมือของปีศาจน้ำแข็งพร้อมใช้ความยืดหยุ่นของแส้กระโดดขึ้นมา

[ก๊าซซซซซซซซซซ!]

ปีศาจน้ำแข็งได้แต่ผงะไปครู่หนึ่งจากการที่แขนของมันที่กำลังจะโจมตีถูกแส้หยุดเอาไว้

ยังไงก็ตามเมื่อมันกางแขนอีกข้างหนึ่งมาตามสัญชาตญาณ หอกมังกรแปดหางงในมือของยูอิลฮานก็ได้มาอยู่ข้างหน้ามันพร้อมแสงที่แสบตาออกมาแล้ว

“ประกายเพลิง”

นี่คือเปลวเพลิงที่ร้อนแรงและรุนแรงที่สุดที่ยูอิลฮานใช้ได้แล้ว! เพลิงม่วงของโอโรจิ เพลิงนิรันดร์ ประกายเพลิง โลหิตมังกร พลังทั้งหมดนี่ได้รวมเข้ากันจนเป็นหนึ่งและทำให้หอกเปล่งประกายขึ้นมาด้วยเพลิงสีขาว

ที่ยูอิลฮานทำมีแต่การแทงหอกไปด้านหน้า แต่ว่าวิถีการโจมตีที่ปรากฏขึ้นทีคอของมันมีถึง ‘สาม’

[ก๊าาาา!]

ระหว่างที่ความร้อนจากหอกกับออร่าน้ำแข็งจากปีศาจน้ำแข็งกำลังปะทะกัน ยูอิลฮานก็ได้จับหอกเฝ้าคอยอย่างระวังตัว

[ก๊าซซซซซซซซซ!]

“….ฟู่”

 

ไม่มีการบิดใดๆ มันได้ล้มลงไปหลังจากร้องออกมาสั้นๆ พื้นดินโดยรอบที่กลายเป็นน้ำแข็งในทันทีเป็นภาพที่น่ากลัวจริงๆ

แน่นอนว่ายูอิลฮานไม่ได้เป็นอะไรเนื่องจากว่าเขายังรอยอยู่บนท้องฟ้าเพราะเขาพอจะเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ในตอนนี้เองก็ได้มีข้อความปรากฏขึ้นมา

[คุณ?????????]

[คุณได้เพิ่มเลเวลเป็นเลเวล 171 พละกำลัง +2 ความคล่องแคล่ว +2 พลังชีวิต +1 พลังเวทย์ +1]

"อ่า เลเวลเพิ่มขึ้นแลว"

[เลเวลเพิ่ม 9 ครั้งภายในหนึ่งเดือน... อ่า พวกเราทำแบบนี้ได้ยังไงกันนะ] (เอิลต้า)

[นี่มันเยี่ยมไปเลย ฉันอยากจะให้เขากลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเร็วๆแล้ว] (เลียร่า)

[สำหรับยูอิลฮานแล้วไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดหรอก ที่เราควรคิดเราควรคิดถึงเอกลักษณ์ของมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งพวกนี้ที่อยู่ในระดับภัยพิบัติกันดีกว่า] (สเปียร่า)

แม้ว่าทุกๆอย่างจะเต็มไปด้วยคำถามทั้งค่าประสบการณ์ บันทึก หรือเลเวลของพวกมันก็ไม่บอกด้วยซำ แต่ว่าจากความจริงที่ว่าจากการที่เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นมามากจากการที่ค่าพวกมันไปแค่ไม่กี่ 100 ตัวก็ทำให้เขาพอจะเดาได้ว่ามันน่าจะมีเลเวลประมาณ 250

"ฉันไม่คิดว่ามันจะมีพลังป้องกันกายภาพอ่อนแอแบบนี้"

[แต่กลับกันฉันคิดว่าพลังโจมตีของมันก็แกร่งมากๆเช่นกัน มันมีทั้งพลังสั่นสะเทือน ลม ไฟแล้วตอนนี้ก็น้ำแข็ง] (สเปียร่า)

[ก็โชคดีนะที่ไม่ใช่ว่าพวกมันทั้งหมดมีแต่ปีศาจสั่นสะเทือนน่าเกลียดน่ะจริงไหม?] (เอิลต้า)

"พวกมันทั้งน่ารำคาญที่สุดแล้วก็แกร่งที่สุด แม้ว่ามันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดไปเองแต่ฉันก็รู้สึกว่านี่มันก็ให้ประสบการณ์ที่มากที่สุดแก่ฉันด้วย"

ยูอิลฮานได้หันไปมองดูสเตตัของเขา

[Yu IlHan]

[Human Blazing Reaper Lv171]

[Subclass- Angels’ Partner, Dragon Rider]

[Title – Pancosmic Loner, One hit for you; one hit for me. Creator of Myths. Not two hits; nor three hits; A thousand in one go, Dragon slayer, The Quickest. Hero of Fire, Frog that leaped out of the well. blessing of the god of smithing]

[Strength – 384 Agility – 355 Health 313 Magic 414]

[Active skills – Deathgod(Concealment) Mana crafting Lv 76, Soul enchant Lv 51, Blaze Lv 56, Superhuman strength Lv 83, Leap Lv 87, Angel’s Support Lv 41, Rule Lv 77, Dragonic Blood Lv 18]

[Passive skills – Angel’s protection, Physical combat master lv Max, Blunt weapon master Lv Max, Sword mastery Lv Max, Whip mastery Lv Max, Dismantling Lv Max, Blacksmithing Lv Max, Language Lv Max. Dragon-man resonance Lv 41, Death collector Lv 79, Magic engineering Lv 44, Excavation Lv 65, Spear of Untraceable Trajectory(Spear Mastery) Lv 54, Absolute Accuracy(Throwing, Shooting) Lv 55, Transcendent regeneration (Resting) Lv 78, Cooking Lv 92, Critical hit Lv 76, Extreme poison resistance Lv 83, Higher curse resistance Lv 74]

เลเวลของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นมามากอย่างมาก แต่ว่าสิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือเลเวลสกิล เมื่อนึกไปว่าสกิลส่วนใหญ่พวกนี้เขาได้เริ่มเรียนรู้หลังจากที่เกิดมหาภัยพิบัติครั้งแรกแล้วนี่มันน่าทึ่งเอามากๆ

แม้แต่หอกไร้วิถีก็ยังพัฒนาขึ้นมาอย่างมากจากการต่อสู้กับพวกปีศาจ สกิลเสริมพลังความสามารถพื้นฐานของเขาอย่างสกิลพลังเหนือมนุษย์ กระโดด และการฟื้นฟูเหนือมนุษย์ก็ยังพัฒนาขึ้นมาอย่างมหาศาลมากๆ ไหนตอนนี้ต่อให้แขนของยูอิลขาดลอยไป แต่หากเขานำแขนนั่นมาติดกับไหล่เขามันก็จะติดในตำแหน่งเดิมทันที

"สิ่งที่ฉันสู้ด้วยมันไม่อ่อนแอเลยดังนั้นค่าประสบการณ์สกิลก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะเชี่ยวชาญในพลังเหนือมนุษย์กับกระโดดเป็นอย่างน้อยก่อนที่จะไปถึงคลาส 4 "

[บางทีมันก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ถ้านายตรากตรำพยายามในที่แห่งนี้ นี่มันเป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้มาเจอโลกที่มีสภาพแวดล้อมยอดแย่แบบนี้] (เอิลต้า)

เอิลต้าได้มองลงมาที่นี่ ที่ที่ถูกเรียกว่า 'นรก' และพูดออกมาด้วยเสียงตกใจ นี่มันก็เพราะว่ายูอิลฮานเขายืนหยัดอยู่ที่นี่โดยไม่เป็นอะไร หากเป็นคนอื่นแทน คนๆนั้นก็คงจะตายโดยไม่อาจจะเอาตัวรอดได้ถึงสักสัปดาห์เดียวด้วยซ้ำไป

เลือกมอนสเตอร์ที่นี่สุ่มมาสักตัว ไม่ว่าใครเจอก็เรียกพวกมันว่าหายนะแล้ว! เจ้ามอนสเตอร์พวกนี้มันสามารถจะกำจัดโอโรจิในช่วงสูงสุดได้เลยด้วยซ็ไป

[แต่ที่นี่มันคือที่ไหนกันล่ะ? จากเรื่องที่ว่าพลังของเราได้เสริมความสามารถให้ยูอิลฮาน นี่มันก็ชัดเจนว่าเป็นโลกที่ถูกทิ้งแน่] (เลียร่า)

[ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน การสนับสนุนของทูตสวรรค์เป็นความสามารถที่จะส่งพลังของทูตสวรรค์ไปให้ยูอิลฮานในสถานที่ที่กองทัพสวรรค์ไปไม่ถึง] (สเปียร่า)

[ใช่แล้ว แล้วมันยังมีที่อื่นนอกจากโลกที่ถูกทิ้งที่เข้ากับเงื่อนไขแบบนี้อีกงั้นหรอ?] (เลียร่า)

[มีอยู่] (เอิลต้า)

เอิลต้าได้พึมพัมออกมาในขณะที่เฝ้าดูยูอิลฮานเก็บศพของปีศาจน้ำแข็ง

[โลกที่ไม่เคยตกอยู่ในอำนาจของสวรรค์ตั้งแต่แรกไงล่ะ] (เอิลต้า)

[มันมีโลกแบบนี้ด้วย...?] (เลียร่า)

[อย่างน้อยที่สุดแล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เจอโลกแบบนี้ มันไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่ดูจะมีสติปัญญาเลย แล้วที่นี่ก็มีแต่พวกสุดยอดมอนสเตอร์แบบเจ้าพวกนี้ ฉันสงสัยว่าเราจะเรียกที่นี่ว่า 'โลก' ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป หรือที่นี่มันคือการเปลื่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาหลังจากที่โลกถูกทอดทิ้ง? หรือ...] (สเปียร่า)

สเปียร่ากับเอิลต้าได้สบสายตากันและกัน พวกเธอทั้งสองคนน่าจะได้ข้อสรุปในรูปแบบเดียวกันแล้ว

[หรือ... มันเป็นแบบนี้นับจากตั้งแต่เริ่มกำเนิดขึ้น...] (สเปียร่า)

[ไม่มีทาง ไม่ว่าจะโลกใดๆมันก็ไม่มีทางที่มานาจะสร้างมันขึ้นมาได้!] (เลียร่า)

เลียร่าได้ปฏิเสธออกมาแบบนี้ จากนั้นเธอก็มองไปทางยูอิลฮาน แต่ว่ายูอิลฮานไม่ได้สนใจพวกเธอเลย เขาแค่ย่างเนื้อกินลงไป

หยิบเอาเนื้อส่วนขาของมอนสเตอร์มาย่างด้วยอุณภูมิของเพลิงนิรันดร์อย่างพอดี! เลียร่าได้หมดคำพูดไปทันทีเมื่อเห็นแบบนี้

[...นายจะไม่สงสัยสักนิดหน่อยหรอ? นายอาจจะเกี่ยวข้องกับโลกนี้มากกว่าพวกเราอีกนะ] (เลียร่า)

"มันก็ทำให้ฉันสงสัยอยู่นะ แต่ว่าจะทำไงได้ล่ะในเมื่อสิ่งที่ฉันสงสัยมันไม่มีคำตอบที่ชัดเจนอยู่เลย"

[นั่นก็จริงนะ แต่ว่า] (เลียร่า)

"บางทีถ้าฉันฆ่ามอนสเตอร์ที่อยู่ที่นี่ฉันอาจจะเจออะไรบางอย่างก็ได้ ไว้รอจนถึงตอนนั้นดีกว่า"

[ใช่ พวกเราชินกับการรออยู่แล้ว... แต่สำหรับนายล่ะ] (เอิลต้า)

"เธอถามแบบนี้จริงดิ?"

ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาและกินเนื้อย่างลงไป ไม่ใช่แค่พิษระดับสูงแต่นี่ยังมีคำสาปอีกด้วย แต่ไม่ว่ายังไงรสชาติของมันที่ออกมาก็อร่อยจริงๆ! เนื้อที่เต็มไปด้วยมันแสนอร่อย เขาได้หยักไหล่ขึ้นมา

"ฉันก็โครตจะชินกับการรอคอยเลยนะ"

การทัวร์นรกของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นกันเท่านั้นเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด