ตอนที่แล้วตอนที่ 249 ฝีมือที่เหนือชั้นของบิดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 251 รายได้จะต้องไม่หายไป

ตอนที่ 250 ความงามล่มเมืองควบคู่กับจิตใจที่ชั่วร้ายของงูพิษ


เฟิงหยูเฮงเผยรอยยิ้ม นางรู้ว่าเฮ่อจงเตือนนาง เฟิงเฉินหยูและเฟิงเฟินไดทั้งคู่ต่างก็เพลิดเพลินกับผลประโยชน์จากฮูหยินผู้เฒ่า ดังนั้นนางจึงต้องเตรียมใจไว้

นางจึงกล่าวว่า “ขอบคุณพ่อบ้านเฮ่อจงมาก วันที่อากาศหนาวในฤดูหนาว ข้าเห็นว่ามือของพ่อบ้านแตกเพราะอากาศหนาว ตอนนี้ใกล้วันสิ้นปีแล้ว มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะรักษาก่อนปีใหม่ หลังจากนั้นข้าจะให้คนนำครีมมาให้เจ้า”

“โอ้!” เฮ่อจงไม่คิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้เฟิงหยูเฮงจัดยาให้เขา ยาขององค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันนั่นเป็นสิ่งที่ผู้มีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้ เขาโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว “บ่าวรับใช้ผู้นี้ขอบคุณคุณหนูรองขอรับ”

เฟิงหยูเฮงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วหันกลับไป แต่เมื่อนางเห็นผู้หญิง 3 คนเดินเข้ามาในคฤหาสน์เมื่อนางหันหลังกลับ คนตรงกลางนั้นตัวเล็กและสง่างาม ขนคิ้วของนางเหมือนขนนกสีเขียว ผิวของนางขาวเหมือนหิมะ เอวของนางดูเหมือนจะใส่ชุดรัดตัวและฟันขาว แม้จะเป็นวันที่หนาวเหน็บ แต่นางก็สวมเสื้อบาง ๆ เพื่อให้เห็นภาพลักษณ์ที่ดูเลือนลางของหญิงสาวสวย สองคนที่อยู่ข้างนางเป็นบ่าวรับใช้แน่นอน แต่พวกเขาก็สง่างามไม่แพ้เจ้านาย

เมื่อทั้งสามเข้ามาในคฤหาสน์ บ่าวรับใช้บางคนไปรับพวกเขาทันที ท่าทางของพวกเขาสุภาพมากนำพวกเขาไปสู่ลานด้านใน

เฟิงหยูเฮงรู้สึกว่าวันนี้มีเรื่องประหลาดใจหลายเรื่อง "นางเป็นใคร?"

เฮ่อจงเล่าให้นางฟัง “นางคือแม่นางหงหยุน นางได้รับเชิญจากคุณหนูสี่ให้สอนการร่ายรำเจ้าค่ะ”

“โอ้” นางพยักหน้า “น้องสี่จะอายุ 11 ปีในปีใหม่ นางควรเรียนรู้ศิลปะทั้งสี่ที่ผู้หญิงควรรู้ แต่แม่นางหงหยุนดูจะสวยเป็นพิเศษ”

เฮ่อจงกล่าวว่า “นางเป็นคนที่สวยจริง ๆ ขอรับ เมื่อนางมาถึงฮูหยินผู้เฒ่าเกือบจะไล่นางออกไปหลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของนาง แต่คุณหนูสี่เกลี้ยกล่อมจนท่านฮูหยินผู้เฒ่ายอมขอรับ” เฮ่อจงกล่าวในขณะที่ส่ายหน้า

เฟิงหยูเฮงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม นางมุ่งหน้าไปตามหวงซวนและเหม่ยเซียงไปที่เรือนซูหยา

พวกเขาหยุดเมื่อถึงทางแยกที่ทางเดิน นางเอื้อมมือเข้าไปในแขนเสื้อของนาง นางดึงยาออกจากมิติของนางแล้วส่งให้เหม่ยเซียง “กลับไปดูแลคุณหนูสามได้แล้ว ยาตลับนี้สามารถช่วยรักษาแผลบนหลังของเจ้าและสามารถช่วยลดอาการปวด หาคนมาทามันให้เจ้า”

เหม่ยเซียงรู้สึกซาบซึ้งและอยากที่จะคำนับขอบคุณเฟิงหยูเฮง แต่เมื่อนางพยายามโค้งคำนับเพื่อขอบคุณ ความเจ็บปวดจากหลังของนางทำให้นางเหงื่อไหลโซมกาย

หวงซวนไม่สามารถทนดูต่อและหยุดนางอย่างรวดเร็ว “กลับไปเร็ว เจ้าสามารถไปพบคุณหนูรองได้ที่เรือนตงเซิงเมื่อเจ้าดีขึ้นแล้ว”

เหม่ยเซียงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและขอบคุณนางอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปที่เรือนของอันชิ

เฟิงหยูเฮงดูเหมยเซียงเดินจากไปและจู่ ๆ ก็ถามหวงซวนว่า “องค์ชายห้าชอบชมการร่ายรำหรือ ?”

หวงซวนตกใจแล้วจำได้ทันทีว่าอาจารย์สอนการร่ายรำ “คุณหนูหมายความว่าคุณหนูสี่เรียนร่ายรำเพื่อองค์ชายห้าหรือเจ้าคะ ?”

“จะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ” นางเดินไปที่เรือนซูหยาขณะพูดว่า “ข้ารู้ว่าคนอย่างเฟิงเฟินไดเป็นคนแบบไหน นางจะไม่ทำอะไรเลยหากไม่มีผลประโยชน์ นางจะมีความสามารถในการการร่ายรำได้อย่างไร คนที่ไม่มีความสามารถและไม่มีความสนใจในการร่ายรำต้องการเรียนรู้การร่ายรำ นั่นหมายถึงการร่ายรำนั้นมีผลประโยชน์ต่อนางมาก เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่เฮ่อจงพูดหรือ นางพยายามโน้มน้าวให้ท่านย่าตกลงให้อาจารย์สอนร่ายรำคนนั้นเข้ามาในคฤหาสน์ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ มีเพียงการอ้างชื่อองค์ชายห้าเท่านั้นที่จะกดดันท่านย่าได้”

หวงซวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และรู้สึกว่าสิ่งนี้สมเหตุสมผล ดังนั้นนางจึงพูดว่า “บ่าวรับใช้จะไปสืบเรื่องนี้ในภายหลังเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้เราอยู่ที่ค่ายทหาร และเรากังวลเกี่ยวกับการฝึกทหารหรือดูแลองค์ชายเก้า เราไม่สามารถสอบถามอะไรได้เลย”

เฟิงหยูเฮงยิ้มเยาะ “มันเป็นความผิดของข้าด้วย หลังจากไปที่ค่ายทหารข้าไม่สนใจเรื่องตระกูลเฟิงเลย ไปที่ตำหนักหยูด้วยเพื่อสอบถามเกี่ยวกับองค์ชายห้า นอกจากนี้สืบงานอดิเรกของนางสนมฮ่องเต้ที่ตายแล้วด้วย เป็นไปได้ว่าเฟิงเฟินไดทำตัวเหมือนดงซีที่เลียนแบบไซซี” 1

หวงซวนไม่เข้าใจความหมายของดงซีที่เลียนแบบไซซี แต่นางรู้ว่าเฟิงหยูเฮงต้องการรู้จักศัตรู นางจึงพยักหน้าและปฏิบัติตาม

ทั้งสองพูดคุยกันมาตลอดทางและมาถึงที่สนามหญ้าเรือนซูหยาอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าไปในสวน พวกเขาเห็นบรรดาบ่าวรับใช้มารวมตัวกันรอบ ๆ คนเพียงผู้เดียวและพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา

บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟิงเฉินหยูพี่สาวคนโตของครอบครัว

วันนี้เฟิงเฉินหยูสวมเสื้อหนาวสีฟ้า แขนเสื้อของนางสวยมากและดูคมชัดรวมถึงสะอาดมาก บนหัวของนางมีเครื่องประดับอัญมณีสีน้ำเงินที่เข้ากับเสื้อผ้าของนาง ที่ด้านล่างมันมีระฆังรูปกล้วยไม้ 2 อันที่ส่งเสียงเมื่อพวกมันสั่น มันสวยงามมาก

ดูเหมือนว่าเฟิงเฉินหยูจะอารมณ์ดี ด้วยบ่าวรับใช้ที่อยู่รอบ ๆ นาง นางก็คุยกันไม่รู้จบ ในเวลาไม่นานนางก็สามารถอธิบายเสื้อผ้าของนางได้อย่างสมบูรณ์

“เสื้อผ้าชุดชั้นในทำจากวัสดุที่ดีจริง ๆ มันดูบริสุทธิ์กว่าหิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้า มันดึงดูดผู้คนอย่างแท้จริง”

"ถูกต้อง ! นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับห้อยลงมา บ่าวรับใช้คนนี้มีดวงตาที่ไม่ดี และไม่สามารถบอกได้ว่าอัญมณีนั้นทำมาจากอะไร แต่มันชัดเจนว่าไม่ใช่ของทั่วไป”

“ถูกต้อง ถูกต้องแล้ว สร้อยข้อมือของคุณหนูใหญ่ก็เป็นของใหม่เช่นกัน สวรรค์ เป็นของใหม่จริง ๆ”

คนที่อยู่ข้างเฟิงเฉินหยูยังคงเป็นยี่หลินอยู่ เมื่อได้ยินบ่าวรับใช้ยกย่องคุณหนูของนาง นางรู้สึกว่านางได้หน้า นางจึงตอบแทนเฟิงเฉินหยูโดยพูดเสียงดังว่า “สิ่งเหล่านี้องค์ชายได้ส่งของมาให้เมื่อตอนเช้านี้ มีคำแนะนำพิเศษสำหรับคุณหนูที่จะสวมใส่เมื่อได้รับ เมื่องานเลี้ยงปีใหม่มาถึง ของขวัญที่ดียิ่งกว่าก็จะถูกส่งมาเพิ่ม”

เฟิงเฉินหยูอายและดุยี่หยินเล็กน้อย “เจ้าก็พูดมากเกินไป”

ดวงตาของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยความอิจฉา หนึ่งในพวกเขาพูดว่า “ของกำนัลขององค์ชายใหญ่ดูหรูหรากว่าของกำนัลจากองค์ชายห้า สิ่งที่เจ้าชายองค์ที่ห้าส่งมานั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าเครื่องประดับเล็กๆ มองที่พวกเขานั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณหนูใหญ่ได้รับ พวกมันดูด้อยกว่ามากเลยเจ้าค่ะ”

เฟิงเฉินหยูนั้นยิ้มแก้มปริ แต่นางก็ยังพูดว่า “เจ้าต้องไม่พูดอย่างนี้ ทุกสิ่งที่องค์ชายทั้งสองส่งให้นั้นดีและไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างได้”

บ่าวรับใช้รู้ว่านางพูดผิดไป ดังนั้นนางจึงก้มหน้าลงและเงียบไป

เฟิงเฉินหยูเห็นสิ่งนี้และพูดว่า “ข้ากำลังพูดเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของเจ้า การพูดต่อหน้าข้าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีคนอื่นได้ยิน มันจะเป็นความผิดของเจ้า”

บ่าวรับใช้ตอบอย่างสุดซึ้ง “ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่เตือนข้าเจ้าค่ะ”

“อ่า เป็นเรื่องที่ดีถ้าเจ้าเข้าใจ” เฟิงเฉินหยูยิ้มแล้วมองไปที่บ่าวรับใช้

เฟิงหยูเฮงมองที่ฉากตรงหน้านางและรู้สึกว่ามันตลก เฟิงเฉินหยูเกิดมาสวย หลังจากได้รับการยอมรับ และตอนนี้นางก็ยิ่งดูงดงามมากขึ้น ตอนนี้นางมีชุดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เข้ากัน หากจะกล่าวว่านางเป็นคนที่งดงามที่สุดในเมืองหลวงนั้นก็ไม่ได้พูดเกินจริง นางต้องยอมรับสิ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหน้าหรือชีวิตตอนนี้เฟิงเฉินหยูเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่นางเคยเห็นมา แม้ว่าจะมีคนที่ศัลยกรรมเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกเขา พวกเขาก็ไม่สวยเท่านาง

มันน่าเสียดายที่นางมีใบหน้าที่งดงามล่มเมือง แต่หัวใจของนางก็น่าเกลียดชังพอที่จะทำให้เกิดการล่มสลายของเมืองเช่นกัน

นางก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดเสียงดัง “ท่านพี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฟิงเฉินหยูสั่นด้วยความกลัว หันมามองอย่างรวดเร็ว นางเห็นเฟิงหยูเฮงยิ้มและเดินมาหานาง หัวใจของนางกระตุกสองสามครั้งในปฏิกิริยาทำให้ใบหน้าของนางกลายเป็นซีดเล็กน้อย

แต่นางยังคงสงบสติอารมณ์และแสดงท่าทีสุภาพเพื่อต้อนรับเฟิงหยูเฮง นางพูดอย่างอบอุ่น “น้องรองกลับมาเมื่อไหร่ ? ทำไมเจ้าไม่ส่งคนมาบอกเราก่อนหน้านี้ เพื่อที่เราจะได้ไปต้อนรับเจ้าที่ทางเข้า”

เฟิงหยูเฮงยิ้มแล้วส่ายหัว “ท่านพี่สุภาพเกินไป เราครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ใจกฎดังกล่าว หลายวันแล้วที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย ดูเหมือนว่าอาการของท่านพี่ดีขึ้น มันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างแท้จริงเจ้าค่ะ”

เฟิงเฉินหยูรู้ว่าคำพูดของนางมีความหมายแฝงอยู่ แต่นางแกล้งทำเป็นว่านางไม่เข้าใจ นางได้แต่กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ข้าดีใจที่น้องรองเป็นห่วงข้า น้องรองมาคารวะท่านย่าใช่หรือไม่ ? ข้าเพิ่งมาถึง ข้าได้ยินมาว่าน้องสี่อยู่ข้างในแล้ว ข้าจึงไม่รีบเข้าไป ถ้าเจ้ามาถึง เราก็เข้าไปด้วยกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ” เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและเดินเข้าไปพร้อมเฟิงเฉินหยูไปยังห้องโถงของฮูหยินผู้เฒ่า

ในเวลานี้เฟิงเฟินไดนั่งอยู่ถัดจากฮูหยินผู้เฒ่า นางจิบชาและกล่าวว่า “องค์ชายห้ากล่าวว่าใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว พระองค์จะส่งของกำนัลมาให้ข้า ดังนั้นพระองค์จึงส่งคนมาส่งตั๋วแลกเงินให้จำนวน 50,000 เหรียญเงิน ข้าจึงรับไว้และข้าจะมอบตั๋วแลกเงิน 10,000 เหรียญเงินให้ท่านย่า ท่านย่าได้โปรดรับไว้ด้วยเจ้าค่ะ”

ยายจาวส่งตั๋วแลกเงินที่นางเพิ่งได้รับไปยังฮูหยินผู้เฒ่า แต่ละใบมีมูลค่า 1,000 เหรียญเงิน ดังนั้นจึงมีทั้งหมด 10 ใบ เมื่อเห็นอย่างนี้ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มกว้าง

“ดีมาก การรู้จักที่จะมอบของให้ย่านั้นดีมาก เมื่อโตขึ้นเจ้าไม่ได้ไร้ประโยชน์”

เฟิงเฟินไดพูดด้วยรอยยิ้ม “หลานสาวคิดถึงท่านย่าอยู่เสมอ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาองค์ชายห้าส่งชุดมาสองสามชุด หลานสาวลังเลที่จะใช้พวกเขา ดังนั้นหลานสาวจึงสั่งคนให้ไปทำเป็นเสื้อผ้าฤดูหนาวสำหรับท่านย่า อีกไม่กี่วันก็คงเสร็จเจ้าค่ะ ในเวลานั้นข้าหวังว่าท่านย่าจะชอบมัน”

รอยยิ้มในดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าลึกซึ้งยิ่งขึ้น “ข้าจะไม่ชอบมันได้อย่างไร ทุกสิ่งที่ส่งมาจากองค์ชายห้าเป็นสิ่งที่ดีมาก ข้าจะไม่ชอบมันได้อย่างไร แต่เจ้าอย่าเพิ่งส่งให้ข้าเลย เจ้าต้องเก็บไว้บ้าง”

“เจ้าค่ะ” เฟิงเฟินไดยอมรับด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็จิบชาอีกครั้ง

เมื่อมองที่เฟิงเฟินได ฮูหยินผู้เฒ่าก็มีความสุข ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าหลานสาวคนนี้น่ารังเกียจไม่ว่านางจะมองอย่างไรโดยเฉพาะฉากที่นางทำต่อหน้าองค์ชายเก้า นั่นเป็นสิ่งที่อุจาดตามากขึ้น

แต่ตอนนี้นางคิดเกี่ยวกับมันนั่นเป็นเพียงเพราะเฟิงเฟินไดเป็นเด็ก นางไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนนี้นางมีอายุมากขึ้นและได้รับการหมั้นหมายแล้ว แน่นอนว่านางจะเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้นทุกวัน

เฟิงหยูเฮงและเฟิงเฉินหยูทั้งคู่มาถึงทางเข้าในเวลานี้ เฟิงเฉินหยูดึงแขนเสื้อของเฟิงหยูเฮงเบา ๆ และกล่าวว่า “การหมั้นหมายของน้องสี่เป็นสิ่งที่ท่านย่าไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ตอนนี้น้องสี่ได้ส่งของกำนัลจากองค์ชายมาที่เรือนซูหยา แล้วท่าทีของท่านย่าก็เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ”

นางไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมและทั้งสองเข้าไปในห้องโถง เฟิงเฉินหยูเพิ่มความเร็วของนางเพียงเล็กน้อย แล้วคารวะฮูหยินผู้เฒ่า “หลานสาวคารวะท่านย่า”

เฟิงหยูเฮงไม่ได้แข่งขันกับนางและคุกเข่าอยู่ข้างหลังเฟิงเฉินหยู “อาเฮงออกจากเมืองหลวง 1 เดือน และเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์วันนี้ อาเฮงมาเพื่อคารวะท่านย่าเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะนางไม่คิดว่าเฟิงหยูเฮงจะกลับมาทันที นี่ทำให้นางไม่มีโอกาสเตรียมตัวอย่างแน่นอน นางจ้องมองและกล่าวตำหนิ “คุณหนูรองกลับมาที่คฤหาสน์ ทำไมไม่มีใครมารายงานก่อนหน้านี้ ?”

ยายจาวพูดอย่างรวดเร็ว “เป็นเพราะบ่าวรับใช้ละเลยหน้าที่เจ้าค่ะ” อย่างไรก็ตามในใจนางเริ่มคิดว่าทำไมไม่มีใครมาจากประตูมารายงาน อย่างไรก็ตามสิ่งที่นางไม่ทราบก็คือคนที่ทางเข้านั้นถูกฮันชิใช้งาน พวกเขายังมีเวลาที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงกล่าว “อาเฮงไม่ใช่แขก ทำไมต้องให้คนรายงานเจ้าคะ ร่างกายของท่านย่าดีหรือยังเจ้าค่ะ ?”

ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้ม “ใช่ เจ้าไม่ใช่แขก ร่างกายของข้าสบายดี ข้าทำให้เจ้าเป็นห่วง ลุกขึ้นและนั่งเร็ว” น้ำเสียงของนางดูห่างเหินกว่าเมื่อก่อน

เฟิงหยูเฮงไม่เถียงและเลือกที่นั่งตรงข้ามเฟิงเฟินไดเพื่อนั่ง

ฮูหยินผู้เฒ่าหันความสนใจไปที่เฟิงเฉินหยูอยู่แล้วเพราะนางรู้สึกว่าการปรากฏตัวของเฟิงเฉินหยูในวันนี้สวยงามมากจริง ๆ หลานสาวคนนี้สวยงามจริง ๆ แม้ว่านางจะดูนางโตขึ้น แต่นางก็ยังประหลาดใจกับเฟิงเฉินหยูอยู่เสมอ

“เสื้อผ้าพวกนี้ถูกตัดมาใหม่ใช่ไหม?” นางถามเกี่ยวกับเสื้อผ้า แต่ตาของฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่เครื่องประดับ แม้ว่านางจะผ่านโลกมามากแล้ว แต่นางก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันทำมาจากอะไร

เฟิงหยูเฮงมองแล้วแกล้งทำเป็นพูดโดยไม่เจตนา “ดูแล้ว มันน่าจะเป็นหินอมาโซไนท์ มันเป็นของที่หายากมาก มีค่ามากกว่าเครื่องประดับจำพวกหยกแก้วเจ้าค่ะ”

เมื่อคำเหล่านี้ออกมา สายตาที่จ้องมองมาของเฟิงเฟินไดก็กลายเป็นเยือกเย็น...

1 : สำนวนจีนเกี่ยวกับการคัดลอกมารยาทของคนอื่น นี่คือวิดีโอที่มีข้อความภาษาอังกฤษhttps://www.youtube.com/watch?v=jm2ozdgHXUE

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด